งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 89
บทที่ 89 ไปทานเคเอฟซีเป็นเพื่อน
ซูซีมู่นึกเรื่องที่โจวเฉิงพูดกับเขาถึงการสอบสวนที่บ้านโล่ขึ้นได้ กำลังจะอ้าปากบอกโล่เฟยเอ๋อ แต่พอได้เห็นสีหน้าที่แสดงออกมาของโล่เฟยเอ๋อ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
โล่เฟยเอ๋อมองไปที่ซูซีมู่ จากนั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดขึ้นว่า
“แปดปีก่อน หลังจากที่แม่ของฉันจากไป พ่อก็ส่งฉันไปอยู่กับพี่เลี้ยงแล้วก็ไม่มาสนใจฉันเลย แม้นานๆจะมาหาสักที ก็ไม่วายเอาแต่ทะเลาะกันเหมือนศัตรู เป็นแบบนั้นอยู่ปีนึง เขาก็แต่งคุณป้าเหยามาอยู่ที่บ้านด้วย คุณป้าเหยาเป็นเสมือนแม่ของฉัน เธอมักจะเป็นห่วงฉัน ซื้อเสื้อผ้าให้ฉันและเตรียมสิ่งที่ฉันชอบไว้ให้ … ”
ได้ฟังโล่เฟยเอ๋อพูดถึงความสัมพันธ์กับพ่อและแม่เลี้ยงของเธอ เวลาที่พูดถึงความสัมพันธ์กับพ่อ น้ำเสียงฟังดูเฉยเมย แต่เวลาที่พูดถึงแม่เลี้ยงนั้น ในน้ำเสียงก็มีความอบอุ่นอยู่บ้าง ซูซีมู่ที่เดิมทีแววตาดูสงบไม่แสดงอะไร ก็แสดงออกถึงบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
หลังจากพูดจบ โล่เฟยเอ๋อก็รู้สึกผิดต่อซูซีมู่ จึงยิ้มกลายๆแล้วพูด
“ขอโทษจริงๆนะ ที่พูดเรื่องน่าเบื่อพวกนี้กับคุณ”
ซูซีมู่มองไปที่ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อเป็นเวลาหลายวินาทีจากนั้นก็ส่ายหัว
“ไม่เป็นไร”
“อืม” โล่เฟยเอ๋อเบือนหน้าหนีไปมองที่ไฟนีออนด้านนอก ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ความเศร้าหมองแบบนี้ของโล่เฟยเอ๋อ ทำให้ซูซีมู่รู้สึกซึมและอึดอัดไปด้วย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าควรจะพูดอะไรออกไป
ในตอนนี้ เองพนักงานสาวก็ได้นำเครื่องประดับมาให้
ซูซีมู่รับเครื่องประดับมา แล้วยื่นให้โล่เฟยเอ๋อ
“อะไรเนี้ย?” โล่เฟยเอ๋อ งงกับสิ่งที่ซูซีมู่ทำ
ซูซีมู่เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “คุณชอบไม่ใช่เหรอ?”
โล่เฟยเอ๋อผงะไปครู่หนึ่ง แล้วก็ตอบด้วยรอยยิ้ม
“ก็ฉันเพิ่งจะคิดว่าเครื่องประดับชิ้นนี้เข้ากับกระเป๋าใบนั้นหน่ะสิ”
ซูซีมู่ไม่พูดอะไร เเต่หยิบเครื่องประดับออกมาจากกล่องแล้วยื่นไปให้โล่เฟยเอ๋อ
“อะไร?”โล่เฟยเอ๋อตามซูซีมู่ไม่ทัน
คำพูดหนึ่งออกมาจากริมฝีปากบาง ๆ ของซูซีมู่
“กระเป๋า”
โล่เฟยเอ๋อไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าซูซีมู่ต้องการจะสื่ออะไร แต่ก็ยังเอากระเป๋าในมือส่งให้เขา
ซูซีมู่แขวนเครื่องประดับบนกระเป๋า จากนั้นก็ส่งกระเป๋าคืนให้โล่เฟยเอ๋อ
เธอมองเครื่องประดับชิ้นเล็กที่ซูซีมู่แขวนไว้บนกระเป๋าของเธอ และมองไปที่ซู่ซีมู่อีกครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้ถอดเครื่องประดับนี้ออก
หลังจากออกมาจากหยู้ผินเซียง ซูซีมู่ก็ถามว่า “หิวไหม? ไปกินข้าวที่ไหนกันดี? หยู้ผินเซียงไหม? ได้ยินมาว่าร้านอาหารใหม่ชื่อ ซินหยูจูในเขตหมาผั่นดีกว่าหยู้ผินเซียง……”
ซูซีมู่พูดยังไม่ทันจบ โล่เฟยเอ๋อก็ส่ายหน้าและขัดจังหวะเขา “ไม่ได้อยากไปทั้งสองที่นั่นแหล่ะ”
ซูซีมู่เลิกคิ้วและมองไปที่โล่เฟยเอ๋อ “หืม?”
