งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 8
บทที่8 บังเอิญเจอที่บริษัท
เมื่อคืนร้องไห้อย่างหนัก โล่เฟยเอ๋อตาบวมมาก ดังนั้นก่อนไปทำงานโล่เฟยเอ๋อตั้งใจเชิญหซิวหชูเฉียวช่วยเธอแต่งหน้า ปกปิดอาการบวมที่ดวงตา
ตอนจะออกไปหซิวหชูเฉียวพูดกับโล่เฟยเอ๋ออย่างลังเล “เฟยเอ๋อ ฉันว่า วันนี้เธอขอลาเถอะ หลีกเลี่ยงเจอ…ที่บริษัท”
โล่เฟยเอ๋อเข้าใจความหมายของหซิวหชูเฉียว เขาเป็นห่วงว่าเธอจะเจอถังหซิวฉี ในเวลาเดียวกันจะอารมณ์ไม่ดี
แต่ว่าเธอกับถังหซิวฉีอยู่แผนกเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ห้องเดียวกัน แต่จะหลีกเลี่ยงการเจอกันตลอดไม่ได้
อีกอย่างผู้หญิงอย่างถังหซิวฉี เธอไม่ไปเจอเขา เขาก็ต้องมาหาเธอถึงหน้าประตู
เมื่อก่อนโล่เฟยเอ๋อไม่กลัวถังหซิวฉี ตอนนี้ยิ่งไม่กลัวถังหซิวฉี
“หชูเฉียว ฉันไม่เป็นไร ฉันไปบริษัทก่อนนะ” โล่เฟยเอ๋อโบกมือบายบายให้หซิวหชูเฉียว จากนั้นก็ออกจากประตูไป
ตอนที่ถึงบริษัท เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ เจอกับถังหซิวฉี
เธอออกแบบในมือของเธอเสร็จ รู้สึกคอแห้งนิดหน่อย เธอลุกขึ้น บิดขี้เกียจ จากนั้นถือแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน เดินไปทางห้องน้ำชา
ในห้องน้ำชา ,ถังหซิวฉีกำลังดื่มน้ำกับเพื่อนร่วมงานสองสามคนที่นั้นพอดี และเมาท์มอยกัน
เห็นโล่เฟยเอ๋อเดินมา ถังหซิวฉีก็รีบพูดเสียงสูง “จะบอกพวกเธอให้ เมื่อคืนฉันตอบตกลงคบกันกับแฟนฉันแล้วล่ะ”
คนอื่นได้ยินที่ถังหซิวฉีต่างก็พากันตกใจ “จริงเหรอถังหซิวฉี เธอบอกว่าจะพิสูจน์เขาไปสักพักไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงตอบตกลงล่ะ”
ถังหซิวฉี แกล้งแสดงท่าทีกลัดกลุ้มออกมาแล้วพูด “จนปัญญา เมื่อคืนเขาคุกเข่าขอฉันเป็นแฟนต่อหน้าผู้หญิงที่แอบชอบเขา ฉันตื้นตันใจ ก็เลยตอบตกลง”
“คุกเข่าขอเธอเป็นแฟนเหรอ ถังหซิวฉีเธอสุดยอดไปแล้ว”
“ผู้หญิงที่แอบชอบแฟนเธอคนนั้นน่าจะโกรธจนจะช็อคตายไปเลยสินะ”
“นั้นมันก็สมควรแล้ว แฟนของหซิวฉีไม่ได้ชอบเขา…”
เดิมทีถังหซิวฉีตั้งใจทำให้โล่เฟยเอ๋อโกรธ ได้ยินเสียงถอนหายใจต่าง ๆ จากผู้คนรอบข้าง เธอมองโล่เฟยเอ๋ออย่างภาคภูมิใจ
โล่เฟยเอ๋อรู้ดีว่าถังหซิวฉีตั้งใจให้เธอน่ารังเกียจ เจ็บปวด แต่แน่นอนว่าเธอจะให้เขาสมหวังไม่ได้
ดังนั้นเธอจึงพูดต่อบทสนทนาของพวกเขา เอ่ยปาก “ผู้หญิงคนนี้อย่างมากก็แค่อกหัก ฉันรู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง มักจะอิจฉาริษยาและเกลียดคนรอบตัวที่แข็งแกร่งกว่าเขา แอบทำร้ายเขา แย่งของของเขา แม้กระทั่งแย่งผู้ชาย” โล่เฟยเอ๋อจงใจเพิ่มเสียงหนัก ‘แย่งผู้ชาย’สามคำ
แย่งผู้ชาย เป็นเมียน้อย เป็นหัวข้อที่มักจะทำให้ผู้หญิงโกรธง่ายที่สุด
“ผู้หญิงคนนี้น่ารังเกียจมาก”
“อะไรก็แย่งเหรอ ทำไมถึงหน้าไม่อายล่ะ”
“เมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้นไม่เพียงแค่ขัดขวางคนอื่น แต่ผู้หญิงแบบนี้ ก็เป็นเมียน้อยที่ไร้ยางอายเลยล่ะ…”
