จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 107
พวกเขาเป็นคนของโลกใต้ดิน แต่เห็นรถคันนี้มาถึง จึงต้องหลบไปอยู่ข้างๆ เพราะว่า นี่เป็น Bentley 6-6
ทั้งหนานหลิง มีเพียงคนเดียวที่มีเลขทะเบียนนี้ ทางนั้นคือเศรษฐีอันดับต้นของเขตภาคตะวันออกเฉียงใต้ หวงหยวนฉาว
เห็นรถเหมือนเห็นคน คนส่วนมากก็ไม่กล้าล่วงเกินผู้อาวุธโส อยู่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงใต้ เขาเป็นบุคคลสำคัญ ถึงแม้หม่าจงหัวเห็นหวงหยวนฉาว ยังต้องให้ความเคารพ
หลังจากที่รถขับเข้ามา มีเด็กผู้หญิงผมหางม้ากระโดดลงจากรถ คือหวงหานเยว่หลานสาวของหวงหยวนฉาว
หวงหานเยว่กวาดสายตาไปรอบๆ สับสนมากไม่รู้ว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น
เมื่อตอนที่เธอเห็นฟางเหยียน ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันที และเธอก็ตะโกนใส่ฟางเหยียน “ท่านจอมพลโผ้จวินที่แท้ท่านอยู่ที่นี่นี่เอง”
ขณะพูด เธอวิ่งไปทางฟางเหยียน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ฟางเหยียนมองไปที่หวงหานเยว่ และพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าเขาได้ตอบรับเธอแล้ว
หม่าซวี่ซงหัวเราะและพูดว่า “อะไรนะ? นี่คงไม่ใช่คนที่คุณเรียกมาหรอกนะ?”
แน่นอนหม่าซวี่ซงรู้จักหวงหานเยว่และรู้จักปู่ของเธอหวงหยวนฉาวด้วย อีกทั้งเขากับเธอก็ยังเป็นเพื่อนเก่าแก่กัน ก่อนหน้านั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลาย ที่หนานหลิงยังเคยไปเรียนด้วยกัน และความสัมพันธ์ก็ถือว่าไม่เลว
“หวงหานเยว่ คุณจำผมได้ไหม?” หม่าซวี่ซงตะโกนเรียกหวงหานเยว่
หวงหานเยว่หันไปมอง และเมื่อเธอเห็นหม่าซวี่ซง เธอยิ้มและพูดว่า “เป็นคุณนี่เอง เหล่าหม่า! ฉันนึกว่าเป็นใครสักอีก อยู่ที่นี่วางกลยุทธ์ใหญ่ขนาดนี้ ที่แท้คุณนี่เอง”
“ใช่ กำลังจัดการกับคนที่ไม่รู้จักตาม้าตาเรือ” หม่าซวี่ซงจ้องไปที่ฟางเหยียนและพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
เมื่อได้ยินคำทักทายของหวงหานเยว่ หม่าซวี่ซงคิดอยู่ในใจว่าในสมองของฟางเหยียนต้องมีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมองแน่ ในเวลานี้ในใจคงเย็นวาบๆ ผู้ช่วยที่เขาหามา คือคนที่ตัวเองรู้จัก ความอึดอัดมากขนาดนี้ พอคิดถึงตรงนี้ เขายิ่งรู้สึกได้ใจมากขึ้น
“เจ้าเด็กน้อย นายโง่หรือเปล่าที่ขอให้เพื่อนผมมาเป็นผู้ช่วย?” หม่าซวี่ซงจ้องไปที่ฟางเหยียนถาม
เมื่อหวงหานเยว่เห็นท่าทางนี้ เธอตกตะลึงในทันที จากนั้นมองไปที่ฟางเหยียนและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นหรอ ท่านจอมพล?”
ฟางเหยียนตอบอย่างแผ่วเบา “มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณไปอยู่ข้างๆก่อน!”
หวงหานเยว่กวาดสายตามองผู้ชายนับหมื่นที่อยู่รอบๆ รีบพูดว่า “เหล่าหม่า คุณคงไม่ใช่จะจัดการเขานะ?”