“ฉันอยากทานเคเอฟซีค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบพร้อมกับชี้ไปที่ร้านเคเอฟซีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหยู้ผินเซียง
มีร้านอาหารระดับไฮเอนด์แต่ก็ปฏิเสธที่จะกิน ดันอยากจะกินเคเอฟซี ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่… แต่สุดท้ายซูซีมู่ก็รับฟัง
เคเอฟซีก็เคเอฟซี เเค่เธอมีความสุขก็พอ
ธุรกิจในร้านเคเอฟซีกำลังเฟื่องฟูและมีผู้คนต่อแถวยาวมาก
ซูซีมู่ดูโดดเด่นในชุดสูทแฮนด์เมดทรงสูงท่ามกลางผู้คนที่พลุกพล่าน และรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมของซูซีมู่ก็ทำให้เป็นจุดสนใจ
ซูซีมู่ไม่ค่อยไปสถานที่ที่มีคนเยอะเพราะความรักสะอาดของเขา วันนี้เป็นเพราะเพื่อโล่เฟยเอ๋อ เลยท้าท้ายความอดกลั้นของตัวเอง
และเเล้วโล่เฟยเอ๋อก็ต้องเสียใจหลังจากเข้ามาในเคเอฟซี
เห็นได้ชัดว่าซูซีมู่ไม่ใช่คนที่จะมากินเคเอฟซี และไม่ต้องพูดถึงการที่จะต้องมาอยู่ในสถานที่ที่คนเยอะเเบบนี้ด้วย
โล่เฟยเอ๋อพูดด้วยเสียงเบา “หรือเราเปลี่ยนไปที่อื่นกันไหม”
ซูซีมู่มองไปที่โล่เฟยเอ๋อ “ทำไมล่ะ?”
“คนเยอะเกินอ่ะ แล้วคุณก็ไม่ได้ชอบกินทานเคเอฟซีไม่ใช่หรอคะ?” โล่เฟยเอ๋อตอบกลับพร้อมขมวดคิ้ว
คนเยอะก็ใช่ เขาเองก็ไม่ได้ชอบทานเคเอฟซีเลยสักนิด แต่โล่เฟยเอ๋อเสนอว่าจะมาทาน เธอต้องอยากทานแน่ๆ
ซูซีมู่มองไปที่โล่เฟยเอ่ออย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็พูดเบา ๆ “อยากลองชิมสักหน่อย”
โล่เฟยเอ๋อที่อยากทานเคเอฟซีอยู่แล้ว พอซูซีมู่บอกว่าอยากชิม ก็แน่นอนว่าเธอตอบตกลง “โอเคค่ะ”
หลังจากเข้าแถวซื้อเคเอฟซีโล่เฟยเอ๋อและซูซีมู่ก็ไม่ได้ทานในร้าน เพราะที่นั่นคนเยอะมากเกินไป ซูซีมู่ก็ไม่อยากจะทนต่อ
ทั้งสองจึงถือของมุ่งหน้าไปที่ทะเลสาบเย่ว
ที่ทะเลสาบเย่วมีเก้าอี้วางอยู่นิดหน่อยเพื่อให้คนได้มาพักผ่อนกัน โล่เฟยเอ๋อหยิบกระดาษทิชชู่เปียกออกจากกระเป๋าแล้วเช็ดเก้าอี้อย่างระมัดระวังทั้งสองครั้งและในท้ายสุดก็เอากระดาษที่สะอาดสองชิ้นออกมาวางบนเก้าอี้
“รีบนั่งสิ” หลังจากโล่เฟยเอ๋อนั่งลงก็ชี้ไปอีกที่ตรงที่มีกระดาษวางอยู่
ซูซีมู่ไม่ปฏิเสธและนั่งลงบนกระดาษนั้น
“กินแฮมเบอร์เกอร์?ไก่ทอด? หรือปีกไก่ก่อนดี” โล่เฟยเอ๋อถามขณะที่เธอถือถุงอาหารอยู่
ซูซีมู่ตอบอย่างสบาย ๆ “อันไหนก่อนก็ได้”
“งั้นกินเบอร์เกอร์ละกัน” โล่เฟยเอ๋อก้มศีรษะลงและหยิบเบอร์เกอร์สองชิ้นออกจากถุง ยื่นอันหนึ่งให้ซูซีมู่
หลังรับเบอร์เกอร์มาด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วก็ทานด้วยความเงียบขรึม มันไม่เหมือนกับว่าเขากำลังกินเคเอฟซีอยู่ข้างถนน แต่เหมือนเขากำลังนั่งทานอาหารตะวันตกอยู่ในร้านระดับไฮโซสุดหรูหรามากกว่า
โล่เฟยเอ๋อเผยอมุมปากจากนั้นก้มศีรษะลงเพื่อทานเบอร์เกอร์
โล่เฟยเอ๋อหิวมากเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งเเต่เที่ยงจนถึงตอนนี้ ซูซีมู่ที่ไม่ค่อยได้กินเยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เข้าท้องโล่เฟยเอ๋อไปหมด
โล่เฟยเอ๋อหยิบทิชชู่เปียกจากกระเป๋าของเธอและส่งให้ซูซีมู่ในขณะที่เธอพูด “คุณกินน้อยมากเลย คุณไปทานที่ร้านร้านอาหารอีกสักหน่อยดีไหม?”
