จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 259
“ยินดีกับรองผู้นำเทียนขุนที่ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างสบายๆ เมื่อพูดจบก็ยิ้มให้
ระดับต้าชี่ เป็นระดับต้าชี่แล้วจริงๆ! นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับต้าชี่ได้แล้ว!
เทียนขุยซาบซึ้งจนคุกเข่าลงอีกครั้ง เป็นการคุกเข่าครั้งที่สามหลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้ว การคุกเข่าในครั้งนี้เหตุผลไม่ธรรมดา ชายที่ราวกับเทพที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้ดึงเขาออกมาจากความตาย จากนั้นยังทำให้ตัวเองกลายเป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่อีกด้วย! นอกจากเขาจะเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาแล้ว ยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาอีกด้วย
การคุกเข่าในครั้งนี้ คุกเข่าเพื่อการแนะนำ ถ้าไม่มีเขา แล้วตนจะประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่ได้อย่างไรกัน!
ความยากในการเลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่นั้น ยากเกิดกว่าจะบรรยายได้ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สุดๆในชีวิตตน
ฟางเหยียนมองเทียนขุยที่คุกเข่าลงกับพื้น เขาเข้าใจความคิดของเทียนขุยในตอนนี้ ว่านอกจากซาบซึ้งแล้วก็คือซาบซึ้ง เทียนขุยเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ และในตอนที่ได้เลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่ ต้องการการแสดงความยินดีจากคนอื่นที่สุด
ฟางเหยียนเข้าใจว่าชายผู้โดดเดี่ยวคนนี้ต้องการอะไร? เขาโค้งตัวลงไปลากแขนของเทียนขุย แล้วกล่าว “เทียนขุย คุณเป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่แล้ว ไม่ต้องคุกเข่าอีกต่อไป ยืนขึ้นเถอะ!”
เทียนขุยกล่าวอย่างหนักแน่น “จอมพลโผ้จวิน ผมเกิดมาเพื่อจอมพลโผ้จวิน ตายเพื่อปกป้องจอมพลโผ้จวิน เกิดมาเป็นคนของจอมพลโผ้จวิน ตายก็เป็นผีของจอมพลโผ้จวิน! ชาตินี้เพื่อจอมพลโผ้จวิน ลำบากแค่ไหนผมก็ยอมครับ!”
เมื่อพูดจบ สายตาทั้งสองของเทียนขุยซาบซึ้งจนน้ำตาไหลออกมา การที่ตนเลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่ได้นั้น ก็ไม่ใช่ว่าพึ่งจอมพลโผ้จวินทั้งหมดเหรอ ถ้าไม่มีจอมพลโผ้จวิน แล้วเขาจะมีโอกาสเลื่อนขั้นเป็นระดับต้าชี่ได้อย่างไรกัน สามสิบกว่าปี ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ สำหรับเทียนขุยแล้ว เป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายออกมาได้อย่างไร
“เทียนขุย!” ฟางเหยียนก้มลงมาพยุงเทียนขุยขึ้นมา แล้วกล่าว “จำไว้ ว่าตัวเองต้องฆ่าอ๋าวไท่!”
เทียนขุยยิ่งซาบซึ้งมากขึ้นไปอีก เขาอยากฆ่าอ๋าวไท่อยู่แล้ว แม้แต่ในความฝันก็ยังอยากฆ่าเลย
ไอ้นั่น ทำลายมือทั้งสองข้างของเขา แล้วเขาจะให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรกัน! มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป!
