จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 355
ฟางไห่อิงโกรธจนระงับไม่ไหวแล้ว ยกมือขึ้นมาตบไปที่ใบหน้าของกาวหรงอย่างรุนแรง
ฝ่ามือนี้ตบจนกาวหรงไม่ทันตั้งตัว ศีรษะของเขาถูกตบจนเอียงไปด้านข้าง ทั้งตัวคนโง่งมไปแล้ว หน้าหันไปทางด้านนั้นอยู่นานยังไม่ได้ดึงกลับมา
ฟางไห่อิงสูดลมหายใจหนักๆ มองกาวหรงอย่างโกรธเคือง กาวหรงหันหน้ากลับมาช้าๆสบตากับฟางไห่อิง เธอถึงกับลงมือตบตนเอง ฟางไห่อิงถึงกับกล้าลงมือกับตนเอง? เพื่อมือที่สามคนหนึ่ง…
กาวหรงเป็นใคร? บ้านของเขารวย ตนเองเป็นเจ้าของเหมืองนะ ทรัพย์สินของตนเองหลายแสนล้าน! ตอนไหนกันที่เคยได้รับความทุกข์เช่นนี้? ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาเหมือนพวกขี้แพ้ แต่ว่าคนภายนอกใครก็ไม่กล้าดูถูกตนเอง
หลายปีมานี้ ฟางไห่อิงก็เพียงต่อว่าตนเอง ไม่เคยลงมือมาก่อน แต่ว่าวันนี้ เธอถึงกับลงมือตบตนเอง!
“คุณตบฉัน!?” กาวหรงพึมพำเอ่ยว่า “คุณถึงกับลงมือตบฉันเพื่อไอ้หนุ่มคนหนึ่ง!”
ฟางไห่อิงสะอึกเล็กน้อย เอ่ยว่า “กาวหรง คุณพูดว่าฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าทำไมคุณต้องใส่ร้ายว่าฉันทำเรื่องแบบนั้น นั่นเป็นหลายชายแท้ๆของฉัน แล้วก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับฉันที่สุดบนโลกนี้ ทำไมคุณถึงพูดเรื่อยเปื่อยไม่มีกาละเทศะ ฉันกับหลายชายแท้ๆของตัวเองเกิดเรื่องอะไร เช่นนั้นฉันยังเป็นคนหรือ? ฉันบอกคุณไว้ คุณดูถูกฉันได้ แต่ว่าคุณอย่าได้ดูถูกหลานชายของฉัน!”
กาวหรงยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าที่โดนตบเล็กน้อย สายตาของเขาค่อยๆเริ่มเปลี่ยนเป็นแหลมคม จากนั้นใบหน้าอ้วนก็เปลี่ยนเป็นสั่นเทา สั่นสะท้าน ไม่นานนัก เขากัดฟันพยักหน้าติดๆกันเอ่ยว่า “คุณดีนี่ ถึงกับกล้าลงมือตบฉันแล้ว เป็นเพราะถูกฉันพูดเข้าไปถึงส่วนลึกข้างในใจ จากนั้นก็พาลโกรธ ดังนั้นจึงได้ลงมือตบฉันใช่ไหม?”
มือทั้งคู่ของกาวหรงคว้าจับแขนของฟางไห่อิง เขย่าไปมาเอ่ยถามว่า “บอกฉัน! ถูกฉันพูดเข้าไปถึงส่วนลึกข้างในใจแล้วใช่ไหม?”
“บ้าไปแล้ว คุณบ้าไปแล้วจริงๆ!” ฟางไห่อิงโกรธจนสะบัดหลุดจากมือทั้งคู่ของกาวหรง ต่อจากนั้นจัดการกับอารมณ์ความคิดของตนเอง ตะโกนบอกคนขับด้านหน้าว่า “จอดรถ ฉันจะลงรถ ฉันจะกลับบ้าน คุณมันคนบ้า”
คนขับคนนั้นลดความเร็วลง กาวหรงเหอะออกมาเสียงหนึ่ง ตะโกนใส่คนขับว่า “ห้ามจอด! ถ้านายจอด ฉันจะไล่นายออก”
ทั้งสองคน คนหนึ่งเป็นเจ้านาย อีกคนเป็นภรรยาเจ้านาย ไม่ว่าใครไล่ตนเองออก นั่นก็ล้วนมีอำนาจทั้งสิ้น เขาจนปัญญา ทำได้เพียงคงความเร็วช้าๆขับต่อไป
“ฟางไห่อิง คุณกล้าพูดว่าไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อฉันไหม?” กาวหรงถามอย่างชั่วร้าย
ฟางไห่อิงดวงตาแดงก่ำ คร้านที่จะพูดมากอีกคำเดียว จึงไม่พูดอะไรเสียเลย
“ฟางไห่อิง ฉันพูดกับคุณ คุณหูหนวกหรือไง?” กาวหรงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
ฟางไห่อิงยังคงไม่พูดจา กาวหรงถามต่อ “ดี คุณไม่พูดใช่ไหม? ไม่พูดเช่นนั้นก็ยอมรับแล้ว! ผู้หญิงแบบคุณ ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะทำเรื่องที่ผิดต่อฉันออกมาได้ คุณรังเกียจที่ฉันหน้าตาไม่ดีใช่ไหม? หรือว่ารังเกียจที่ฉันอายุเยอะแล้ว?”
