จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 12
บทที่ 12 ให้คุณไสหัวออกไป
เช้าวันที่สอง สองพ่อลูกจางซื่อตงไปหาจางฉี่เหา
“คุณพ่อครับ นางเย่ชิงหยู่มันคิดว่าตงข่ายกรุ๊ปเป็นของพ่อมันไปแล้ว มันอาศัยอยู่ที่บ้านของเรามากว่าครึ่งปี ก็เพื่อที่จะแย่งตงข่ายคืนอีกครั้งเท่านั้น”
“เมื่อวันนี้หลังจากที่เธอได้โอกาสที่จะร่วมงานด้วย เธอไม่พูดถึงตระกูลจางของเราเลยแม้แต่คำเดียว เธอไม่ได้มองตระกูลจางเป็นครอบครัวของเธอเลยแม้แต่น้อย”
จางไห่เฟิงสมทบ “นั่นสิครับ คุณปู่ ไอ้ฟางเหยียนกลับมาในเวลานี้ ท่านไม่คิดว่ามันน่าสงสัยหรือครับ? ไม่แน่พวกมันอาจจะคิดฮุบตงข่ายกรุ๊ปไปเป็นของมันเองก็ได้นะครับ ถึงตอนนั้นพวกมันมีอำนาจใหญ่ ถึงตอนนั้นของของตระกูลจางก็จะกลายเป็นของตระกูลเย่หรือไม่ก็ตระกูลฟางนะครับ”
คุณท่านขมวดคิ้วแน่น อันที่จริงไม่เพียงแต่พวกเขา ตัวเขาเองก็ไตร่ตรองถึงเรื่องนี้อยู่เช่นเดียวกัน
แม้ว่าเย่ชิงหยู่จะเป็นหลานสาวของเขา แต่ยังไงซะก็เป็นคนนอก
หากวันหนึ่งกิจการของตระกูลจางถูกเปลี่ยนเป็นตระกูลเย่ขึ้นมา เขาจะทำใจได้ยังไง!
“ถ้างั้นแกมีแผนการอะไรไหม?” จางฉี่เหาเอ่ยถาม
“คุณปู่ ในเมื่อท่านหวงยอมลงทุนบริษัทของเรา ต้องเป็นเพราะเราเล็งเห็นอนาคตที่สดใสของเราบริษัทเราแน่ ไม่ว่าใครจะไปเซ็นสัญญาก็เหมือนกันทั้งนั้น ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมก็ได้ อีกหน่อยตระกูลจางของเราก็จะมั่นคง”
ประโยคของจางไห่เฟิงทำให้จางฉี่เหาคล้อยตาม เขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ไห่เฟิง อันที่จริงปู่ฝึกฝนแกให้เป็นผู้สืบทอดมาโดยตลอด หวังว่าครั้งนี้แกจะไม่ทำให้ฉันต้องผิดหวัง”
คนเราต่างก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้น จางฉี่เหาเองก็ไม่มีข้อยกเว้น หากจางไห่เฟิงและเย่ชิงหยู่สามารถทำได้ทั้งคู่ เขาก็เต็มใจที่จะมอบโอกาสนี้ให้แก่จางไห่เฟิงเสียมากกว่า
“ท่านวางใจได้เลย คุณปู่ ผมจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง” จางไห่เฟิงให้คำมั่นด้วยความเชื่อมั่น
หลังจากที่เขาออกจากบ้านของจางฉี่เหา ก็รู้สึกอารมณ์สดใสขึ้นมากกว่าครั้งไหนๆ
เย่ชิงหยู่นะเย่ชิงหยู่ คิดที่จะเล่นกับกู ไม่ดูซะบ้างเลยว่ากูนามสกุลอะไร? ทั้งคู่ออกจากบ้านตระกูลจาง ในขณะคิดจะขึ้นรถ ก็ได้พบกับฟางเหยียนและเย่ชิงหยู่ ทีท่าของทั้งคู่ดูเหมือนว่าไปหาจางฉี่เหาสินะ
“พวกแกจะไปไหนล่ะ?” จางไห่เฟิงถามอย่างไม่ประสงค์ดี
เย่ชิงหยู่ไม่คิดที่จะแยแสจางไห่เฟิง
“นี่ ฉันบอกเธอเอาไว้ก่อน คุณปู่ได้มอบโครงการของท่านกวงให้กับฉันแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังจะไปเซ็นสัญญากับท่านหวง” จางฉี่เหาเอ่ยอย่างได้ใจ
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เย่ชิงหยู่ตัวนิ่งแข็ง “แกว่าอะไรนะ? เรื่องอะไรที่จะให้แกไป? ฉันเป็นคนคว้าโครงการนั้นแท้ๆ”
จางไห่เฟิงหัวเราะเยาะ “ไม่อะไรหรอก เพียงเพราะฉันเป็นลูกหลานตระกูลจาง แล้วอีกอย่าง เราต่างก็ทุ่มเทเพื่อตระกูลจางไม่ใช่หรือไง? จะเป็นเธอหรือฉันมันต่างอะไรกันล่ะ?”
