จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 178
ฟางเหยียนไม่ได้ตอบคำถามของซ่งฉาวอู่ เพียงเอ่ยสั่งการว่า “พาเทียนขุยไปส่งโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ หาสมุนไพรตามที่อยู่บนกระดาษแผ่นนี้มา เอาสมุนไพรใส่ลงในน้ำแล้วให้เขาแช่ตัว อย่าถามว่าทำไม หมอในภูมิภาคก็ห้ามถาม ทำตามที่ฉันบอกก็พอ จำเอาไว้ อย่าเจาะเปิดอะไรบนกะโหลกหรือร่างกายของเขาเด็ดขาด”
แน่นอนว่าซ่งฉาวอู่ไม่กล้าถามแล้ว เพียงมองดูเทียนขุยอย่างแปลกใจ รู้สึกว่าน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก
เทียนขุยมาจากกองทัพ ไม่กี่วันก่อนยังทุบตีชายฉกรรจ์ที่มาจากยุโรปคนนั้นที่หนานหลิงอยู่เลย ใช้แค่สามหมัดก็สังหารคนผู้นั้นได้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้จะถูกคนทำร้ายจนมีสภาพแบบนี้ นี่เป็นฝีมือของใครกันแน่?
ซ่งฉาวอู่คิดมาถึงตรงนี้ ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม คนผู้นี้น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว
เขามองฟางเหยียน คิดเยินยอแสนยานุภาพของกองทัพ เอ่ยอย่างองอาจมีคุณธรรมว่า “โผ้จวิน กองทหารทั้งหมดในตะวันตกเฉียงใต้ล้วนสามารถเคลื่อนย้ายได้ตามดุลพินิจของท่าน ขอเพียงท่านมีคำสั่ง ผู้น้อยก็ยินดีจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน”
ฟางเหยียนโบกมือกล่าวว่า “พอแล้ว ไปจัดการตามที่ฉันสั่งก็พอ”
หลังจากจัดการเรื่องของเทียนขุยดีแล้ว ฟางเหยียนถึงวางแผนว่าจะกลับบ้าน อ๋าวไท่กล้าลงมือกับคนของกองทัพ สมควรตาย! เพียงแต่ฟางเหยียนจะให้เวลาเขาสักหน่อย ตอนนี้เขาไม่อาจแบ่งสมาธิไปทำเรื่องอื่นได้ เขายังต้องคุ้มกันความปลอดภัยของเย่ชิงหยู่อยู่
รอให้เทียนขุยฟื้นฟูขึ้นแล้ว ฟางเหยียนจะให้เทียนขุยลงมือสังหารอ๋าวไท่ด้วยตัวเอง!
ไอ้คนพรรค์นั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าลงมือกับเจ็ดเทียนในสังกัดเขา แถมยังพยายามฆ่าเทียนขุยอีก
ฟางเหยียนยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งอยากฉีกไอ้คนผู้นั้นด้วยมือตนเป็นชิ้นๆ!
ช่วงที่ฟางเหยียนกำลังเดินทางกลับบ้าน จู่ๆ มือถือก็มีจ้อความเข้ามา เดิมทีฟางเหยียนไม่มีแก่ใจจะอ่านตอนนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขายังคงกดเปิด เนื้อความบอกว่า ร้านจุ้ยเซียน ฉันรอนายอยู่
เมื่อเห็นข้อความนี้ ฟางเหยียนชะงักเท้าอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ร้านจุ้ยเซียน? ใครกันที่ส่งข้อความแบบนี้มาให้ตน!
