จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 123
เย่ชิงหยู่ยังไม่ได้ตอบ จางไห่เฟิงก็ชูนิ้วสามนิ้วขึ้น พูดอย่างจริงใจว่า “คุณปู่ครับ ผมสาบานต่อฟ้า ถ้าหากว่าผมทำเรื่องที่ผิดต่อตงข่ายกรุ๊ป ผิดต่อตระกูลจาง ขอให้ผมออกไปแล้วถูกรถชนตาย”
สถานการณ์อย่างนี้จางไห่เฟิงฝึกซ้อมเองไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จางฉี่เหาเองก็ฟังเข้าไปในจิตใจ
สีหน้าเย่ชิงหยู่ปรากฏรอยยิ้มขมขื่นอย่างหมดหนทาง แล้วพยักหน้าพูดว่า “ดี จางไห่เฟิง นายทำได้ดี!”
พูดจบก็จะหันหลังจากไป! แต่ว่าด้านหลังมีเสียงจางฉี่เหาที่ดังขึ้นอย่างเป็นใหญ่ว่า “หยุด!”
เย่ชิงหยู่หันหลังกลับมามองไปที่จางฉี่เหาและจางไห่เฟิง แล้วถามว่า “ยังมีเรื่องอะไรอีกคะ? คุณตา!”
“เรื่องอะไร?” จางฉี่เหายิ้มเยาะ พูดว่า “เธอคิดว่าเรื่องอะไร? หรือว่าเธอเข้าใจลูกพี่ลูกน้องเธอผิด แม้แต่คำขอโทษก็ไม่มีหรอ? หรือว่าเธอคิดว่า ตอนนี้เธอก็ไม่ต้องวางคุณตาคนนี้ไว้ในสายตาเธอแล้ว”
เย่ชิงหยู่รีบพูดว่า “หนูไม่เคยคิดว่าจะไม่ให้ความเคารพคุณตา หนูเคารพให้เกียรติคุณตาอย่างมากค่ะ”
“แต่ว่า….” ดวงตาเธอแดงก่ำ พูดอย่างจริงใจว่า “จางไห่เฟิงอยากได้ความเคารพจากหนูนั่นมันเป็นไปไม่ได้ค่ะ หนูจะต้องตรวจสอบเรื่องที่จางไห่เฟิงขโมยภาพออกแบบของบริษัทให้ชัดเจน แน่นอนค่ะ!”
“ไร้สาระ” จางฉี่เหาชี้เย่ชิงหยู่ พูดด้วยความโมโหอย่างหนักว่า “ต่อหน้าคุณตาของเธอ เธอยังกล้าทำอย่างนี้? วันนี้เท่าที่ฉันดูแล้วเธอไม่ได้วางคุณตาคนนี้ไว้ในสายตาเลย? เย่ชิงหยู่ เธออย่าลืมนะ เข้าประตูนี้มา ฉันยังเป็นเจ้าของบ้านนี้ บริษัทเธอมีอำนาจ แต่ว่าตระกูลจางของฉัน ยังไม่ถึงคิวที่เธอจะมีอำนาจควบคุม เข้าประตูมาก็จี้ถามลูกพี่ลูกน้องเธอ ที่เธอทำนี่มันเรียกว่าอะไรกัน? ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ขอโทษลูกพี่ลูกน้องเธอซะ”
คำพูดของจางฉี่เหา มีอำนาจมากเหมือนดั่งระเบิด!
เย่ชิงหยู่มองดูใบหน้าแก่ที่แข็งกร้าวอย่างมากของจางฉี่เหา เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ถึงแม้ว่าจางไห่เฟิงจะขโมยภาพออกแบบจริง เธอก็ไม่มีหลักฐาน ทำได้เพียงพูดอย่างไม่พอใจว่า “ขอโทษค่ะ พี่ชาย”
บ้านนี้ สุดท้ายแล้วก็ไม่ถือว่าเธอเป็นคนในครอบครัว เธอเป็นได้เพียงคนของตระกูลเย่ตลอดไป!
พูดจบเธอก็เดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลจางอย่างน้อยใจ จางไห่เฟิงยิ้มเยาะ “อวดเก่งจริงๆ!”