จบคำชายหนุ่มสตาร์ทเครื่อง แล่นออกไปทันที
เย่ชิงหยู่กัดฟันกรอด เธอมุ่งตรงไปที่บ้านของคุณตาจางฉี่เหาทันที
พร้อมบ่นอุบด้วยความโมโห “ฉันจะไปทวงความยุติธรรมกับคุณตา เรื่องอะไรที่จะให้จางไห่เฟิงไปแทน?”
เดินได้เพียงสองก้าว ก็ถูกฟางเหยียนรั้งเอาไว้เสียก่อน เย่ชิงหยู่นิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะกล่าวถาม “นายจะทำอะไร?”
“ไม่ต้องไปหรอก นี่เป็นจุดประสงค์ของคุณตา” ฟางเหยียนเข้าใจดีว่าต้นเหตุคืออะไรกันแน่ ตระกูลจางไม่ได้มองเย่ชิงหยู่เป็นครอบครัวเลยแม้แต่น้อย
เย่ชิงหยู่ทำหน้าบูด “แต่ แต่ฉันเป็นของไปเจรจาโครงการนี้”
“ไม่เป็นไร! สัญญาฉบับนี้จางไห่เฟิงเซ็นไม่มีทางเซ็นสำเร็จหรอก” ฟางเหยียนเอ่ยอย่างเรียบเฉย
เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้วแน่น ก่อนตัดบท “นายจะไปรู้อะไร”
จบคำเย่ชิงหยู่พลันเดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์ ทิ้งฟางเหยียนเอาไว้อยู่อย่างนั้น
แผ่นหลังที่ไกลออกไปทุกทีของเย่ชิงหยู่ ฟางเหยียนส่ายหน้าอย่างไร้หนทาง ห้าวันมานี้ เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุ่มเทแรงกายแรงใจกับโครงการนี้ไปไม่น้อย สิ่งเหล่านี้อยู่ในสายตาของฟางเฟยียน
แต่ทั้งหมดนี้ทำไมเธอจะต้องเป็นกังวลด้วย เพราะฟางเหยียนได้จัดการทุกอย่างให้เอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ผู้หญิงของเขา จะถูกคนอื่นรังแกง่ายๆ ได้อย่างไร?
จางไห่เฟิงที่อยู่อีกด้านได้เดินทางมาถึงที่พักของหวงหยวนฉาว ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานที่หวงหยวนฉาวเพิ่งสร้างขึ้น เป็นที่ดินทำเลทองของเมืองจินโจว หวงหยวนฉาวไม่ลังเล เขาจับจ้องเป็นเจ้าของทันที
หลังจากที่บอกว่าจะทำการลงทุนที่เมืองจินโจว เขาก็ลงมือเตรียมการทันที และได้ตั้งชื่อบริษัทว่าอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เมื่อได้เห็นตึกอาคารที่ตระหง่านตรงหน้า จางไห่เฟิงมุ่งเข้าไปข้างในด้วยความตื่นเต้น
ในขณะที่เขาคิดจะก้าวเท้าเข้าไป การ์ดที่เฝ้าประตูก็ได้รั้งเขาเอาไว้ก่อน “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เมื่อจางไห่เฟิงเห็นการ์ดหนุ่ม ก็กล่าวอย่างหยิ่งทะนง “ผมเป็นผู้สืบทอดของตงข่ายกรุ๊ป มีชื่อว่าจางไห่เฟิง จะมาเซ็นสัญญากับท่านหวง ผมจะพบท่านหวง”
การ์ดหนึ่งจับจ้องเขาที่ชอบเหยียดคนไปทั่ว ก่อนที่จะขมวดคิ้วแน่น แต่เขาได้ยินว่ามีสัญญาฉบับนี้ที่ต้องเซ็นจริงๆ
“คุณรอนี่ก่อน ผมจะไปแจ้งกับผู้จัดการของเราก่อน”
จางไห่เฟิงคำราม “มีอะไรที่จะต้องแจ้งก่อน ให้ตาย”
เขาเดินเข้าไปข้างในพลางบ่นอุบ แต่การ์ดอีกคนกลับเข้ามาขวางทางเขาเอาไว้
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
การ์ดคนนี้ค่อนข้างดุดัน เขาถลึงตาใส่จางไห่เฟิง ก่อนคำรามกลับ “คุณคิดว่าผมหูหนวกหรือไง?”