“ฉันรู้ จะต้องรังเกียจที่ฉันอายุเยอะแล้ว เลยหาเนื้อสดใหม่ มาเล่นสนุก! คุณมันหญิงร่าน ฉันจะเอาเรื่องของคุณบอกคนในตระกูลคุณ บอกคนในตระกูลฉัน บอกเพื่อนๆของคุณ ฉันจะให้พวกเขาได้รู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงแบบไหน”
ฟางไห่อิงดวงตาแดงก่ำหันมามองกาวหรง เอ่ยว่า “ฉันเปล่า! ฉันเปล่า! ฉันเปล่า! คุณมันประสาท”
ในที่สุดก็พูดแล้ว กาวหรงกัดฟันแน่นเอ่ยว่า “เช่นนั้นคุณกล้าสาบานต่อสวรรค์ไหม?”
ฟางไห่อิงดึงสายตากลับมาอีกครั้ง ในใจยิ่งหมดหวังกับกาวหรง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สนใจมากขนาดนั้น ตอนนี้เขาก็แค่รู้สึกว่าตนเองถูกสวมเขาแล้ว ความโกรธในใจสายนั้นยิ่งเข้มข้นมากขึ้น ตอนที่ความสงสัยกลายเป็นความจริงนั้น เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
นั่นเป็นส่งที่เขาเห็นเองกับตา เห็นว่าภรรยาของตนเองกอดอยู่กับชายหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่ง
เพียงแค่นี้ ภรรยาของเขายังจะหาข้ออ้าง นี่ไม่ใช่ทำลายผู้ชายคนหนึ่งแล้วจะเป็นอะไร!
เห็นว่าฟางไห่อิงไม่พูดจาอีกครั้ง เขาก็เอ่ยบีบคั้นอีกว่า “คุณกล้าพูดว่าตัวเองไม่เคยทำเรื่องนั้น ก็กล้าสาบานแบบร้ายแรง สาบานตอนนี้! ก็พูดว่าคุณสาบานว่าตัวเองไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อฉัน ถ้าเกิดว่าเคยทำไปแล้วก็ขอให้ทั้งตระกูลตายหมด! ตัวเองไม่ได้ตายดี สรุปแล้วยิ่งร้ายแรงยิ่งดี”
ฟางไห่อิงยิ่งไม่อยากจะเชื่อมากขึ้น ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรือ? ทำไมเขาถึงได้เปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้?
เธอส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่มีทาง ฉันไม่ได้ทำเรื่องผิด ทำไมจะต้องสาบาน สาบานแล้วถึงได้หมายถึงยอมรับว่าตัวเองทำเรื่องที่ผิดต่อคุณ”
ผู้ชายคนหนึ่งบีบบังคับให้ผู้หญิงคนหนึ่งสาบานร้ายแรงเช่นนี้ เช่นนั้นก็ต้องคว้าหลักฐานมาได้แล้วถึงกล้าทำแบบนี้น่ะสิ อีกอย่าง ฟางไห่อิงทำอะไรเปิดเผยชัดเจน เธอจะไปสาบานทำไม?
เห็นความดื้อรั้นของฟางไห่อิงเช่นนี้ ไม่กล้าสาบาน กาวหรงในใจก็มีความมั่นใจมากขึ้นแล้วในความจริงที่ว่าเธอนอกใจ ดังนั้นจึงพยักหน้าติดๆกันเอ่ยว่า “ดีนี่ ดูแล้วจางเทียนซือพูดไว้ไม่มีผิด เขาบอกว่าในครึ่งปีนี้ฉันจะพบเจอกับเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย ตอนที่เขาพูดนั้นเป็นตอนที่ทองผมฉันแล้วพูด ยังยกมือขึ้นมาตบบนหัวของฉันอีก บอกว่าบนหัวของฉันมีสิ่งสกปรก ฉันนี่โง่จริงๆเลย อย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณที่สวมหมวกเขียวให้ฉัน ฟางไห่อิงหนอฟางไห่อิง คุณนี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว! ทุกคนเป็นสามีภรรยามาครั้งหนึ่ง คุณจำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ? คุณคิดว่าพวกคุณเป็นตระกูลใหญ่ ก็สามารถกินฉันได้แล้วใช่ไหม?”
