จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 329
เหล่าเห้อส่ายศีรษะ ในสมองย้อนกลับไปถึงฉากเมื่อสักครู่นี้อีกรอบ คนๆนั้นชูตะเกืยบแท่งหนึ่งขึ้น จากนั้นก็สังหารไปทางเย่เฟย แม้ว่าเย่เฟยได้หลบไปแล้ว แต่ตะเกียบแท่งนั้นกลับเสียบลงบนเสาหินในห้องโถงใหญ่อย่างรุนแรง
คนที่สามารถทำให้ตะเกียบส่งพลังที่น่าตกใจเช่นนี้ออกมาได้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
“คุณท่าน ผมไม่แนะนำให้คุณตรวจสอบเขา ตอนนี้เขามีความเกรงใจเป็นอย่างมากต่อตระกูลถังของพวกเรา ยังออกมือช่วยเหลือพวกเรา สถานะของเขาบางทีอาจจะไม่ชอบให้ใครรู้ หากพวกเราไปตรวจสอบแล้ว จะล่วงละเมิดเขาได้!”
ถังเสี่ยนจงพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยว่า “อื้ม!แกพูดถูก แกเห็นยังไงกับความสัมพันธ์ของเขากับเสี่ยวยู่?”
เหล่าเห้อนิ่งเงียบลงมา หรี่ตาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณท่าน คำถามนี้ไม่ควรถามผมกระมังครับ!”
ถังเสี่ยนจงร้องอ๋อออกมา พยักหน้าอย่างเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ เหล่าเห้อผู้นี้ไม่เข้าใจเรื่องความรู้สึก ใช้ชีวิตมาหลายปีขนาดนี้ ถังเสี่ยนจงก็เคยบอกว่าจะหาภรรยาให้เขาคนหนึ่ง แต่เขาไม่เอา!บอกตัวเองตัวคนเดียวดีมาก และก็ไม่เหมาะสมที่จะแต่งเมีย!
“แม้ผมจะไม่รู้ว่าพวกเขาคือความสัมพันธ์แบบนั้นใช่หรือเปล่า แต่สามารถยืนออกมาพูดคำพูดแบบนั้นในเวลาแบบนั้นได้ อีกทั้งยังช่วยคุณหนูออกมาจากเงื้อมมือของเย่เฟย!ก็สามารถดูออกว่าความสัมพันธ์ของเขากับคุณหนูไม่เหมือนปกติล่ะมั้งครับ!” เหล่าเห้อเอ่ยเสริม
ถังเสี่ยนจงตอบรับอืม พยักหน้าอย่างดูเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ นี่ก็เป็นความคิดเห็นของเขาเช่นเดียวกัน!
“คุณท่าน คุณคงไม่ใช่คิดจะเอาคุณหนู…”
ถังเสี่ยนจงหรี่ตาพร้อมกับเอ่ยว่า “อันนี้ตรงดูความคิดเห็นของตัวคุณหนูเอง ฉันเพียงแต่คิดว่าหากมีความสัมพันธ์ขั้นนี้แล้ว เขาก็คงจะไม่ปฏิเสธคำร้องขอของฉันหรอก พวกเราสุดท้ายยังไงก็ต้องหวังให้เขายื่นมือไปช่วยรักษาคุณชายเจี่ย”
“แกรก!” เวลานี้เอง ประตูห้องก็ถูกผลักให้เปิดออก ถังยู่เดินเข้ามาจากด้านนอก เสียงผลักประตูขัดจังหวะบทสนทนาของทั้งสองคน
ทั้งสองคนหันไปทางถังยู่อย่างพร้อมเพรียงกัน ในสายตาแนบไปด้วยความตื่นตกใจเล็กน้อย เห็นสายตาที่ตกใจนั้นของทั้งสองคน ถังยู่ตระหนักได้ว่าตนเองอาจจะทำผิดอะไร ดังนั้นเธอจึงเม้มริมฝีปาก เอ่ยว่า “ขอโทษค่ะ คุณปู่ หนู…”
“ฮ่าๆ!ไม่เป็นไร” ถังเสี่ยนจงหัวเราะขึ้นมา ในเสียงหัวเราะแนบไปด้วยความผ่อนคลายแบบหนึ่ง ยังดีไม่ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน หากได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่นี้ของทั้งสองคน ว่าทั้งสองคนเอาเธอเป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง นั่นก็จะทำให้เธอไม่พอใจเป็นธรรมดา
เหล่าเห้อกลอกลูกตาไปรอบหนึ่ง เอ่ยว่า “คุณท่าน งั้นผมก็ขอตัวไปก่อนแล้ว!”
ถังเสี่ยนจงพยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “ได้ โทรศัพท์เรียกหลินถงกลับมา!”
