จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 309
ตระกูลถังไม่มีปัญหา แต่ถังยู่ปฏิเสธเขาแล้ว!นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของเขา เดิมทีเขาคิดว่าหญิงสาวคนนี้จะรอเขาตลอดมา ใครจะไปรู้ว่าจะจบแบบนี้
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงทำตามแผนสอง พาคนที่มาทั้งหมดจัดให้เป็นแถว เขาจะฆ่าคนที่ถังยู่ชอบ จากนั้นค่อยพาเธอไป ของๆเขา ไม่ว่าใครก็ทำลายไม่ได้ ความผิดทั้งหมดเขาไม่มีทางโยนให้ถังยู่ แต่เขาจะโยนให้คนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมา แล้วถังยู่จะไม่อยู่กับเขาเหรอ?
ดังนั้นเขาทำได้เพียงฆ่าคนนั้น มีเพียงฆ่าคนนั้น เขาจึงจะพาถังยู่ไปได้อย่างสบายใจ ไม่งั้น จากสถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้เขาพาถังยู่ไป ใจของถังยู่ก็ไม่มีทางเป็นของเขา ทำได้เพียงทำลายความคิดที่อยู่ในใจของถังยู่ เธอถึงจะกลับใจ แล้วกลับไปใช้ชีวิตอย่างเมื่อก่อนได้
หัวหน้าทีมของทีมบังคับใช้กฎหมายหนานหลิงหน้าถอดสี ถุงใต้ตาที่อยู่ใต้ตาของเขากระตุก กล้ามเนื้อบนใบหน้าก็กระตุกด้วยเช่นกัน เขากลัวมาก แต่เขาจะขี้ขลาดไม่ได้!นี่เป็นหลักการของคนที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะรู้กัน เจอกับปัญหาห้ามขี้ขลาดเป็นอันขาด ถ้าขี้ขลาด ตัวเองก็จะแพ้ไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
เขากัดฟันกล่าวอย่างแข็งกร้าวว่า “กล้าเหรอ!ถ้าคุณกล้ายิงผม ผมรับประกันได้เลยว่าคุณจะไม่ได้ออกจากหนานหลิงแน่ ต่อให้คุณเก่งกาจ ออกจากหนานหลิงได้ กองกำลังระดับภูมิภาคของประเทศหวาก็ไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่ ถึงตอนนั้นกองกำลังระดับภูมิภาคของประเทศหวาจะล้อมคุณไว้อย่างแน่นหนาแล้วฆ่าคุณทิ้งเสีย!ทำลายทุกอย่างที่เป็นของคุณ!”
เย่เฟยเป็นเพียงหัวหน้าของทหารรับจ้าง ต่อให้ถูกขนานนามว่าเป็นราชานักล่าแห่งเอเชีย กลุ่มทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย เขาก็ไม่กล้าทำร้ายบุคคลสำคัญของประเทศหวา ถ้าเขากล้าทำร้ายบุคคลสำคัญของประเทศหวา ก็จะต้องเจอกับการล้อมปราบของประเทศหวาแน่นอน
เย่เฟยรู้เรื่องนี้ดี เขาก็ไม่มีทางฆ่าคนนี้จริงๆหรอก แต่ในสถานการณ์ที่เขาได้เปรียบแบบนี้ เขาจะยอมแพ้ได้อย่างไรกัน ด้วยเหตุนี้เอง เขาดูแคลน แล้วกล่าว “คุณคิดว่าผมกลัวเหรอ?มากสุดก็สู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง!ยังไงไอ้พวกขี้เมาหยำเปของกองทัพหนานหลิงเหล่านี้ของพวกคุณ ก็ขวางการเข่นฆ่าของผมไม่ได้ ผมฆ่าคุณ ก็มีเวลาเพียงพอในการหนี ถ้าไม่ได้วางแผนมาล่วงหน้า คุณคิดว่าผมจะกล้าทำแบบนั้นมั้ย?”
