จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 316
สำหรับถังยู่แล้ว ภาพเลือดสาดแบบนั้นน่ากลัวที่สุดจริงๆ เพราะเธอกลัวเลือด!
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร และไม่ได้มองไปทางบาดแผลเลยสักนิด เขายกมือขึ้นจับข้อมือถังเสี่ยนจง ใช้สองนิ้วจับชีพจรเขา ประมาณหนึ่งนาทีให้หลัง เขาวางมือถังเสี่ยนจงลง จากนั้นบ่นพึมพำว่า “โชคยังดี ไม่เจ็บถึงเส้นประสาทรอบๆ ทำอันตรายแค่เลือดเนื้อเท่านั้น”
เขายกสองนิ้วขึ้นมากดหลายจุดรอบๆแผลถังเสี่ยนจง เหมือนกับจี้สกัดจุด ไม่หนัก แต่หลังจากเขากดจุดแล้ว รอบๆบาดแผลถังเสี่ยนจงกลับกลายเป็นสีดำแดง แถมยังแล่นพล่านไปรอบๆอีกด้วย
ฉากนี้ทำให้ทุกคนมองตาค้างอ้าปากอึ้ง เห็นสภาพสีดำแดงนั่นเหมือนโดนงูพิษอะไรกัดเข้าอย่างนั้น สรุปแล้วดูไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลย หลังจากตกตะลึงเสร็จ ตามมาคือความโกรธและอารมณ์ระเบิด
“แก แกทำอะไรพ่อฉัน?” ลูกชายคนโตของถังเสี่ยนจงร้องอย่างตื่นเต้น สีหน้าดูโกรธขึ้ง
เขาลุกขึ้นมา ก้มหน้ามองฟางเหยียนจากมุมสูงพูดว่า “แกมาหลอกลวงเราหรือเปล่า? พ่อฉันเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย แกตบลงไปฝ่ามือเดียวทำพ่อฉันสลบลงไปเลย เดิมบาดแผลก็ไม่ได้ใหญ่อะไรขนาดนั้น โดนแกจัดการแบบนี้เข้าไปกลายเป็นสีแบบนี้ ปกติโดนปืนยิง ตามหลักแล้วต้องเอากระสุนออกแล้วห้ามเลือด แกจัดการมั่วซั่วนานขนาดนี้ ไม่ล้างแผลเลยด้วยซ้ำ คนอย่างแกไม่รู้วิชาแพทย์เลยสักนิด แกกำลังทำร้ายพ่อฉัน แกต้องร่วมมือกับหลินถงมาทำร้ายตระกูลถังเราแน่!”
อายุเขาราวห้าสิบกว่าปี ร่างสูงประมาณร้อยแปดสิบ สีหน้าหยาบกร้าน ดูแล้วใหญ่โตราวหมี ดูกระฉับกระเฉง
ในฐานะลูกชายคนโตของถังเสี่ยนจง พูดจาทีมีอำนาจพอตัว พอเขาพูดคำนี้ออกมา ทุกคนต่างหันไปมองฟางเหยียนด้วยสายตาสงสัย
“ยัยหลินถงน่าเจ้าเล่ห์จะตาย ทำให้พ่อฉันหลงเชื่อไม่พอ ตอนนี้ยังคิดจะควบคุมตระกูลถังเราอีก แกอยากยืมมีดฆ่าคน อาศัยลูกกระสุนนัดนี้เอาชีวิตพ่อฉัน จากนั้นก็สวมรอยแทนที่ตำแหน่งเขาเลยใช่ไหม? ฉันจะบอกแกให้ ไม่มีทางหรอก ขอเพียงคนอย่างฉันถังหงอยู่ แกอย่าหวังเลย” เขาเชิดแข็งพูดต่อ หน้าเขียวคล้ำ ทุกคนต่างเงียบไม่พูดจา และมองดูถังหงกับหลินถงและฟางเหยียนสามคนเงียบๆ!
