จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 115
หลังจากนี้สามวัน
สามวันนี้ฟางเหยียนรอโทรศัพท์ศาสตราโจวมาโดยตลอด แต่ว่าเขาก็ไม่ได้โทรหาฟางเหยียนเลย แม้ว่าฟางเหยียนจะร้อนใจ แต่ว่าเขารู้ ร้อนใจไปก็เท่านั้น ตัวเองยังคาดการณ์อะไรไม่ได้สักหน่อย ศาสตราจารย์โจวต้องใช้เวลาในการวิจัย
ฟางเหยียนเพิ่งลุกขึ้นจากเตียงเก็บของเรียบร้อย มือถือก็ดังขึ้น
“จอมพล วันนี้ว่างหรือไม่”สายโทรศัพท์มีเสียงของหวงหยวนฉาวดังลอดมา
ฟางเหยียนถึงได้นึกถึงเรื่องที่หวงหยวนฉาวคุยเรื่องวิทยายุทธ์นอกประเทศ ในใจคิดว่าคงไม่เป็นไร ไปดูหน่อยก็ได้ จึงพูดขึ้น“ไปดูหน่อยก็ได้”แต่
“ตกลง จอมพล ผมให้หานเยว่ไปรับท่านที่รีสอร์ทหยูฉวนแล้ว เธอน่าจะใกล้ถึงแล้วล่ะ”หวงหยวนฉาวพูดปาวๆอยูตรงข้ามสายโทรศัพท์
ฟางเหยียนยิ้ม ไม่ต้องสงสัย คงจะเป็นข้อมูลที่เทียนขุยให้ไว้
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ เทียนขุยก็เดินเข้ามาจากประตู พูดขึ้นคุณหนูหวงมาครับ อยู่ที่ประตู”
เห็นเทียนขุยเปลี่ยนเสื้อผ้า ฟางเหยียนจึงพูดขึ้น“ไปกันเถอะ”
เทียนขุยพยักหน้าอย่างแรงแล้วพูดขึ้น“ครับ จอมพล”
เทียนขุยเป็นชาวชนบทโดยแท้ แต่ว่าทั้งครอบครัวชกมวยมารุ่นต่อรุ่น ตั้งแต่เด็ก เทียนขุยก็ใช้ชีวิตอยู่ในชนบทที่ตัดจากโลกภายนอก แต่ละวันนอกจากมีเรื่องชกต่อย ก็คือเรียนมวยกับบิดา
เขาคิดว่าวิชาที่ตัวเองเรียนไม่มีความหมาย แต่คิดไม่ถึงว่าตอนที่อายุสิบแปด บิดาของเขาจะส่งเขาไปที่กองทัพ ให้ไปสร้างเกียรติยศ หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยได้พบบิดาอีกเลย
เนื่องจากโดดเด่น แล้วมีร่างกายแข็งแรงเป็นพิเศษ สุดท้ายได้รับเลือกให้ไปออกรบ
ก่อนที่เทียนขุยจะไปออกรบ หมัดเหล็กของเขาเป็นที่ขึ้นชื่ออย่างมาก ต่อมาพอได้รู้จักกับฟางเหยียน ภายใต้การแนะนำของฟางเหยียน หมัดของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น เพิ่มกำลังภายในเข้าไปอีกนิด ทำให้หมัดของเขาแข็งแกร่งมาก
เดิมทีเป็นแค่หัวหน้าของกลุ่มเล็กๆ ต่อมาก็ได้เลื่อนขั้นเป็นพลโทฟาง ตำแหน่งสูงส่ง
ไม่กี่ปีมานี้ นอกจากขอบคุณฟางเหยียน เขายิ่งรู้สึกขอบคุณบิดา และยิ่งลืมคำว่าสร้างเกียรติยศที่บิ
ดาสั่งไว้ไม่ได้
พอเข้าไปในรถหวงหานเยว่ หวงหานเยว่จึงพูดขึ้น“จอมพล ผมจะบอกให้ การแข่งขันวิทยายุทธ์วันนี้พวกเราได้ที่หนึ่ง และปีที่แล้วก็ได้รางวัลจากยุโรปด้วย”
ฟางเหยียนไม่รู้จักคนพวกนี้ ยิ่งไม่สนใจวิทยายุทธ์ จึงตอบไปอย่างสบายๆคำหนึ่ง