น้ำเสียงที่หยาบกระด้าง ราวกับจะฆ่ากันให้ได้เสียอย่างนั้นจางไห่เฟิงตกใจจนใบหน้าซีดเผือด
เขาเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ “หากท่านหวงลงมา ผมจะให้เขาไล่แกออก”
หลังจากที่การ์ดเข้ามาที่ห้องทำงาน ก็ได้พบกับประธานหยางฮ่าว “ประธานหยาง คนของตงข่ายกรุ๊ปมาเซ็นสัญญา”
“ตงข่ายกรุ๊ปเป็นใครกัน?” หยางฮ่าวถาม หยางฮ่าวเป็นผู้ดูแลบริษัทในเครือของหวงหยวนฉาว
“เขาชื่อว่าจางไห่เฟิง เป็นผู้สืบทอดของตงข่ายกรุ๊ป?”
“จางไห่เฟิง?” หยางฮ่าวแสยะยิ้มมุมปาก “ถ้างั้นก็ให้เขารอไปก่อน บอกไปว่าฉันไม่อยู่”
“เอ๋!” การ์ดหนุ่มจ้องมองหยางฮ่าวอย่างไม่เข้าใจ
“ไปเถอะ ทำตามที่ฉันบอก” จบคำ หยางฮ่าวลุกขึ้นยืนเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ จ้องมองลงไปที่จางไห่เฟิง
การ์ดมาถึงหน้าประตู จ้องไปที่จางไห่เฟิง “ประธานหยางของเรามีคำสั่งว่า ให้คุณรอเขาสักครู่”
จางไห่เฟิงขมวดคิ้วแน่น “เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า แกไม่ได้บอกประธานหยางใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร?
“แกหูหนวกหรือไง?” จบคำการ์ดคนนั้นก็คำรามขึ้นเสียงดัง
เขาตกอกตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว “ได้ ประธานหยางมาเมื่อไหร่ คอยดูแล้วกันว่าใครกันแน่ที่จะงานเข้า?”
ในเมื่อประธานหยางสั่งให้รอ ก็เท่ากับว่ามีโอกาส รอ บางทีอาจจะเพื่อทดสอบความจริงใจของจางไห่เฟิง ยังไงซะบริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ จะไม่แสดงความจริงใจได้อย่างไร เมื่อนึกขึ้นได้ จางไห่เฟิงก็ยืดอกขึ้นทันที
หลังผ่านไปกว่าชั่วโมง สองชั่วโมง ด้านในก็ไร้การเคลื่อนไหวแต่อย่างใด จางไห่เฟิงไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป จึงเอ่ยถามการ์ด “ทำไมประธานหยางยังไม่มาอีกล่ะ?”
การ์ดเองก็ได้พบเห็นถึงความผิดปกติ ประธานหยางไม่มีเรื่องอะไรแท้ๆ เขามองออกว่าประธานหยางตั้งใจหาเรื่องผู้ชายคนนี้
แต่ก็ไม่แปลก คนแบบนี้ควรได้รับการสั่งสอนเสียบ้าง เข้ามาก็ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นไปทั่ว
ดังนั้นเขาจึงกล่าวอย่างไร้ความอดทน “คุณจะรีบอะไรนักหนา? ประธานหยางยุ่งมาก เขาเคลียร์งานเสร็จเมื่อไหร่ก็เรียกคุณเองแหละ”
จางไห่เฟิงจ้องเขม็ง เป็นแค่การ์ดแต่กล้าพูดแบบนี้กับเขา มันจะมากเกินไปแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นการ์ดอีกคน ก็ได้แต่กล้ำกลืนเอาไว้
เขายืนอยู่แบบนั้นทั้งวัน ไม่ได้ทานข้าวแม้สักคำ
เมื่อถึงช่วงบ่าย เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จึงกล่าวถาม “สหาย นายประธานหยางนี่จะมีเวลาว่างเมื่อไหร่กัน?”
การ์ดขมวดคิ้วแน่น “อืม ประธานหยางของเรามีคำสั่งว่า ให้คุณไสหัวไปซะ เราจะเซ็นสัญญากับคุณเย่ชิงหยู่เท่านั้น”