ขณะที่พูดเขากำหมัดแน่นแล้วคิดว่า “เธออย่ามาอวดเก่ง วันดีๆของเธอเหลือไม่เยอะแล้ว”
เดินออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลจางอย่างเหม่อลอย เย่ชิงอยู่นั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์ข้างทาง เธอในตอนนี้ ไม่มีวิธีเลยสักนิด ถึงแม้ว่าจะหาคนร้ายที่ขโมยภาพออกแบบได้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจุดจบที่ว่าเสื้อผ้าได้ถูกผลิตออกมาแล้วทั้งหมด
ภาพออกแบบทั้งหมดได้รับการออกแบบเสื้อออกมาแล้วทั้งหมด สิ่งที่ทำได้เพียงอย่างเดียวคือแก้ไขภาพออกแบบ
แต่ทั้งเมืองจินโจว นักออกแบบที่เก่งที่สุดล้วนมาจากซีหนานกรุ๊ป นอกจากพวกเขา จะมีใครสามารถแก้ไขภาพออกแบบระดับนี้ได้กันละ?
ในขณะที่เธอรู้สึกเสียใจผิดหวังอย่างถึงที่สุด ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา
หยางฮ่างเป็นคนโทรมา ใจเธอเต้นรัว หรือว่าจะมาคุยเรื่องยกเลิกสัญญาแล้วงั้นหรอ?
เธอถือโทรศัพท์มองดูอยู่สักพักถึงจะค่อยๆรับสาย “ฮัลโหล ประธานหยาง สวัสดีค่ะ”
“คุณเย่ครับ ผมคิดอย่าละเอียดอีกที ในเมื่อภาพออกแบบพวกนั้นถูกขโมยไปแล้ว ก็เอาอย่างนี้ พวกเราก็มาแก้ไขภาพออกแบบกัน” หยางฮ่าวพูดในสาย
ความคิดเหมือนกับเย่ชิงหยู่โดยที่ยังไม่ได้คุยกัน แต่ว่าภาพออกแบบนี้จะมีใครสามารถแก้ไขได้ละ?
หยางฮ่าวเหมือนจะรู้ว่าเย่ชิงหยู่คิดอะไร จึงรีบพูดว่า “คุณเย่คุณไม่จำเป็นกังวลมากเกินไป ภาพออกแบบนี้ทางฟางซื่อกรุ๊ปสามารถแก้ไขได้ครับ คุณสามารถไปถามทางนั้นดูได้ ผมได้ยินมาว่าทางนั้นมีนักออกแบบที่เก่งที่สุดในประเทศ ถ้าหากว่าคุณได้รับการแนะนำจากเธอ คาดว่าอาจจะทำให้ทุกคนตะลึงได้นะครับ”
เย่ชิงหยู่นิ่งอึ้งทันที ตอนแรกคิดว่าหยางฮ่าวจะมายกเลิกสัญญา ไม่คิดเลยว่าจะมาให้ความคิดเห็นกับเธอ ดูอย่างนี้แล้วเหมือนกับว่าไม่ได้โกรธเลยสักนิด แต่ว่าต้องทำความรู้จักกับตระกูลฟางของเจียงตู ไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดเลย
นึกถึงนี่ เธอก็พูดอย่างขมขื่นว่า “ประธานหยางคะ ถึงแม้ว่าทางนั้นจะมีนักออกแบบที่เก่งที่สุด แล้วฉันจะไปทำความรู้จักได้ยังไงละคะ? คนเขาไม่มองมาที่ฉันด้วยซ้ำ”
“คุณเย่ถ่อมตัวเกินไปแล้วครับ คุณไม่ไปลองสักหน่อยแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคนอื่นจะไม่ตกลงละครับ” หยางฮ่าวพูดให้กำลังใจเย่ชิงหยู่
ได้ยินคำนี้ของหยางฮ่าว เธอจึงทำได้เพียงพูดอย่างพยายามว่า “โอเคค่ะ ฉันจะลองดู!”
“ผมเชื่อในตัวคุณครับคุณเย่! ฐานะของคุณ จะได้รับการช่วยเหลือจากฟางซื่อกรุ๊ปแน่นอนครับ สู้ๆ” เมื่อพูดจบ หยางฮ่าวก็วางสายไป
เย่ชิงหยู่ตกใจกับคำพูดประโยคสุดท้ายของหยางฮ่าว ฐานะของเธอ จะได้รับการช่วยเหลือของฟางซื่อกรุ๊ป ฐานะของเธอคืออะไร? ตัวเองก็เป็นเจ้านายธรรมดาของบริษัทเล็กทั่วไป
หรือเป็นเพราะว่าร่วมธุรกิจกับซีหนานกรุ๊ป?