เหล่าเห้อพูดครับหนึ่งคำ จากนั้นก็เดินออกไป
รอจนกระทั่งหลังจากที่เหล่าเห้อจากไปโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ถังยู่ก็เดินมาถึงหน้าเตียงของถังเสี่ยนจงทำการถามไถ่พร้อมทั้งปลอบโยน เอ่ยถามเขาว่าบาดแผลเจ็บหรือเปล่า ถามเขาว่ามีอะไรอยากทานเป็นพิเศษไหม
หลังจากการสอบถาม ถังเสี่ยนจงกลับมายังหัวข้อหลัก ที่จริงแล้วก็ไม่ใช่คำถามที่คนเป็นปู่อย่างเขาควรจะถาม แต่ตัวเองไม่ถามก็ไม่มีใครถามแล้ว เขาเอ่ยถามขึ้นว่า “ใช่แล้ว เสี่ยวยู่ ปู่จะถามเธอ ทำไมเธอถึงได้ปฏิเสธเย่เฟยล่ะ?”
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว ถังยู่ไม่มีทางปฏิเสธเย่เฟยถึงจะถูก
ถังยู่พอฟังประโยคนี้ ก็ก้มศีรษะลงอย่างโทษตัวเอง เอ่ยว่า “คุณปู่ หนูก็แค่ค้นพบขึ้นมาอย่างกะทันหันว่าตัวเองไม่ชอบเขาแล้ว!หากหนูรู้ว่าเขาจะทำขนาดนั้น หนูก็ไม่ควรจะปฏิเสธเขา”
ถังเสี่ยนจงถอนหายใจเฮ้อออกมา เอ่ยว่า “คนที่บอกจะพลิกหน้าก็พลิกหน้าแบบนี้ จะต้องไม่ใช่คนดีอะไรอย่างแน่นอน หากเธอตอบรับเขาไปแล้ว ถึงจะทำให้ปู่เพิ่มความเป็นห่วงเธอมากยิ่งขึ้น เพราะว่าหากต่อไปเธอทำเรื่องที่ไม่ถูกใจ เขาจะต้องทำเรื่องอะไรออกมากับเธออย่างแน่นอน แทนที่จะให้ตัวเองเป็นทุกข์ สู้แก้ไขปัญหาเรื่องนี้ไปในรวดเดียวยังจะดีกว่า”
ถังยู่พยักหน้าตอบรับ ถือว่าได้รับการปลอบโยนทางด้านจิตใจแล้ว!
“ใช่แล้ว เธอกับเทพหมอฟางผู้นั้นรู้จักกันได้ยังไงอีกล่ะ? คราวก่อนทำไมปู่ไม่เห็นเขาบอกว่ารู้จักกับเธอ!”
ถังยู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนบ่ายพูดขึ้นหนึ่งรอบ
หลังจากฟังจบ ถังเสี่ยนจงร้องอ๋อออกมา เอ่ยถามว่า “เทพหมอฟางยังมีบอดี้การ์ดอย่างนี้อีก?”
หลังจากถามจบเขาก็นึกถึงบทสนทนาที่คุยกับเหล่าเห้อเมื่อสักครู่นี้ขึ้นมาได้อีก บุคคลแบบนี้จะไม่มีบอดี้การ์ดได้ยังไงกันล่ะ?
“ถ้างั้นจะว่า พวกเธอสองคนก็เพิ่งรู้จักกันเมื่อวานนี้?” ถังเสี่ยนจงเอ่ยถามขึ้นอย่างรู้สึกค่อนข้างที่จะสงสัย
ถังยู่พยักหน้าตอบรับ เอ่ยว่า “ใช่ค่ะ เมื่อวานเพิ่งรู้จักกัน”
“คนที่ลูบหน้าเธอคนนั้น ก็คือเขาสินะ?” ถังเสี่ยนจงเอ่ยถามขึ้นอย่างกึ่งล้อเล่น
ถังยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ตอบกลับคือถือว่าเป็นการยอมรับอย่างเงียบๆแล้ว
เห็นท่าทางของถังยู่ ถังเสี่ยนจงก็เอ่ยถามขึ้นว่า “เธอชอบเขาหรือเปล่า?”
ใบหน้าของถังยู่แดงขึ้นในทันที เธอร้องโอ๊ยออกมา เอ่ยว่า “คุณปู่ คุณปู่ถามเรื่องแบบนี้กับคนอื่นได้ยังไงกันคะ? หรือว่าแม้แต่คุณปู่ก็อยากจะให้หนูแต่งออกไปไวๆแล้วหรอ? หนูจะชอบคนแบบนั้นได้ยังไงกันคะ เขาเย่อหยิ่งทะนงตน ชอบทำท่าทางที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ ก็แม้แต่ช่วยชีวิตหนูเมื่อสักครู่นี้ เขาก็ยังมีท่าทางที่คิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอดแบบนั้น ฮึ!หนูไม่ชอบเขาหรอกค่ะ”
ถังเสี่ยนจงมองดูใบหน้าเล็กๆของเสี่ยวยู่ที่แดงด้วยความเขินอายนั้น แล้วเอ่ยว่า “งั้นหรอ? เดิมทีปู่ยังคิดว่าจะเชิญเขามานั่งๆที่บ้านของเราสักหน่อย”
“งั้นหรอคะ?” ถังยู่เอ่ยถาม “เมื่อไรคะ?”
