จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 25
บทที่ 25 จุดจบของการดูหมิ่นคนอื่น
“คุกเข่า?” โจวซื่อเฉียงนิ่งอึ้งไปสักพัก
“เพี๊ยะ!” หยางฮ่าวฟาดเข้าที่บ้องหูของโจวซื่อเฉียง ก่อนกล่าว “คุกเข่า! บอกให้แกคุกเข่า”
โจวซื่อเฉียงไม่กล้าเอ่ยแม้แต่คำเดียว พลันคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ชิงหยู่
พร้อมร้องขอ “ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว ผมมีตาหามีแววไม่”
ฟางเหยียนจูงแขนของเย่ชิงหยู่ที่ยืนตระหนก กล่าวกับหยางฮ่าว “ไปกันเถอะ ประธานหยาง”
อันที่จริงเย่ชิงหยู่ไม่คิดที่จะให้ใครคุกเข่า เมื่อสักครู่เธอโกรธจริงๆ นั่นแหละ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องให้ใครคุกเข่า
แต่จะว่าไป ทำไมฟางเหยียนสั่งให้เขาคุกเข่าเขาก็คุกเข่าลงล่ะ
หรือว่าตัวเธอมีความสำคัญต่อตระกูลหวงขนาดนั้นเชียวหรือ
ความจริงแล้ว ตอนนี้เธอต่างหากที่ต้องเพิ่งพาตระกูลหวง ทำไมถึงได้สลับกันมั่วไปหมด
เย่ชิงหยู่ไม่เข้าใจ แล้วก็ไม่อยากจะคิดด้วย
ก่อนที่หยางฮ่าวจะเดินออกไป เขากำชับกับโจวซื่อเฉียงเสียงแผ่ว “หากพวกเขาไม่ได้สั่งให้แกลุกขึ้น ก็ห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นแกกับฉันต้องนายทั้งคู่”
โจวซื่อเฉียงทำหน้าจะร้องไห้ให้ได้ ครั้งนี้เขาพลาดไปมากจริงๆ
เมื่อมาถึงห้องโถง หยางฮ่าวดูแลเย่ชิงหยู่และฟางเหยียนอย่างดี ทั้งเสิร์ฟน้ำเทชาไม่ขาดตกบกพร่อง
สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเวินหลาน เธอจ้องมองทั้งคู่ที่ขี่จักรยานไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง ด้วยความวิตกในใจ
แต่ในเมื่อเรื่องทั้งหมดได้เกิดขึ้นแล้ว ก็มีแต่จะต้องเผชิญหน้าเท่านั้น เธอเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างหยางฮ่าว ก่อนกล่าวถาม “ท่านคือประธานหยางใช่ไหม?”
“ครับ คุณคงจะเป็นคุณเวินหลานสินะครับ” หยางฮ่าวกล่าวถาม
เวินหลานราวกับคนละคนกับที่ปฏิบัติของเย่ชิงหยู่เมื่อสักครู่
“ค่ะ ประธานหยาง สวัสดีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกเพื่อจับมือทักทายหยางฮ่าว
หยางฮ่าวแนะนำ “อืม จะจะแนะนำให้รู้จัก ท่านนี้คือคุณเย่ ผู้ร่วมทุนขององค์เราเอง”
เวินหลายเอื้อมแขนหวังจับมือทักทายเย่ชิงหยู่ แต่ฟางเหยียนกลับกล่าวอย่างเย็นชา “พอเถอะ ประธานหยาง เซ็นสัญญาเถอะ”
“ครับครับ!” ประธานหยางขึ้นไปชั้นบนอย่างนอบน้อม
ในเวลานี้เย่ชิงหยู่ไม่ต่างอะไรกับกวางน้อย ที่ทำอะไรไม่ถูก
นายฟางเหยียนทำไมถึงได้จัดการเรื่องราวอย่างใจเย็นจังเลยล่ะ แถมทีท่ายังกับผู้มีอิทธิพล
เมื่อเวินหลานเห็นหยางฮ่าวเดินออกไป เธอยืนอยู่ตรงหน้าเย่ชิงหยู่ด้วยความลำบากใจ “ต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณเย่ เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจ ดิฉันไม่รู้ว่าคุณเย่จะถ่อมตัวถึงเพียงนี้ หากฉันรู้ คงไม่…”
“ชิงหยู่ หลังกลับบ้าน เราทานอะไรดีล่ะ?” ฟางเหยียนตัดคำของเวินหลาน
เย่ชิงหยู่จับจ้องฟางเหยียนด้วยความอึ้งเล็กน้อย เธอยังคงสติหลุดลอยกับภาพที่โจวซื่อเฉียงคุกเข่าเมื่อสักครู่
เมื่อเห็นทีท่าสติไม่อยู่กับตัวของเย่ชิงหยู่ ฟางเหยียนจึงกล่าว “หลังจากที่ได้เซ็นสัญญา เราจะไม่ฉลองสักหน่อยหรือ?”
