จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 132
เดิมคิดว่าชายหน้าบากจะทำตัวเหมือนคนที่อยู่ในละคร สืบข่าวอะไรบางอย่างเล็กน้อยก่อนที่คนจะตาย แต่เขากลับไม่ได้ทำอย่างนั้น ทั้งยังฆ่าปิดปากไปเลย อีกฝ่ายไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดอะไรออกมา
ฉากนี้ทำให้เย่ชิงหยู่หวาดกลัวจนขนหัวลุก คนตายแล้ว!
นึกไม่ถึงว่าเขาจะใช้วิธีการป่าเถื่อนนี้ฆ่าคนทิ้งไปหนึ่งคน ทั้งยังมีสีหน้าไร้ความรู้สึก อย่างกับทองไม่รู้ร้อน ท่าทางของเขาน่าจะฆ่าคนมาไม่น้อย คนที่อยู่ตรงหน้านี้มาเพื่อปกป้องตน แต่เขาได้ตายไปแล้ว
พวกเขาฆ่าคนได้จริง ๆ!
พอคิดมาถึงตรงนี้ เย่ชิงหยู่ก็อดที่จะสั่นขึ้นมาทั้งตัวไม่ได้! ความมั่นใจอันน้อยนิดเมื่อครู่หลอมละลายหายไปทั้งหมดในชั่วพริบตา
ชายหน้าบากไม่ได้มองเย่ชิงหยู่เลยสักครั้ง เพียงแค่ย่อตัวลงไปเปิดปากของผู้ชายคนนั้น ถ้าหากเขาคาดไม่ผิดละก็ คนคนนี้เป็นคนใบ้ คนใบ้ที่ถูกตัดลิ้น
ถ้าหากเขาคาดการณ์ไม่ผิด คนคนนี้ต้องเป็นนักโทษประหารที่ทำความผิดใหญ่หลวงเอาไว้
นักโทษประหารที่ทะเลทรายทัคเกอร์แทบทุกคนจะโดนตัดลิ้น จากนั้นก็เนรเทศพวกเขาไปเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองที่ทะเลทราย
คนคนนี้พูดไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องเก็บพยานปากคนนี้ไว้ สังหารเสียก็สิ้นเรื่อง
ชายหน้าบากเก็บอาวุธใช้ตีชายคนนั้นจนตาย ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างไม่ใส่ใจ พูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “เรียกคุณหนูออกมาเถอะ!”
เจ้าอ้วนกับเจ้าผอมสี่ตาได้รับคำสั่งแล้วก็รีบดึงประตูใหญ่สีแดงออกแล้วเดินเข้าไป
ห้องเล็ก ๆ เหลือเพียงเย่ชิงหยู่กับเจ้าคนเลวโฉดชั่วชายหน้าบากนี่ในชั่วพริบตา และยังมีศพที่ค่อย ๆ เย็นลงทีละน้อยอีกหนึ่งศพ อุณหภูมิอากาศลดลงจนติดลบในชั่วพริบตา!
เห็นผู้ชายที่น่ากลัวคนนี้แล้ว เย่ชิงหยู่ก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองเฮือกแล้วเอ่ยถามว่า “แกเป็นใคร? ตกลงจะทำอะไรกับฉันกันแน่?”
ชายหน้าบากไม่ได้ตอบเย่ชิงหยู่ เขาเพียงมองเธออย่างเย็นชา
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้เย่ชิงหยู่ก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
“แก… แก… แกคงไม่ได้อยากจะฆ่าฉันจริง ๆ ใช่ไหม?” เย่ชิงหยู่ถามด้วยท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ชายหน้าบากยังคงไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เพียงแค่จ้องไปนอกประตูด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก
ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองคนก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พี่อ้วนมองศพที่อยู่บนพื้นก็อดไม่ไหว ถามกับชายหน้าบากว่า “ลูกพี่ นี่เป็นใครกันน่ะ?”
ชายหน้าบากส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่รู้ น่าจะเป็นนักโทษประหาร”
“นักโทษประหาร?!”
