จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 331
ยามราตรี ตระกูลถัง
ห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม ด้านในฟุ้งกระจายเป็นด้วยกลิ่นกายอันหอมหวนของหญิงสาว และยังมีกลิ่นของน้ำหอมต่างๆนานา ห้องมีขนาดใหญ่มาก มีโซฟา มีทีวี และเครื่องคอมพิวเตอร์ ดูจากการตกแต่งแล้ว เหมาะกับตระกูลใหญ่เป็นอย่างมาก กำแพงห้องแขวนรูปขนาดใหญ่ไว้ คือรูปแต่งงาน ในภาพมีผู้ชายที่ผอมมาก ดวงตาหลุบเข้าไป ต่อให้ร่องรอยได้ผ่านการตัดต่อแล้ว ก็ยังไม่สามารถทำให้ผู้ชายหล่อขึ้นมาได้ แต่ดูจากใบหน้าของชายหนุ่มแล้ว เขาเป็นคนที่เมตตาและอ่อนโยนมาก
คนที่ยืนข้างๆผู้ชายคือสาวสวยคนหนึ่ง หญิงสาวคนนี้สวมชุดแต่งงาน บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข เธอสวยมาก สวยมากจริงๆ สวยจนหาข้อบกพร่องไม่เจอ เธอยืนคู่กับชายหนุ่ม ให้ความรู้สึกเหมือนหารแต่งงานที่ไม่เหมาะสมกัน!
ด้านล่างของรูปเป็นเตียงคู่ใหญ่ คนที่นอนอยู่คือผู้หญิงที่คลุมไว้ด้วยกระโปรงด้าย
หญิงสาวนอนบนที่นอน ขาอันขาวนวลโผล่ออกมาข้างนอก กระโปรงได้คลุมร่างไว้ แต่กลับเห็นไม่ชัดเจน เมื่อมองไป ก็ได้เห็นเรือนร่างที่สวยงามอย่างไม่มีที่ติ มองดูข้างๆบนสักหน่อย มือทั้งสองก็โผล่ออกมาด้านนอก เมื่อมองไปก็เห็นผิวอันขาวผ่องของเธอ นี่เป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง ต่อให้แค่เส้นผมเส้นหนึ่งของเธอ ก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นได้
ทันใดนั้น เธอขยับตัวไป ยกข้างอีกข้างไปไว้บนขาอีกข้าง แค่การกระทำนี้ ก็ทำให้กระโปรงด้ายเปิดออกไม่น้อยเลย ส่วนต่างๆของร่างกายก็โผล่ออกมามากยิ่งขึ้น
ในหัวของเธอยังคงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เพียงแค่อีกนิดเดียว เธอก็จะเกิดเรื่องที่ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับฟางเหยียนแล้ว! ทำไมตอนนั้นต้องมีสายเข้าด้วยนะ? บ้าจริง ทำไมตนต้องรับสายนั้นด้วย? ถ้าตัวไม่รับสายนั้น คนสองคนจะเกิดเรื่องอย่างว่านั่นหรือเปล่านะ?
ฟางเหยียนไม่ปฏิเสธเธอ แต่ยอมรับการกระทำของตัวเอง นี่ก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าความจริงแล้วเขาคือผู้ชาย ใช่ ถ้าไม่ใช่ผู้ชาย ทำไมถึงได้มีท่าทีแบบนั้นล่ะ แว็บนั้นที่หน้าแดง ทำให้คนอดที่จะหวนกลับไปคิดไม่ได้จริงๆ
สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเสียดายคือ นึกไม่ถึงว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลย อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น! ยิ่งหลินถงคิดมากเท่าไหร่ยิ่งเสียดายมากเท่านั้น ฟางเหยียนพิเศษมากขนาดนั้น ถ้าตัวเองมีอะไรกับฟางเหยียน ต้องเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างแน่นอน!