เทียนขุยออกจะถามอย่างสนใจ“งั้นงานประลองยุทธในวันนี้ ก็แค่การแข่งขันใช่ไหม”
หวงหานเยวี่ยส่ายหน้าพูด“ไม่ใช่นะ เป็นกลุ่มการประลองของประเทศหวากับยุโรปต่างหาก บอกว่า เป็นการแสดง แต่ทั้งคู่ก็พาแชมป์เปี้ยนมา ใครจะไปรู้ว่าไม่ได้เป็นแค่การแข่งขันง่ายๆ คุณปู่บอกแผนการของทางยุโรปแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร”
“อ๋อ แผนการหรือ”จู่ๆแววตาเทียนขุยก็เปลี่ยนไป
หวงหานเยว่พูด“ใช่สิ ฉันก็ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร จริงสิ จอมพล คุณเก่งกาจขนาดนี้ เดี๋ยวตอนที่ต้องการคุณขึ้นเวที คุณจะไปวาดลวดลายสักสองกระบวนท่ามั้ย อยากจะเห็นฝีมือคุณจริงๆ”
“บังอาจ!”เทียนขุยตะคอก“ฝีมือจอมพลจะมาแสดงในที่แบบนี้ได้ไง”
หวงหานเยว่ตกใจจนตัวสั่น เธอจือปาก พูดว่า“ไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้นสิ มีอะไรแน่นักหนาหรือไง”
ไม่ทันไร คนไม่กี่คนมาถึงเวที นี่เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในหนานหลิง เวทีการประลอง ที่นี่สามารถจุคนได้หนึ่งหมื่นคน เวทีประลองในตอนนี้ คนแน่นขนัดไปหมด
พอเข้าไปในสนามประลอง ฟางเหยียนก็เห็นหวงหยวนฉาว
“จอมพล ในที่สุดก็มา เร็วๆๆ เชิญทางนี้”หวงหยวนฉาวชี้ไปที่ข้างในอย่างเกรงใจ
ฟางเหยียนเป็นแขกคนพิเศษของหวงหยวนฉาว แน่นอนว่าต้องนั่งที่นั่งวีไอพี ตอนที่เพิ่งนั่งลง ชายชราที่สวมชุดจีนมองตำแหน่งความสำคัญของฟางเหยียนออก จึงหัวเราะเหอะๆ ถามว่า“ท่านหวง ขออนุญาตถามท่านผู้นี้คือ”
ที่คิดว่าตำแหน่งฟางเหยียนสูงส่ง เป็นเพราะหวงหยวนฉาวจัดที่นั่งวีไอพีไว้ให้ หวงหยวนฉาวให้ความสำคัญขนาดนี้ ย่อมไม่ธรรมดา!
หวงหยวนฉาวกำลังจะแนะนำ ฟางเหยียนชิงพูดก่อน“สหาย!”
หวงหยวนฉาวชะงักชั่วครู่ รีบพูดขึ้น“ใช่ๆๆ นี่เป็นสหายของผม คุณฟาง”
ชายชราได้ยินคำว่าสหาย จึงอึ้งเล็กน้อย จากนั้นจึงไม่สืบถามฟางเหยียนไม่ได้ เห็นสีหน้าฟางเหยียนซีดขาว แล้วยังดูโทรม จึงถามขึ้น“น้องชายเจ็บป่วยหรือ”
คำพูดนี้ทำให้หวงหยวนฉาวกับฟางเหยียนตะลึง พอเห็นสีหน้าทั้งคู่ จึงรีบเปลี่ยนคำพูด“ขอโทษนะคุณฟาง ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมหมายความว่า คุณบาดเจ็บมาหรือเปล่า”
หวงหยวนฉาวรีบแนะนำฟางเหยียน“จอมพล คุณฟาง นี่คือประธานสมาคมวิทยายุทธ์ของพวกเรา ท่านประธานเถาไห่หลง เคยเรียนแพทย์แผนจีนปีนึง อาจจะพูดตรงไปหน่อย อย่าถือโทษเลยนะ”
เถาไห่หลงรีบโบกมือพูด“เฮียฟางอย่าถือโทษ”
ฟางเหยียนยิ้มแล้วพูด“ไม่หรอกครับ ผมมีบาดแผลเก่าบนตัวจริงๆ!”