ทุกคนคุณประโยค ฉันประโยค ยิ่งพูดไฟยิ่งแรง และถังหซิวฉีได้ยินจนถึงตอนสุดท้าย จากที่พยายามรักษารอยยิ้ม ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตาที่กำลังมองโล่เฟยเอ๋อ กำลังพ่นไฟ
ปากของ โล่เฟยเอ๋อเผยรอยยิ้ม ราวกับไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ ถือแก้วไปด้านหน้าตู้กดน้ำ กดน้ำร้อนครึ่งแก้ว แล้วจากไป
เพิ่งจะเดินถึงห้องทำงาน โล่เฟยเอ๋อก็ถูกหลินยี่เรียกไปพบ
เดิมทีเธอคิดว่าหลินยี่เตรียมจะหาเรื่องเธอ พอไปถึงถึงรู้ว่าให้พวกเขาเด็กฝึกงานหลายคนไปที่แผนกบุคคล ทำเรื่องขั้นตอนการเลื่อนขั้น
หลังจากที่ทำเรื่องขั้นตอนการเลื่อนขั้นเสร็จโล่เฟยเอ๋อออกมาจากฝ่ายบุคคล แล้วก็เดินตรงไปที่หน้าลิฟต์ ยกมือกดที่กดปุ่มลง จากนั้นรอคอยอยู่ที่เดิมอย่างอดทน
ในเวลาเดียวกัน ในห้องประชุมห้องหนึ่งที่ห่างออกไปไม่ไกล ซูซีมู่เดินออกมาท่ามกลางผู้บริหารระดับสูงของบริษัทดี้ก้วนห้อมล้อม
ตอนที่ห่างจากลิฟต์ไม่ถึงสามเมตร เขาก็สังเกตุเห็นเงาคนที่คุ้นเคยยืนอยู่ด้านหน้าลิฟต์
สายตาของเขานิ่ง และขาก็หยุดเดิน
เธอทำงานที่บริษัทดี้ก้วนเหรอ
มองอยู่หลายวิ ซูซีมู่พบว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง วันนี้โล่เฟยเอ๋อแต่งงาน แม้ว่าจะแต่งจางๆ แต่ก็เพียงพอให้เขารู้สึกแปลกใจ
เพราะว่าเขาเจอเธอสองครั้งติด ใบหน้าของเธอดูเป็นธรรมชาติอย่างแน่นอน….
เห็นซูซีมู่หยุดเดิน พวกผู้นำชั้นสูงของบริษัทดี้ก้วนที่ตามหลังเขามานึกว่าเขามีคำสั่งอะไร หยุดเดินพร้อมกัน
แต่ว่าซูซีมู่กลับไม่ชี้แนะอะไร และไม่พูดจา เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น
ทุกคนฉันมองเธอ เธอมองฉัน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
มีแค่โจวเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆซูซีมู่ เข้าใจ เพราะซูซีมู่มองเห็นโล่เฟยเอ๋อ ถึงเป็นแบบนี้
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดอะไร เพียงแค่ยืนเงียบๆเป็นคนใบ้ข้างๆซูซีมู่
ผ่านไปประมาณสองนาที เสียงเตือนขอลลิฟต์ดังขึ้น ‘ติงต่อง’ ซูซีมู่ ตกใจได้สติ การตอบสนองแรกคือหันหน้าเดินหนี
ในเวลานี้โจวเฉิงอยู่ข้างๆเขาส่งเสียงดัง “…ท่านจะไปไหน”
โล่เฟยเอ๋อ ได้ยินเสียงที่คุ้นหูดังจากด้านหลัง มองย้อนกลับไป ก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคยพอดี
ดวงตาล้ำลึก จมูกโด่ง กรามสวยสมบูรณ์แบบ……
เหมือนกับเห็นเขาครั้งแรก เขาสวมสูทสีดำ ด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว สีดำและสีขาวอยู่บนตัวเขาเข้ากันอย่างเรียบง่าย
แม้ว่าเขาจะอยู่ไม่ไกลจากเธอ แต่เธอยังคงรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เยือกเย็นเข้ากระดูกที่คุ้นเคยนั้นบนตัวเขา
เขาอยู่ที่บริษัทได้ยังไง หรือว่าเขาก็เป็นพนักงานของบริษัทดี้ก้วน
โล่เฟยเอ๋อเดิมทีไม่ได้สังเกตเห็น ข้างๆซูซีมู่ไม่ได้มีเพียงแค่โจวเฉิง แต่ยังมีกลุ่มผู้บริหารสูงของบริษัทดี้ก้วน ช่างเถอะ ควรจะพูดว่า เธอเพิ่งมาฝึกงานที่บริษัทดี้ก้วนได้แค่หนึ่งเดือน ก็ไม่รู้จักผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ของบริษัทดี้ก้วนอยู่แล้ว