ถ้ากล้าจริงจะไม่พูดมากขนาดนั้น ถ้าพูดมากขนาดนั้น ก็หมายถึงเข้าไม่กล้าทำแบบนั้น มันต้องเสียสละมากเกินไป เขาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน เขายอมฆ่าพวกนักธุรกิจสักกี่คน แต่ไม่มีทางฆ่าบุคคลสำคัญแน่นอน
หัวหน้าทีมของทีมบังคับใช้กฎหมายเดาทางเขาออก จึงได้เปลี่ยนเป็นไม่สะทกสะท้านใดๆ!เขายังคงกล่าวอย่างมั่นใจว่า “เหรอ?คุณหนีจากหนานหลิงได้ แต่คุณหนีออกจากประเทศหวาได้มั้ย?ประเทศหวากว้างใหญ่ขนาดนั้น คุณคิดว่าแค่ไม่กี่นาทีคงก็จะออกไปได้แล้วเหรอ?รู้ไว้นะ ว่าประเทศหวาของเรามีกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุด!”
“แคร็ก!” ชายหน้าบากกำยำที่น่ากลัวลั่นไก แล้วตะคอกออกมา “ไอเหี้ย!กล้าพูดจาสามหาว ดูว่ากูจะฆ่ามึงมั้ย!”
ชายกำยำพูดพลาง จะยิง ความจริงแล้วภายใต้ความข่มขู่ของชายกำยำที่อันธพาล หัวหน้าทีมของทีมบังคับใช้กฎหมายก็หวาดหวั่น ถ้าพวกเขาสู้กันตายไปข้างหนึ่งจริงๆ งั้นตอนนี้ตัวเองก็อาจจะตายได้
ถ้าตายไปแบบนั้น ใครจะยอมได้ล่ะ?ต่อให้อายุหกสิบปีแล้วก็ตาม ใครก็ไม่อยากตายหรอกนะ!
“หยุด!” ดีที่เย่เฟยควบคุมไว้ เขาชี้ไปที่หัวหน้าทีมของทีมบังคับใช้กฎหมายที่ทำตัวไม่สะทกสะท้านแต่เต็มไปด้วยสับสนวุ่นวายแล้วกล่าว “ผมว่าคุณอย่ายุ่งเรื่องคนอื่นดีกว่านะ ไม่งั้นถึงตอนนั้นคนที่จะมีปัญหาก็คือพวกคุณ!”
เมื่อพูดจบเขามองไปที่ถังยู่อีกครั้ง แล้วถาม “บอกผมมา ว่าไอ้นั่นเป็นใคร?มันอยู่สักแห่งในที่แห่งนี้ใช่มั้ย?!”
สายตาของเย่เฟยมองที่ยังทุกคนที่อยู่รอบๆ เมื่อเห็นสายตาของเย่เฟย คนพวกนั้นเหมือนถูกยิงเข้าไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น ตัวสั่นไม่หยุด
“แกเหรอ?” เย่เฟยมองไปที่วัยรุ่นสวมชุดสูทแล้วถาม
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่”
“งั้น แกใช่มั้ย?”
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่!”
เขาถามคนพวกนั้นเหมือนคนบ้า จากนั้นได้มองไปที่ถังยู่อีกครั้ง แล้วกล่าว “บอกผมมา ถ้าผมคิดว่ามันเยี่ยมกว่าผม ดีกว่าผม ผมก็จะปล่อยคุณไป และปล่อยทุกคนที่อยู่ที่นี่ไปทั้งหมด แล้วถอยอย่างยินยอมพร้อมใจ และจะไม่เข้ามาวุ่นวายชีวิตคุณอีกต่อไป ไม่งั้น ตั้งแต่วันนี้ไป ผมจะให้คุณฝันร้ายติดต่อกัน”
ทันใดนั้นถังยู่ก็เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา แววตาของเย่เฟยดุดัน เต็มไปด้วยารข่มขู่ที่ไม่เคยมีมาก่อน!พี่เย่เฟยของเธอเปลี่ยนไปแล้ว เย่เฟยคนนั้นที่ปกป้องเธอ ได้กลายเป็นเฉยเมยต่อทุกอย่างไปแล้ว แม้แต่ตนเขาก็กล้าข่มขู่แล้ว
ทำไมคนสองคนที่เมื่อก่อนรักกันขนาดนั้น จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้กันนะ?หรือนี่คือรักมากเกลียดมากที่ว่ากันงั้นเหรอ?การกระทำแบบนี้เป็นการทำร้ายกันและกันอยู่ ความรักแบบนี้มันโหดร้ายเกินไป!