“งั้น ผมขอดูได้ไหม อายุขนาดคุณ ไม่ควรจะมีบาดแผลเก่า”
พอพูดจบ ชายคนหนึ่งเดินมาทางเถาไห่หลง พูด“ท่านประธาน ทางนี้อยากให้ท่านไปยืนยันหน่อยครับ”
ดีที่มีคนทักเถาไห่หลง เขาจึงไม่ได้พูดต่อ
“คุณฟาง ก็มาเหรอ”จู่ๆ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ฟางเหยียนหันไป เห็นหลินถง
พอเห็นหลินถงผู้เปี่ยมเสน่ห์ ก็มีเสียงฮือฮา ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ รัศมีออร่าเปล่งประกายจากภายในสู่ภายนอก
ได้ยินหลินถงทักทายฟางเหยียน หวงหานเยว่ตกตะลึงเป็นอันดับแรก จากนั้นด่าออกมา“นางจิ้งจอก!”
หลินถงมองดูหวงหานเยว่ที่มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ ไม่ได้โกรธ หากกลับทักทายอย่างใจกว้าง“คุณหวง สวัสดีค่ะ”
หวงหานเยว่เบ้ปาก ไม่สนใจเธอ ได้แต่แค่นเสียงเย็น
ฟางเหยียนยิ้มอย่างขมขื่น“คุณนายถังสนใจร่วมงานแบบนี้ด้วยหรือครับ”
“ประมุขพวกเราค่อนข้างยุ่งค่ะ แต่ได้รับคำเชิญไม่มาก็ไม่ได้ ก็เลยให้ฉันมา ที่จริงฉันก็ไม่รู้เรื่องรบราฆ่าฟันหรอก ดูแล้วน่ากลัวออก”หลินถงพูดพลาง นั่งลงข้างฟางเหยียน
พอนั่งลงก็ส่งกลิ่นหอมกำจาย หวงหานเยว่อดเอามืออุดจมูกไม่ได้ แสดงสีหน้ารังเกียจ
ในเวลานี้ พิธีกรเดินขึ้นเวลา เขาแนะนำกรรมการทีละคน มีประธานวิทยายุทธ์หวา และรองประธาน ตำแหน่งค่อนข้างสูง แน่นอนว่า มีประธานวิทยายุทธ์จากยุโรปมาด้วย
พิธีกรหยิบไมโครโฟนขึ้นพูด“นี่คือการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวากับยุโรป ทุกคนแลกเปลี่ยนกัน”
หลังจากที่พูดพล่าม จึงได้เข้าประเด็น!
“คนที่ปรากฏตัวด้านล่างคือ แชมป์เปี้ยนของยุโรป Dougs !”
เสียงปรบมือก้องสนาม คนที่ชอบหมัดมวยต่างก็รู้สึกว่าคนๆนี้เป็นใคร แค่เห็นเขาเดินเข้าสนาม หัว
โล้น สูงหนึ่งเมตรแปด กล้ามเนื้อเป็นมัดคนก็กลัวแล้ว
“คนที่จะออกเวทีต่อมาคือ แชมป์เปี้ยนประเทศหวาปีที่แล้ว เห้อเล่ย !”
ได้ยินสองคำนี้ ทั้งสนามราวกับเดือดระอุ!