จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 332
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เย่ชิงหยู่ถอนหายใจยาวๆ!อย่างเบื่อหน่ายและเจ็บปวด
ภาพที่คืนนั้นผู้เฒ่าคนนั้นได้พูดกับเธอ มันได้ปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง พวกเขาอยู่คนล่ะโลก ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ ในฐานะที่เป็นคุณชายของตระกูลฟาง มีอนาคตที่ดีกว่าต้องเดิน เขาแย่สุดก็น่าจะอาศัยที่เมืองเจียงตู เป็นคนใหญ่คนโตของประเทศหวา ถ้าคุณยังดื้อดึงอยู่กับคุณชาย เขาจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แบบนั้น เป็นการที่คุณไม่รับผิดชอบต่อชีวิตของคุณชาย คุณคงไม่อยากเห็นคุณชายจำกัดเส้นทางชีวิตของตัวเองเพราะคุณหรอกใช่มั้ย?
ความจริงเธอควรจะนึกถึงตัวตนของฟางเหยียนตั้งนานแล้ว หลังจากที่ฟางเหยียนกลับมา ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นมากมายกับตน อย่างเช่นแรกเริ่มที่ได้ร่วมมือทำโครงการของซีหนานกรุ๊ปได้สำเร็จ เธอไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมชิงการค้า แต่ก็ดันถูกเลือกเสียอย่างนั้น นี่ถ้าไม่ใช่ฟางเหยียนกระทำอยู่เบื้องหลังแล้วจะเป็นอย่างไรไปได้?
แล้วก็ตอนงานเลี้ยงวันเกิดตน คนของกองทัพที่มาเข้าร่วม พวกเขาล้วนเชื่อฟังฟางเหยียน ฟางเหยียนเป็นคุณชายของตระกูลฟาง มีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถทำให้คนพวกนั้นเชื่อฟังเขาได้ สมเหตุสมผล วันนั้นที่พวกเขาจับน้องชายของเซียวเจิ้นเที่ยนไป เซียวเจิ้นเที่ยนอยากจะฆ่าฟางเหยียนแทบแย่ แต่ผ่านมานานขาดนั้นเขาก็ไม่แตะต้องฟางเหยียนแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช่ไม่ลงมือนะ แต่ไม่กล้าลงมือ
เพราะ เขาคือคุณชายของตระกูลฟางไง!
ใช่ เขาคือคุณชายของตระกูลฟาง ดังนั้นถึงได้เอาบ้านใหญ่ตระกูลเย่กลับมา แล้วให้ฟางซื่อกรุ๊ปแก้ไขแบบแปลนให้ตน!
ทั้งหมดของทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาต้องการทำเรื่องที่ดูเหมือนคนทั่วไปทำไม่สำเร็จได้อย่างง่ายดายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ การที่มีตัวตนแบบนี้ เขาต้องคิดมากมายขนาดนั้นไปทำไมกัน! เพียงแค่สั่งการ ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?
ความกล้าของฟางเหยียน มาจากวงศ์ตระกูล เขาคือคุณชาย คุณชายของตระกูลฟาง!
เย่ชิงหยู่กุมขมับ ทำไมตอนนั้นตนถึงคิดไม่ถึงกันนะ
ทำไมตนต้องปักใจเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจเกี่ยวกับเขากันนะ?
ท้ายที่สุด ตนก็ไม่ได้เข้าใจอะไรฟางเหยียนเลย!