“นั่นสิ ถ้างั้นนายอยากทานอะไรล่ะ?” เย่ชิงหยู่เอ่ยถามด้วยสติที่ไม่อยู่กับตัว
“ขอเพียงแค่เป็นฝีมือของคุณ ผมอะไรก็ได้” ทั้งคู่สนทนาอย่างสวีทหวาน โดยไม่แยแสเวินหลานที่อยากจะขัดขึ้นหลายต่อหลายหน
ไม่นานหยาบฮ่าวก็หยิบเอกสารลงมา เวินหลานไม่มีโอกาสได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ชายหนุ่มเดินเข้าไปยังเย่ชิงหยู่ พร้อมกล่าว “คุณเย่ ลองอ่านรายละเอียดก่อน มีอะไรที่ไม่พึงพอใจ เราจะเปลี่ยนกันเดี๋ยวนี้เลย”
ตามหลักแล้วเนื้อหาในสัญญาทางซีหนานกรุ๊ปต้องเป็นผู้กำหนด เย่ชิงหยู่ไม่มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงใดๆ
แต่คำพูดของหยางฮ่าว กลับทำให้เย่ชิงหยู่ตกอกตกใจ
เธอดูรายละเอียด ข้อเสนอในนั้นมีผลประโยชน์ต่อเย่ชิงหยู่ทั้งนั้น สามารถบอกได้ว่า สัญญาฉบับนี้ตั้งใจร่างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะก็ย่อมได้!
ฟางเหยียนกระซิบที่ข้างหูของเธอ “คุณดูให้ละเอียด มีตรงไหนอยากจะแก้ไขไหม ประธานหยางจะแก้ให้เราเดี๋ยวนี้”
“ไม่ ไม่มี!” เย่ชิงหยู่วางเอกสารลง ก่อนเอ่ยเสียงแผ่ว “เพียง เพียงแต่….”
หยางฮ่าวเอ่ยถามทันที “คุณเย่ไม่พอใจตรงไหนครับ? ผมจะแก้ไขเดี๋ยวนี้”
“ไม่ไม่ ฉันพอใจมาก เพียงแต่สัญญาฉบับนี้ เหมือนว่าฝ่ายพวกคุณ ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรเลย”
หยางฮ่าวหัวเราะออกมา “นี่เป็นน้ำใจจากคุณหวงครับ ขอเพียงแค่คุณเย่มีความสุข นั่นสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น”
เย่สวนตื่นตระหนกอีกครั้ง ด้วยความไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
“นอกจากนี้ นี่เป็นสัญญาของคุณเวิน คุณแค่เซ็นชื่อก็พอแล้ว ต่อจากนี้สินค้าทั้งหมดของเราจะมีคุณเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของเรา”
ในขณะที่เย่ชิงหยู่กำลังจะเซ็นสัญญา ฟางเหยียนขัดขึ้นเสียก่อน “สัญญาฉบับนี้ไม่มีปัญหาอะไร แต่เราอยากเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์”
“ห๊ะ!” หยางฮ่าวอ้าปากค้าง “แต่ แต่คุณเวินกลานเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของเรามากที่สุดนะครับ เธอมี….”