หรือจะเป็นอ๋าวไท่? ด้วยสไตล์ที่เปิดเผยของอ๋าวไท่ ต้องสืบทราบมาแล้วว่าตนคือผู้บังคับบัญชาของเทียนขุย แถมยังตรวจสอบพบแล้วด้วยว่าคือตนที่สังหารลูกศิษย์ของเขา เขาต้องทำเรื่องแบบนี้ออกมาแน่นอน หากว่าเป็นเขาจริงๆ ฟางเหยียนก็ไม่รังเกียจที่จะกำจัดเขาตอนนี้
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไป สตาร์ทรถขับออกไป มุ่งหน้าสู่ร้านจุ้ยเซียน
ณ ร้านจุ้ยเซียน
ในห้องรับรองส่วนตัวห้องหนึ่ง ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามกัน ฝ่ายหญิงสะสวยอ่อนหวาน สุภาพผ่าเผย เดรสผ้าซาตินสีดำขับเน้นเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอ ดูมีเสน่ห์เย้ายวนนัก ฝ่ายชายหล่อเหลาสง่า สีหน้าเรียบเฉย สวมชุดสูทตามมาตรฐานชุดหนึ่ง แผ่รัศมีความเป็นคุณชายมหาเศรษฐีออกมา เพียงแต่ดวงตาทั้งคู่ของเขาเลื่อนลอย คล้ายมีเรื่องในใจ
เย่ชิงหยู่แยกริมฝีปากคลี่ยิ้มนิดๆ มองเฉิงฉู่ที่แววตาค่อนข้างเลื่อนลอย เอ่ยขึ้น “เฉิงฉู่ ขอบคุณนะคะที่คุณตกลงยอมออกมาพบฉัน และขอบคุณที่คุณคอยช่วยดูแลฉันสมัยอยู่มหาลัย เพื่อเป็นการขอบคุณ ฉันขอคารวะคุณหนึ่งแก้วนะคะ”
พอกล่าวจบ เย่ชิงหยู่ก็ชูแก้วไวน์แดงในมือขึ้น จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวหมด
“อา!” ตอนที่ปฏิกิริยาตอบสนองของเฉิงฉู่กลับคืนมา เย่ชิงหยู่ก็ดื่มไวน์แดงในมือแก้วนั้นจนหมดแล้ว
เมื่อเห็นว่าเฉิงฉู่ดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวขนาดนั้น เย่ชิงหยู่จึงเอ่ยถาม “คุณเป็นอะไรไหมคะ? เฉิงฉู่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
เฉิงฉู่ส่ายหน้า ตอบกลับไป “ไม่ครับ ไม่มีหรอก” ปากบอกว่าไม่มีอะไร ทว่าอันที่จริงในใจกำลังนึกถึงคำเตือนของอาสองอยู่ตลอด ไม่ให้เขาไปยั่วโมโหคนผู้นั้น ตอนนี้เขากลับดีเหลือเกิน นัดพบกับภรรยาของคนอื่นเสียแล้ว
เขารู้สึกขนลุกซู่อยู่ในใจ สัมผัสได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองตนอยู่ ต้องโทษอาสองที่พูดจาหนักหนาเกินไป ไม่งั้นเขาคงไม่หวาดหวั่นและกลัวเกรงขนาดนี้หรอก! เขายิ้มขื่นๆ แล้วเอ่ยว่า “นึกๆ ดูแล้วช่วงมหาลัยก็ดีนะ อยากจะเล่นสนุกอะไรก็เล่นอย่างนั้น แล้วดูพวกเราในตอนนี้สิ ฮ่าฮ่า!” เฉิงฉู่ค่อนข้างเอ่ยต่อไปไม่ถูกอยู่บ้าง
ดวงหน้าของเย่ชิงหยู่ก็แฝงรอยยิ้มสุขุมสายหนึ่งไว้ เอ่ยไป “ใช่ค่ะ ถ้าสามารถหยุดช่วงเวลานั้นเอาไว้ตลอดไปได้ ก็คงดีมากเลย อย่างน้อยในตอนนั้น คุณพ่อฉันก็ยังอยู่ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนตอนนี้ ทั้งวันมีเรื่องให้คอยเป็นกังวลมากมาย”
ดูจากท่าทางเช่นนี้ของเย่ชิงหยู่ คล้ายจะอัดอั้นตันใจอยู่บ้าง
ด้วยเหตุนี้เฉิงฉู่จึงเอ่ยถาม “คุณเจอเรื่องอะไรมาหรือเปล่า? ชิงหยู่”
เย่ชิงหยู่ก็ไม่อำพราง ตอบอืมคำหนึ่ง เอ่ยอย่างเปิดอก “อันที่จริงฉันนัดคุณออกมาครั้งนี้ ก็เพราะมีเรื่องอยากขอให้คุณช่วยเหลือ”
“หือ?” เฉิงฉู่ดึงความคิดกลับมา มองเย่ชิงหยู่แล้วเอ่ยถาม “เรื่องอะไรเหรอ? ชิงหยู่”
เขาเพิ่งจะได้พินิจดุเย่ชิงหยู่อย่างจริงจัง คืนนี้เย่ชิงหยู่แต่งหน้าบางๆ สวมชุดเดรสตัวนี้แล้วเซ็กซี่มาก ตอนนี้พอมองแล้ว คล้ายว่าเย่ชิงหยู่จะสวยกว่าปกติหลายเท่าเลย
ด้วยการแต่งกายเช่นนี้ ทำให้เฉิงฉู่ใจสั่นขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะในตอนกลางวันนี้ที่ได้กระทำเรื่องลับๆ เช่นนั้นไปกับหลี่เสว่ในสำนักงาน ยิ่งทำให้เขาเพ้อฝันถึงเย่ชิงหยู่มากขึ้นอีกหลายเท่า
เย่ชิงหยู่ถอนหายใจเบาๆ เอ่ยว่า “คือแบบนี้ค่ะ เฉิงฉู่ ฉันรู้ว่าคุณมีทรัพยากรมาก รู้จักผุ้คนกว้างขวาง แต่ฉันอยากขอให้คุณช่วยตรวจสอบคนๆ หนึ่งให้ฉันที”
เฉิงฉู่ขมวดคิ้ว เอ่ยถาม “คุณอยากตรวจสอบใครล่ะ?”
