จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 246
เซียวติ่งกำลังนั่งสมาธิอยู่กับที่ ได้ยินเซียวเจี้ยนเที่ยนถาม เขาหัวเราะเหอะเหอะ จากนั้นกล่าวอย่างมั่นใจว่า “พ่อไม่ต้องเป็นกังวลนะ อาจารย์ของผมไม่เคยแพ้ใครมาก่อน ฝีมือของเขา ผมยังไม่รู้เลยว่าเก่งขนาดไหน พ่อรู้มั้ยว่าทำไมเขาต้องซ่อนตัว? เพราะตอนนั้นไม่มีคู่ต่อสู้ จึงได้หลบอยู่ในหุบเขาลึกเป็นเวลาสิบปี และที่เขาฝึกผมขึ้นมา ก็เพื่อท้าทายตัวเอง พ่อสบายใจได้ ไอ้นี่ มันตายแน่”
เซียวติ่งเชื่อมั่นในตัวของอาจารย์ของตน100%!
แบบนี้เซียวเจิ้นเที่ยนถึงได้พยักหน้า อาจารย์ของเซียวติ่งไม่ว่าจะเป็นด้านพลังหรือความกล้าหาญ ล้วนกดดันคู่ต่อสู้ได้ทั้งนั้น เมื่อออกโรงก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นปรมาจารย์ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่าฟางเหยียนวัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้านี้อย่างมาก
ฟางเหยียนได้ยินคำพูดของอีเหมย จึงได้ยิ้มออกมา แล้วกล่าวอย่างสบายใจว่า “เหรอ? ฉันล่ะอยากจะรู้ว่าแกจะมีปัญญาทำได้มั้ย!”
เมื่อพูดจบ ฟางเหยียนเดินไปช้าๆ ในมือปรากฏแสงสีทองออกมา แสงสีทองออกมาจากฝ่ามือ เขาจ้องไปที่อีเหมยอย่างได้เปรียบแล้วกล่าว “ลงมือกันเลยดีกว่า ให้ฉันเห็นหน่อยว่าแกมีฝีมือขนาดไหน!
อีเหมยโยนลูกประคำไปที่ฟางเหยียน แล้วตะโกน “ไปตายซะ!”
ฟางเหยียนหน้านิ่ง ลงมืออย่างรวดเร็ว เพียงแค่ยกมือเท่านั้น ลูกประคำนั้นของเขาก็แตกกระจายลงกับพื้น
แต่อีเหมยได้พุ่งไปที่ฟางเหยียน ด้วยพลังมหาศาล ทุกๆย่างก้าวของเขา พื้นดินจะสั่นสะเทือน เฟอร์นิเจอร์บางอย่างของตระกูลเซียวต่างสั่นไหว ไฟที่ติดบนเพดานขยับอย่างรุนแรงยิ่งกว่า
อีเหมยวิ่งไปได้ครึ่งทาง จู่ๆก็กระโดดขึ้น ใกล้เพดาน เขาเอาประคำที่แขวนที่คอ วางไว้บนมือทั้งสองข้าง ในมือถือประคำไว้ ลงมาใกล้กับหัวของฟางเหยียน
จากบนสู่ล่าง พลังกดขี่คน นี่คือต้องการเมื่อลงมือก็อยากได้ชัยชนะในทันที
มาที่อีกฝ่ายฟางเหยียน ไม่ขยับไปไหน ไม่สะทกสะท้าน แม้แต่สีหน้าก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย
อะไรกัน? มันรอความตายเหรอ? หรือว่ามั่นใจมาก!
อีเหมยเห็นฟางเหยียนลักษณะนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา ปกติคนที่ตนลงมือแล้วยังไม่ขยับ ไม่ต่อสู้ไม่เป็น ก็ตกใจจนบ้าไป ไม่ก็หลงตัวเอง แสร้งว่าเป็นยอดฝีมือ
เห็นท่าทีของคนนี้ น่าจะเป็นประเภทที่สาม หลงตัวเอง แสร้งว่าเป็นยอดฝีมือ
โอหังเกินไปแล้ว เขาคิดว่าตัวเองเป็นระดับต้าชี่แล้วจะไม่เห็นหัวคนอื่นงั้นเหรอ?