“ทำไม? มีปัญหาหรือ?” ฟางเหยียนกล่าวถามอย่างบีบบังคับ
หยางฮ่าวปฏิเสธทันควัน “ไม่ ไม่มีปัญหา”
เขาอดดึงสัญญาที่อยู่ในมือของเวินหลานกลับไม่ได้ ส่วนเวินหลาน เธอมีสีหหน้าที่ยากจะคาดเดา
เธอรู้สึกเสียใจ อยากจะย้อนเวลากลับไปยังตอนนี้เธอเพิ่งจะมาถึงซีหนานกรุ๊ป
หลังเซ็นสัญญาจนเสร็จสิ้น ฟางเหยียนจูงแขนของเย่ชิงหยู่ออกจากองค์กร
เวินหลานรู้ดีว่าคนตรงหน้าจะล่วงเกินไม่ได้ แต่เธอก็มีน้ำโห จึงหันไปแว๊ดใส่หยางฮ่าวแทน “ประธานหยาง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมพวกเขาบอกเปลี่ยนก็เปลี่ยนล่ะ? เราได้ตกลงกันแล้วแท้ๆ”
หยางฮ่าวยักไหล่ กล่าวอย่างไร้หนทาง “ขอโทษครับ เราต้องฟังคำสั่งของคุณเย่”
“พวกพวกคุณตกลงกับฉันแล้ว?” เวินหลานเอ่ยอย่างผู้พ่าย
หยางห่าวส่ายหน้า “คุณโวยวายกับผมก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงซะก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญา คุณเวิน ขอเตือนคุณสักหน่อย ทีหลังอย่าเที่ยวดูถูกคนอื่นอีก”
“แก!” เวินหลานต้องการคว้าโอกาสในครั้งนี้เพื่อก้าวไปอีกระดับหนึ่ง
เพื่อโอกาสในครั้งนี้ เธอปฏิเสธสินค้าทุกตัวของเธอ ตอนนี้หลับเป็นแบบนี้ไปได้ เธอจะยอมง่ายๆ ได้ยังไง
“ประธานหยาง คุณช่วยฉันคิดหาหนทางหน่อยจะได้ไหม? ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นผู้ร่วมทุน พวกเขาขี่จักรยานไฟฟ้ามา ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าพวกเขาถ่อมตัวถึงขนาดนั้น”
“นั่นเป็นปัญหาของคุณ คุณต้องหาวิธีแก้ไขเอาเอง ไม่ส่งนะครับ คุณเวิน”
หยางฮ่าวทำทีท่าส่งแขก
เวินหลานเดินออกไปอย่างไร้หนทาง
เมื่อเห็นทั้งหมดออกไปแล้ว หยางฮ่าวถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่สุดก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่เมื่อสักครู่ตกใจแทบแย่
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
“คุณเย่เซ็นสัญญาหรือยัง?” หวงหยวนฉาวเอ่ยถาม
หยางฮ่าวกล่าวตอบ “เซ็นเรียบร้อยแล้วครับ ท่านหวง”
“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“ครับ ผ่านไปได้ด้วยดี ท่านหวง ผมขอถามได้ไหม คนที่อยู่ข้างคุณเย่เป็นใคร? เขาใช่ไหมคนที่ท่าน..”
เขาสังเกตเห็นฟางเหยียนที่ทีท่าไม่ธรรมดานั่นอยู่แล้ว
“สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม ยังไงซะโครงการนี้ต้องรับประกันถึงผลประโยชน์ของคุณเย่ ตงข่ายกรุ๊ปฉันไม่สนใจ ฉันสนใจแค่ผลประโยชน์ที่คุณเย่จะได้รับ”
“ครับ!” หยางฮ่าวปาดเหงื่อที่ผุดขึ้น เมื่อได้ยินเสียงตัดสายของฝ่ายตรงข้าม ถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเย่ชิงหยู่และฟางเหยียนเดินออกมาด้านนอก โจวซื่อเฉียงยังคงคุกเข่าอยู่ รอบด้านมีคนห้อมล้อมอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าโจวซื่อเฉียงจะขายขี้หน้าเพียงใด ก็ไม่กล้าลุกออกจากที่ หากเขาลุกขึ้น ถูกเบื้องบนลงโทษ ต้องตายแน่ๆ
“ทำไมเขาถึงคุกเข่าอยู่ตรงนี้ล่ะ”
“สหาย นายเป็นอะไร? ทำไมถึงได้คุกเข่าอยู่ตรงนี้ล่ะ?”
โจวซื่อเฉียงกวาดสายตาของทุกคนที่จับจ้องเขา ทำได้เพียงก้มหน้าลง นาทีนี้ เขาขายขี้หน้าจนสิ้น เขาไม่รู้จริงๆ ที่ล่วงเกินคนระดับนั้น
“เขา ทำไมเขายังคุกเข่าอยู่อีก?” เย่ชิงหยู่กล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจ