จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 387
ฟางเหยียนและเทียนขุยท่าทีนิ่งสงบ เขาพูดต่อว่า “ฉันล่ะแปลกใจมากว่าแกไปเอาความกล้ามาจากไหน นึกไม่ถึงว่ากล้าพูดว่าจะไว้ชีวิตฉันได้อย่างไม่ละอายใจ หรือตัวแกเองไม่คิดว่ามันน่าขำหรือไง?ไว้ชีวิตฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครวะ?แกคิดว่าแกมีปัญหาตัดสินความเป็นความตายของฉันได้เหรอ?พูดกับแกตรงๆทุกคนที่ถูกฉันฆ่าล้วนพูดว่าจะตัดสินความเป็นความตายของฉัน สุดท้ายจุดจบของพวกมันก็เหมือนๆกัน ตาย!จะบอกให้นะ บนโลกนี้นอกจากยมบาล ใครก็ไม่กล้าพูดเรื่องความเป็นความตายกับฉันทั้งนั้น!แก ก็ไม่ต่าง!”
ในสายตาของเขา ฟางเหยียนก็เป็นแค่วัยรุ่นที่อายุยี่สิบกว่าปีที่ลืมตัวเท่านั้น ฝีมือของเขามากสุดก็แค่เก่งกว่าเทียนขุยนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย
อ๋าวไท่เป็นใคร ยอดฝีมือระดับต้าชี่ ที่สุดของประเทศหวา เขาเพียงแค่ยืน ก็สามารถสั่นสะเทือนทั้งงานได้แล้ว
ในความเข้าใจของอ๋าวไท่ ที่ประเทศหวาไม่มียอดฝีมือระดับต้าชี่ที่อายุยี่สิบกว่าๆ ดังนั้นคนที่อยู่ข้างหน้านี้ไม่มีทางเป็นระดับต้าชี่ได้ เมื่อนึกถึงจุดนี้ ความมั่นใจภายในจิตใจของเขาก็เกิดขึ้นทันใด เขาเปลี่ยนท่าทีเป็นอกผ่ายไหล่ผึ่ง
เมื่อพูดจบ เขาคิดว่าคนนั้นจะเกรี้ยวกราดขึ้นมา แล้วลงมาฆ่าเขาทันที แต่เรื่องที่เขาคาดคิดไว้ไม่เกิดขึ้น กลับกัน คนนั้นกลับนิ่งสงบ ใช้สายตาเย็นชาจ้องตน
แววตาของคนนี้ การกระทำทุกอย่างของเขา เป็นการเหยียดหยามตนอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อนึกถึงจุดนี้ อ๋าวไท่กัดฟัน แล้วพูดต่อฟางเหยียนว่า “ลงมือเถอะ!ให้ฉันดูหน่อยสิว่าแกมีสิทธิ์ที่จะพูดว่าไว้ชีวิตฉันมั้ย”
ฟางเหยียนจ้องอ๋าวไท่ เกิดเป็นความสงสัยขึ้นมา หรือเขาไม่ใช่คนที่เพลิงเสวน?
ที่เดาว่าอ๋าวไท่เป็นคนของเพลิงเสวน ก็เป็นเพราะเขาฆ่าเหล่าเห้อในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เหล่าเห้อกับตนได้นัดกันไว้แล้ว หลังจากที่ตนรักษาคุณชายของตระกูลเจี่ยหายแล้วจะเล่าเรื่องเพลิงเสวนให้ตนฟัง แต่ไม่คาดคิดว่าตนเพิ่งจะรักษาคนเสร็จ เขาก็ถูกฆ่าแล้ว นี่จึงทำให้ฟางเหยียนอดคิดไม่ได้ว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนของเพลิงเสวน
ใครที่ไม่อยากให้ฟางเหยียนรู้เรื่องเพลิงเสวนมากที่สุด ก็มีแค่คนของเพลิงเสวนเองนั่นแหละ!
