งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 97
บทที่97 โล่เฟยเอ๋อก็เถียงประชดประชังเป็นเหมือนกัน
ลู่ยู่กล่าว:”เนะๆๆ……เฟยเอ๋อ ซูซีมู่ดีกับเธเป็นพิเศษแบบนี้ไม่ธรรมดาเลยนะครับ”
“เขาดีกับเพื่อนมากทุกคนค่ะ” เฟยเอ๋อตอบโดยไม่ทันคิด
ลู่ยู่เม้มปาก กล่าวอย่างไม่เห็นด้วย:”ผมกับเหซิงโม่เป็นเพื่อนเขามานานหลายปี เขายังไม่เคยใส่ใจแบบนี้เลย พูดจริงๆนะ เขทำดีกับคุณ ยิ่งกว่าที่ผมทำดีกับแฟนซะอีก….”
ลู่ยู่ยังพูดไม่จบ ซูซีมู่ก็รีบพูดแทรก”
“ลู่ยู่ หุบปากซะ” น้ำเสียงของซูซีมู่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ลู่ยู่ทำท่ากลัวจนสั่น และทำท่ารูดซิปปาก
ซูซีมู่มองเขาแบบใช้สายตาเตือน แล้วก็หันไปมองโล่เฟยเอ๋อ:”อย่าไปฟังเขาพูดไปเลื่อยครับ”
“ไม่ฟังค่ะ” โล่เฟยเอ๋อก้มหน้าทานเค้กคำโตๆ
ไม่มีใครจ้องมองตาใหญ่อีก เต็มไปด้วยความมืดมนที่ลึกจนไม่เห็นฐาน……
หลังจากตัดเค้ก เหซิงถิงไปชนแก้วแขกผู้มีเกียรติทีละคนโดยพาเหซิงโม่ไปเป็นเพื่อนด้วย
พอถึงคิวโล่เฟยเอ๋อ เธอไม่ได้แค่ดื่มน้ำผลไม้เหมือนเช่นเคย แต่เธอถือแก้วไวน์แดงขึ้นมา
ซูซีมู่กำลังจะเอ่ยปากห้ามโล่เฟยเอ๋อ ฝั่งลู่ยู่ก็ถือน้ำผลไม้กะจะเปลี่ยนกับโล่เฟยเอ๋อ:”เฟยเอ๋อ คุณดื่มเหล้าไม่ได้ งั้นดื่มน้ำผลไม้แทนนะครับ”
โล่โฟนเอ๋อปฏิเสธ:”ดื่มไวน์แดงแค่นิดเดียวไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
เธอยิ้มแย้มแจ่มใส ยกแก้วขึ้นสูงแล้วชนแก้วกับเหซิงถิง:”สุขสันต์วันเกิดนะค่ะคุณเหซิงถิง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะเฟยเอ๋อ”เหซิงถิงกล่าวขอบคุณ ถือแก้วเหล้าขึ้นดื่มไปคำหนึ่ง
โล่เฟยเอ๋อยิ้มเบาๆ ยกแก้วขึ้นดื่มครั้งเดียวหมดแก้ว
ท่าทีของเธอ ทำให้ซูซีมู่ขมวดคิ้ว เหซิงถิงพวกเขาก็ตะลึงเหมือนกัน
แต่เพราะเหซิงถิงกับเหซิงโม่ยังต้องไปชนแก้วแขกผู้มีเกียรติต่ออีก จึงไม่รอช้า และเดินไปต่อ
ซูซีมู่นั่งที่เดิม ก้มหน้าดื่มเหล้า ไม่พูดอะไร
ลู่ยู่ดื่มเหล้าไปด้วย พูดคุยกับเฟยเอ๋อไปด้วย
โล่เฟยเอ๋อดื่มรีบไปหน่อย บวกกับนี่เป็นครั้งแรกที่เธอดื่ม เธอไม่สบายท้องเลย แต่ก็ยังฝืนยิ้มและคุยกับลู่ยู่
ผ่านไปประมาณ10กว่านาที โล่เฟยเอ๋อนั่งไม่อยู่อีกแล้ว เธอถือกระเป๋าลุกขึ้น:”นี่ก็ดึกมากแล้ว ฉันต้องกลับแล้วค่ะ”
“จะกลับแล้วเหรอ งั้นให้ซูซีมู่ส่งคุณกลับบ้านนะครับ”ลู่ยู่กล่าวพร้อมกับยืนลุก
“ไม่ต้องค่ะ เขาดื่มเหล้า อย่าขับรถเลยดีกว่าค่ะ…”โล่เฟยเอ๋อพูดยังไม่ทันขาดคำ ชายหนุ่มไร้สีหน้าที่ตอนแรกนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเธอก็ลุกขึ้นยืน มือหนึ่งหยิบเสื้อคลุมบนเก้าอี้ อีกมือก็ไปคว้าจูงมือโล่เฟยเอ๋อ เดินออกไป
“ซูซีมู่ นาย…….”ลู่ยู่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
