จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 303
เขาไม่ได้ทำให้ถังเสี่ยนจงอับอาย เขาฉลาดมาก ที่ตอนนี้ไม่พูดถึงคำพูดเสียดแทงเขาในตอนนั้นออกมา แล้วยังชื่นชมตนอีก ถือว่าได้ยกระดับและคุณค่าที่มีในตัวของตัวเองให้สูงขึ้น
“ที่แท้ก็แกนั่นเอง!” ถังเสี่ยนจงพูดเหมือนพูดกับตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
ชายหนุ่มหยักหน้าอย่างตั้งใจแล้วกล่าว “ใช่ครับ ผมเอง ปู่ถัง!”
เมื่อพูดจบ จู่ๆเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น กำหมัด แล้วกล่าวด้วยความจริงใจว่า “ปู่ถัง วันนี้ที่ผมมา นอกจากจะมาอวยพรท่านแล้ว ผมยังมาสู่ขอด้วยครับ ผมหวังว่าปู่ถังจะอนุญาตให้ถังยู่แต่งงานกับผม!”
ในงานครึกครื้นขึ้น สู่ขอ!ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้มาอย่างเอิกเกริกก็เพื่อสู่ขอคุณหนูของตระกูลถัง นี่เป็นวันมงคลวันหนึ่ง สู่ขอคุณหนูถังตอนนี้ เป็นโชคสองชั้นแน่นอน!
เด็กคนนี้วัยรุ่นมีความสามารถ อายุยังน้อยก็เป็นราชานักล่าแห่งเอเชียได้แล้ว กลายเป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเอเชีย ราชาแห่งทหารรับจ้าง ถือเป็นคนเก่งแห่งยุค
คุณหนูตระกูลถังสวยสดงดงาม สาวสวยคู่กับวีรบุรุษ ทั้งคู่เหมาะสมกันที่สุด!
ตระกูลถังเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหนานหลิง อยากได้อำนาจก็ได้ อยากได้เงินก็ได้ แล้วถ้ามีลูกเขยแบบนี้อีก ก็เหมือนเสือติดปีกเลยล่ะ!ถึงตอนนั้นตระกูลถังจะยิ่งสูงศักดิ์ขึ้นไปอีก แข็งแกร่งขึ้นไปอีก เพราะ พวกเขามีการสนับสนุนจากกลุ่มทหารรับจ้าง
ในงานมีคำจำนวนไม่น้อยเริ่มอิจฉาตระกูลถังขึ้นมาแล้ว นี่ตระกูลถังกำลังจะทะยานขึ้นแล้วใช่มั้ย?หรือนี่กำลังจะสูงส่งเท่ากับตระกูลฟางแล้วงั้นเหรอ?พระเจ้า ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ มันช่างน่าตั้งหน้าตั้งตารอจริงๆ!
ถังเสี่ยนจงยืนบนเวที ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ประโยคนี้มาโดยกะทันหัน ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน สู่ขอ ใช้การอวยพรตัวเองเป็นข้ออ้าง แต่ความจริงแล้วเพื่อต้องการมาสู่ขอหลานสาวของตน
แต่ไม่นานเขาก็รวบรวมความคิดได้ ปีนี้ถังยู่อายุยี่สิบสองปีแล้ว ถึงเวลาที่ต้องแต่งงานแล้ว ถ้าสามารถแต่งงานกับผู้ชายที่มีอำนาจบารมีแบบนี้ได้ ก็ไม่ต้องคิดมากกับครึ่งชีวิตที่เหลือแล้ว หลังจากที่กังวลกับหลานสาวมาทั้งชีวิต วันนี้เธอเจอผู้ชายที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้แล้ว ทำให้ถังเสียนจงสบายใจได้แล้วจริงๆ
นอกจากนี้ ถ้าถังยู่ได้แต่งงานกับเย่เฟย ตระกูลถังก็จะกลายเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่หนานหลิง การที่มีเบื้องหลังเป็นกลุ่มทหารรับจ้าง สำหรับตระกูลถังแล้ว เป็นข่าวดีที่น่าดีอกดีใจเป็นอย่างมากจริงๆ!
