จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 112
ชายคนนั้นอายุไม่มากนัก ดูท่าสามสิบกว่า แต่แต่งตัวดูไม่ค่อยเข้ากับยุคสมัย ถังเสี่ยนจงจึงยิ้มแล้วพูดขึ้น“ช่วยคนหนึ่งชีวิตได้บุญกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ผมจะกล้าตำหนิคุณได้อย่างไร รีบมานั่งสิ”
ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันดีมาก ดูท่าน่าจะเป็นสหายเก่าของถังเสี่ยวจง
เขาดูฟางเหยียนแนะนำตัวพูดขึ้น“นี่เป็นเพื่อนน้อยๆของผม คุณหยาง หยางจื่อโล่”
“ส่วนคนนี้คือคนที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ฟางเหยียน หมอเทวดาฟาง”
ฟางเหยียนคะเนมองหยางจื่อโล่ พยักหน้าให้อย่างรับรู้
แววตาของหยางจื่อโล่แสดงความสงสัยเล็กน้อย คอยมองหยางจื่อโล่ไม่หยุด หลังจากที่คะเนมองแล้ว แววตาก็ยังคงสงสัย เพราะเขาคิดว่าฟางเหยียนเป็นตาแก่คนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะหนุ่มขนาดนี้
หยางจื่อโล่กับถังเสี่ยนจงมีความผูกพันกัน ทั้งหมดเป็นเพราะชื่อเสียงของหยางจื่อโล่ที่หนานหลิง เขาเป็นลูกศิษย์ของหมอเทวดาจู่เห้ออันดับหนึ่งของจีน ที่หนานหลิง ก็ถือว่ามีชื่อเสียงระดับหนึ่ง คนใหญ่คนโตมักจะมาให้เขาตรวจ
หยางจื่อโล่มองดูฟางเหยียนตั้งคำถาม“คุณฟาง มีชื่อเสียงเกรียงไกร ได้ยินมาว่าคุณใช้การรักษาสิบสามเข็มของสำนักเทพที่สืบทอดกันมานาน เป็นอย่างนั้นจริงหรือ”
น้ำเสียงของหยางจื่อโล่ยังแฝงด้วยความเคลือบแคลงและไม่เชื่อใจ ฟางเหยียนพยักหน้าตอบรับ
ดูสีหน้าของฟางเหยียน ทำให้หยางจื่อโล่ไม่สบอารมณ์อย่างมาก คนๆนี้ดูยโสกว่าที่ตัวเองคิด
คิดมาถึงตรงนี้ หยางจื่อโล่แค่นเสียงเย็นขึ้นทีหนึ่ง พูด“ผมก็วิจัยเรื่องฝังเข็มเหมือนกัน อาจารย์ของผมคือหมอเทวดาจู่เห้อ คิดว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อเสียงท่านมาบ้าง”
ในตอนที่พูดสองคำนี้ออกไป เขาก็เชิดหน้าขึ้น ราวกับไม่เห็นหัว
ฟางเหยียนส่ายหน้ากล่าว“ไม่เคยได้ยิน”
หยางจื่อโล่หน้าง้ำลงทันที แค่นเสียง พูดว่า“ไม่เคยได้ยินเหรอ น้องชาย คุณกำลังล้อผมเล่นหรือเปล่า”
ฟางเหยียนจ้องหยางจื่อโล่เขม็งตอบกลับ“ผมสนิทกับคุณมากนักหรือไง”
คำพูดเดียว ทำให้ถังเสี่ยนจงรู้สึกลำบากใจยิ่ง เขากำลังจะพูดอะไร
หยางจื่อโล่แย่งพูด“คุณไม่ได้สนิทกับผม แต่คุณไม่รู้จักอาจารย์ผมได้อย่างไร แล้วคุณได้วิชาฝังสิบสามเข็มของสำนักเทพมาได้ไง”
ฟางเหยียนยังคงรักษาสีหน้าสงบตอบกลับ“ผมเข้าใจฝังสิบสามเข็มสำนักเทพ แล้วทำไมต้องรู้จักอาจารย์คุณด้วย”
ถังเสี่ยนจงจึงได้พูดแทรกคำหนึ่ง มองไปที่ฟางเหยียนแล้วถาม“หมอเทวดาฟาง คุณไม่รู้จักหมอเทวดาอาวุโสจู่เห้อจริงๆเหรอ”
ฟางเหยียนส่ายหน้าพูดว่า“ไม่รู้จัก!”