วัยรุ่นต้องเสียสละ เพียงแค่นี่คือการเสียสละเลือด ไ่ม่ใช่ว่าเขาไม่เสียดาย เพียงแต่เขาต้องตาย!
อีเหมยกัดฟัน โจมตีไปที่ฟางเหยียนอย่างรุนแรง ใกล้แล้ว เขาใกล้จะกลายเป็นศพแล้ว
แต่ ในขณะนี้เอง จู่ๆ เสียงที่เหมือนกับมังกรร้องได้ดังขึ้น เห็นฟางเหยียนยกมือขึ้น กลิ่นอายของพลังทำลายล้างออกมาจากฝ่ามือของเขา
“ตูม!” เสียงดัง พลังทั้งสองชนเข้าด้วยกัน ราวกับดาวอังคารชนเข้ากับโลกอย่างไรอย่างนั้น!
เมื่อเสียงดังกังวานขึ้น บนพื้นเกิดเป็นหลุมประมาณสิบตารางเมตร ฟางเหยียนยืนอยู่ในจุดที่ลึกที่สุด รอบๆพังทลายไปหมด เฟอร์นิเจอร์ที่เมื่อกี๊สั่นคลอนได้หล่นลงมาที่พื้นทั้งหมด แม้แต่แท่นบูชาของตระกูลเซียว ก็หล่นลงมาทั้งหมด
เซียวเจิ้นเที่ยนอีกทั้งครอบครัวและคนอื่นๆ ล้วนสั่นคลอน จนล้มลงกับพื้น นักรบกองทัพที่เฝ้าประตูตระกูลเซียวก็รับรู้ได้ถึงการสั่นสะเทือน ถึงขั้นเห็นต้นไม้ที่อยู่ภายนอกไหวอย่างรุนแรง
หลังจากที่ทำลายกฎของธรรมชาติแล้ว จู่ๆ บนเพดานมีเสียงแคร็กๆๆดังขึ้น และมีสิ่งที่ตกลงมา หล่นไปยังหัวของคนตระกูลเซียวพอดี คนของตระกูลเซียวเงยหน้ามองขึ้นไปบนเพดาน เห็นเพดานแตกออกเป็นรูทั้งยาวทั้งใหญ่ เขาชี้ไปที่เพดานแล้วกล่าว “หลังคาแตกแล้ว!”
คนฉลาดเข้าใจ ว่าด้านล่างเป็นผลจากกำลังภายในของอีเหมย ทำให้แผ่นดินสะเทือน ของตกหล่น ด้านบนเป็นผลจากกำลังภายในของฟางเหยียนทั้งนั้น! ทำให้หลังคาแตก ทั้งสองกำลังประลอง ต่อสู้กัน
แข็งแกร่งมาก นี่มันสงครามโลกชัดๆ!
การต่อสู้เมื่อกี๊ของฟางเหยียนกับเซียวติ่งถือเป็นการประลองกันของยอดฝีมือ ถ่ายหนังกำลังภายใน และนี่ก็คือหนังแฟนตาซีเรื่องหนึ่ง ทั้งสองล้วนมีพลังอันไร้ขีดจำกัด และเต็มไปด้วยการทำลายล้าง
เซียวเจิ้นเที่ยนมองไปยังสองคนที่หยุดต่อสู้ ทั้งสองไม่ได้หมัดแลกหมัดโดยตรง ยังมีระยะห่างประมาณสิบเซนติเมตรขั้นกลางไว้ เพียงแค่อีเหมยยังคงคงไว้ซึ่งท่าทางการโจมตีเมื่อกี๊ แต่ฟางเหยียนยกมือทั้งสองขึ้นกดการโจมตีของอีเหมยไว้
เขาไม่รู้ว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ เพียงแค่มองไปที่เซียวติ่งด้วยอารมณ์ซับซ้อนแล้วถาม “แยกออกแล้วยังว่าใครแพ้ใครชนะ?”
เซียวติ่งก็กำลังเพ่งมองไปยังทั้งสองที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ส่ายหน้าด้วยท่าทางเคร่งเครียดแล้วกล่าว “ยังครับ!”