เห็นถังเสี่ยนจงไม่พูดอะไร เย่เฟยจึงขมวดคิ้ว เขากล่าวต่ออีกว่า “ปู่ถัง ผมคบกับถังยู่มาหกปีแล้ว เริ่มตั้งแต่คนรู้จักเป็นเพื่อนกันและเป็นคนรู้ใจ เราคบกันมาหกปีแล้ว ตอนที่ผมยังไม่มั่นคง ผมไม่กล้ามาสู่ขอจริงๆ เพราะผมรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับถังยู่ ต่อให้เป็นตอนนี้ก็ยังไม่คู่ควร แต่ผมสาบาน ว่าผมจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ปกป้องถังยู่ ผมจะทุ่มเททุกอย่างให้เธอ! ขอปู่ถังได้โปรดเติมเต็มเย่เฟยด้วยเถอะครับ”
เย่เฟยยกมือข้างหนึ่งขึ้นทำท่าสาบาน มองไปที่ถังเสี่ยนจงอย่างจริงใจ
ทุกคนกำลังรอคำตอบของถังเสี่ยนจงอยู่ ทุกคนล้วนคาดเดาว่าเขาไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน และไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธด้วย ปัจจัยของเย่เฟย คอยอำนวยให้ทุกอย่าง ตระกูลถังเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของหนานหลิง และเย่เฟยตอนนี้เป็นราชานักล่าแห่งเอเชีย ราชาของทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในงานวันเกิดของถังเสี่ยนจง สำหรับตระกูลถังแล้วถือเป็นโชคสองชั้น
หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ถังเสี่ยนจงได้มองไปที่หลานสาวของตัวเองถังยู่
ใบหน้าของถังยู่ซับซ้อนจนไม่สามารถใช้คำพูดอธิบายออกมาได้ แววตาของเธอจ้องไปที่เย่เฟยอย่างซับซ้อนวุ่นวาย
ถังเสี่ยนจงไม่รู้ว่าถังยู่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่มีทางบีบให้ถังยู่ตัดสินใจอะไรอีกแล้ว นี่คือหลานสาวที่เขารักมากที่สุด เสียพ่อไปตั้งแต่ยังเด็ก เขาไม่มีทางบีบให้เธอทำอะไรแน่นอน ดังนั้นจึงได้พูดกับเย่เฟยว่า “ในยุคนี้แล้ว พวกแกตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน เรื่องสู่ขอของแกก็ต้องได้รับการยินยอมจากถังยู่ถึงจะได้ ฉันไม่มีอะไรจะพูดอยู่แล้ว”
นี่เป็นคำพูดที่ตรงจุดมาก ต้องให้หลานสาวของตัวเองยินยอม ไม่งั้นตนพูดก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้สไตล์ของตระกูลถังจะเป็นแบบโบราณ แต่ด้านความคิดกลับทันใหม่เป็นอย่างมาก ไม่เหมือนตระกูลในยุคโบราณที่ฟังคำพูดของแม่สื่อ ฟังคำสั่งของพ่อแม่ อย่างถังยู่ที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณปู่ ก็ต้องฟังคำพูดของคุณปู่
แต่ทุกคนกลับไม่คิดว่ามีอะไรที่ต้องให้คิดมาก คำพูดของถังเสี่ยนจงก็เป็นตัวอย่างแล้ว เมื่อสามปีก่อนถังยู่ได้พาเขากลับมาที่บ้าน แล้วยังทำเลาะกับตนเพราะเรื่องที่ตนด่าเขาอีกด้วย ไม่กลับมาสองวัน ก็รู้แล้วว่าหนุ่มคนนี้สำคัญกับเธอขนาดไหน วันนี้เขามาสู่ขอถึงที่ คนที่น่าจะมีความสุขที่สุดก็คือถังยู่!