แต่นี่ไม่ได้ทำให้หลินถงยอมแพ้ เพราะฟางเหยียนไม่ปฏิเสธ นั่นหมายถึงเธอยังมีโอกาส ที่จะได้ผู้ชายคนนี้มา ต่อให้มีโอกาสแค่ครั้งเดียว ก็ทำให้หลินถงพอใจแล้ว เพราะนั่นคือบุคคลที่เหมือนกับเทพก็มิปราณ
เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมถึงได้หลงใหลฟางเหยียนขนาดนั้น บางทีอาจเป็นเพราะเขามีกลิ่นอายของความพิเศษอยู่มั้ง! ด้านนอกมีผู้ชายมากมายอยากจะได้เธอมาครอบครอง แต่หลินถงอยากได้แค่ฟางเหยียนเท่านั้น
หลังจากที่กลับบ้านแล้ว ท่านถังบอกว่าอยากให้ถังยู่แต่งงานกับฟางเหยียน ตนไม่ได้ปฏิเสธ แต่รู้ดีว่าฟางเหยียนต้องปฏิเสธเป็นแน่ ใช่ เขาต้องปฏิเสธแน่นอน เพราะเขาชาติตระกูล มีภรรยา! เพราะภรรยาของตัวเอง เขาจึงปฏิเสธตนไปนับครั้งไม่ถ้วน แม้แต่ผู้หญิงแบบตนยังถูกปฏิเสธ แล้วเขาจะยอมรับถังยู่เด็กแบเบาะอย่างนั้นได้อย่างไรกัน!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หลินถงถอนหายใจ เธอหลับตาลง หวังจะมีอะไรกับฟางเหยียนในฝัน นี่คือความคิดที่‘ไร้เดียงสา’ของผู้หญิง อืม มีอะไรในฝันนี่แหละ
เมืองจินโจว
เรื่องที่ตระกูลเซียวถูกล้างบางสะเทือนไปทั้งเมืองจินโจว แต่ข่าวนี้กลับไม่ปรากฏบนแพล็ตฟอร์ม อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ ดังนั้นจึงมีเพียงคนของเมืองจินโจวกับผู้ที่ร่วมงานกันกับตระกูลเซียวเท่านั้นที่รู้
ไม่มีใครรู้ว่าตระกูลเซียวยั่วโมโหใคร ที่สามารถทำลายตระกูลเซียวที่ยิ่งใหญ่ได้ภายในชั่วข้ามคืน ไม่เพียงเท่านี้ แล้วยังไม่มีรายงานตามที่ต่างๆอีกด้วย ราวกับว่าข้อมูลถูกล็อกไว้ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเซียวไม้ใหญ่โดนลมโค่น บางทีคนของเมืองจินโจวก็อาจจะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้น
ใครเป็นคนทำกันแน่?นึกไม่ถึงว่าจะทำลายตระกูลเซียวที่ยโสโอหังได้!จึงทำให้ทุกคนเมื่อคิดจะทำอะไรก็ระมัดระวังตัวมากขึ้น นักธุรกิจเหล่านั้นแว็บเดียวก็กลายเป็นมิตรมากขึ้น เพราะไม่มีใครรู้ว่าวินาทีต่อมาจะยั่วโมโหคนนั้นหรือเปล่า
ภายในช่วงเวลาสั้นๆสองเดือน ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองจินโจว และตระกูลอันดับสองก็ถูกล้างบางตาม ฉะนั้นตระกูลหลิวจึงกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ ผู้นำของตระกูลหลิวหลิวจินหม่านรู้ว่าใครเป็นคนทำ เขาดีใจมากที่ตัวเองไม่ได้ยั่วโมโหคนๆนั้น ถ้าตอนนั้นใช้อารมณ์มาตัดสิน ไม่ฟังคำพูดของคนนั้น งั้นจุดจบก็จะต้องเหมือนตระกูลตู้และตระกูลเซียวอย่างแน่นอน
ส่วนเจ้าของป้อมจี๋หลง ตัวเขาเองก็รู้ดีถึงจุดจบของการที่ยั่วโมโหคนๆนั้นดี ผู้รู้สถานการณ์คือผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ดีที่ตัวเองเป็นคนฉลาด ไม่ได้ให้คนนั้นฆ่า ถ้าเขาให้คนฆ่าจริงๆ ตนก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ทั้งเมืองจินโจว หลายวันมานี้ดูเหมือนรถวิ่งขวักไขว่ไปมา แต่ดูออกว่าทุกคนต่างมีเรื่องไม่สบายใจ
