จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 361
“คุณท่าน…” เหล่าโจวตะโกนใส่ฟางจินหยวน แต่ฟางจินหยวนยกมือขัดไว้
ตอนนี้ เขาเพียงแค่อยากดูฟางเหยียนที่สงบแบบนี้อีกสักหน่อย เพียงแค่ดูอย่างนี้ เขาก็พอใจแล้ว! มนุษย์เมื่อแก่ตัวลง จะจำเรื่องที่ผ่านมาได้ง่าย โดยเฉพาะคนอย่างฟางจินหยวนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา ยิ่งง่ายต่อเจ็บปวดใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
แต่ไม่นาน ฟางเหยียนก็เห็นเขา เขาหันหลับมาดูฟางจินหยวน ใบหน้านั้นยังคงเป็นใบหน้าอันเย็นชาอย่างนั้น และยังคงเป็นใบหน้าบูดบึ้ง เขายิ้ม แล้วกล่าว “คุณมาแล้ว!”
“พ่อ!” ฟางไห่อิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของฟางเหยียนตะโกนออกมาอย่างอกสั่นขวัญหาย
ฟางจินหยวนสะอึกสะอื้น เดินไปที่ฟางเหยียน แล้วกล่าว “เสี่ยวเหยียน! ฉันคิดว่าแกจะไม่กลับมาแล้วเสียอีก? เรื่องเมื่อกี๊ ฉันสั่งสอนพวกเขาไปแล้ว แก…”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นขัดคำพูดของคุณท่านไว้ ฟางเหมี่ยวและตงฟางหยุนเอ๋อร์ที่เพิ่งออกมาเมื่อกี๊เห็นการกระทำนี้พอดี หลังจากการกระทำนี้ คุณท่านก็หุบปากไป ไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่มองฟางเหยียนอย่างรู้สึกผิด
ตงฟางหยุนเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะคาดเดา ว่าฟางเหยียนนี่มีความสามารถขนาดไหนกัน ทำไมถึงสั่งคุณท่านตระกูลฟางที่ดูแล้วยโสโอหังนี่ได้ แล้วยังวางท่าสูงส่งอีกต่างหาก นี่คุณท่านของตระกูลฟางนะ คนจำนวนมากต้องให้การเคารพนับถือ แล้วทำไมฟางเหยียนนี่ถึงได้จองหองไร้มารยาทได้ขนาดนี้กันนะ? และที่สำคัญที่สุดคือ คุณท่านยังไม่โกรธอีกด้วย
ฟางเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่ต้องไร้สาระกับผม ที่ผมกลับมาก็เพราะมาส่งคุณน้าของผม ฟางจินหยวน ผมรู้นะว่าคุณให้น้าแต่งงานกับคนนั้นเพื่อธุรกิจของคุณ ตอนนั้นผมไม่อยู่ ถ้าผมอยู่ ผมไม่มีทางให้คุณเอาความสุขของคุณน้าของผมไปแลกกับการค้าของคุณแน่นอน!