ถังเสี่ยนจงยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับเอ่ย “เธอดูเหมือนรอไม่ไหวที่จะเจอเขาแล้ว?”
ถังยู่โอ๊ยออกมา เอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนยังไงอย่างงั้น “คุณปู่ก็ คุณปู่พูดแบบนี้กับหนูได้ยังไงกันคะ หนูก้แค่คิดว่าวันนี้เขาแก้ไขปัญหาให้ครอบครัวเราแล้ว เชิญเขามานั่งที่บ้านสักหน่อย ก็เป็นสิ่งที่สมควร ไม่ใช่หรอคะ?”
“ใช่ๆๆ!” ถังเสี่ยนจนหัวเราะพร้อมกับพ่นคำว่าใช่สามคำออกมา
…
ภายในเขตคฤหาสน์หุบดอกพีช
ฟางเหยียนย้ายเข้ามาพักอาศัยที่เขตคฤหาสน์หุบดอกพีชอย่างเป็นทางการ เขานั่งอยู่บนโซฟา ใช้มือข้างหนึ่งกดลงบนบริเวณตรงกลางระหว่างคิ้ว ดูเหมือนตกอยู่ในความครุ่นคิดบางอย่าง
เมื่อครู่นี้ ก็คือเมื่อครู่นี้คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ได้ต่อต้านการกระทำทั้งหมดของหลินถง แค่อีกนิดเดียวเท่านั้น หลินถงกับเขาก็จะเกิดเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ ผู้หญิงคนนั้น ทำไมถึงได้รุกที่จะอุทิศร่างกายให้กับเขาขนาดนั้น หรือว่าเธอรู้สถานะของตัวเขาหรอ? หรือว่าเพียงแค่ถูกตนเองดึงดูดเข้าให้เพียงอย่างเดียว?
สมัยนี้ เพียงแค่มีเงิร ผู้หญิงคนไหนต่างก็จะปีนขึ้นมาบนตัว!หลินถงไม่ใช่ผู้หญิงที่ผิวเผินแบบนั้น หากเธอจะพุ่งไปที่เงิน ก็ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไรที่กำลังต่อคิวรอเธอไปตั้งนานแล้ว งั้นตัวเองจุดไหนกันแน่ที่ดึงดูดเธอกันล่ะ หรือว่าเป็นแบบที่เธอพูด อยากให้ตนเองพาเธอไปงั้นหรอ? แม้ว่าจะมีใจที่พร้อมรับมือเอาไว้ แต่เมื่อครู่นี้ทำไมตนเองไม่ปฏิเสธหลินถงล่ะ?
เธอจะเป็นคนขององค์กรนั่นหรือเปล่า? ความคิดนี้ผุดออกมา ทำให้ฟางเหยียนนึกถึงเรื่องเมื่อสักครู่นี้อีกครั้ง!
ฟางเหยียนนะฟางเหยียน แกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่? เมื่อครู่นี้ก็ขาดอีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น แกก็จะทำเรื่องที่ผิดต่อเย่ชิงหยู่แบบนั้นแล้ว!บนโลกใบนี้ มีเพียงเย่ชิงหยู่เท่านั้นถึงให้แกทำแบบนั้นได้
เย่ชิงหยู่ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง ตัวเองออกจากเมืองจินโจวมานานขนาดนั้น ก็ไม่เห็นเธอโทรศัพท์เข้ามา หรือว่ายังโกรธตนเองอยู่อีกหรอ? หากใช่ งั้นก็โกรธไปอีกสองสามวันก็แล้วกัน!
ในเวลานี้ การสั่นบวกกับเสียงเพลงของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ที่กว้างขวางนี้ ขัดจังหวะการครุ่นคิดของฟางเหยียน
ฟางเหยียนลืมตาขึ้นอย่างไม่เต็มใจมาก ค่อยๆเบือนสายตาไปยังบนโต๊ะ โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นกำลังเคลื่อนไหวช้า ทุกครั้งที่สั่น ก็จะเคลื่อนไหวเล็กน้อย
เขาถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นหยิบโทรศัพท์มือถือมาดู ด้านบนแสดงผลสามตัวอักษร ฟางจินหยวน!