จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 109
สำหรับคนหนุ่มสาวบางคนและคนที่มีคุณสมบัติต่ำ พวกเขาไม่รู้จักการเรียกแบบนี้ แต่สำหรับคนที่มีตำแหน่งบางอย่างในสังคม ในประเทศหวาคนที่มีตำแหน่ง ล้วนเคยได้ยินชื่อในตำนานนี้
จอมพลโผ้จวิน ไม่เพียงแต่เป็นการแต่งตั้ง ยังเป็นเกียรติ เป็นตำแหน่งด้วย
ซ่งฉาวอู่พูดว่า “ใช่ครับ นี่ก็คือจอมพลโผ้จวิน”
หม่าจงหัวเดินไปข้างหน้าของฟางเหยียนโค้งคำนับและพูดว่า “ได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน หม่าจงหัวที่แก่หงำเหงือกคำนับแม่ทัพ”
ฟางเหยียนมองไปที่หม่าจงหัวและพูดว่า “ผมเคยให้โอกาสคุณแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคุณไม่รู้จักรักษา หลานชายคุณฆ่าคนกลางถนน ยังพาคนมาวางแผนจะฆ่าผม หลานชายของคุณ ก่ออาชญากรรมต่อหน้าผม!”
ดวงตาของหม่าจงหัวเบิกกว้างในทันที เขาก็ตกตะลึงสั่นไปทั้งตัว
ที่แท้เป็นเขา! โทรศัพท์นั้นเขาเป็นคนให้คนโทรไป ทางโทรศัพท์เพื่อนเก่าหงจิ่วพูดแล้ว นั่นเป็นผู้บังคับบัญชาของเขา หงจิ่วเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงของประเทศหวา เบื้องหลังใหญ่ข้ามฟ้า แต่คนนี้ยังเป็นผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่าเขา ยิ่งสถานการณ์นี้ยิ่งทำให้คนไม่กล้าคิด
กล้ามเนื้อบนใบหน้าแก่ๆของเขากระตุกไปหลายที และร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาโดยไม่สามารถบังคับได้ หน้าเขียวคล้ำมองไปที่หม่าซวี่ซงด้วยหน้าตาบูดบึ้งและพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้สารเลว ยังไม่มาคุกเข่าอีก”
หม่าซวี่ซงชะงักไปครู่หนึ่งก่อน จากนั้นสองขาของเขาก็อ่อนหมดแรงและเขาทรุดตัวลงคุกเข่าหม่าจงหัวเดินไปหาหม่าซวี่ซงอย่างโกรธเคือง ยกมือขึ้นแล้วตบเขาไปสองทีอย่างแรง จากนั้นก็เตะไปที่ร่างของหม่าซวี่ซง
ตะโกนด่าว่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน กูเคยบอกแกแล้วว่าอย่าไปสร้างปัญหาข้างนอกให้กู แกไม่ฟังเลย แม่งแกเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นคือชีวิตแก!”
หม่าซวี่ซงถูกเตะกลิ้งลงกับพื้น รีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วและคุกเข่าอีกครั้ง เขารู้ว่าที่ปู่ทุบตีเขา ก็จะไม่นิ่งดูดาย อย่างน้อยเห็นคุณปู่หม่าจงหัวปรากฏตัวขึ้นเรื่องนี้ก็คงมีทางแก้ไข
หลังจากหม่าซวี่ซงถูกทุบตีจนหัวร้างข้างแตก หม่าจงหัวมองไปที่ฟางเหยียนและพูดว่า “จอมพลโผ้จวิน หวังว่าจอมพลโผ้จวินจะให้โอกาสหลานชายผมสักครั้ง เขามีตาหามีแววไม่จริงๆ จอมพลโผ้จวิน ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ไว้ชีวิตสุนัขของหลานชายผมสักครั้งเถอะ”
ซ่งฉาวอู่ก็รีบพูดเสริมว่า “จอมพลโผ้จวิน หม่าซวี่ซงถึงแม้จะเป็นคนโหดร้าย แต่สันดานไม่ได้เป็นคนเลว อีกอย่าง ใครบ้างที่ไม่เคยทำผิด หวังว่าจอมพลโผ้จวินเป็นผู้ใหญ่ท่านจะให้โอกาสเขากลับตัวสักครั้ง ”
“บังอาจ!” ฟางเหยียนไม่ได้พูด แต่เทียนขุยตะโกนเสียงดังขึ้นมา
ด้วยเสียงนี้ ทำให้ทั้งสองคนตัวสั่นระริกขึ้น เทียนขุยมองไปที่สองคนและพูดว่า “พวกคุณนึกว่าอาศัยฐานะของตัวเอง มีสิทธิ์มาขอร้องหรอ พวกคุณถือว่าเป็นตัวอะไร?”