บนโลกนี้คนที่จะหลอกลวงฟางเหยียนได้ ก็มีแค่เพลิงเสวนองค์กรที่ไม่เคยปรากฏกายมาก่อนนี่แหละ ดังนั้นฟางเหยียนจึงคาดเดา ว่าผู้เฒ่าคนนี้เป็นคนที่เพลิงเสวนส่งมาฆ่าเหล่าเห้อ ถ้าใช่ งั้นเขาก็เป็นคนของเพลิงเสวนโดยปริยายอยู่แล้ว
ถ้าเขาเพียงแค่อยากล้างแค้นให้ลูกศิษย์ของตน คิดจะหาจุดอ่อนของตน คิดจะดึงดูดตน เขาควรจะไปหาเย่ชิงหยู่ แต่ไม่ใช่ถังยู่
แต่เขาไปหาถังยู่ ชัดเจนมาก ว่าเพื่อฆ่าเหล่าเห้อ การฆ่าเหล่าเห้อถึงจะเป็นเป้าหมายที่สุดของเขา การฆ่าตน เป็นแค่เรื่องรองเท่านั้น
ไฟแห่งความโกรธของเทียนขุยยิ่งอยู่ยิ่งทวีขึ้น เขาเลียนแบบท่าทางอ๋าวไท่ หัวเราะฮ่าๆออกมา แล้วกล่าว “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?แกคิดว่าตัวเองมีสิทธิ์ให้จอมพลโผ้จวินออกโรงมั้ย?แกทำแบบนี้ให้ความสำคัญตัวเองไปหรือเปล่า?”
พูดพลาง เทียนขุยก็เดินไปข้างหน้าอย่างเร็ว เขาอ้าแขน แสดงท่าทางดุดันออกมา
อ๋าวไท่เห็นดังนี้ จึงมองเทียนขุยอย่างสบายๆ ไม่สนใจใคร
จากนั้นก็มองไปที่ฟางเหยียนแล้วถาม “แกใช่มั้ยที่ฆ่าลูกศิษย์ของฉัน?”
ฟางเหยียนพยักหน้าโดยไม่คิดแล้วกล่าว “ฉันฆ่าเองแหละ ตอนนั้นมันคุกเข่าลงกับพื้นอ้อนวอนฉันว่าอย่าฆ่ามัน ลูกศิษย์คนนี้ของแกไม่มีความกล้าหาญ ไม่เหมาะที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ส่วนแกก็นะ หลบๆซ่อนๆ ไม่คู่ควรที่จะตายด้วยน้ำมือของฉัน”
“เทียนขุย ลงมือ ฆ่าไอ้แก่นี่เสีย” ฟางเหยียนสั่งการอย่างสบายๆ
ยิ่งเขาพูดสบายๆมากเท่าไหร่ ยิ่งเสียดแทงอ๋าวไท่มากขนาดนั้น เมื่อเห็นคนนี้มันโอหังถึงขั้นนี้ ความอำมหิตของเขาเพิ่มขึ้นทันใด เขาโมโหแล้ว ความเหยียดหยามของฟางเหยียน ทำให้เขาโมโหอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขาอยู่มาหลายปี เป็นนักฆ่ามีนมนาน เคยฆ่าทหารรับจ้างที่เก่งกาจที่สุด เคยฆ่านักรบกองทัพ เขาไม่เคยถูกใครเหยียดหยามมาก่อน ใช้คนที่เคยพ่ายแพ้ให้เขามาก่อนมาสู้กับตน ถือเป็นการเหยียดหยามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับตน
“อ้า!” อ๋าวไท่กัดฟัน ส่งเสียงออกมาจากจุดตันเถียน ราวกับเสียงร้องคำรามของมังกรก็มิปราณ มีพลังมหาศาล เขากำหมัดแน่น สายตาอาฆาต เหมือนกับเสียงคำรามของสัตว์ร้ายอย่างไรอย่างนั้น “งั้นฉันจะให้แกตายอีกครั้งก็แล้วกัน!”
เมื่อตะโกนจบ เขายืนอย่างมั่นคง สั่นสะเทือนผืนดิน ในสายตาของเขาตอนนี้มีเพียงผู้เดียว นั่นก็คือเทียนขุย!เขาจะให้เทียนขุยเสียสละกับความไม่รู้ของตัวเอง
ครั้งที่แล้วคนนี้คนนี้มันรอดจากความตายได้ ตอนนี้ยังกล้าโอหังต่อหน้าตัวเองอีก
ก็แค่ระดับต้าชี่ จะทำอะไรฉันได้?