เขาไม่รู้จักจู่เห้ออะไรนั่นจริงๆ แต่ฟังจากที่ทั้งสองคนพูด น่าจะเป็นบทบาทที่สำคัญมาก
ถังเสี่ยนจงรีบพูด“หมอเทวดาฟาง หมอเทวดาบรรพชนจู่เห้อท่านนี้เป็นหมอที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นับถือของประเทศจีน ปีนี้อายุหนึ่งร้อยสามปีแล้ว ก็ยังคงเดินทางไปทั่ว เสาะหาสมุนไพร และมีชื่อเสียงก้องไปทั่วประเทศจีนและทั่วโลก หากแต่เสียดาย ผมอายุขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยเจอหน้าผู้อาวุโสสักครั้ง ผมคิดว่าคุณเป็นลูกศิษย์ของท่านเสียอีก”
หยางจื่อโล่แค่นเสียง พูด“ท่านถัง ใช่ว่าใครๆจะเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ผมได้นะครับ คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างผมจะเป็นลูกศิษย์อาจารย์ท่านได้อย่างไร”
“คุณหยาง ระวังคำพูด!นี่เป็นอาคันตุกะสำคัญของตระกูลถังของเรา”ถังเสี่ยนจงพูดกับหยางจื่อโล่
หยางจื่อโล่รีบพูด“ขอโทษครับ ท่านถัง ผมก็พูดจาแบบนี้แหละ ถ้ามีผิดพลาดตรงไหน ก็ขออภัยด้วย”
เมื่อกี้ยังเรียกฟางเหยียนว่าคุณ ตอนนี้เรียกเป็นน้องชายเลย
ฟางเหยียนพูด“ที่จริงผมรู้เรื่องการแพทย์นิดหน่อยเท่านั้น การแพทย์ไม่ใช่สาขาเฉพาะทางของผม”
พอได้ยินฟางเหยียนพูดดังนั้น สีหน้าของถังเสี่ยนจงก็แสดงความประหลาดใจ แต่มากน้อยก็แสดง
ความผิดหวังอยู่
หยางจื่อโล่หน้าถอดสี เขามองฟางเหยียนอย่างตะลึง หนุ่มคนนี้ออกจะบ้าคลั่งไปหน่อย อายุสักเท่าไหร่เชียว พูดจาสามหาวแบบนี้ซะแล้ว ยังบอกว่าการแพทย์ไม่ใช่สาขาเฉพาะทางของเขา
ดังนั้นเขาจึงทำสีหน้าเย็นชาถามขึ้น“งั้นขอเรียนถามสาขาเฉพาะทางของคุณฟางคือสาขาไหน”
ฟางเหยียนฟังออกว่าหยางจื่อโล่กำลังเหน็บแนม จึงมองหยางจื่อโล่แล้วถาม“คุณหมอหยางหมายความว่าอย่างไร”
หยางจื่อโล่พูดโดยไม่ต้องคิด“ผมแค่สงสัยคุณฟาง สิบสามเข็มสำนักเทพนี่เป็นการฝังเข็มพลังหยิน กว่าจะฝึกออกมาต้องใช้เวลายี่สิบปี อายุของคุณฟาง เกรงว่าน่าจะกำลังตบตาทุกคนมั้ง”
“เหลวไหลทั้งเพ!”หลินถงลุกจากโต๊ะอย่างโกรธเคือง
“หยางจื่อโล่ คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร ตัวเองเรียนไม่ได้ ก็จะไม่ให้คนอื่นได้เรียนด้วยหรือไง คณฟางรักษาผมจนหาย นี่ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า คุณรักษาผมไม่หาย ก็แสดงแล้วว่าคุณสู้คนอื่นไม่ได้”
