จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 197
ขณะที่พูด เขายังมองพนักงานหญิงที่ยืนอยู่อีกด้าน สายตาของเขาเหมือนกำลังบอกว่าเห็นหรือยังขนาดประธานบริษัทยังไม่กล้าทำอะไรเขา
เมื่อเห็นสายตากวนบาทาแบบนั้น ฟางเหยียนรู้สึกไม่พอใจมาก
เย่ชิงหยู่กำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ฟางเหยียนรั้งแขนเธอเอาไว้ เขาเดินขึ้นมาขวางหน้าเย่ชิงหยู่ แล้วพูดว่า “ได้ งั้นนายก็ไปซะ คนไร้ประโยชน์อย่างนายอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวเสวเหว่ยถึงกับอึ้งไป เขามองชายหนุ่มแปลกหน้าท่าทางอ่อนแอตรงหน้า แล้วถามว่า “นายเป็นใคร พูดอย่างนี้หมายความว่าอะไร นายว่าฉันเป็นคนไร้ประโยชน์เหรอ จะไล่ฉันออกเหรอ”
เย่ชิงหยู่ดึงแขนฟางเหยียนแล้วพูดว่า “ฟางเหยียน อย่าพูดอะไรไร้สาระ ลุงหลิวเป็นพนักงานเก่าแก่ในบริษัท สร้างผลงานมากมายให้บริษัท ขอโทษนะคะลุงหลิว ฟางเหยียนไม่ค่อยรู้เรื่องของบริษัท ฉันจะให้เขาออกไปเดี๋ยวนี้”
“อืม!” หลิวเสวเหว่ยชี้ฟางเหยียนแล้วพูดว่า “ฉันนึกออกแล้ว ที่แท้นายก็คือลูกเขยที่แต่งเข้ามาในบ้านตระกูลเย่ สามีของเย่ชิงหยู่สินะ คนที่เอาแต่เกาะผู้หญิงกิน ฉันก็คิดว่าใครเสียอีก”
ฟางเหยียนได้ยินคำพูดที่ไร้มารยาทของหลิวเสวเหว่ย เขายกมือขึ้นมาจับแขนของเย่ชิงหยู่ จากนั้นจึงแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ ฉันคือสามีของเธอ เมื่อกี้ฉันกำลังไล่นายออกไป ฉันคิดว่านายไม่เหมาะกับงานด้านเทคนิค ฉันแนะนำให้นายเปลี่ยนไปทำงานด้านอื่นเถอะ ขนาดระบบพื้นฐานแค่นี้ยังจัดการไม่ได้ อยู่ในบริษัทมีแต่จะทำให้บริษัทเสียหาย”
หลิวเสวเหว่ยมั่นใจในทักษะคอมพิวเตอร์ของตัวเองมาก อย่างน้อยในเมืองจินโจวก็ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้ เขามองฟางเหยียนอย่างประเมิน แค่การพิมพ์ดีดไอ้หมอนี่ก็คงจะทำไม่เป็น ดีแต่ปากเท่านั้นแหละ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเอามือดันแว่นขึ้น “ได้สิ พูดมาซะขนาดนี้ นายอยากบอกว่าตัวเองทำเป็นใช่ไหม นายมาทำสิ!”
“ถ้านายจัดการแฮกเกอร์ได้ วันนี้ฉันจะคำนับนายเป็นอาจารย์เลย”
เสียงของเขาดังจนเรียกความสนใจของเพื่อนร่วมงาน พนักงานไม่น้อยต่างพากันเข้ามามุงดู หลิวเสวเหว่ยจงใจทำให้ฟางเหยียนขายหน้าต่อหน้าเขา และเป็นการตบหน้าเย่ชิงหยู่ด้วย
เพื่อนร่วมงานรู้ตำแหน่งของหลิวเสวเหว่ยดี เขาถือเป็นคนเก่าคนแก่ในบริษัท เขาเป็นคนที่ตั้งใจควบคุมระบบเทคนิคให้ตงข่ายกรุ๊ป ดังนั้นเขาจึงสามารถโน้มน้าวคนอื่นได้
ทุกคนเห็นว่าขนาดหลิวเสวเหว่ยยังโมโห จึงพากันเดาว่าสามีของเย่ชิงหยู่น่าจะอวดดีจนเกินไป
เมื่อเห็นคนจำนวนมากเข้ามามุงดู เย่ชิงหยู่จึงพูดว่า “ขอโทษจริงๆ ค่ะ ลุงหลิวฟางเหยียนเป็นคนแบบนี้น่ะค่ะ”
ฟางเหยียนจับแขนเย่ชิงหยู่แน่น เขาตัดบทไม่ให้เย่ชิงหยู่พูดต่อด้วยการเงยหน้าขึ้นมองคนรอบๆ แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “เหรอ งั้นนายก็ดูให้ดีแล้วกัน ฉันรอให้นายมาคำนับฉันเป็นอาจารย์”
“ฟางเหยียน!” เย่ชิงหยู่พูดขึ้นมาอย่างร้อนใจ “รู้ไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่”
ตอนที่อยู่ในตระกูลเย่ ฟางเหยียนไม่ได้รู้จักคอมพิวเตอร์สักเท่าไร ตอนที่ขึ้นมัธยมปลาย ขนาดเกมคอมพิวเตอร์เขายังเล่นไม่เป็นเลย หลังจากที่ไปเป็นทหาร เขาไม่ได้เป็นทหารฝ่ายเทคนิคด้วย จะไปรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ได้ยังไง
ถึงเขาจะทำเพื่อช่วยเธอ แต่วิธีนี้มันเกินไปหน่อย เขาไม่ได้อยู่ในสายงานนี้ ไม่รู้หรอกว่างานด้านคอมพิวเตอร์มันยากขนาดไหน ยากมากที่จะหาคนที่เหมือนหลิวเสวเหว่ย
ฟางเหยียนพยักหน้าให้เย่ชิงหยู่และส่งสายตาแห่งความมั่นใจให้เธอ “วางใจเถอะ ผมทำได้”
เขามองหลิวเสวเหว่ยแล้วพูดว่า “ผมใช้เวลาแค่สิบนาทีในการจัดการกับแฮคเกอร์! และจะใช้วิธีเดียวกับที่อีกฝ่ายทำ โจมตีคอมพิวเตอร์ของมันกลับเป็นสิบเท่า”