“เสี่ยวเหยียน!” ฟางไห่อิงทนไม่ไหวแล้ว มองไปที่คุณท่านอย่างรู้สึกผิด เธอไม่คาดคิดว่าฟางเหยียนจะตำหนิคุณท่านตรงๆเรื่องของตนต่อหน้าผู้คน เนื่องจากนิสัยแข็งกร้าวของคุณท่านยังคงฝังลึกอยู่ในใจของฟางไห่อิง ดังนั้นเมื่อได้ยินฟางเหยียนตำหนิและไม่ยอมรับคุณท่านอย่างนั้น ทำให้เธอละอายใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
“เสี่ยวเหยียน เรื่องนี้…”
ฟางเหยียนยกมือขัดฟางไห่อิงไว้ แล้วพูดต่อว่า “เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ผมไม่อยากรื้อฟื้นอะไรอีก ผมก็แค่พาน้าของผมมาส่ง ส่งกลับที่ๆเธอเติบโตมา จางจินหยวน จำไว้นะ ถ้าในตระกูลฟางน้าของผมเสียเปรียบอะไรแม้แต่นิดเดียว ผมจะกำจัดตระกูลฟางอย่างไม่อ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยให้ดู” คำพูดของฟางเหยียน เลือดเย็นไร้ความรู้สึก ทำให้ทุกคนภายในห้องโถงกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
หนึ่งในนั้นที่ประหลาดใจคือตงฟางหยุนเอ๋อร์ เธอมองฟางเหยียนอย่างไม่เชื่อ นี่ยังเป็นคำพูดที่มนุษย์พูดอยู่หรือเปล่าเนี่ย? เรียกชื่อผู้นำตระกูลโดยตรง แล้วยังจะกำจัดตระกูลฟางอีก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนพูดโอหังได้ขนาดนี้ ตระกูลฟางแข็งแกร่งขนาดไหน นึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดว่าจะกำจัดตระกูลฟางได้! นี่กำลังรังแกตระกูลฟางอยู่งั้นเหรอ? หรือว่า…
เธอไม่ทันได้คิดต่อ ก็พบว่าตระกูลฟางนี้ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คนเดียว ทุกคนต่างพากันนิ่งเงียบ ต้องไปที่เขาอย่างระแวง และใบหน้าของฟางไห่เซิงและหลี่เย่ว์ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ภาพที่ฟางเหยียนทำลายขวังซือด้วยวิชาเดียวยังคงตราตรึงอยู่เสมอ ตอนนั้นเขาก็ใช้สายตาแบบนี้ ไม่มีใครกล้าสงสัยในความจริงเท็จของคำพูดของเขา ไม่มีใครกล้าเล่นกับคนที่สามารถเอาชีวิตคนได้ตลอดเวลาแบบนี้
ตงฟางหยุนเอ๋อร์ไม่รู้เรื่องความแค้นเหล่านี้ของตระกูลฟาง เพียงแต่ตะลึงกับคำพูดแปลกๆของฟางเหยียนเข้าให้แล้ว เขาอยากกำจัดตระกูลฟาง นี่เป็นการละเมิดตระกูลฟางอย่างหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีคนของตระกูลฟางคนไหนกล้าตอกกลับคำพูดของเขาเลยสักคน! ทุกคนถึงขั้นหวาดกลัว
เขาเป็นใคร? ทำไมถึงทำให้คนในครอบครัว ถึงขั้นคุณท่านหวาดกลัวได้ขนาดนี้
เมื่อนึกถึงเมื่อกี๊ที่ตัวเองทำเรื่องบ้าๆลงไป เธอก็อึดอัดจนอยากหาที่หลบซ่อนตัวไว้
สายตาของฟางเหยียนมองไปที่ใบหน้าของทุกคนของตระกูลฟาง ที่มีสีหน้าที่ต่างกันออกไป เขายกมือขึ้นชี้พวกเขา ชี้ไปทีล่ะคนแล้วกล่าว “แล้วก็พวกคุณ ผมเตือนพวกคุณไว้นะ! ถ้าใครกล้ารังแกน้าของผม ผมฟางเหยียนไม่ปล่อยมันไว้แน่” เมื่อพูดจบ ฟางเหยียนหันแล้วจากไป เหลือไว้แค่คนที่แข็งทื่อเพราะหวาดกลัวของตระกูลฟาง