ฟางเหยียนเหลือบมองหลินถงหนึ่งที เธอยืนอยู่ด้านหลังตนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่คิดจะต่อปากต่อคำกับเขา ในใจฟางเหยียนเองก็รู้สึกแปลกใจ หลินถงคนนี้เก็บอารมณ์ได้เก่งมาก โดนคนตระกูลถังว่าร้ายถึงขั้นนี้แล้ว กลับไม่โกรธเลยสักนิด
“ทำไม?” ถังหงเห็นท่าทีหลินถงเรียบเฉย ก็พูดขึ้น “ฉันพูดแทงใจดำเธอ พูดไม่ออกแล้วล่ะสิ? ผู้หญิงอย่างเธอ ฉันรู้มานานแล้วเธอต้องคิดไม่ซื่อแน่ เข้ามาตระกูลถังของเรา เธอคิดอะไรอยู่ คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง? หลานชายฉันตายแล้ว แกยังเหลืออยู่ที่นี่หลอกให้พ่อฉันเชื่อ เธอคิดว่าที่นี่เป็นบ้านตัวเองหรือไงกัน?”
หลินถงยังคงไม่พูดอะไร และมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม
ฟางเหยียนมองคนทั้งคู่ พูดขึ้นเสียงเรียบว่า “พาเขาออกไปเถอะ แบบนี้จะรบกวนการรักษาของผม”
หลินถงได้ยินคำนี้ ตะคอกดังทันที “มีใครอยู่บ้าง!”
การ์ดชุดดำหลายสิบคนเข้ามา พวกเขาแต่ละคนใส่แว่นดำ ดูก็รู้ว่าเป็นการ์ดที่ผ่านการฝึกมา พวกนี้คือคนที่พึ่งโดนไล่ออกไป คนนำพวกเขาเข้ามาเป็นคนแก่อายุหกสิบกว่าปี นี่คือพ่อบ้านคนนั้น ลุงเห้อ
ถังหงเห็นภาพนี้โกรธจัดทันที เบิกตากว้างพูดว่า “ลุงเห้อ ลุงตาบอดหรือไงกัน? กล้าไล่ผมออกไปด้วยหรอ? ลุงรู้ไหมที่นี่คือตระกูลถัง!”
เหล่าเห้อใจกระตุกวูบ มองหลินถงเงียบๆ เขารู้สึกอึดอัดใจมาก
คนหนึ่งเป็นลูกชายของคุณท่าน คุณชายใหญ่ตระกูลถัง อีกคนเป็นคุณนายน้อยใหญ่ตระกูลหลิน ไม่รู้ว่าเก่งขนาดไหนกัน! แต่คุณท่านเชื่อใจ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่คุณท่านเชื่อใจมากที่สุดแล้ว
พอเห็นท่าทางเหล่าเห้อไม่ขยับ ถังหงแค่นเสียงหึ ยืดอกพูดขึ้นว่า “ยังมีแกอีกคน ไอ้หนุ่ม แกคิดว่าตัวเองเป็นเทพหมอจริงๆหรือไง? ฉันจะบอกแกให้ พ่อฉันเชื่อใจแก ไม่ได้แปลว่าฉันเชื่อใจแก ตอนนี้พ่อฉันไม่สบาย บ้านนี้เป็นของฉัน! แก แล้วก็แก ไสหัวออกไปเลย พวกแกไล่ชายโฉดหญิงชั่วคู่นี้ออกไปเดี๋ยวนี้!”
เขาชี้มาที่ฟางเหยียนกับหลินถง กัดฟันพูด
ชายโฉดหญิงชั่ว พูดจาน่าเกลียดแบบนี้ก็มีแต่เขานี่แหละที่พูดได้! เห็นได้ชัดว่า เขาไม่พอใจหลินถงมานานแล้ว ติดที่พ่ออยู่ เลยไม่กล้าพูดอะไร ตอนนี้ดีล่ะ พ่อไม่สบาย เขารีบออกมากุมอำนาจทันที
พอดีเลย หมอนี่อยู่ที่นี่ และมีความเกี่ยวข้องกับหลินถงพอดี ถ้าไม่อาศัยโอกาสนี้ทำเรื่องให้ใหญ่ เขาคงรู้สึกผิดต่อตัวเองแน่!