เทียนขุยค่อยๆอ้าขาออก ทำท่านั่งมาอยู่กับที่ เขาได้กำหมัดได้อย่างแน่นสุดๆแล้ว!และแล้ววินาทีนี้ก็มาถึง เขารอเวลานี้มานาน มากๆ
สิ่งที่ไหลอยู่ในตัวนักรบกองทัพเต็มไปด้วยเลือดร้อนที่ปะทุขึ้นมา ตอนที่เขาถูกคนนี้โจมตีมา เขาไม่สิ้นหวัง และไม่ได้ยอมแพ้ ความภาคภูมิของกองทัพวีรบุรุษไม่อนุญาตให้เขายอมแพ้ แต่ต้องกัดฟันสู้ หาโอกาสฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ ในฐานะที่เป็นนักรบที่ผ่านความเป็นความตายในสมรภูมิรบมา ไม่มีทางปล่อยชีวิตของตัวเองง่ายๆ ต่อให้เป็นช่วงวินาทีสุดท้าย เขาก็ยืนหยัดโทรหาฟางเหยียน ตั้งแต่ตอนที่มือของเขาถูกทำร้าย เขาก็สาบาน ว่าจะฆ่าคนนี้ให้ได้
ตอนนี้ โอกาสมาถึงแล้ว เขาสามารถฆ่าคนนี้ได้อย่างไม่ต้องหวาดระแวงใดๆอีก คำพูดนั้นที่จอมพลโผ้จวินได้พูดไว้ลอยเข้ามาให้หัวของเขาอีกครั้ง แค้นของตัวเองก็ล้างแค้นเอง คนที่ตัวเองต้องการฆ่าก็ฆ่าเอง
“แปดทิศ!” หมัดของเทียนขุยปะทุขึ้นไปอีก นี่เป็นพลังทั้งหมดที่มีมารวมกันกลายเป็นเปลวไฟ
เขากัดฟันอย่างมั่นใจ ทันใดนั้น ก็ก้าวไปข้างหน้า ตะคอกออกมาอย่างดังคำสุดท้าย “ปัง!”
หมัดทั้งสองเปลี่ยนเป็นเสือดุร้าย พุ่งไปที่อ๋าวไท่ เป็นกำลังภายในรวมกันขึ้นมา โดยตัวเทียนขุยเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง เสือดุก็เป็นสัตว์ที่ดุร้ายที่สุดในบรรดาสัตว์ ใช้พลังภายในรวมเป็นค้อน เหมือนกับที่ฟางเหยียนใช้พลังภายในรวมกันเป็นมีด
เขาลอยขึ้นไป ใช้ค้อนเหล็กสองอันทุบลงไปบนหัวของเสือดุจากด้านบน ตอนที่จะทุบลงไปนั้น ได้ทุบลงไปพร้อมกับพลังยิ่งใหญ่อย่างมหาศาล ทุบลงมา สามารถทำให้หัวของคนแตกละเอียดได้เลยทีเดียว แล้วยังฆ่าตายได้อีกด้วย!รุนแรงมาก แข็งแกร่งมาก นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ชายแข็งแกร่งทั้งสองคน!
ได้ยินเสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว ค้อนและเสือชนเข้าด้วยกัน ทำให้แผ่นเหล็กเก่าผุพังในโรงงานกระจกเทมเปอร์บิดเบี้ยว พื้นที่โรงงานกระจกเทมเปอร์ที่ว่างเปล่าทั้งหมดเกิดเป็นพายุหมุน
ค้อนของอ๋าวไท่ไม่ได้ทุบลงไปที่หัวของเสือดุ แต่ถูกเสือดุทั้งสองจับไว้ได้ การต่อสู้ของทั้งสอง ได้หยุดลง!
สายตาของอ๋าวไท่ที่จ้องเทียนขุย กลายเป็นไม่คาดคิด ในใจขอเขาเกิดเป็นความรู้สึกอันตรายขึ้น!