ถังยู่ไม่มีทางปฏิเสธเขาคนนี้แน่นอน!นี่เป็นความคิดในใจของถังเสี่ยนจง
เมื่อได้ยินคำพูดของถังเสี่ยนจง เย่เฟยก็ค่อยๆหันไปมองหน้าเล็กๆของถังยู่ที่ขยับไปมา เมื่อแววตาของเขามองไปที่ถังยู่ ก็เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึก เขาชอบถังยู่จริงๆ ในถิ่นของเขา มีสาวสวยมากมาย สาวสวยเหล่านั้นต่างถวายตัวถึงที่อย่างฟรีๆ แต่หญิงสาวพวกนั้นไม่มีใครเติมเต็มจิตใจของเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว เพราะในใจของเขามีหญิงสาวเพียงผู้เดียว นั่นก็คือถังยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะถังยู่ เขาก็ไม่มีทางฝ่าอันตรายพากองทัพมายังประเทศหวาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งความตาย
เขามองไปยังถังยู่ที่น้ำตาไหลรินอย่างจริงใจ แล้วกล่าว “เสี่ยวยู่!คุณมักจะถามผมบ่อยๆว่าผมทำอะไร ทำไมทุกครั้งเวลาตอบข้อความของคุณมักจะตอบช้า เมื่อก่อนผมไม่ได้บอกคุณ ก็เพราะว่าผมไม่อยากให้คุณเป็นห่วง วันนี้ ผมจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณฟัง”
“ช่วงหลายปีมานี้ที่ผมจากไปผมได้เผชิญกับเรื่องที่คนทั่วไปไม่มีทางเข้าใจได้ เดิมทีผมก็หวังเหมือนกับวัยรุ่นมากมายทั่วไปที่ไปต่างประเทศ เพื่อหาโอกาส แต่ตอนที่ผมเพิ่งถึงต่างประเทศ เพราะอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย จึงถูกหลอก ผมถูกหลอกไปในที่ๆไกลโพ้น พวกมันขังผมไว้ในห้องเล็กมากห้องหนึ่ง ที่นั่นทำได้แค่คุกเข่าเท่านั้น ถึงขั้นนอนไม่ได้ ที่นั่นไม่มีแสงสว่าง ไม่มีคน มีเพียงความเงียบสงัด!ผมไม่รู้ว่าตัวเองถูกขังอยู่นานเท่าไหร่ถึงได้ออกมา ตอนนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนเย็นชา แต่ผมมีความเชื่อ ความเชื่อที่คุณมอบให้กับผม ทำให้ผมเข้มแข็งจนข้ามผ่านเวลาอันน่ากลัวนั้นมาได้!”
“ต่อมา พวกมันบีบให้ผมฆ่าคน บีบให้ผมทำเรื่องที่ผมไม่อยากทำ ตอนนั้น ผมอยากฆ่าตัวตายเพื่อปริชีวิตตัวเองเสีย เพราะชีวิตแบบนั้นไม่ใช่ชีวิตของมนุษย์ หนึ่งวินาทีก่อนยังเป็นเพื่อนคนที่กินอยู่ด้วยกัน เผชิญอะไรไปพร้อมๆกัน แต่วินาทีต่อมา ผมต้องฆ่าเขาด้วยน้ำมือของตัวเอง ความรู้สึกแบบนั้น ทำให้ผมสะดุ้งตื่นตอนนอนอยู่นาน ช่วงเวลานั้นเป็นฝันร้ายของผม ในตอนนั้น ผมอยากฆ่าตัวตายมาก แต่เมื่อคิดถึงคุณ คุณมอบแรงบันดาลใจอย่างมหาศาลให้ผม รอยยิ้มพริ้มเพราของคุณทำให้ผมเดินไปได้จนสุดทาง นั่นเป็นช่วงเวลาครึ่งปีที่ผมหายไป ประสบการณ์ในช่วงครึ่งปีนั้นทำให้ผมกลายเป็นนักฆ่าอันเลือดเย็น!”