ไม่ๆๆ เป็นไปไม่ได้ ฟางซื่อกรุ๊ปจะสนใจธุรกิจอย่างซีหนานกรุ๊ปได้ยังไง ในสายตาของฟางซื่อกรุ๊ป ซีหนานกรุ๊ปก็เป็นเพียงแค่ธุรกิจเล็กๆราคาหลักล้านเท่านั้นเอง
ธุรกิจของตระกูลฟาง ไม่เพียงแต่หมื่นล้าน!
น้าเติ้ง! บางทีคุณนายโจวอาจจะสามารถช่วยได้ คุณโจวเป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของฟางซื่อกรุ๊ปไม่ใช่หรอ?
คิดถึงนี่ เย่ชิงหยู่ก็รีบโทรออกหาคุณนายโจว
“ฮัลโหล ใครกัน!?” อีกฝ่ายส่งเสียงรำคาญออกมา แล้วก็ตามมาด้วยประโยคว่า “เดี๋ยวๆๆ กิน!”
ฟังเสียงนี้ก็รู้ว่ากำลังเล่นไพ่นกกระจอก
เย่ชิงหยู่พูดอย่างเกรงใจว่า “ฮัลโหลค่ะ น้าเติ้ง! หนูคือชิงหยู่ รบกวนคุณเล่นไพ่นกกระจอกแล้ว”
อีกฝ่ายของโทรศัพท์ที่มีเสียงเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ๆก็หยุดเงียบ จากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไป “ชิงหยู่หรอ เธอโทรหาฉันมีเรื่องอะไรงั้นหรอ? ใช่สิ แม่ของเธอดีขึ้นบ้างรึยัง? ตอนแรกฉันกะว่าสองวันนี้จะไปเยี่ยมเธอ แต่ว่าฉันออกจากบ้านแล้วก็ไม่ทันได้ไปเยี่ยมแม่เธอ เธอกินข้าวได้อย่างดีใช่มั้ย? ร่างกายฟื้นตัวดีมั้ย?”
ประโยคเดียวก็ถามคำถามมากมายออกมารวดเดียว
เย่ชิงหยู่พูดอย่างเกรงใจว่า “น้าเติ้งคะ รบกวนคุณเล่นไพ่นกกระจอกแล้ว ขอโทษด้วยจริงๆนะคะ”
“ไม่หรอกๆ ชิงหยู่นี่พูดอะไรกัน? จะรบกวนฉันได้ยังไงกันละ ความสัมพันธ์ของฉันกับแม่เธอดีขนาดนั้น เธอไม่ต้องเกรงใจเลย มีอะไรที่น้าเติ้งทำได้ เธอแค่เรียกน้าเติ้งของเธอก็พอนะ”
สำหรับคนเจ้าเล่ห์อย่างคุณนายโจวคนนี้อยู่ๆก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบนี้ทำเอาเย่ชิงหยู่ไม่ชินนิดหน่อย
เธอลังเลไปสักพัก แล้วพูดว่า “น้าเติ้งคะ คืออย่างนี้ คุณลุงโจวทำงานที่ฟางซื่อกรุ๊ปไม่ใช่หรอคะ? ตอนนี้บริษัทพวกหนูเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย หนูอยากไปฟางซื่อกรุ๊ปเพื่อเจอกับประธานฟาง ไม่ทราบว่าคุณลุงโจวสามารถจัดการให้หน่อยได้มั้ยคะ!”
ฝั่งคุณนายโจวเงียบไป พูดว่า “ได้สิ ได้อยู่แล้ว ทำไมจะไม่ได้ละ”
ปากเธอไม่พูด แต่ในใจกลับคิดว่า อย่าว่าแต่เธอเลย พวกเธอยังนอนด้วยกันออกจะบ่อย แต่สามีเธอเตือนไว้ว่าอย่าไปพูดมั่วเรื่องตัวตนของคุณชายตระกูลฟาง ดังนั้นจึงทำได้แค่พูดต่อไปว่า “เธอตรงไปบริษัทเลยเถอะ ฉันบอกกับคุณลุงโจวของเธอเอง”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะน้าเติ้ง!” เย่ชิงหยู่พูดขอบคุณ
หลังจากที่วางสาย เธอก็มายังบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป
เพิ่งเดินถึงหน้าประตู เธอก็ถูกคนๆหนึ่งดึงดูดความสนใจไว้