ผู้ชายช่างพูด ซูซีมู่กวาดตามองโจวเฉิงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง
โจวเฉิงลูบจมูกอย่างใสซื่อ จากนั้นพูดกับซูซีมู่เสียงเบา “ประธานซู คุณหนูโล่กำลังรอคุณอยู่”
แม้ว่าซูซีมู่จะไม่พูดอะไร แต่สายตากลับมองไป
เป็นอย่างที่โจวเฉิงพูดทั้งหมด โล่เฟยเอ๋อกำลังรอเขา
ประตูลิฟต์ที่เดิมทีเปิดออก กำลังจะปิดลงอัตโนมัติ เหมือนกับเธอไม่รู้สึกสังเกตุเห็น
“นายไปส่งพวกเขา” ทิ้งท้ายประโยคหนึ่ง ซูซีมู่ก็เดินก้าวเท้ากว้างเหมือนดาวตกไปทางโล่เฟยเอ๋อ
ตอนที่เดินผ่านโล่เฟยเอ๋อ เขาก็ยืนมือไปจับมือของเธอไว้ จากนั้นก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด ก็ลากเธอเข้าไปในลิฟต์
หลังจากที่เข้าไปในลิฟต์ โล่เฟยเอ๋อชำเลืองมองโจวเฉิงที่อยู่ด้านนอกไม่ขยับ ก็ถามอย่างสงสัย “คือ… เขาไม่ไปด้วยกับคุณเหรอ”
ซูซีมู่พูด ‘อึม’ คำหนึ่ง จากนั้นปล่อยมือของโล่เฟยเอ๋อ แล้วเอามือยัดใส่ในกระเป๋ากางเกง
ในมือแห้งกร้าน ความร้อนหายไป โล่เฟยเอ๋อรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย เธอพูดเสียงเบา ‘โอ้’ คำหนึ่ง เอื้อมมือไปกดปุ่มปิดประตูลิฟต์ จากนั้นเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เอียงคอถามซูซีมู่ “คุณจะไปชั้นไหน”
ซูซีมู่หันหน้ามองเธอแวบหนึ่ง แล้วตอบ “ชั้นหนึ่ง”
โล่เฟยเอ๋อ ไม่พูดอะไร เพียงแค่กดหมายเลขชั้นที่ตัวเองจะไปและชั้นหนึ่งที่ซูซีมู่จะไป
ในลิฟต์มีแค่พวกเขาสองคน เงียบเชียบมาก เคร่งขรึมอยู่หลายวิ โล่เฟยเอ๋อก็เอ่ยปากพูดอีกครั้ง “คุณก็ทำงานอยู่ที่บริษัทดี้ก้วนเหรอ”
“อึม” เดือนที่แล้ว เขาซื้อบริษัทดี้ก้วน กลายเป็นเจ้าของบริษัทดี้ก้วน ก็ถือว่าทำงานอยู่ที่บริษัทดี้ก้วนมั้ง
มุมปากของโล่เฟยเอ๋อยิ้มออกมา “บังเอิญจริง ๆ ฉันก็ทำงานอยู่บริษัทดี้ก้วน ฉันอยู่แผนกออกแบบ คุณอยู่แผนกอะไรเหรอ”
ซูซีมู่เอียงหัว เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของโล่เฟยเอ๋อพอดี สายตาสงสัย กำลังเตรียมจะเอ่ยปาก ลิฟต์มีเสียงดังขึ้น ‘ติงต่อง’ จากนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก มีคนเข้ามาจากข้างนอกห้าหกคน
เดิมทีพื้นที่ในลิฟต์กว้างขวาง แป๊บก็แออัดขึ้นมาก
โล่เฟยเอ๋อ ขยับไปทางซูซีมู่ สองก้าว เดิมทีทั้งสองคนก็ห่างกันค่อนข้างใกล้ ตอนนี้ยิ่งใกล้กับมากขึ้น
ซูซีมู่เพิ่งสังเกตุเห็นดวงตาของโล่เฟยเอ๋อผิดปกติ จ้องอยู่สักพัก เขาถึงค้นพบว่าตรงไหนผิดปกติ
ดวงตาของโล่เฟยเอ๋อบวม
ซูซีมู่ นึกขึ้นได้ที่ลู่ยู่บอกเขาเมื่อเช้านี้ เมื่อคืนโล่เฟยเอ๋อตาบวมแดงวิ่งเข้าไปในลิฟต์ แล้วก็เข้าใจดวงตาของโล่เฟยเอ๋อคือร้องไห้จนบวม
รู้คำตอบนี้ ริมฝีปากของซูซีมู่ก็เม้มแน่นอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่จ้องเธออยู่ ค่อยๆเบือนหนี
เธอคงชอบผู้ชาบคนนั้นมากสินะ ดังนั้นเพื่อผู้ชายคนนั้นร้องไห้จนกลายเป็นแบบนี้
ไม่รู้ทำไม ซูซีมู่รู้สึกไม่สบาย แม้แต่ในใจยังรู้สึกหวิว.