“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ” ซูซีมู่รับทิชชู่มาแล้วส่ายหัว
โล่เฟยเอ๋อพยักหน้าแสดงออกถึงความเข้าใจแล้ว จากนั้นก็รวมถุงเคเอฟซี ไปทิ้งที่ถังขยะข้างทะเลสาบเย่ว
หลังจากทานอิ่มแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้ไปไหน พวกเขาแค่เดินไปรอบ ๆ ริมทะเลสาบเย่ว
โล่เฟยเอ๋อก็เดินไปคุยไปกับซูซีมู่ไปเรื่อย ๆผ่านไปสักพักโทรศัพท์ของซูซีมู่ก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและหยุดยืนอยู่ข้างๆ โล่เฟยเอ๋อเพื่อรับสาย
“มีอะไร…ไม่ต้อง ให้สงเฟยเหวินมา…..รอสักครู่นะ” หลังจากซูซีมู่บอกว่ารอสักครู่เขาก็หันไปมองที่โล่เฟยเอ๋อ
“อยากกินคลับจินดูแบบที่คุณเคยกินครั้งที่แล้วไหม?”
โล่เฟยเอ๋ออึ้งไปชั่วขณะ
“คลับจินดู?”
ซูซีมู่อธิบายว่า “สงเฟยเหวินจะมาที่เมือง A ในวันพรุ่งนี้ จะให้เธอเอามาให้”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหัว “ไม่เอาค่ะ เดินทางไกลขนาดนั้นจะให้เขาเอามาให้ ลำบากเกินไป”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบตามคำพูดของโล่เฟยเอ๋อ แต่สั่งรายการติ่มซำโดยตรงผ่านโทรศัพท์ก่อนจะวางสาย
หลังจากที่ซูซีมู่วางสายไป โล่เฟยเอ๋อก็พูดด้วยความลำบากใจว่า
“แบบนี้จะดีหรอคะ?”
“เธอต้องผ่านทางนั้นอยู่เเล้ว ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก” ซูซีมู่ตอบอย่างนิ่งเฉย
ซูซีมู่พูดแบบนั้น โล่เฟยเอ๋อก็ไม่สามารถพูดอะไรอีกได้ เพียงแต่พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ขอบคุณ”
เนื่องจากเย็นแล้ว ทั้งสองจึงขึ้นรถไปจากที่นี่
หลังเลิกงานในวันต่อมา โล่เฟยเอ๋อออกมาจากบริษัท กำลังจะไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อขึ้นรถไฟใต้ดินกลับ
เธอเดินมาได้ประมาณสองร้อยเมตร โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น
โล่เฟยเอ๋อหยุดและก็หันมาเห็นหมายเลขโทรศัพท์บนโทรศัพท์มือถือของเธอ เป็นของซูซีมู่ ริมฝีปากของเธอก็ยกขึ้นเล็กน้อยและตอบ
“คุณเลิกงานแล้วหรือยัง?”
“ใช่ค่ะ เพิ่งจะออกมาจากบริษัทเมื่อกี้นี้” โล่เฟยเอ๋อตอบ
“รอผมสักครู่นึงนะ ผมจะไปถึงที่นั่นในอีกสิบนาที” ซูซีมู่น่าจะกำลังขับรถอยู่ การตอบสนองของเขาก็ฟังดูอึดอัดเล็กน้อย ยังได้ยินเสียงเเตรรถดังเข้ามาในหูฟังอีกด้วย
นี่เขากำลังอยู่ระหว่างที่จะมารับเธอหรอ?โล่เฟยเอ๋อขยับปากและพูดว่า
“งั้นฉันจะรอคุณอยู่ที่เดิมนะคะ”
หลังจากที่ โล่เฟยเอ๋อวางสาย เธอก็กำโทรศัพท์แน่นพร้อมหันหลังกลับ และเดินข้ามถนนไปยังสถานที่ที่ซูซีมู่มักจะมารับเธอ
ไม่นานหลังจากที่เธอข้ามถนนมา ก็มีชายใส่เสื้อคลุมสีดำสวมหน้ากากอนามัยก็เดินข้ามถนนตามมาด้วย
ชายคนนั้นดูเหมือนจะกำลังไปที่ไหนสักที่ เขาจ้องมองที่ป้ายบอกทางข้างถนนอย่างว่างเปล่า จากนั้นก็เดินตรงไปหา โล่เฟยเอ๋อ แล้วถามอย่างสุภาพว่า
“คุณผู้หญิงครับ ตึกอวิ๋นเหซียงไปทางไหนหรอครับ?”
“ตึกอวิ๋นเหซียงอยู่ทางนั้นค่ะ” โล่เฟยเอ๋อตอบในขณะที่หันไปมองทางด้านขวา
พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆ มือของชายคนนั้นก็ปิดหน้าของเธอ
โล่เฟยเอ๋อไม่มีแม้แต่เวลาจะขัดขืน มีเพียงกลิ่นฉุนผ่านเข้ามาในจมูกเท่านั้น แล้วเธอก็หมดสติไป