จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 192
คำพูดนี้เหมือนสายฟ้าฟาดลงมา เซียวเจิ้นเที่ยนลุกจากเก้าอี้ทันที
เซียวเหอเพิ่งพูดว่าเหลือแค่ตระกูลเฉิง เซียวเจิ้นเที่ยนยังคิดว่ามีแค่ตระกูลเฉิงก็พอแล้ว อย่างน้อยเขาก็แข็งแกร่งกว่าพวกกิจการเล็กๆ อย่างน้อยตระกูลเฉิงมีทั้งเงินและอำนาจ เขาเพิ่งจะคิดได้เช่นนี้ แต่ทำไมตระกูลเฉิงถึงถอนทุนคืนล่ะ
“แกว่าอะไรนะ” เซียวเหอลุกขึ้นถามผู้ดูแลบ้านอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ผู้ดูแลบ้านพูดขึ้นอย่างจริงจังอีกรอบ “คุณชายตระกูลเฉิงเพิ่งโทรมาบอกว่าให้ขอโทษพวกคุณ เขาจะกลับเจียงตู คนในบ้านของเขาให้ถอนทุนจากที่นี่ ดังนั้นตระกูลเฉิงจึงถอนทุนครับ”
หลังจากที่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริง เซียวเจิ้นเที่ยนก็นั่งลง เขารู้สึกกระวนกระวายไปหมด
เซียวฮั่วรีบพูดขึ้นว่า “คุณปู่ ต้องเป็นฝีมือของฟางเหยียนแน่ มันอยากให้ตระกูลของเราไร้ที่พึ่ง เลยมาเอาคืนกับเรา ต้องเป็นฝีมือมันแน่ๆ”
เซียวเจิ้นเที่ยนหายใจฟึดฟัดและนั่งลงบนเก้าอี้ เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเจิ้นเที่ยนไม่สู้ดี เซียวเหอรีบเข้าไปประคอง เซียวเจิ้นเที่ยนหายใจออกมาแล้วโบกมือไปมา “ฉันไม่เป็นไร!”
“เซียวเหอ!” เซียวเจิ้นเที่ยนจับแขนของเซียวเหอแล้วพูดว่า “โทรหาคุณท่านตระกูลเฉิง ฉันอยากถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากความสัมพันธ์ของเรา เขาไม่มีทางถอนทุนแน่นอน”
ตอนที่เซียวเจิ้นเที่ยนยังเป็นวัยรุ่น เขารู้จักกับคุณท่านตระกูลเฉิง ทั้งสองเห็นอกเห็นใจกัน เป็นมิตรที่ดีต่อกันไม่ใช่เหรอ หลังจากที่ตระกูลเซียวเกิดเรื่องและต้องการความช่วยเหลือ ก็นึกถึงตระกูลเซียวเป็นอันดับแรก
คุณท่านตระกูลเซียวก็ชัดเจน โดยการตั้งกิจการในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองจินโจว
ขณะที่เซียวเจิ้นเที่ยนกำลังจองหอง พวกเขาก็ถอนทุนคืนอย่างกะทันหัน เซียวเจิ้นเที่ยนคิดไม่ออกจริงๆ
ไม่นาน เซียวเหอโทรหาคุณท่านตระกูลเฉิง โทรติดแต่ไม่มีคนรับ เซียวเจิ้นเที่ยนก็โทรด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีคนรับ จนโทรครั้งสุดท้าย เซียวเจิ้นเที่ยนโดนตัดสายใส่
การกระทำของตระกูลเฉิงทำให้เซียวเจิ้นเที่ยนตกใจมาก เหมือนเขากำลังโดนมีดแทงข้างหลังโดยไม่รู้ตัว
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้!” เซียวเจิ้นเที่ยนหายใจฟึดฟัด เขาตบมือลงบนโต๊ะอย่างแรง จากนั้นเขาจึงเงยหน้ามองป้ายวิญญาณบรรพบุรุษตระกูลเซียว “อย่าบอกนะว่าสวรรค์จะทำลายตระกูลเซียว”
เซียวเจิ้นเที่ยนมีอำนาจมาตลอด เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาอยู่ในจุดนี้ เห็นลูกหลานถูกฆ่าตายทีละคน กิจการถูกทำลายไปทีละอย่าง ตระกูลค่อยๆ ก้าวเข้าไปสู่ความย่อยยับ เขาจะเป็นสุขได้อย่างไร
ใครเป็นคนชักใยให้ทำลายตระกูลเซียวกันแน่ ทำไมต้องทำให้ตระกูลเซียวหมดหนทาง เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นกำลังผลักเขาลงไปสู่ความมืดมิดที่ไม่สิ้นสุด
ขณะนั้นมือถือของเขาก็ดังขึ้น เซียวเจิ้นเที่ยนเห็นแสงสว่างร่ำไรท่ามกลางความมืดมิด ตระกูลเฉิงโทรกลับมาอย่างนั้นเหรอ เขารีบตั้งสติและหยิบมือถือขึ้นมาดู แต่ทว่าเป็นเบอร์แปลก
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงกดรับสาย
เสียงผู้หญิงดังออกมา “ใช่ท่านเซียวไหมคะ”
เป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยเล็กน้อย แต่เซียวเจิ้นเที่ยนรู้สึกสงสัย จึงถามขึ้นว่า “ใช่ ฉันเอง เธอเป็นใคร”