แต่ ต่อให้ไม่เข้าใจเขาแล้วยังไง?สิ่งต่างๆที่ฟางเหยียนทำมาทั้งหมดยังไม่พอที่จะพิสูจน์ว่าเขาดีต่อตนอีกเหรอ?ความซาบซึ้งในแต่ล่ะครั้ง ความหวังดีในแต่ล่ะรอบ ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่าฟางเหยียนดีกับตน
นั่นเป็นแค่การตอบแทนบุญคุณเหรอ?ไม่!นั่นไม่ใช่การตอบแทนบุญคุณ นั่นเป็นการคุ้มครองตน ปกป้องตน มองว่าตนเป็นภรรยา มีแค่การปกป้องคนที่รักที่สุดเท่านั้น ถึงจะทำเรื่องแบบนี้ได้
ใช่ ฟางเหยียนรักตน แล้วเขาจะไม่รักตนได้อย่างไรกัน!ไม่ว่ายังไงตนก็เป็นภรรยาของเขานะ!ฟางเหยียนพูดไว้ เพียงแค่เขายังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่ให้ตนโดนทำร้ายแม้แต่นิดเดียว ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นพูด เธอจะไม่เชื่อ แต่นี่ฟางเหยียนเป็นคนพูด เธอจึงเชื่อ เพราะฟางเหยียนกระทำให้เห็นมาโดนตลอด
แต่ ถ้าฟางเหยียนรักตัวเอง แล้วทำไมฟางเหยียนไม่กลับมา?และไม่โทรหาตนล่ะ?
“ชิงหยู่!คิดถึงฟางเหยียนอีกแล้วใช่มั้ย?” จู่ๆ เสียงที่อบอุ่นและเมตตาดังขึ้น
เห็นสาวสวยที่แต่งหน้าเบาๆ สวมกระโปรงสีแดงใส่รองเท้าส้นสูงเดินมา จางเจียวเจียวลงมานั่งตรงข้ามเย่ชิงหยู่ เห็นก๋วยเตี๋ยวชามนั้นที่ยังไม่ได้กินเลยแม้แต่น้อย และเห็นหน้าตาอันตรอมใจของเย่ชิงหยู่ เธอจึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
เย่ชิงหยู่มองไปที่แม่ พยักหน้าไม่พูดอะไร ถือว่าตอบรับคำพูดของแม่แล้ว
เย่ชิงหยู่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้จางเจียวเจียวฟัง จางเจียวเจียวก็รู้สึกตกใจมาก เธอไม่รู้ว่าตัวตนของฟางเหยียนจะเป็นคุณชายของตระกูลฟาง เธอรู้เพียงแค่เมื่อหลายปีก่อน เย่เทียนพาเด็กคนหนึ่งกลับมา พูดว่าต่อไปจะดูแลเด็กคนนั้นเหมือนลูกของตัวเอง พ่อแม่ของเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ต่อมาจางเจียวเจียวได้ดูแลเด็กคนนั้นเหมือนลูกของตัวเอง แต่แรกเด็กคนนั้นไม่ค่อยพูดจา มักจะแสดงท่าทางที่ไม่สมกับวัยออกมา ต่อมา เขาค่อยๆร่าเริง สดใสขึ้นช้าๆ
จางเจียวเจียวเป็นคนดีคนหนึ่ง เพียงคำพูดเดียวของเย่เทียนทำให้เธอทำให้หมดทุกอย่าง แม้ฟางเหยียนจะไม่ใช่ลูกของเธอ แต่เธอไม่เคยเอาเปรียบฟางเหยียนเลย ดูแลเขาเหมือนลูก นี่ก็เป็นเหตุผลที่หางเหยียนดีต่อเธอ
เห็นใบหน้าของลูกสาว จางเจียวเจียวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ออก
หลังจากเงียบไปสักพัก เย่ชิงหยู่จึงถามว่า “แม่ แม่ว่าที่ฟางเหยียนกลับมาเพื่อตอบแทนบุญคุณหรือเปล่า?”