พูดจบ เขาก็รัวนิ้วมือลงบนคีย์บอร์ด พนักงานในบริษัทไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี เห็นเพียงแค่ตัวเลขมากมายกำลังวิ่งอยู่บนหน้าจอ
หลิวเสวเหว่ยยืนกอดอกด้วยสีหน้าไม่พอใจ คิดว่าไอ้หมอนี่อวดดีจริงๆ อีกเดี๋ยวมันก็จะโดนตอกกลับ แต่เมื่อดูไปได้สามนาที สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที
เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงสามารถจัดการการบุกรุกของแฮกเกอร์ได้เร็วขนาดนี้
ตอนนี้เขากำลังทำอะไร มันเป็นระบบของคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการอัพเกรดอย่างอิสระ และมันยังโจมตีคอมพิวเตอร์ของอีกฝ่ายด้วย นั่นคือเทคโนโลยีระบบระดับสูงจากต่างประเทศ ระบบภายในประเทศที่แสนธรรมดาจะเอาชนะได้อย่างไร
คนอื่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หลิวเสวเหว่ยรู้ มันคือเทคนิคระดับสูงสุดของต่างประเทศ ตอนนี้บริษัทชั้นนำของโลกใช้วิธีนี้มาปกป้องระบบของตัวเอง ถ้าโดนระบบนี้แฮกเข้ามา ข้อมูลของบริษัทจะรั่วไหลออกไป จะสามารถกู้กลับมาได้หลังจากผ่านไปยี่สิบสี่ชั่วโมง การที่เกิดเรื่องแบบนี้ สามารถแยกเป็นสองสาเหตุ หนึ่งคือมีคนจงใจแฮกเข้ามา สองคือโชคไม่ดีที่โดนระบบของบริษัทต่างประเทศแฮกเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุไหนก็เป็นการโจมตีบริษัท นี่คือสิ่งที่บริษัทในประเทศไม่สามารถรับมือได้
เขาคิดไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะทำลายอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เขาทำได้อย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน
ต่อจากนั้นหลิวเสวเหว่ยจับตามองการเคลื่อนไหวของมือฟางเหยียน แต่การเคลื่อนไหวเร็วมาก จนมองไม่ทัน ฟางเหยียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต้องเคยได้รับการฝึกฝนมาจากประเทศอย่างแน่นอน ในประเทศไม่มีคนมีฝีมือขนาดนี้
การกระทำของฟางเหยียนเปลี่ยนความคิดของเขาทั้งหมด ทำให้เขามีความรู้ใหม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เย่ชิงหยู่มองการกระทำของฟางเหยียนก็ต้องตกใจเหมือนกัน เธอไม่คิดว่าฟางเหยียนจะมีความรู้ด้านเทคโนโลยี ฟางเหยียนทำให้เธอคาดไม่ถึงจริงๆ เขามีความลับปกปิดเธอมากมายขนาดไหนกันนะ
หลังจากผ่านไปสิบนาที ระบบคอมพิวเตอร์ได้รับการกู้คืนเป็นปกติ ระบบในบริษัทกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เอกสารในบริษัทไม่ได้รับความเสียหายและรั่วไหลออกไป
ฟางเหยียนถอนหายใจออกมา เขาวางนิ้วมือลงแล้วพูดว่า “เสร็จแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และหันไปมองคนที่ยืนอ้าปากค้างอย่างหลิวเสวเหว่ย จากนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า “นี่เพื่อน ตอนนี้นายควรจะทำอะไรสักหน่อยไม่ใช่เหรอ”
หลิวเสวเหว่ยยกมือขึ้นมาดันแว่นขึ้น จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ เขาทำการเช็กคอมพิวเตอร์ที่อยู่ข้างหน้า
หลังจากผ่านไปนาน เขาจึงลุกขึ้นช้าๆ เขายกนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดว่า “เจ๋ง เจ๋งมาก! นี่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน คิดไม่ถึงว่านายจะใช้ระบบที่มีอยู่ขัดขวางการบุกรุกเข้ามาของแฮกเกอร์ แถมยังติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ป้องกันการโจมตีอีกหลายชั้น นายคืออัจฉริยะด้านเทคนิค เทคนิคของนายทำให้คนเลื่อมใส ท่านอาจารย์รับการคำนับจากผมด้วย!”
พูดจบหลิวเสวเหว่ยก็คุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่สนใจคนรอบๆ เขาคำนับให้ฟางเหยียนต่อหน้าทุกคน ความเย่อหยิ่งเมื่อครู่หายไปในพริบตา ตอนนี้เขาเลื่อมใสเด็กหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างมาก