“ถ้าหากวันนี้ที่นี่ไม่ใช่เป็นจอมพลโผ้จวิน เป็นอีกคนหนึ่ง งั้นคนๆนี้ก็สมควรตายใช่ไหม พวกคุณก็สามารถปิดฟ้าข้ามทะเล ทำให้พวกคุณกระทำผิดอย่างเหิมเกริมอย่างนี้ต่อไป?”
คำพูดของเทียนขุย ทุกคำ ทำให้ทั้งสองคนหน้าซีดทันที
“ฆ่าคนกลางถนน วางแผนพยายามฆ่าจอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวา ประหาร! ถ้าใครกล้าขัดขืน ก็ประหารไม่เว้น!” คำว่าประหาร พูดจนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน เต็มไปด้วยพลัง
ไม่มีใครสามารถอ้อนวอนขอร้องต่อหน้าเขาได้ คนพวกนี้เป็นแค่คนที่ไม่เอาไหนได้แต่ลุกขึ้นมาก่อเรื่องแค่นั้นเอง
หากไม่มีจอมพลโผ้จวิน ไหนประเทศหวาจะมีคนพวกนี้
ฟางเหยียนเหลือบมองไปที่หวงหานเยว่และพูดว่า “ไปกันเถอะ ผมยังมีนัดกับปู่ของคุณ”
หลังจากพูดจบเขาก็จากไปอย่างเฉยเมย เทียนขุยเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ หวงหานเยว่ได้สติกลับมาจากการตกตะลึง ค่ะคำเดียวแล้วรีบวิ่งไปที่รถเพื่อเปิดประตูรถออก
ระหว่างที่เดินขึ้นประตูรถ ฟางเหยียนพูดนิ่งๆ “ถ้าไม่เห็นเขาตาย ตระกูลหม่าก็จบสิ้น!”
“ซ่งฉาวอู่” สุดท้าย เขาก็เรียกชื่อซ่งฉาวอู่คำเดียว ส่งสายตาที่แฝงความหมาย และขึ้นรถไป
เสียงนี้ทำเอาซ่งฉาวอู่เซ่อๆซ่าๆ เขาไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
หม่าจงหัวจ้องมองไปที่ฟางเหยียนด้วยสายตาซึม น้ำตาไหลออกมาจากมุมตาของเขา เทียบกับความพินาศของตระกูลหม่า การตายของหม่าซวี่ซงถือเป็นเรื่องเล็กน้อย คุณสมบัติของหม่าซวี่ซงก็ไม่เลว และเป็นหลานชายที่หม่าจงหัวชอบที่สุด แต่เขาโง่เกินไป
หม่าจงหัวกัดฟันแล้วพูดกับฟางเหยียนว่า “ขอให้จอมพลโผ้จวินวางใจ ผมจะลงมือด้วยตัวเอง!”
ประโยคนี้ เหมือนพูดอย่างกัดหัวใจตัวเอง
พูดไป เขาค่อยๆก้าวเดินมาอยู่ต่อหน้าหม่าซวี่ซง หม่าซวี่ซงร้องไห้และพูดว่า “ไม่เอานะ คุณปู่ ไม่เอา!”
ทันทีที่เสียงหายไป หม่าจงหัวกางมือและตะโกนเสียงดังว่า “นี่แกหาที่เอง!”
หม่าหรงหรงรีบไปข้างหน้า กอดหม่าจงหัวและพูดว่า “ปู่ ไม่ คุณปู่ เขาเป็นหลานชายของท่าน หรือว่าท่านจะฆ่าเขาจริงๆ หรอ? ถ้าท่านจะฆ่าเขา ก็ฆ่าฉันก่อนเถอะ!”