เธออยากถามประโยคนั้นมาก ว่าเขาไม่ได้ชอบหนู และรักหนู และมองหนูว่าเป็นภรรยาจริงๆ แต่ตรงหน้านี้คือแม่ของเธอ เธอเกรงใจที่จะถามตรงๆแบบนั้น
จางเจียวเจียวส่ายหน้า แล้วกล่าว “ไม่หรอก ฟางเหยียนเป็นเด็กที่แม่เลี้ยงจนเติบใหญ่ แม้แม่จะไม่ใช่แม่แท้ๆของเขา แต่แม่รู้ดี ลูกลืมตอนเด็กๆที่เขาแสดงความรับผิดชอบอันแรงกล้าออกมาแล้วเหรอ?ตอนนั้นลูกเรียนอยู่มัธยมต้นถูกผู้ชายไล่จีบ ต่อมาฟางเหยียนต่อยเขา ต่อยจนกระดูกหัก”
“ลูก แม่รู้ว่ารู้กำลังคิดอะไรอยู่ เสี่ยวหยียนชอบหนูจริงๆนะ เป็นความชอบที่ชอบจากใจจริง ไม่ใช่เพราะตอบแทนบุญคุณอะไรนั่นที่หนูพูดแล้วถึงได้ดีกับหนู เขาไม่ให้ใครรังแกหนูได้ นี่เป็นความรับผิดชอบ เขาทำให้หนูซาบซึ้งได้หลายครั้ง และนั่นก็คือความรัก!เขาไม่มีทางทำเรื่องที่หนูไม่ชอบ นั่นคือการให้เกียรติ!มีเพียงสามีภรรยาที่แท้จริง ถึงจะเป็นแบบนี้ได้ เสี่ยวเหยียนเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงได้ให้เกียรติลูก กลับมานานขนาดนั้น แต่ยังนอนที่โซฟาตลอด นั่นก็เพราะเขาให้เกียรติหนู”
จางเจียวเจียวพูดพลาง ก็จับมือเย่ชิงหยู่พลาง แล้วได้กล่าวต่ออย่างจริงใจว่า “เสี่ยวเหยียนไม่ใช่คนโลภ เขาเป็นคนที่ดีกับลูกจริงๆ เป็นคนที่ใช้ความรู้สึกกับลูก ได้เจอผู้ชายแบบนี้ ลูกต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าโทษตัวตนของเสี่ยวเหยียน บางทีที่คนนั้นพุูดกับหนูไม่ใช่ความคิดของเสี่ยวเหยียน แม่ดูออก ว่าเสี่ยวเหยียนรักลูกจริงๆ!”
เย่ชิงหยู่สะอื้น จ้องไปที่จางเจียวเจียวสักพัก แล้วพยักหน้าตอบรับ
ขณะนี้ มีโทรศัพท์เข้า จางเจียวเจียวรับสาย แล้วกล่าว “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ รอแป๊บนะ!”
หลังจากที่วางสายแล้ว เธอพูดกับเย่ชิงหยู่ว่า “ช่วงนี้แม่อาจจะต้องไปบ้านเกิดของป้าของแกสักกี่วัน ภรรยาของพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของแกคลอดลูก แม่ไปดูสักหน่อย!แล้วก็อยู่กับป้าของแกสักกี่วัน”
เย่ชิงหยู่พยักหน้าตอบรับ แล้วกล่าว “แม่ไปเถอะ!หนูไม่เป็นไรค่ะ”
จางเจียวเจียวยังคงกล่าวอย่างเป็นห่วง “แกไม่ต้องคิดมาก ฟางเหยียนกลับมาอยู่แล้ว”
เย่ชิงหยู่พยักหน้า มองไปยังแม่ที่อบอุ่น เธอรู้สึกสบายใจมาก ที่มีแม่อันอ่อนโยนและใจกว้างแบบนี้ เป็นโชคดีของเย่ชิงหยู่จริงๆ ตอนนั้นกิจการของเย่เทียนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะมีภรรยาแบบนี้
หลังจากที่จางเจียวเจียวออกไปแล้ว ในห้องก็เงียบลง เย่ชิงหยู่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร แล้วได้กินก๋วเตี๋ยวที่อยู่บนโต๊ะลงไปอีกคำ
แว็บเดียวแม่ของเธอก็ได้เคลียร์ใจของเธอ ใช่ ฟางเหยียนชอบตน รักตน ไม่งั้นทำไมถึงได้คุ้มครองตัวเองแบบนี้ล่ะ หลังจากที่ฟางเหยียนกลับมาแล้ว เธอก็ไม่ถูกรังแกอีกต่อไป นี่ก็เป็นเพราะรักถึงได้ปกป้อง