เย่เฟยดูสายตาของถังยู่ออก เขาส่ายหน้าแล้วกล่าว “คุณอย่าใช้สายตาแบบนั้นมองผม ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมจะกลายเป็นแบบนี้มั้ย?ถ้าเมื่อสามปีก่อนผมอยู่กับคุณ ทั้งชาติผมก็ไม่มีทางคู่ควรกับคุณ กว่าผมคู่ควรกับคุณ และให้ความสุขคุณได้มันไม่ง่ายเลย แต่คุณกลับทำกับผมแบบนี้”
ทุกคำที่เย่เฟยพูดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย เขาพูดถึงความยากลำบากของเขา
“พี่เย่เฟย ฉันจะพูดอีกครั้งนะ ฉันไม่ได้ชอบใคร คุณรีบไปเถอะ!” ถังยู่กล่าวอย่างหมดไฟ
เย่เฟยขมวดคิ้ว แล้วตะคอก “เป็นไปไม่ได้!”
สี่คำ ไม่มีอะไรบ้าคลั่งไปกว่านี้อีกแล้วเหมือนกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่งกำลังคำรามออกมา!ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อว่าไม่มีมือที่สาม แล้วถังยู่จะไปจากตัวเองอย่างเลือดเย็นอย่างหาที่เปรียบมิได้
เมื่อไม่กี่วันก่อนทั้งสองยังพูดคุยกันอยู่เลย แค่เวลาสั้นๆไม่กี่วัน ก็เปลี่ยนไปแบบนี้ เขารับไม่ได้
“เย่เฟย!อย่าตะคอกใส่หลานสาวของฉันนะ!” ถังเสี่ยนจงเดินไปข้างหน้า แล้วตะคอกเสียงดัง
เย่เฟยจ้องไปที่ถังเสี่ยนจงอย่างไม่ละสายตา แล้วกล่าว “ถังเสี่ยนจง!ที่ฉันเรียกแกว่าปู่ แกมองว่าตัวเองเป็นผู้อาวุโสจริงๆแล้วงั้น เมื่อกี๊ที่ฉันชมแก แกคิดว่าตัวเองเป็นไอ้แก่คนดีจริงๆแล้วหรือไง”
คำพูดของเย่เฟย ทำให้ถังเสี่ยนจงหน้าถอดสี
เย่เฟยพูดต่อว่า “ตอนนั้นที่แกพูดกับฉัน ไม่ได้น่าฟังเหมือนคำพูดที่ฉันพูดเมื่อกี๊ป้ะ?แกยังจำได้มั้ยว่าตัวเองพูดยังไง?”
ถังเสี่ยนจงไม่พูดไม่จา เพียงแต่จ้องเย่เฟยอย่างด้านชา
“เหอะๆ จำไม่ได้แล้วล่ะสิ?งั้นเดี๋ยวฉันจะบอกให้ก็แล้วกัน!ฉันจะบอกให้ทุกคนฟังว่าผู้นำตระกูลของตระกูลถังรังแกเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่อย่างไร
สามปีก่อน ฉันมาที่ตระกูลถัง นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นครอบครัวที่ใจกว้างแบบนี้ ในตอนที่ฉันรู้สึกแปลกใจอยู่นั้น ถังเสี่ยนจงได้บอกฉัน ว่านี่ไม่ใช่ที่ๆฉันควรจะมา ถังยู่ก็ไม่ใช่คนที่ฉันควรจะชอบ”