“พ่อ ฟางเหยียนเป็นใคร?” เซียวติ่งถามอย่างสงสัย
อาจารย์ของตนได้ใช้วิชาที่พลังทำลายล้างมหาศาลแล้ว แต่ฟางเหยียนก็ยังไม่ตาย แล้วยังต้านทานได้อีก
เซียวเจิ้นเที่ยนกล่าว “มันเป็นคนของตระกูลฟาง และเป็นคนที่มาจากกองทัพ ตัวตนที่แท้จริงเป็นใครพ่อก็ไม่ค่อยแน่ชัด ทำไมเหรอ?”
เซียวติ่งส่ายหน้าอย่างไม่มั่นใจ จากนั้นสะอึกสะอื้น แล้วกล่าว “ไม่มีอะไรครับ!”
เขายากที่จะจินตนาการได้ว่ายังมีอัจฉริยะแบบนี้อยู่บนโลกด้วย ที่สามารถตั้งรับท่านี้ของอาจารย์ที่พลังทำลายล้างมหาศาลได้
ใช่ ลงมาจากฟ้า ในมือยังมีลูกประคำ เดิมทีเป็นฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังมหาศาล ไม่ว่าใครโดนเข้า ก็ต้องตาย อย่างน้อยขาทั้งสองข้างก็พิการ ก่อนหน้านี้อาจารย์ได้ใช้พลังนี้จัดการยอดฝีมือที่มารบกวนพวกเขาไปคนหนึ่ง นั่นก็เป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่คนหนึ่งเช่นกัน มาหาเรื่องถึงที่ หลังจากที่ต่อสู้กับอาจารย์ไปไม่เท่าไหร่ ก็ต้องพ่ายแพ้ไป
เขาพ่ายแพ้เพราะพลังอันมหาศาลของอาจารย์ ลงมาจากฟ้า โจมตีจนเขาล้มลงกับพื้น กระอักเลือดเต็มพื้นไปหมด
ยอดฝีมือแบบนั้นยังถูกโจมตีจนบาดเจ็บ แต่เขาไม่คาดคิดว่าฟางเหยียนก็ไม่บาดเจ็บใดๆแม้แต่น้อย
คนนี้เก่งกาจมาก เมื่อกี๊ตอนที่ตัวเองต่อสู้กับเขานั้น ได้รับรู้ถึงความแข็งยิ่งใหญ่ของเขา เป็นคนที่แทบจะไม่มีจุดอ่อนเลย ไม่ว่าตนจะโจมตีเร็วขนาดไหน เมื่อไปถึงเขาก็ถูกทำลายทั้งหมด
ไม่ใช่แค่เท่านี้ เขายังสามารถเปลี่ยนฝ่ามือให้เป็นมีดได้อีกด้วย ใช้มือฟันตน เอ็นในร่างกายทั้งหมดถูกตัดขาด นี่คือพลังที่โดดเด่นของเขา เขาไม่ชนะอาจารย์ และก็ไม่ใช่คนนี้ด้วย
แต่เขาเชื่ออาจารย์ของตัวเองยิ่งกว่า เขาไม่มีทางสงสัยในฝีมือของอาจารย์ตัวเอง เขาเชื่อ ว่าอาจารย์ต้องชนะ ต้องชนะแน่นอน
นี่ถือเป็นการภาวนา และให้กำลังใจตัวเองอยู่
อีเหมยยังคงอยู่ในอากาศ เขาทำอย่างสุดความสามารถ เมื่อกี๊เขารวมกำลังภายในทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะโจมตีครั้งสุดท้าย อยากจะเมื่อโจมตีก็ฆ่าฟางเหยียนได้เลย ทำให้เขารู้ว่าการโอหังนั้นมันต้องแลกมาซึ่งสิ่งที่ใหญ่หลวง
แต่ สิ่งที่ทำให้เขาไม่คาดคิดก็คือ ฟางเหยียนต้านทานการโจมตีของเขาได้อย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ
ที่ประเทศหวา ยังมีวัยรุ่นที่แข็งแกร่งแบบนั้นอยู่ด้วยเหรอ? หรือว่าเขาไม่ใช่แม่ทัพระดับสามดาวกันนะ?!