เขาพยักหน้าอย่างแน่วแน่แล้วกล่าว “ครับ จอมพลโผ้จวิน ผมจะต้องฆ่าอ๋าวไท่ด้วยฝีมือของเขาเอง”
“ไปกันเถอะ!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างสงบ จากนั้นหันหลังเดินออกจากห้องพักฟื้นไป
ด้านนอกโรงพยาบาลได้ยินเสียงสะเทือนฟ้าดินที่ดังมาจากด้านใน กลับไม่รู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น แต่จากประสบการณ์ของพวกเขา จะต้องเกิดการต่อสู้ขนาดใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน การต่อสู้นี้ไม่น้อยไปกว่าสงครามขนาดเล็กเลย
ซ่งฉาวอู่ไม่เคยสู้รบ แต่เคยซ้อมรบมาบ้าง แต่การซ้อมรบก็แค่การซ้อมรบเท่านั้น การต่อสู้เมื่อกี๊จะต้องมหัศจรรย์อย่างแน่นอน เสียดาย ที่ไม่ได้เห็น
“อ้อ ในโรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิดมั้ย?” ซ่งฉาวอู่ถามพยาบาลหน้าซีดคนเมื่อกี๊
พยาบาลร้องอ้าออกมา สะอึกสะอื้นแล้วกล่าว “มีค่ะ มีตรงทางเดิน แต่ในห้องพักฟื้นไม่มีค่ะ”
“เฮ้อ!” ซ่งฉาวอู่อุทานออกมา
พยาบาลสาวถามอย่างกล้าๆกลัวว่า “จอมพลซ่ง มิทราบว่าคนนั้นคือใครเหรอคะ?”
ซ่งฉาวอู่มองพยาบาล แล้วกล่าว “ถ้าไม่รู้ก็อย่ารู้เลย ถามมากไปทำไมกัน”
ในขณะเดียวกันนี้เอง มีคนสองคนเดินออกมาจากประตูนั้น ผู้ที่เดินนำหน้าคือฟางเหยียน ผู้ที่เดินตามหลังคือเทียนขุยอย่างแน่นอน ตอนแว็บนั้นที่เห็นเทียนขุย พยาบาลตกใจจนร้องอ้าออกมา จากนั้นก็จับแขนของซ่งฉาวอู่อย่างแน่นๆ
ฟางเหยียนเดินตรงที่มาซ่งฉาวอู่ ซ่งฉาวอู่ตะเบ๊ะตัวตรง แล้วกล่าว “พบกันใหม่ครับท่านผู้นำ พบกันใหม่ครับรองผู้นำ!”
เสียงตะโกนของซ่งฉาวอู่ ทหารที่ล้อมรอบต่างยืนตรง แล้วตะเบ๊ะ จากนั้นก็ตะโกน“พบกันใหม่ครับท่านผู้นำ พบกันใหม่ครับรองผู้นำ!”
สำหรับเหตุการณ์แบบนี้ ฟางเหยียนเห็นจนเคยชิน เขาเอื้อมมือมาตบไหลซ่งฉาวอู่ แล้วกล่าวอย่างลึกซึ้งว่า “ผมหวังว่าคุณจะเป็นผู้นำที่ดีที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆคนหนึ่ง!”
วัยรุ่นอยู่แท้ๆ ตอนที่พูดประโยคนี้ กลับเหมือนเป็นรุ่นพี่ของซ่งฉาวอู่ก็มิปราณ!
ซ่งฉาวอู่ไม่กล้าผ่อนลมหายใจหนัก ตะโกนออกมาเสียงดังว่า “ครับ! น้อมรับคำสั่งผู้นำ ทำเพื่อประชาชน”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไรอีก แล้วเดินออกจากโรงพยาบาลไป ออกไปจากสายตาของผู้คน
เทียนขุยอยู่ด้านหลังของฟางเหยียน แล้วถาม “จอมพลโผ้จวิน เราจะไปไหนกันเหรอครับ?”
ฟางเหยียนตอบ “ไปพักผ่อนที่รีสอร์ทหยูฉวน ที่นั่นไม่เลวเลยนะ! ตอนนี้คุณเป็นระดับต้าชี่แล้ว ต้องการสถานที่ดีๆแบบนี้ในการฝึกฝน”
รีสอร์ทหยูฉวนเป็นสถานที่พักผ่อนที่ทั้งสองคนมาหนานหลิงครั้งที่แล้ว!
เทียนขุยขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ไม่กลับจินโจวเหรอครับ?”
ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “ตระกูลเซียวล่มสลายแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องกลับไปแล้ว ผมมีเบาะแสบางอย่างขององค์กรที่ฆ่าเทียนหม่าแล้ว พวกเราอยู่ที่หนานหลิงเพื่อรอพวกมันปรากฏตัวออกมาล่ะกัน!”
“อะไรนะ? ท่านล้างบางตระกูลเซียวแล้ว?” นี่เป็นข่าวที่ไม่คาดฝันสำหรับเทียนขุยจริงๆ สลบไปหลายวัน ไม่คาดคิดว่าจะล้างบางตระกูลเซียวได้แล้ว นี่มันค่อนข้างเหนือความคาดหมาย
พูดให้ถูกก็คือ ฟางเหยียนสามารถล้างบางตระกูลเซียวได้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่เขาไม่ได้ทำ ปล่อยมาถึงตอนนี้ ถือว่าให้โอกาสตระกูลเซียวได้หายใจ!
ฟางเหยียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองจินโจวให้เทียนขุยฟัง หลังจากฟังจบแล้ว เทียนขุยถามว่า “งั้น องค์กรนินจาที่ท่านว่าจะเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลเซียวหรือเปล่า?”
ฟางเหยียนส่ายหน้า แล้วกล่าว “น่าจะไม่ใช่ นี่เป็นเพียงองค์กรที่ดูแลนินจาของประเทศหวาทั้งหมดเท่านั้น พวกเขาไม่อนุญาตให้มีองค์กรนินจาที่แข็งแกร่งเกินไปบนโลกนี้ เมื่อไหร่ที่องค์กรแบบนี้กระทบต่อความปลอดภัยของประเทศหวาเมื่อไหร่ ก็จะใช้คนขององค์กรนินจาออกโรงมาขัดขวาง! องค์กรนินจาจะดูแลเฉพาะองค์กรนินจาระดับสูงเท่านั้น!”
“งั้น องค์กรอะไรที่กำลังควบคุมอยู่ล่ะครับ?” เทียนขุยถามด้วยความงง
“เพลิงเสวน!” ฟางเหยียนพูดออกมาสองคำ แล้วได้เล่าเรื่องที่หลัวเทียนเย่ว์บอกกับตัวเองให้เทียนขุยฟัง
หลังจากที่ฟังจบเทียนขุยพยักหน้ารู้ได้ทันที “ไม่คาดคิด ว่าช่วงที่ผมไม่อยู่เมืองจินโจวจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้ จอมพลโผ้จวิน ต่อไปเทียนขุยจะไม่มีทางทำให้วุ่นวายแบบนี้แล้วครับ”
“เหอะเหอะ!” ฟางเหยียนยิ้มอย่างสงบ “ไม่เป็นไร ยังไงตอนนี้คุณก็เป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่แล้ว! ประเทศหวา คุณมีฝีมือที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะเทียบได้”
“ผมคือผู้ใต้บังคับบัญชาของจอมพลโผ้จวินตลอดไปครับ! ผมเกิดมาเพื่อจอมพลโผ้จวิน ตายเพื่อปกป้องจอมพลโผ้จวิน! คนของสำนักเจ็ดพิฆาตของเราเป็นคนของจอมพลโผ้จวินตลอดไป ไม่ว่าจะมีฝีมือมากขนาดไหน ก็จะทำเพื่อท่านจอมพลโผ้จวินเพียงผู้เดียว!”
“ไม่รู้ว่าองค์นินจามีลักษณะยังไง?” ฟางเหยียนเหมือนกำลังพึมพำกับตัวเอง!
เสียงพูดคุยของทั้งคู่ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ ที่ท้องฟ้าอันแสนไกล ราวกับมีแสงกะพริบของอะไรบางอย่าง รวมดาวทั้งเก้าดวงเข้าด้วยกัน
แต่ทว่า ไม่มีใครรู้ ว่านี่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น!
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้เกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ของประเทศหวา!