จัดการจอมพลโผ้จวิน ก็เท่ากับหาที่ตายนะ
หม่าซวี่ซงกอดอกของเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจ “ใช่ ก็คือเขา!”
หวงหานเยว่ตกตะลึงในทันที และในใจเธอโผล่คำว่าฉิบหายขึ้นมาเป็นหมื่นๆคำ เธอรีบโบกมือและพูดว่า “ไม่ๆๆ คุณอย่าเข้าใจผิด นี่คือเพื่อนของปู่ฉัน คุณอย่าทำเหลวไหล!”
เวลานี้เธอสามารถพูดได้แค่นี้ และด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เธอสามารถช่วยหม่าซวี่ซงได้
หม่าซวี่ซงผงะไปครู่หนึ่ง เป็นเพื่อนของหวงหยวนฉาว! ไม่แปลกที่เขามีออร่าเช่นนี้ กำลังจะตายอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายยังไม่กลัว
ที่แท้มีหวงหานฉาวเป็นร่มกำบัง แต่ หวงหานฉาว จะปกป้องคุณได้?
ในหนานหลิง เขาหวงหยวนฉาวนั้นร้ายกาจมาก แต่เมื่อเทียบกับตระกูลหม่า ก็ไม่ถือว่าเท่าไหร่
ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเคร่งขรึม “เพื่อนนักเรียนเสี่ยวเยว่ เรื่องนี้ไม่ใช่ธุระของคุณ ยิ่งไม่เกี่ยวกับคุณปู่ของคุณ รอผมจัดการกับคนนี้แล้ว ผมจะไปหาคุณปู่หวงเพื่ออธิบายให้ชัดเจน”
หวงหานเยว่พูดอย่างกังวล “ไม่ๆๆ คุณเข้าใจผิดแล้ว คนนี้ไม่ใช่คนที่คุณจะล่วงเกินได้นะ”
ทันทีที่หม่าซวี่ซงได้ยินหวงหานเยว่พูดแบบนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ แล้วชี้ไปที่หลังของเขาแล้วพูดว่า “คุณโง่หรอ? ที่นี่ผมมีคนมากมาย คุณรู้สึกว่าผมล่วงเกินเขาไม่ได้? คุณถือเขาเป็นใคร?”
หวงหานเยว่กังวลมาก โชคดีที่รู้จักหม่าซวี่ซง เธอไม่สามารถมองดูหม่าซวี่ซงหาที่ตายได้ ดังนั้นจึงรีบพูดว่า “นายไม่สามารถล่วงเกินเขาได้จริงๆ เขาเป็น … ”
ยังไม่ทันพูดจบ! เสียงประหลาดดังก้องไปทั่วโลก และท้องฟ้าก็แผ่กระจายไปด้วยเสียงนี้
“เกิดอะไรขึ้น?” หลายคนต่างพากันตะโกนขึ้นมา
ในขณะนี้ เครื่องบินรบสิบลำก็ส่งเสียงดังกึกก้องบนท้องฟ้า และเสียงดังเมื่อครู่คือเสียงของเครื่องบินรบลำนี้ นอกจากเครื่องบินรบบนอากาศแล้ว ยังมีเสียงไซเรนดังอยู่รอบๆ และรถรบหลายร้อยคันก็ล้อมรอบรีสอร์ทหยูฉวนทั้งหมดทันที!
