จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 250
แต่ตอนที่เขาจะสิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้าย กลับตกใจสายตานั้นของฟางเหยียนเข้า นั่นคือแววตาที่น่ากลัวกว่าของตนสิบเท่าถึงขั้นร้อยเท่า เดิมทีไม่ถึงกับหมดลมหายใจเดี๋ยวนั้น แต่ภายใต้ความแข็งแกร่งของแววตานั้น ทำให้เขาสิ้นลมไป
ฟางเหยียนรู้สึกว่าไอ้นี่มันตลก คิดว่าแค่แววตาแล้วจะทำให้เขากลัวได้ รับกรรม! ลองถามคนทั่วประเทศหวาดูว่ามีใครกล้าล้างแค้นเขาบ้าง? รับกรรม พูดเรื่องกรรมกับราชา ถ้านี่ไม่ใช่รนหาเรื่องแล้วคืออะไร?
“อ้า!” จู่ๆเซียวฮั่วก็ร้องโอดครวญออกมา แล้วกล่าว “อย่านะ อย่านะ ผมยังวัยรุ่นอยู่ ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลย”
เขาหมุนล้อรถวีลแชร์มาที่ด้านหน้าของฟางเหยียน จับกางเกงของฟางเหยียนไว้ แล้วตะโกน “ผมผมผม ตอนนี้ผมเป็นคนไร้สมรรถภาพ ขอคุณได้โปรด ได้โปรดอย่าฆ่าผมเลยได้มั้ย? เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อก่อน ผมไม่รู้อะไรเลยนะ ผมไม่รู้อะไรเลยจริงๆ พ่อผมกับคุณปู่ของผมเป็นคนทำ พวกเขาทำทั้งหมด พวกเขาต่างหากที่ทำร้ายเย่เทียน ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลยนะ”
ฟางเหยียนมองเขาอย่างไม่แยแส แล้วกล่าว “พอแล้ว! จัดการ!”
เมื่อพูดประโยคนี้จบ ฟางเหยียนมาที่ด้านหน้าของเย่ชิงหยู่ ยิ้มออกมาแล้วกล่าว “ชิงหยู่ ไปกันเถอะ!”
ฟางเหยียนไม่รอเย่ชิงหยู่แสดงท่าทางใดๆ ก็เอื้อมมือไปจับแขนของเย่ชิงหยู่ ตอนนี้ ทำให้เย่ชิงหยู่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เธอขนลุกขึ้นมาทันใด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าฟางเหยียนแปลกหน้าได้ขนาดนี้นี้ เยือกเย็นอย่างนี้ แต่ในหัวของเธอนั้นมึนงง ไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรดี จากนั้นก็ถูกฟางเหยียนลากออกไปแบบนี้
เพิ่งออกจากคฤหาสน์ตระกูลเซียวไม่นาน ลมเบาๆพัดกระทบใบหน้าของเย่ชิงหยู่ ตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมา
แต่เมื่อสังเกตดูดีๆ ทั้งสองได้มาถึงถนนเส้นหลักเส้นนั้นที่อยู่ด้านนอกของคฤหาสน์ตระกูลเซียวแล้ว
แสงไฟสลัวสอดส่องที่ทั้งคู่ ช่วงนาทีนี้ไม่มีความโรแมนติก มีเพียงแต่ความสงสัยและความหวาดกลัว
เธอมองไปยังมือที่วางอยู่บนแขนของเธอ ดิ้นหลุดอย่างแรง ฟางเหยียนชะงัก หันกลับมาดูเย่ชิงหยู่แล้วถาม “เป็นอะไรเหรอ? ชิงหยู่!”
เย่ชิงหยู่สะอึกสะอื้น เงยหน้ามองฟางเหยียนด้วยสีหน้าซีดเซียวแล้วถาม “คุณ คุณ คุณเป็นใครกันแน่?”