เช้าตรู่ ตระกูลเย่
ถึงแม้คฤหาสน์จะกลับมาเป็นของตระกูลเย่แล้ว แต่ ก็ยังคงไม่ย้ายกลับไปที่บ้านใหญ่ของตัวเองอยู่ดี พ่อไม่อยู่แล้ว ไม่มีพ่อ เมื่อเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้นจะรู้สึกขาดอะไรไปหลายอย่าง ถึงตอนนั้นคนที่เจ็บปวดใจไม่ใช่แค่ตัวเอง ยังมีแม่ ที่เจ็บปวดกับภาพความทรงจำเก่าๆ นี่เป็นสภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าใคร ดังนั้นพวกเขายังคงอยู่ในบ้านสองห้องนอนที่คุณตาได้ให้ไว้ ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็มีเพียงตัวเองและแม่ ก็เพียงพอแล้ว
วันนี้เธอไม่คิดจะเข้าบริษัทแล้ว เรื่องของบริษัทเธอจัดการไว้อย่างดีเยี่ยมแล้ว อีกอย่าง เธอก็ไม่มีอารมณ์ไปทำงานด้วย
สองสามวันนี้เธอตรอมใจมาก เพราะกินข้าวก็กินได้น้อย ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับ
เธอในตอนนี้กำลังสวมชุดนอน นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ด้านหน้ามีก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่งวางไว้ สีสันไม่ต่างกับที่ฟางเหยียนทำไว้ให้ตนสักเท่าไหร่ แต่เมื่อกินลงไปคำหนึ่ง เธอก็กินไม่ลงแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่รสชาตินั้นที่เธอต้องการ
นี่ไม่ใช่รสชาติที่ฟางเหยียนทำ แต่เป็นแม่ทำ ต่อให้กินมากเท่าไหร่ก็เป็นฝีมือของแม่ แต่เธอกลับคิดถึงก๋วยเตี๋ยวที่ฟางเหยียนทำอย่างสุดซึ้ง รสชาติแบบนั้น มันอร่อยมากๆ!อร่อยถึงขั้นขีดสุด
บางทีต่อไปตนอาจจะไม่ได้กินแล้วก็เป็นได้!ไม่สิ เขาคือสามีของตัวเอง ทำไมตัวเองถึงได้คิดแบบนี้กันนะ
เมื่อคิดกลับ เขาเป็นคุณชายของตระกูลฟางเลยนะ!ตนเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แล้วเขาจะทำก๋วยเตี๋ยวให้เธอกินตลอดไปได้อย่างไรกัน ต่อให้เป็นสามีของตัวเองแล้วยังไง ตัวตนของทั้งคู่ต่างกันมากขนาดนั้น แล้วจะอยู่ด้วยกันตลอดไปได้อย่างไรกัน
ในคืนนั้น คนนั้นพูดไว้ชัดเจนมากแล้ว ว่าพวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ด้วยกัน!เพราะฟางเหยียนเป็นคุณชายของตระกูลฟาง เขามีตัวเลือกที่ดีกว่า แล้วมีอนาคตที่ดีกว่า แล้วจะอยู่ในเมืองจินโจวเล็กๆนี่กับเธอได้อย่างไรกัน!
พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันมาสามวันแล้ว ในช่วงสามวันนี้เธอรอฟางเหยียนโทรมาตลอด แต่ฟางเหยียนไม่ได้โทรหาเธอ และก็ไม่กลับมา นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าฟางเหยียนได้ออกจากเมืองจินโจวไปแล้ว และเป็นไปได้มากว่าได้กลับไปที่เมืองเจียงตูแล้ว