วินาทีนั้น พี่น้องกว่าหนึ่งหมื่นคนที่หม่าซวี่ซงพามาด้วยก็ตื่นตระหนก พวกเขาเป็นโจรทั้งหมด แต่ตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดเป็นทหาร โจรนั้นกลัวทหารมากที่สุด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหยิ่งยโส แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาก็กลัวและหวาดกลัว
เมื่อเห็นพวกพี่น้องตื่นตระหนก หม่าซวี่ซงก็รีบตะโกน “ทำอะไร? อย่าวุ่นวาย! หรือว่าพวกคุณรู้สึกว่าในหนานหลิงยังมีคนกล้าแตะต้องพวกเรา? มีผมอยู่ ผมรับประกันว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องกับพี่น้องแม้แต่คนเดียว”
ประโยคนี้ สร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในที่เกิดเหตุอย่างไม่ต้องสงสัย หม่าซวี่ซงยังเป็นนายน้อยของตระกูลใหญ่อันดับสอง ศึกแบบไหนที่ไม่เคยเห็น ตราบใดที่อยู่ในหนานหลิง บ้านพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้อย่างแน่นอน
หม่าซวี่ซงเงยศีรษะมองขึ้นไปรอบๆ มองหาในท่ามกลางฝูงชน แต่ไม่เห็นมีใครมา
เขาขมวดคิ้วมอง มองไปที่ฟางเหยียนและถามว่า “นี่คุณเรียกมาใช่ไหม?”
หวงหานเยว่หลับตา ยกมือขึ้นกุมสมองแล้วพูดว่า “จบแล้ว! ปู่นายกับบรรพบุรุษนาย ก็ช่วยนายไม่ได้แล้ว”
ฟางเหยียนแสร้งยิ้มแล้วพูดว่า “อาจจะใช่มั้ง!”
“อาจจะ!” หม่าซวี่ซงหึออกมาแล้วตะโกนว่า “คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”
ทันทีที่เขาพูดจบ ก็เกิดเสียงคำรามดังเข้ามาจากข้างนอก “ทุกคนแยกออก!”
ตามด้วย ชายในชุดเครื่องแบบทหารเดินตรงไปยังฝูงชนโดยมีคนหลายคนเดินตามเขามาด้วย เดิมทีที่แออัดด้วยฝูงชนก็แยกย้ายกันไปและหลีกทางให้เป็นทางที่กว้างขวาง
นี่คือชายวัยกลางคนที่ กำยำล่ำสัน เขาอายุยังไม่ถึงห้าสิบปี ร่างกายแข็งแกร่ง ฝีเท้าของเขามีพลัง ใบหน้าอิ่มเอิบ ดูยังไงเขาก็เป็นผู้นำ
เขาคือคนที่ทุกคนในเขตหนานหลิงยอมรับ เป็นคนที่สามารถระดมกำลังทหารระดับภูมิภาคได้ และสถานะของเขานั้นสูงมาก
ทันทีที่เห็นชายวัยกลางคน ดวงตาของหม่าซวี่ซงก็เป็นประกาย เขารีบเรียกว่า “คุณลุงซ่ง!”
“คุณลุงซ่ง ท่านทำไมมาที่นี่ได้” เขาดีใจวิ่งไปหาเหมือนเด็กที่เห็นพ่อ
ซ่งฉาวอู่มองไปที่หม่าซวี่ซงและถามว่า “ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่? หลานชายใหญ่!”
พ่อของซ่งฉาวอู่และหม่าจงหัวเป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นเขาจึงเรียกหม่าจงหัวว่าอารอง หม่าซวี่ซงเป็นหลานของหม่าจงหัว จึงเป็นหลานชายของตัวเองโดยธรรมชาติ
เหตุผลที่หม่าซวี่ซงกล้าก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะคุณลุงซ่งของเขาเป็นคนในตำแหน่งรักษาการณ์!
“คุณลุงซ่ง ผมมาที่นี่มีเรื่องจัดการนิดหน่อย! ใช่แล้ว กลยุทธ์เหล่านี้ท่านเป็นคนทำหรอ?” หม่าซวี่ซงถามด้วยรอยยิ้ม
ซ่งฉาวอู่พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ ข้างบนมีคนสั่งมาให้ผมทำภารกิจนี้”
“คนข้างบน? ข้างบนท่านยังมีคนอีก?” หม่าซวี่ซงมองไปที่ซ่งฉาวอู่ด้วยความประหลาดใจ ซ่งฉาวอู่อยู่ที่หนานหลินไม่มีใครเหนือกว่า คิดไม่ถึงว่าข้างบนเขายังมีคนเหนือกว่า
ซ่งฉาวอู่พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ นี่คือตำแหน่งที่สูงส่งมาก”
“ซ่งฉาวอู่!” ทันใดนั้น เสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้น