ตอนนี้เองหญิงสาวที่สวมชุดถุงน่องรัดรูปแบบเต็มตัวคนหนึ่งเดินเข้ามา ผมของเธอยาวเคลียไหล่ แต่งหน้าบาง ๆ ดูสวยอยู่นิด ๆ ในมือของหญิงสาวมีกล้องถ่ายรูปอยู่หนึ่งตัว ถ่ายรูปศพบนพื้นเอาไว้ แล้วก็ยกขึ้นมาถ่ายเย่ชิงหยู่
หญิงสาวดูเหมือนจะไม่กลัวศพที่นอนอยู่บนพื้นเลยสักนิด ตรงกันข้าม เธอกลับมีสีหน้าสงบนิ่ง
เซียวห้านเคยได้รับการศึกษามาจากต่างประเทศ เธอรู้ว่าคนที่ตายไปแล้วก็จะกลายเป็นดินกองหนึ่งก็แค่นั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ยังเคยฆ่าคนมาก่อน
เธอหัวเราะเหอะ ๆ ในตอนที่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเย่ชิงหยู่พลางร้องว่า “เย่ชิงหยู่!”
เย่ชิงหยู่สั่นไปทั้งตัว เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวแปลกหน้า เธอไม่รู้จักว่าคนคนนี้เป็นใคร
เซียวห้านเรียนเมืองนอกมาตั้งแต่เด็ก เย่ชิงหยู่จะไม่รู้จักเธอก็ไม่แปลก
“เธอเป็นใคร?” เย่ชิงหยู่ถามเสียงสั่น
เซียวห้านพูดชื่อตัวเองออกมาอย่างไม่มีปิดบังเลยแม้แต่น้อย “เซียวห้าน!”
“เธอเป็นคนตระกูลเซียว?” เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้วในทันที
เซียวห้านเอ่ยขึ้น “ใช่ ฉันเป็นคนตระกูลเซียว ลูกสาวของเซียวเหวินปินหลานสาวของเซียวเจิ้นเทียน เซียวห้าน”
เย่ชิงหยู่คิดไปถึงคนที่สามคนเมื่อกี้เรียกว่าคุณหนูใหญ่ แน่นอนว่าต้องหมายถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียวคนนี้ที่ให้พวกเขาไปลักพาตัวเธอมา ถ้าอย่างนั้นคนที่เธอไปล่วงเกินเข้าก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียว
เธอไม่มีความแค้นใดใดต่อตระกูลเซียว แล้วจะไปล่วงเกินคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียวได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียว แล้วเธอที่ไม่รู้เส้นสนกลในอะไรจะไปผิดใจเธอได้อย่างไร?
เย่ชิงหยู่สะอึกอยู่ในลำคอ เธอเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนูเซียว เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ทำไมเธอต้องลักพาตัวฉันมาด้วย? ฉันไม่ได้มีความแค้นกับเธอนะ”
เซียวห้านมองเย่ชิงหยู่ที่ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง หัวเราะเหอะ ๆ เสียงเย็นพลางเอ่ยว่า “เธอโง่จริง ๆ? หรือว่าแกล้งโง่?”
เย่ชิงหยู่ยิ่งมองเซียวห้านอย่างหาคำตอบไม่ได้
เซียวห้านพูดต่อว่า “ฉันจะบอกเธอให้แล้วกันนะ เมื่อหลายวันก่อน บริษัทของเธอไม่ได้โดนขโมยแบบแปลนที่ออกแบบไว้แล้วเอาไปแถลงข่าวลงในอินเทอร์เน็ตเหรอ? ตอนแรกนึกว่าซีหนานกรุ๊ปจะยกเลิกสัญญากับเธอ ใครจะไปรู้ว่านอกจากพวกเขาจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว ยังให้เธอออกแบบแบบแปลนที่สวยยิ่งกว่าเดิมออกมาอีก มันทำให้ฉันไม่พอใจมาก ดังนั้นฉันก็เลยอยากจะจับตัวเธอมาเล่นเสียหน่อย”
เซียวห้านพูดไปพลางเดินเข้ามาอยู่ที่ด้านหน้าของเย่ชิงหยู่ไปพลาง ทั้งยังย่อตัวอยู่ด้านหน้าของเธอ สองมือวางอยู่บนต้นขาของเธอ มองพิจารณาเธอด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน
เย่ชิงหยู่ที่ได้รับความจริงนี้ก็เข้าใจขึ้นมาในทันตา จึงเอ่ยถามว่า “ถ้าอย่างนั้นเธอก็เป็นคนที่สั่งให้จางไห่เฟิงทำอย่างนั้นสินะ? แล้วก็เป็นจางไห่เฟิงที่นัดฉันออกมา?”