“ฉันหวังชิงชิงเป็นผู้ช่วยของคุณชายฟางและเป็นผู้รับผิดชอบฟางซื่อกรุ๊ป คืออย่างนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้คุณชายของเรายุ่งตลอดเลยไม่มีเวลาพบคุณ วันนี้เขาอยากนัดเจอคุณเพื่อที่จะคุยเรื่องความร่วมมือค่ะ”
ฟางซื่อกรุ๊ปจะคุยเรื่องความร่วมมือกับเขาอย่างนั้นเหรอ นี่สินะที่เรียกว่าเมื่อเจอปัญหาแล้วใช้วิธีแรกไม่ได้ผล ก็ต้องใช้วิธีอื่นมาแก้ไข นี่มันเรื่องจริงเหรอ เซียวเจิ้นเที่ยนเริ่มสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
“ใครครับพ่อ พ่อเป็นอะไรไป” เซียวเหอมองเซียวเจิ้นเที่ยนที่สีหน้างุนงง แล้วเอ่ยถามขึ้น
เซียวเจิ้นเที่ยนทำอะไรไม่ถูก เขาแน่ใจแล้วว่านี่คือความจริง
เขาพูดด้วยความดีใจว่า “ครับๆ ประธานหวัง ผมจะไปครับ ต้องการให้ผมเอาอะไรไปไหมครับ”
“ไม่ต้อง ท่านเซียวรีบมานะคะ คุณชายกำลังรออยู่ อ้อ เราจัดรถไปรับคุณแล้วนะคะ คุณนั่งรถที่เราส่งไปรับมาที่นี่นะคะ” หวังชิงชิงพูดออกมาจนจบแล้ววางสาย
เมื่อเห็นเซียวเจิ้นเที่ยนมีท่าทีตกตะลึง เซียวเหอจึงถามว่า “มีอะไรเหรอพ่อ”
เซียวเจิ้นเที่ยนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นจึงตอบว่า “ประธานหวังของฟางซื่อกรุ๊ปนัดฉันไปพบ เขาบอกว่าคุณชายตระกูลฟางจะคุยเรื่องความร่วมมือ รถมารอฉันที่หน้าประตูแล้ว”
“อะไรนะ” เซียวเหอขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เชื่อได้หรอพ่อ”
เซียวเจิ้นเที่ยนหรี่ตาแล้วถามว่า “หมายความว่ายังไง”
เซียวเหอพูดว่า “ผมคิดว่าคุณชายตระกูลฟางไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนี้กับเรา ในสายตาของพวกนั้น ตระกูลของเราไม่มีดีอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เรื่องที่ตระกูลเราต้องเผชิญ ใช่ว่าตระกูลฟางจะไม่รู้”
“เซียวเหอ แกคิดว่าตอนนี้ตระกูลเราจะย่อยยับได้กว่านี้อีกเหรอ ในเมื่อตระกูลเฉิงไปแล้ว ตระกูลเราทำได้เพียงแค่เลือกตระกูลฟาง ขอแค่การสนับสนุนจากตระกูลฟาง การสนับสนุนอันยิ่งใหญ่ จะต้องทำให้ตระกูลเซียวมั่นคงในเมืองจินโจว” เซียวเจิ้นเที่ยนพูดอย่างจองหอง ใบหน้าของเขาดูมีอำนาจ
เซียวเหอไม่พูดอะไร เซียวเจิ้นเที่ยนจึงเดินออกไปข้างนอก
อีกด้านหนึ่ง ที่ห้องทำงานฟางซื่อกรุ๊ป
หวังชิงชิงวางมือถือลง แล้วพูดกับฟางเหยียนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ “คุณชาย ฉันทำตามที่คุณบอกแล้ว เซียวเจิ้นเที่ยนกำลังมาที่นี่ จะให้ฉันทำยังไงต่อคะ”
สีหน้าของฟางเหยียนเคร่งขรึม เขาหลับตาอยู่ เมื่อได้ยินเสียงของหวังชิงชิง เขาจึงลืมตาขึ้น
เขานวดขมับของตัวเองและไม่ได้ตอบคำถามของหวังชิงชิง
เมื่อเห็นดังนั้น หวังชิงชิงจึงขมวดคิ้วแล้วถามอย่างเป็นกังวล “คุณชายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ”
ฟางเหยียนโบกมือไปมา “ฉันไม่เป็นไร ทำให้เธอลำบากแล้ว”
หวังชิงชิงส่ายหน้า “ไม่เลยค่ะคุณชาย นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”
หลังจากที่ฟางเหยียนช่วยเธอครั้งก่อน เธอจึงเปลี่ยนความคิดที่มีต่อคุณชายไม่เอาการเอางานคนนี้
“คุณจะไปพบเซียวเจิ้นเที่ยนจริงเหรอคะ” หวังชิงชิงถามขึ้น
คุณชายผิดนัดกับเซียวเจิ้นเที่ยนนับไม่ถ้วน แถมยังไม่ได้เป็นมิตรกับเซียวเจิ้นเที่ยน
ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ เธอไปเจอเขาแทนฉันแล้วกัน เอาสัญญาฉบับนี้ไปให้เขาเซ็น นอกจากนั้นบอกให้เขาช่วยฉัน”
หวังชิงชิงลังเล ช่วยอีกแล้ว ฟางเหยียนให้เซียวเจิ้นเที่ยนช่วยทุกครั้ง เหมือนกำลังล้อเล่นกับเขาอยู่
“ช่วยอะไรคะ” หวังชิงชิงถามขึ้น
ฟางเหยียนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง “ให้เขาช่วยฉันลักพาตัวใครบางคน”
“คุณชาย!” หวังชิงชิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ลักพาตัวคนมันผิดกฎหมายนะคะ ทำไมคุณถึงทำล่ะคะ”