คำพูดของหลินถงทำให้หยางจื่อโล่โกรธจนหน้าเขียว เขารีบพูดขึ้น“คุณผู้ชายไม่รู้เสียแล้ว โรคที่คุณผู้ชายเป็นได้แต่เพียงประคอง รักษาไม่ได้ แม้ว่าจะมีคนบอกว่าสิบสามเข็มประตูเทพจะสามารถรักษาอาการป่วยของคุณ แต่ศาสตร์ฝังเข็มที่ร้ายที่สุดก็คือศาสตร์สิบสามเข็มนี่แหละ และก็เป็นการฝังเข็มต้องห้าม ถ้าไม่ชำนาญเต็มร้อยก็ไม่ควรใช้การฝังเข็มนี้ จะเป็นอันตรายถึงชีวิตคนได้ อีกอย่าง การฝังเข็มนี้อาจารย์ยังเรียนไม่หมด”
“ความหมายของคุณคือ ผมจะตายงั้นเหรอ คุณอยากจะให้ผมตายใช่ไหมล่ะ”คำพูดของหลินถงเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง
หยางจื่อโล่รีบพูด“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณผู้ชายอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด”
“ความสามารถของคุณฟางเป็นอย่างไร ลูกน้องอย่างคุณไม่จำเป็นต้องวิจารณ์!”หลินถงพูดเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจ
หยางจื่อโล่ก้มหน้าพูด“ผมคิดว่าคุณผู้ชายเข้าใจผมผิด ผมแค่สงสัยในความสามารถของคุณฟาง แพทย์แผนจีนของเราชื่อเสียงขจรไกลขนาดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้กันภายในไม่กี่ปี อาจารย์ของผมเรียนรู้วัฒนธรรมแพทย์แผนจีนห้าพันปีมาชั่วชีวิต เรียนรู้การฝังเข็มมาเป็นสิบๆปี ก็เรียนรู้ได้ถึงเข็มที่สิบสองของสิบสามเข็มสำนักเทพ และก็ไม่ได้จะมั่นใจด้วย คุณฟางอายุน้อยเพียงนี้ ผมจะเชื่อได้ไงว่าเขาเรียนรู้ศาสตร์ฝังเข็มนี้จริงๆ”
อายุน้อย หยิ่งยโส นี่เป็นนิสัยของหยางจื่อโล่
ฟางเหยียนพูดกับหยางจื่อโล่“ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะลองบนตัวคุณให้ดูก็ได้ ว่ากันว่าสิบสามเข็มสำนักเทพนี้ใช้รักษาคนที่มีโรคพลังหยิน จะทำให้ดีขึ้น ถ้าใช้กับคนที่สุขภาพดีทุกด้าน ก็จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลง แล้วกลับกลายเพิ่มพลังหยินมากขึ้น ถึงขนาดสามารถเห็นวิญญาณ คุณจะกล้าลองมั้ย”
สีหน้าหยางจื่อโล่น่าเกลียดยิ่งขึ้น เขากำลังจะพูด ถังเสี่ยนจงก็ชิงพูดขึ้น“อ๋อ อย่างนั้นหรือ ผมก็อยากรู้ว่านี่จะเป็นจริงหรือเท็จ ถ้าคุณหยางไม่เชื่อคุณฟาง ลองดูหน่อยก็ได้ ผมเองก็อยากเปิดหูเปิดตา ดูว่าสิบสามเข็มสำนักเทพนี่จะแน่แค่ไหน”
“ไม่ใช่!”หยางจื่อโล่จ้องไปที่ถังเสี่ยนจงราวกับเตรียมตัวพูดอะไร
แต่ก็โดนหลินถงขัดจังหวะก่อน“ว่าไงล่ะคะ ไม่กล้าทดลองใช่ไหม งั้นก็อย่าพูดจาสามหาว ทำเหมือนกับว่าโลกทั้งใบมีแต่คุณกับอาจารย์เท่านั้นที่รู้ศาสตร์ฝังเข็ม”