เซียวห้านพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นโดยไม่ได้หยุดคิดก่อนเลยว่า “ใช่ ลูกพี่ลูกน้องของเธอช่วยฉันได้เยอะเชียวล่ะ”
เย่ชิงหยู่วางความหวาดกลัวในใจลง เธอโคลงศีรษะพลางถามว่า “เพราะอะไร? ทำไมเธอต้องทำกับฉันแบบนี้?”
เซียวห้านลุกขึ้นยืน มองเย่ชิงหยู่จากด้านบน สีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้มอย่างมากในฉับพลัน เธอเข้าไปใกล้เย่ชิงหยู่แล้วเอ่ยว่า “เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าฉันชอบ ฉันไม่อยากเห็นแกได้ดี ฉันอยากเห็นแกพ่ายแพ้ย่อยยับ ไม่ได้หรือไง? ตระกูลเซียวของเราต้องเจอกับเรื่องราวตั้งมากมาย แต่แกกลับโชคดีซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาโดยตลอด มันหมายความว่ายังไง? หมายความว่าแกขโมยความโชคดีของตระกูลเซียวของพวกเราไป ความโชคดีพวกนี้ควรจะเป็นของตระกูลเซียวของพวกเราตั้งแต่แรก”
เธอพูดคำนี้จบก็หายใจหอบด้วยความโมโห เธอคว้าเสื้อผ้าของเย่ชิงหยู่เอาไว้ด้วย กดลงไป นึกไม่ถึงว่าจะเป็นลูกไม้ เธอร้องเฮอะออกมาแล้วเอ่ยว่า “หน้าไม่อายจริง ๆ!”
บ้าไปแล้ว! เซียวห้านที่อยู่ตรงหน้าเป็นคนบ้าจริง ๆ
เย่ชิงหยู่ไม่เคยเจอผู้หญิงที่บ้าคลั่งเช่นนี้มาก่อน นี่เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซียวเชียวนะ เธอบ้าไปแล้วจริง ๆ เหรอ?
ผมยุ่ง ๆ ของเย่ชิงหยู่บดบังใบหน้าของเธอ เธอส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ความโชคดีมันจะแย่งกันได้ยังไง? อีกอย่างนะ ตระกูลเซียวของพวกเธอจะมาเห็นกิจการเล็ก ๆ ของฉันอยู่ในสายตาได้อย่างไร”
เซียวห้านยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางเอ่ยว่า “จนถึงตอนนี้แล้วแกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? แกรู้ไหมว่าคนที่ตายเป็นใคร?”
เย่ชิงหยู่มองศพที่นอนตายอยู่บนพื้นแล้วส่ายศีรษะ เอ่ยว่า “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?
เซียวห้านเอ่ย “ดูเหมือนสามีของแกจะรักษาความลับกับแกไว้ได้ดีนะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะบอกแกเอง คนคนนี้เป็นคนที่สามีของแกส่งมาปกป้องอยู่ข้าง ๆ แก สามีของแกคนนี้เนี่ย ยอดเยี่ยมมากเลยนะ! แกไม่เคยสงสัยฐานะของเขามาก่อนเลยหรือไง?”
คำพูดของเซียวห้านทำให้เย่ชิงหยู่ตกตะลึง เป็นไปได้ยังไงที่เธอจะไม่เคยสงสัยฐานะของฟางเหยียน?
เพียงแต่ว่าเธอสงสัยไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร ฟางเหยียนนั่นเป็นแค่ทหารที่ปลดประจำการแล้วคนหนึ่งเท่านั้น
เห็นเย่ชิงหยู่ที่ตกตะลึงแล้ว เซียวห้านจึงพูดต่อว่า “แกคิดว่าทุกอย่างทุกอย่างที่แกทำมันราบรื่นได้ขนาดนี้ เป็นเพราะฝีมือแกทั้งหมดเลยหรือไง? น่าจะเป็นสามีของแกล่ะมั้ง? ทั้งยังคุยโวว่าแกเป็นลูกสาวของเย่เทียน ทำไมถึงได้โง่ถึงขั้นนี้ล่ะเนี่ย?”
“แต่ว่า อีกแค่แป๊บเดียว ชีวิตโง่ ๆ ของเธอก็จะจบลงแล้วล่ะ!” เซียวห้านพูดจบ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรังสีสังหารอันชั่วร้าย!