เย่ชิงหยู่เป็นเด็กสาวที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมยิ่งนักคนหนึ่ง ตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะอยากตรวจสอบคนอื่น ทำให้เฉิงฉู่ประหลาดใจอยู่บ้าง
เย่ชิงหยู่เอ่ยตอบ “ฟางเหยียน! ฉันอยากให้คุณช่วยฉันตรวจสอบฟางเหยียนสักหน่อย”
พอได้ยินสองคำนี้ เฉิงฉู่ก็สงสัยว่าตนจะฟังผิดไป ด้วยเหตุนี้จึงมองเย่ชิงหยู่อย่างแปลกใจแล้วถามไปว่า “คุณอยากตรวจสอบใครนะ?”
เย่ชิงหยู่เอ่ยซ้ำอีกครั้ง “ฟางเหยียน!”
เฉิงฉู่งงแล้ว เขาขมวดคิ้วเอ่ยถาม “ชิงหยู่ ฟางเหยียนเป็นสามีของคุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณอยากตรวจสอบเขาล่ะ? หรือว่ามีเรื่องอะไรที่คุณไม่สามารถถามเขาได้? หรือว่า เกิดปัญหาอะไรขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของพวกคุณ?”
เย่ชิงหยู่รีบเอ่ยว่า “เรื่องนั้นไม่มีหรอกค่ะ เพียงแต่นนี้ที่เขากลับมาจากกองทัพฉันรู้สึกแปลกๆ อยู่ตลอด ฉันรู้สึกอยู่ตลอดว่าเขามีเรื่องมากมายที่ปิดบังฉันอยู่ ดังนั้นฉันจึงหวังว่าคุณจะช่วยฉันตรวจสอบเขาดูสักหน่อย”
เฉิงฉู่ก็ขมวดคิ้วแล้วเช่นกัน เขาถามเธอ “คุณไม่เคยถามเขาเลยเหรอ?”
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าเอ่ยตอบ “ฉันเคยถามแล้ว แต่เขาไม่บอก”
เฉิงฉู่ลังเลเล็กน้อย อันที่จริงเขาก็นึกสงสัยในฐานะของฟางเหยียนคนนี้เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้จึงถามอีก “งั้นคุณบอกมาเถอะ ฟางเหยียนทำเรื่องอะไร ถึงทำให้คุณสงสัยขนาดนี้?”
เย่ชิงหยู่พยักหน้านิดๆ เล่าเรื่องที่ตนทำสัญญาร่วมมือกับซีหนานกรุ๊ป แถมยังบอกเล่าเรื่องที่ฟางเหยียนทำภายในบ้านให้เฉิงฉู่ฟังรอบหนึ่ง กับเฉิงฉู่แล้ว เย่ชิงหยู่ไม่มีความระแวงคลางแคลงเลย เนื่องจากเธอเห็นเฉิงฉู่เป็นเพื่อนคนหนึ่ง!
สำหรับเธอแล้ว เฉิงฉู่คือหุ้นส่วนและเพื่อนที่ดีที่สุดของตน ก็เป็นเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอเฉิงฉู่จะมีท่าทางสุภาพมีมารยาทเสมอ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจว่าเฉิงฉู่คบหาได้
หลังจากฟังเย่ชิงหยู่เล่าจบ เฉิงฉู่ก็พยักหน้าอย่างพินิจตรึกตรอง เป็นไปตามที่คิด ฐานะของเขาไม่อาจมองข้ามไปได้
เย่ชิงหยู่คล้ายจะนึกอะไรขึ้นมาได้ กล่าวไปว่า “ใช่แล้ว ไม่กี่วันก่อนฉันถูกคนลักพาตัวไปด้วย”
หัวใจของเฉิงฉู่หดเกร็งทันที เอ่ยถาม “ใคร? ใครกันที่ลักพาตัวคุณ?”
เย่ชิงหยู่สลดลงเล็กน้อย ตอบว่า “คุณหนูใหญ่ตระกูลเซียว เซียวห้าน!”
————