แต่ซูซีมู่จูงมือโล่เฟยเอ๋อก้าวเดินออกไปซะก่อน
โล่เฟยเอ๋อถูกซูซีมู่จูงมือเดินตลอดทาง เขาเดินหน้า ไม่หันกลับมามองเธอบ้างเลย
เขาจับมือเธอไว้แน่นมาก ฝีเท้าก็เดินเร็ว ทำให้โล่เฟยเอ๋อต้องวิ่งเหยาะๆเพื่อทันเขา แต่แบบนี้ทำให้กระเพาะท้องเธอที่ไม่ค่อยสบายอยู่แล้วยิ่งไม่สบายหนักเข้าไปอีก
หลังจากที่เขาดึงตัวเธอออกจากโรงแรมบ้ันเต๋า ก็เดินตรงไปยังที่จอดรถ
“คุณดื่มเหล้าแล้ว อย่าขับรถดีกว่านะคะ”โล่เฟยเอ๋อพูดห้ามซูซีมู่เบาๆ
ซูซีมู่ไม่พูด เขาเพียงแค่เปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับด้วยสีหน้าจืดชืด ใช้มืออีกข้างผลักเธอเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูรถแรงๆ
แล้วเดินวนหน้ารถ ขึ้นนั่งบนรถ
หลังจากเขาขึ้นรถ เขาไม่มองหน้าเธอเลย สตาร์ทรถเหยียบคันเร่งทันที รถเคลื่อนที่อย่างมั่นคง
โล่เฟยเอ๋อไม่สบายกระเพาะ ตั้งแต่ซูซีมู่โยนเธอเข้าไปในรถ เธอก็ไม่ขยับอีกเลย
เธอพิงเก้าอี้ด้านหลัง เอ็นศีรษะจ้องซูซีมู่ที่กำลังขับรถ
อย่าดีกว่า ไม่ว่าเธอจะโต้เถียงประชดประชังยังไง เขาก็ไม่เข้าใจหรอก จะหาทรมานตนเองทำไมล่ะ?
โล่เฟยเอ๋อแอบถอนหายใจในใจ แล้วกล่าว:”รบกวนคุณช่วยส่งฉันกลับไปที่ชุมชนปี้ไหนะคะ”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูด ซูซีมู่เม้มปากแรงๆ แล้วตอบ”ครับ”
เวลาต่อจากนั้น โล่เฟยเอ๋อกับซูซีมู่ทั้งสองคนไม่มีใครเอ่ยปากคุยอะไรเลย
จนเมื่อไปถึงหน้าประตูชุมชนปี้ไห โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ จึงเอ่ยปากพูดขึ้น
“ขอบคุณคุณมากนะคะที่มาส่ง กลับไปก็ขับรถระวังๆหน่อยนะคะ”
ซูซีมู่นิ่งเฉยไปแป๊บ แล้วค่อยตอบ”ครับ”ไปคำเดียว
โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ แล้วตรงไปยังฝั่งประตชุมชน เพิ่งเดินได้สองก้าว ก็มีเสียงเรียกของซูซีมู่:”เฟยเอ๋อ”
ปลายนิ้วของโล่เฟยเอ๋อเย็นแข็งแว็บนึง แล้วก็หันไปมอง ไม่พูดอะไร
ซูซูทู่เอียงศีรษะมองเธอ แล้วพูดเบาๆว่า:”ฝันดีครับ”
โล่เฟยเอ๋อไม่คิดว่าที่ซูมีมู่เรียกเธอหยุด เพียงเพื่อบอก’ฝันดี’เฉยๆ
เธอคิดว่าเขาจะพูดอะไรเล่า?โล่เฟยเอ๋อคิดขำๆในใจ
และยิ้มแย้มให้ซูซีมู่”ซูซีมู่ ฝันดีนะคะ”
ฝันดีของเธอไม่เหมือนของซูซีมู่ ฝันดีของเธอหมายถึงฉันรักคุณ(w a n หว่ออ้ายหนี่a nอ้ายหนี่ในภาษาจีน) แต่เขาคงไม่มีวันเข้าใจหรอก
เธอรู้สึกขมขื่นใจฝาดเหลือเกิน โล่เฟยเอ๋อค่อยๆหันไป เดินตรงเข้าไปในชุมชน
ซูซีมู่เห็นด้านหลังของโล่เฟยเอ๋อที่เดินไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงเห็นความเศร้าของโล่เฟยเอ๋อได้จากด้านหลัง……
โล่เฟยเอ๋อที่ลางานไปหนึ่งวัน เช้าวันที่สองก็ถูกเย่รู้ไป๋เรียกเข้าไปในห้องทำงาน
เย่รู่ไป๋ถามเสียงปกติว่า:”เห็นบอกว่าเมื่อวานคุณลางานเหรอ?”
“ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ค่อยสบายค่ะ”โล่เฟยเอ๋ตอบแบบก้มหน้าเล็กน้อย
“คุณรู้มั้ย ว่าเมื่อวานเป็นวันที่คลาสฝึกอบรมพิเศษเปิดห้อง คุณเสียโอกาสไปเพราะคุณลางาน”สีหน้าของเย่รู่ไป๋ดูผิดหวังมาก
โล่เฟยเอ๋อใช้แรงบีบนิ้วมือ แล้วตอบไม่ว่า:”ขอโทษด้วยค่ะ”
เย่รู่ไป๋กล่าวอย่างเยือกเย็น:”คุณไม่ต้องขอโทษละ ผมดูคนผิดเอง วันแข่งขันยังมาสายได้ วันเปิดห้องซึ่งเป็นวันสำคัญคุณกลับไม่มา ฉันไม่อยากเสียเวลาแล้ว คุณไปเถอะ”
ได้ยินเย่รู่ไป๋บอกไม่เอาเธอแล้ว ใบหน้าของโล่เฟยเอ๋อซีดลงทันที
“หนูต้องขอโทษด้วยค่ะหัวหน้า ให้โอกาสหนูครั้งนึงนะคะ หนูรับรองว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก”
เย่รู่ไป๋จ้องเธอด้วยสายตาเยือกเย็น ไม่พูดอะไร
“โล่เฟยเอ๋อรีบกล่าวขึ้นว่า หัวหน้า หนูอยากเรียนคลาสฝึกอบรมพิเศษจริงๆนะคะ ให้โอกาสหนูอีกครั้ง หนูรับรองจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกค่ะ”
เย่รู่ไป๋มองสีหน้าที่ตื่นเต้นของโล่เฟยเอ๋อ สีหน้าเริ่มคลายลง :”การรับรองของเธอมีประโยชน์อะไรมั่ย?”
“หนูรับรองค่ะ…..”โลเฟยเอ๋อหยุดพูดไม่กี่วิ แล้วกัดฟันพูดว่า:”ถ้าหนูทำไมได้ หนูขอถอนตัวออกจากการออกแบบเครื่องประดับค่ะ”
ได้ยินโล่เฟยเอ๋อพูดแบบนี้ แววตาของเย่รู่ไป๋ดูตกตะลึงเหมือนกัน
ความจริงที่เย่รู่ไป๋เรียกเธอมาในวันนี้ ก็แค่ขู่เธอ ต่อไปอยู่ในคลาสฝึกอบรมพิเศษจะได้ทำตัวดีหน่อย มาสายให้น้อยหน่อย เลิกเช้าให้น้อยหน่อยแค่นั้น
ไม่คิดว่าจะขู่แรงไปหน่อย โล่เฟยเอ๋อถึงกับเอาอนาคตของตนมาประกัน
เย่รู่ไป๋มองโล่เฟยเอ๋อด้วยแววตาลึกซึ้ง และกล่าว:”งั้นขออย่าลืมสิ่งที่เคยพูดไว้ในวันนี้ก็แล้วกัน”
“แน่นอนค่ะ” โล่เฟยเอ๋พยักหน้ารับประกัน