ฟางไห่อิงไม่อยากจะอธิบายอะไรอีกแล้ว พูดมากกับคนประเภทนี้ไปก็เป็นการเปลืองลิ้นของตัวเอง
เธอจึงหันหน้าไปอีกทางอย่างสิ้นหวัง เอ่ยกับคนขับรถว่า “ฉันบอกให้นายหยุดรถ นายไม่ได้ยินหรือ?”
“จอดรถ?” กาวหรงเหอะออกมาเสียงหนึ่ง เอ่ยว่า “คุณอยากจะไปไหน? ไปหาไอ้หนุ่มหน้าขาวนั่นของคุณหรือ? ฉันจะบอกคุณให้ ไม่มีทางหรอก กลับบ้านกับฉัน รอสักพักฉันจะไปหาไอ้หน้าขาวนั่น ฉันจะให้เขารู้ถึงจุดจบของการแตะต้องผู้หญิงของฉัน”
กาวหรงไม่เชื่อว่าคนคนนั้นคือฟางเหยียน ในใจของเขา นั่นก็คือหนุ่มหน้าขาวที่ฟางไห่อิงเลี้ยงดูไว้ เธอจงใจพูดว่านั่นคือฟางเหยียน ก็เพื่อขจัดความสงสัยของตนเองออกไป เขาก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น
“ถ้าคุณกล้าแตะต้องเขาแม้แต่ผมเส้นเดียว ฉันจะหย่ากับคุณ!” ฟางไห่อิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
กาวหรงยิ่งพาลโกรธแล้ว เขาเอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “หย่าร้างก็กล้าเอาออกมาขู่ฉันแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ในหลายปีมานี้ เป็นครั้งแรกที่คุณพูดคำนี้ขึ้นมากับฉัน ฟางไห่อิง ดูท่าแล้วคนๆนั้นสำคัญต่อคุณมากเลยนี่ ได้ ตอนนี้ฉันจะให้คนไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้ ฉันอยากจะดูว่าเขาตายแล้วคุณจะทำกิริยาอะไรออกมา”
ฟางไห่อิงทนจนไม่อาจทนได้แล้ว ฟางเหยียนนั้นน่าสงสารมากพอแล้ว ตั้งแต่เล็กก็โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง ไม่มีพ่อแม่ ไร้ญาติขาดมิตร ถึงแม้ว่าจะมีกินมีใช้ แต่ว่าเธอเทียบกับฟางเหยียน เป็นสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของสองแนวคิดโดยสิ้นเชิง
เธอสงสารเห็นใจกับเรื่องที่ผ่านมาของฟางเหยียน ถึงแม้เขาจะสูงส่งเป็นพลตรี แต่ว่าทุกวันเขาต้องเผชิญหน้ากับเหล่าคนชั่วร้ายนั้น ยากนักที่จะกลับบ้านมาสักครั้ง อีกทั้งยังต้องกลับมาเจอกับเจตนาร้ายของทั้งครอบครัวอีก อย่างเช่นพี่ใหญ่ฟางไห่เซิง ยังมีฟางไห่ถาง พวกเขาคนไหนที่ไม่มองฟางเหยียนอย่างโหดร้ายดุดัน คนไหนที่ไม่ได้อยากขับไล่ฟางเหยียนออกจากตระกูลฟาง
คนที่ฟางเหยียนเชื่อใจที่สุดก็คือตนเอง เขาเพียงแค่ยอมพูดคุยกับตนเองเท่านั้น แต่ว่าตอนนี้ แม้แต่สามีของตนเองคิดอยากจะจัดการเขา สงสัยเขา นี่จะให้ฟางไห่อิงไม่เป็นทุกข์ได้อย่างไร
“กาวหรง! ฉันขอเตือนคุณ ไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนั้นกับฟางเหยียน ถ้าคุณทำอะไรกับเสี่ยวเหยียน ฉันไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่ ตระกูลฟางของพวกเราไม่มีทางปล่อยคุณไป” ฟางไห่อิงยกมือขึ้นมาชี้เตือนกาวหรง!
กาวหรงหรี่ตาเอ่ยว่า “งั้นหรือ? คุณแน่ใจหรือ? ตอนนี้ ฉันก็จะโทรศัพท์ให้เจ้าสามทำ!” เอ่ยจบ เขาก็ควักโทรศัพท์ออกมาโทรออก ฟางไห่อิงยกมือขึ้นไปแย่งโทรศัพท์ ตะโกนว่า “กาวหรง คุณบ้าไปแล้ว!” เธอยังไม่ทันได้แย่งโทรศัพท์ของกาวหรงมา กาวหรงก็จับแขนของฟางไห่อิงเอาไว้
ต่อจากนั้น เขายกมือขึ้นมา “เพี๊ยะ!” ฝ่ามือหนึ่งตบลงบนใบหน้าของฟางไห่อิง