พอพูดคำนี้ออกไป ทุกคนหันไปมองทั้งสองคนเป็นตาเดียว! ถังยู่เองอดไม่อยู่หันไปมองฟางเหยียนเหมือนกัน จากนั้นก็หันไปมองหลินถง ทั้งสองคน พวกคุณมีอะไรกันจริงหรอ?
เมื่อกี้ตอนเขาลุกขึ้นไม่ใช่เพื่อตน แต่เพื่อปกป้องหลินถงหรอ?
ถังยู่เอ๋ยถังยู่ ปู่ตัวเองยังนอนสลบอยู่นี่ คิดอะไรอยู่น่ะ คุณปู่ไม่สำคัญกว่าสองคนนี้หรือไง? เธอรีบดึงสติกลับมา จ้องดูคุณปู่ต่อไป
ที่จริงแล้ววิธีการของถังหงก็ไม่ได้แปลกอะไร ที่นี่คือตระกูลถัง เขาเป็นลูกชายคนโตของถังเสี่ยนจง ตามหลักการสืบทอดตระกูลแล้ว ควรจะให้ลูกชายเมียเอกคนโตสืบทอดต่อ อำนาจส่วนใหญ่ของตระกูลถังควรให้เขาดูแล แต่ยัยหลินถงนี่พ่อกลับชื่นชมมาก จนทำให้เขาโดนทิ้งไว้ข้างๆไร้คนแยแส
มีช่วงหนึ่ง เขายังห่วงว่าพ่อจะหลงเสน่ห์ผู้หญิงคนนี้จนหน้ามืด ถ้าไม่ใช่คิดว่าเขาอายุมากแล้ว เขากังวลจริงๆว่าพ่อจะหลงกลนังจิ้งจอกนี่
นี่ไม่ใช่ความคิดเขาคนเดียว คนมากมายในตระกูลถังล้วนคิดแบบเดียวกัน ในที่นี้รวมถึงถังยู่ด้วย
เหล่าเห้อยังคงยืนคั่นกลางระหว่างทั้งคู่ ลำบากใจทั้งสองข้าง การ์ดชุดดำกลุ่มนั้นเห็นได้ชัดว่าฟังคำสั่งเหล่าเห้อ
เหล่าเห้อคนนี้ดูธรรมดา อายุหกสิบกว่าแล้ว ยังโสดอยู่ เวลาเดินต้องคอยพยุงเอว ที่จริงแล้วในตระกูลถัง เขามีหน้ามีตาพอดู นอกจากพวกคุณชายทั้งหลายแล้ว พวกคนรับใช้แทบจะเชื่อฟังเขาหมด ปกติเวลาพวกคุณชายจะให้คนรับใช้ทำอะไร ต่างต้องถามความเห็นเหล่าเห้อ แต่เหล่าเห้อเป็นคนดี ไม่เคยทำให้ใครลำบากใจ
แน่นอนว่า นี่เป็นกฎที่พ่อตั้งไว้ พ่อยังบอกอีกว่า เหล่าเห้อจะฟังคำสั่งเขาคนเดียวเท่านั้น
“เหล่าเห้อ รีบสั่งการลงไป ไล่สองคนนี้ออกจากตระกูลถัง!” ถังหงตะคอกดังอย่างโกรธจัด
เหล่าเห้อชะงักเล็กน้อยพลางว่า “เอ่อ…”
ถังหงตะคอกว่า “เอ่ออะไร หรือว่าลุงยังดูไม่ออกหรือไง? สองคนนี้คิดรวมหัวกันมาแทนที่ตระกูลถังเรา รีบไล่พวกเขาออกไปเลย”