เธอคุกเข่าลงกับพื้น จับแขนของหม่าจงหัวไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง
เธอไม่เชื่อว่าหม่าจงหัวจะฆ่าหม่าซวี่ซงจริงๆ แต่ถึงแม้ว่าหม่าจงหัวในเวลานี้น้ำตาจะนองหน้า แต่กลับน่ากลัวมาก เขากัดฟันและตะโกนพูดว่า “ไสหัวไป! ไอ้คนทรพีควรถูกฆ่า”
เขาสะบัดมือของหม่าหรงหรงออกอย่างรวดเร็ว เพี้ยะทีเดียว ทันใดนั้นเห็นแต่หม่าซวี่ซงโดนตีจนเลือดไหลออกทั้งเจ็ดทวาร น้ำตากลายเป็นเลือด ไหลออกมาจากดวงตา จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างแผ่วเบา เสียชีวิต และถูกหม่าจงหัวตบจนตาย!
หม่าหรงหรงตกใจอึ้งไปหมด ฆ่าจริงๆ รีบวิ่งเข้าไปจับชีพจรที่คอของหม่าซวี่ซง ตายแล้ว!
ตายแล้วจริงๆ!
หม่าหรงหรงลุกขึ้นยืนและมองไปที่หม่าจงหัว ตะโกนว่า “ฉันเกลียดคุณ คุณปู่ ฉันเกลียดคุณ”
พูดจบเธอก็วิ่งออกไปจากฝูงชน
ไม่มีใครคิดว่าหม่าซวี่ซงจะจบชีวิตของเขาด้วยวิธีนี้ และตายด้วยน้ำมือของปู่ตัวเอง
หม่าจงหัวเห็นหม่าซวี่ซงล้มลง ในใจเจ็บปวดสุดซึ้ง ที่น้ำตาไหลเป็นทาง สิ่งที่โหดร้ายที่สุดในโลกคือการฆ่าหลานชายด้วยมือของตัวเอง
แต่เขามีทางเลือกอะไรอีก?
“เอาศพของคุณชายกลับไป!” เสียงของหม่าจงหัวก็แก่ขึ้นทันที และคนทั้งหมดของเขาก็กลายเป็นความผันผวนของชีวิตในทันที เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัยสำหรับคนผมขาวที่ส่งคนผมดำไปสู่ความตายด้วยมือของเขาเอง และต้องฝังศพด้วยตัวเอง
“คุณลุงหม่า!” ซ่งฉาวอู้มองมาที่หม่าจงหัวด้วยความกังวล
หม่าจงหัวอยู่ในภวังค์ แต่เขาโบกมือและพูดว่า “เสี่ยวอู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ไอ้คนทรพีหาที่ตายด้วยตัวเอง ผมเคยเตือนเขาแล้ว แต่เขาก็ไม่ฟัง คราวนี้เขาเป็นคนเหยียบตะปูเอง โทษใครไม่ได้ ”
หมดหนทาง เศร้าซึม นี่คือความสิ้นหวังที่หาได้ยากของหม่าจงหัว
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ซ่งฉาวอู่ก็ยิ่งเป็นห่วง เขาเป็นห่วงว่าหม่าจงหัวจะทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีต่อตระกูลหม่าออกมา หม่าจงหัวเป็นผีแก่ที่มีเอกลักษณ์ลึกลับ ตัวเขาเองยังไม่รู้ว่าหม่าจงหัวคนนี้มีที่มายิ่งใหญ่แค่ไหน
แต่ตอนที่เขาเห็นหม่าจงหัว ตีหม่าซวี่ซงตายด้วยมือตัวเอง ก็รู้แล้วว่านอกจากอำนาจที่ยิ่งใหญ่แล้ว เขายังโหดร้ายจริงๆ ว่ากันว่าเสือร้ายไม่กินลูก แต่เขาฆ่าหลานชายตัวเองด้วยมือของเขาเอง
เขาคงไม่ยอมง่ายๆแน่!
นี่เป็นความรู้สึกของซ่งฉาวอู่