ในตอนที่ฟางเหยียนเดินมาถึงประตูของห้องโถง ฟางจินหยวนได้ตะโกนออกมาว่า “เสี่ยวเหยียน งานแต่งวันนี้ของฟางเหมี่ยวกับตระกูลตงฟาง ไม่ได้เป็นไปอย่างที่แกหรือคนนอกพูดกันว่าจะให้ฟางเหมี่ยวสืบทอดวงศ์ตระกูลหรอกนะ พวกเราต้องการขยายไปโลกภายนอก แต่ตระกูลฟางจะเป็นของแกตลอดไป ที่ให้ฟางเหมี่ยวแต่งกับตระกูลตงฟาง ก็เพื่อเคลียร์ทางเดินในอนาคตให้แกนะ”
ประโยคนี้แทงไปที่จิตใจของตงฟางหยุนเอ๋อร์และฟางเหมี่ยวอย่างจัง ไม่สิ พูดให้ถูกคือ แทงเข้าไปในใจของทุกคนในตระกูลฟาง ทุกคนต่างมองฟางจินหยวนอย่างประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคน
ตอนที่ฟางเหมี่ยวและตงฟานหยุนเอ๋อร์แต่งงานกัน ภายนอกได้กระจายข่าวออกไปอย่างแพร่หลาย ว่าตระกูลฟางจะมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับฟางเหมี่ยวแล้ว เพราะฟางเหมี่ยวมีเบื้องหล้งที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลตงฟาง การที่เขาจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลก็สมเหตุสมผล
เมื่อได้ยินข่าวนี้ ฟางเหมี่ยวก็ดีใจ ถึงขึ้นตื่นเต้น ต้องรู้ไว้ว่า ถ้าได้เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลฟาง ต่อไปเขาก็จะเป็นคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศหวา อำนาจและทรัพย์จะมารวมกันที่ตน แต่ใครจะรู้ว่าฟางจินหยวนจะพูดแบบนี้ออกมา พูดตรงๆหน่อย ก็คือที่เขาแต่งงานกับตงฟางหยุนเอ๋อร์ ก็เป็นแค่ของขวัญที่เขามอบให้กับฟางเหยียนเท่านั้น!
ตงฟางหยุนเอ๋อร์เองก็โมโหจนไม่ไหวแล้ว เธอจับฟางเหมี่ยว แล้วพูดเบาๆว่า “ปู่ของคุณ ปู่ของคุณทำงี้ได้ไง! ฟางเหมี่ยว เขาดูถูกคนเกินไปแล้วนะ อะไรคือปูทางให้เขา?”
ฟางเหมี่ยวสะอึก แล้วกล่าว “มีบางเรื่อง รอให้ผ่านไปแล้วผมค่อยบอกคุณ”
ตงฟางหยุนเอ๋อร์กัดริมฝีปาก น้ำตาคลอเบ้า แต่ไม่ให้ไหลลงมา
ฟางเหยียนได้หยุดลง เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่มองขึ้นไปข้างบนช้าๆ
ฟางจินหยวนมองฟางเหยียนที่หยุดเดินลง แล้วรีบกล่าว “เสี่ยวเหยียน ปู่พูดจริงนะ! ที่ปู่ทำทั้งหมดก็เพราะแก แน่นอน บางทีแกไม่อยากให้ปู่ทำแบบนี้ แต่ยังไงนี่ก็เป็นธุรกิจของแก แกต้องเอากลับไปไม่ช้าก็เร็ว”
ฟางเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาหลับตาลง แล้วพึมพำ “คุณคิดว่าผมจะเสียดายธุรกิจเล็กน้อยพวกนี้ของตระกูลฟางเหรอ? ฟางจินหยวน ผมยังคงพูดประโยคนั้น ผมสามารถตั้งตระกูลฟางสิบตระกูลได้”
เมื่อพูดจบ ฟางเหยียนก็เดินออกจากห้องโถงไป ยิ่งเดินออกไปยิ่งไกลขึ้น
คำพูดนั้นของเขาที่ว่าสามารถตั้งตระกูลฟางสิบตระกูลได้ดังกึกก้องทั่วห้องโถงของตระกูลฟาง
เมื่อมาถึงลานจอดรถ ฟางเหยียนก็เข้าไปในรถหงฉีสีดำคันนั้นโดยตรง
เทียนขุยยื่นกระดาษให้ฟางเหยียน แล้วกล่าว “จอมพลโผ้จวิน จัดการเรียบร้อยแล้วครับ!”
ฟางเหยียนรับกระดาษนั้นมา ในมือแล้วดู เมื่อดูก็เห็นสัญญาหย่าที่เขียนอยู่บนหัวกระดาษ หลังจากที่ดูแล้ว เขาพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วกล่าว “ดี ไปบ้านของกาวหรงเลยแล้วกัน”