เธอรู้ว่าตัวตนของฟางเหยียนนั้นแปลกประหลาด แต่เการฆ่าคนเรื่องนี้ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงฆ่าคนนั้นผิดกฎหมาย คิดไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะฆ่าคน และไม่ใช่แค่คนเดียวเท่านั้น ฆ่าไปสองคน ไม่สิ ไม่ใช่แค่สอง ฆ่าไปเยอะแล้ว
ต่อให้ฝันยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าฟางเหยียนจะฆ่าคนได้อย่างนิ่งสงบขนาดนั้น ตัวตนของฟางเหยียนเมื่อสักครู่นี้ เหมือนกับเพชฌฆาต
ฟางเหยียนยิ้มอย่างใจดีออกมา เทียบกับคนที่กระทำต่อตระกูลเซียวเมื่อกี๊ต่างกันอย่างกับคนล่ะคน เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าของเย่ชิงหยู่ ลูบบนใบหน้าเธอ แล้วกล่าว “ผมคือฟางเหยียน สามีของคุณไง!”
เห็นหน้าตาทะเล้นของฟางเหยียน ทำให้เย่งชิงหยู่หวาดกลัว ที่น่ากลัวไม่ใช่ฟางเหยียน แต่เป็นการเสแสร้งของเขา ใช่ ในใจของเย่ชิงหยู่ สิ่งที่ฟางเหยียนทำเพื่อเธอมาทั้งหมด มันเป็นแค่การเสแสร้งเท่านั้น
สันดานที่แท้จริงของเขาคือแบบนั้นตอนเมื่อสักครู่นั้นต่างหาก ฆ่าคนมากมาย อย่างเลือดเย็น
เธอผลักตัวฟางเหยียนออกอย่างรุนแรง ตัวสั่นแล้วถาม “คุณเป็นใครกันแน่? ตัวตนจริงๆของคุณเป็นใครกันแน่?” ตอนที่ถาม ร่างกายของเธอถอยหลังไปเรื่อยๆ
เมื่อฟางเหยียนเห็นน้ำตาในเบ้าตาของเธอ ก็ยืนอยู่กับที่ เขารู้ว่าตนต้องทำร้ายผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน สิ่งที่เขาไม่อยากเห็นที่สุด ก็คือหญิงสาวคนนี้ต้องเจ็บปวดเพราะเขา
หลังจากที่เงียบไปหลายวินาที เขาสะอื้นออกมา จากนั้นก็กล่าวว่า “ความจริงที่ผมไม่บอกคุณ เพราะกลัวคุณรับไม่ไหว แต่มาถึงตอนนี้ งั้นผมบอกคุณก็แล้วกัน! ความจริงแล้ว ผมคือพลตรีของสำนักเจ็ดพิฆาตแห่งประเทศหวา สมญานามว่าจอมพลโผ้จวิน”
เย่ชิงหยู่ขมวดคิ้ว พลตรีของสำนักเจ็ดพิฆาตแห่งประเทศหวา สมญานามว่าจอมพลโผ้จวิน! พลตรี? ไม่ เป็นไปได้ยังไงกัน ฟางเหยียนวัยรุ่นขนาดนั้น เขาจะเป็นพลตรีได้อย่างไรกัน? เธอส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อแล้วกล่าว “ไม่ เป็นไปไม่ได้!”
ฟางเหยียนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตรียมจะก้าวไปข้างหน้าเพื่ออธิบาย แต่เย่ชิงหยู่รีบถอยหลังไป ยกมือขึ้นแล้วกล่าว “คุณ คุณอย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา! ให้ฉันทำใจหน่อย ให้ฉันทำใจหน่อย”
ฟางเหยียนหยุดอยู่กับที่อีกครั้ง เห็นเพียงเย่ชิงหยู่ที่มองฟางเหยียนอย่างประหลาดใจ มองตั้งแต่หัวจรดเท้า จากซ้ายไปขวา ราวกับกำลังมองคนแปลกหน้าอยู่
เย่ชิงหยู่รับฟางเหยียนที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้จริงๆ มือทั้งสองข้างของเขาเต็มไปด้วยเลือด และเคยฆ่าคนมาก่อน!
เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาทั่วไป แล้วจะรับฟางเหยียนที่ฆ่าคนยืนอยู่ตรงหน้าของเธอได้อย่างไรกัน
ฟางเหยียนเห็นเย่ชิงหยู่เป็นอย่างนั้น จึงกล่าวอย่างอดทนว่า “ความจริงผมก็อยากให้คุณรู้ตัวตัวของผมตั้งแต่แรกแล้ว แต่ผมเห็นคุณไร้เดียงสาขนาดนั้น จึงไม่บอกคุณ ช่วงเวลาห้าปีที่ผมไปเป็นทหาร มีสี่ปี ผมใช้ชีวิตที่กองทัพ กองทัพที่ว่า ก็คือสงคราม! ในสงคราม ผมได้รับรางวัลเกียรติยศมามากมาย ถูกเรียกขานว่าผู้นำ นั่นก้หมายถึง คุณคือภรรยาของพลตรีแห่งประเทศหวาจริงๆ ตอนงานเลี้ยงวันเกิดของคุณ ผู้คนที่ปรากฏกายเหล่านั้น รองผู้นำพวกนั้น เป็นลูกน้องของผมทั้งหมด”
“ไม่!” เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าที่งงงวยอย่างรุนแรงแล้วกล่าว “คุณอย่าเพิ่งพูดอะไร ฉันถามอะไรคุณก็ตอบอย่างนั้น!”
“ได้!” ฟางเหยียนตอบอย่างตรงไปตรงมา
เย่ชิงหยู่สะอึกสะอื้น แล้วถาม “คุณกลับมาทำไม?”
“เพราะผมรู้ว่าลุงเย่จากไปแล้ว และผมไล่กองทัพต่างชาติทั้งหมดไปได้แล้วพอดี ดังนั้นจึงกลับมา!” ฟางเหยียนพูดอย่างตรงไปตรงมา “ที่ผมกลับมา ก็เพื่อมาปกป้องคุณ และกลับมาเพื่อล้างแค้นให้ลุงเย่”
“คุณรู้ตั้งนานแล้วว่าตระกูลเซียวบีบพ่อฉันจนตาย ใช่มั้ย?” เย่ชิงหยู่ถาม
ฟางเหยียนพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ ตั้งแต่ที่ผมกลับมา ผมก็รู้แล้ว”
นัยน์ตาของเย่ชิงหยู่เต็มไปด้วยน้ำตา น้ำตาเหล่านั้นได้ไหลผ่านใบหน้าลงมา เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วถามอีก “งั้นทำไมคุณถึงไม่บอกฉัน?”
ฟางเหยียนตอบอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม “ผมไม่อยากทำร้ายคุณ บอกคุณก็ไม่มีประโยชน์อะไร ชิงหยู่ ที่ลุงเย่ไม่บอกเรื่องพวกนี้กับคุณ ก็เพราะอยากให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่โดนเรื่องเหล่านี้รบกวนชีวิตประจำวัน”
คำตอบนี้เหมือนกับคำตอบเดียวกับแม่ของเธอ ก็คือไม่อยากทำร้ายตัวเอง เย่ชิงหยู่ร้องไห้ออกมา แล้วถาม “เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตระกูลเซียว เป็นฝีมือของคุณทั้งหมดเลยมั้ย?”
ฟางเหยียนพยักหน้า แล้วกล่าว “ใช่ ฝีมือของผมทั้งหมด! กรรมตามสนองตระกูลเซียว”
แว็บเดียวถามไปเยอะ สมองเริ่มมึน เย่ชิงอยู่ถามอย่างจับพลัดจับผลูว่า “แล้วคุณคือพลตรีอะไรนั่นจริงมั้ย?”
“ใช่!” ฟางเหยียนตอบ “ผมคือพลตรีของประเทศหวา คุณคือภรรยาของพลตรีแห่งประเทศหวา”
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้ ยุคนี้แล้วจะมีสงครามให้ต่อสู้ที่ไหนกัน ยุคนี้แล้วจะต้องทำสงครามได้อย่างไรกัน! ไม่ใช่ คุณโกหกฉัน คุณต้องกำลังโกหกฉันอยู่แน่ๆ ฟางเหยียน เพราะคุณฆ่าคน จึงได้แต่งเรื่องโกหกแบบนี้ขึ้นมาหลอกฉันใช่มั้ย คุณไม่ใช่พลตรีแม้แต่น้อย ใช่มั้ย?”
“ไม่ ผมนี่แหละพลตรีโจมพลโผ้จวิน!” ฟางเหยียนตอบอย่างเด็ดขาด