จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 389
ไม่ๆๆ! ถังยู่ไม่เชื่อว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือฟางเหยียน จะต้องเป็นเพราะสลบและหวาดกลัวสุดขีดจึงอยากเจอฟางเหยียน ใช่ ต้องเป็นแบบนี้แน่นอน จะต้องเป็นเพราะหวาดกลัวจนเกินไปจึงได้นึกถึงฟางเหยียน
ดังนั้นฟางเหยียนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นแค่การจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น ใช่ จะต้องเกิดจากการจินตนาการออกมาอย่างแน่นอน เมื่อนึกถึงจุดนี้ ถังยู่ก็ค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง แต่ตอนที่หลับตาลง ร่างกายถูกเขย่าไปมา เหมือนกับแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น
เธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ตาไม่พร่ามัวอีกแล้ว ชัดเจนกว่าเมื่อกี๊มาก ก็ยังคงเป็นใบหน้าที่เย็นชานั้นของฟางเหยียนอยู่ดี หรือฟางเหยียนอยู่ข้างๆตนจริงๆ?
“คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?” ในตอนที่เธอกำลังมึนงงอยู่นั้น ฟางเหยียนที่อยู่ตรงหน้าได้ถามขึ้น
เธอใจเต้นตึกๆ คิดในใจว่าความฝันนี้มันช่างเหมือนจริงเหลือเกิน!
แต่วินาทีต่อมา เธอก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เพราะฟางเหยียนได้พยุงเธอขึ้นมานั่ง
“ฟางเหยียน!” เธอเรียกอย่างตะลึงออกมา ฟางเหยียนพยักหน้าแล้วกล่าว “ผมเอง คุณไม่เป็นอะไรแล้วนะ!”
“ฟางเหยียน!” เธอพุ่งเข้าไปที่อกของฟางเหยียนอย่างเร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจได้พรั่งพรูขึ้นในหัวใจ น้ำตาของเธอไหลรินพรั่งพรูลงมา ล้มลงในอ้อมอกของฟางเหยียนแล้วร้องฮือๆๆออกมา
ไม่นาน อกของฟางเหยียนก็ชื้นไปด้วยน้ำตา ที่หน้าอกยังมีลมหายใจอุ่นๆของถังยู่ที่พ่นออกมา
ถังยู่ร้องไห้สักพัก แล้วกล่าวอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า “ฟางเหยียน คุณจริงๆใช่มั้ย? คุณจริงๆ!”
เธอใช้มือลูบไปๆมาๆบนเรือนร่างของฟางเหยียน หลังจากที่มั่นใจแล้วฟางเหยียนแน่นอน จึงได้เข้าไปหาฟางเหยียนเต็มๆอย่างไม่หวาดระแวงใดๆ แต่ยังคงร้องไห้ฮือๆๆอยู่เช่นเคย
ฟางเหยียนกอดถังยู่ ด้วยความงงงวยไปหมด ถังยู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้โฮ “ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้ว คุณรู้มั้ยว่าเมื่อวานเค้ากลัวมากขนาดไหน? ทำไมคุณไม่ปรากฏกาย! คุณเป็นคนเลวจริงๆ คุณมันเลว!” เธอกำหมัดแน่น แล้วทุบที่อกของฟางเหยียน
“คุณ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” ฟางเหยียนกลืนน้ำลาย แล้วถามอย่างเป็นห่วง
เขาเข้าใจความทุกข์ในใจหญิงสาวที่ถูกผู้เฒ่าขยะแขยงลักพาตัว เป็นความสิ้นหวังลึกๆ โดยเฉพาะตอนที่เธอเห็นลุงเห้อคนที่เป็นความหวังของเธอถูกฆ่าตายแล้วนั้น ความสิ้นหวังที่อยู่ในใจก็ยิ่งทวีมากขึ้นไปอีก
เมื่อคืน ถังยู่คิดว่าชีวิตของตัวเองต้องจบเห่แล้วแน่นอน
ฟางเหยียนเลือดเย็น ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นต่อถังยู่ แต่เขาไม่ได้เป็นคนที่เห็นคนลำบากแล้วไม่ช่วย อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้เกลียดอะไรถังยู่
หลังจากที่ถังยู่ร้องไห้ฮือๆๆออกมาแล้วนั้น ได้กล่าวว่า “ฉัน ฉันไม่เป็นอะไร แต่ลุงเห้อเขา…”
เมื่อนึกถึงเหล่าเห้อ เธอจึงได้ออกมาจากอ้อมกอดของฟางเหยียนโดยเร็ว เมื่อออกมา เธอจึงมีสติขึ้นมา มองไป ก็ได้เห็นเทียนขุยและอ๋าวไท่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่พอดี
เธอมองเหตุการณ์จนตาลาย เร็วมาก เธอดูไม่ออกเลยเสียด้วยซ้ำว่าสองคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ นอกจากเห็นสองคนลอยไปลอยมา เธอมองหน้าของทั้งคู่ได้ไม่ชัดเจน
ถ้าเธอไม่รู้จักอ๋าวไท่ ไม่รู้จักเทียนขุย เธอไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าสองคนที่กำลังต่อสู้กันนั้นเป็นใคร
“เขา…” สมองของเธอคิดไม่ทันไปแป๊บนึง จากนั้นเธอได้ถามอย่างประหลาดใจว่า “การ์ดคนนั้นของคุณกำลังต่อสู้กับคนนั้นอยู่เหรอ?” ภายใต้ความพร่ามัว เธอเห็นคนที่เปลือยท่อนบน แม้จะดูไม่ชัดเจน แต่เธอก็รู้ว่าต้องเป็นคนนั้นแน่นอน…”
ส่วนอีกฝ่ายที่ต่อสู้ ไม่ต้องคิดก็เดาได้ ว่าต้องเป็นการ์ดของฟางเหยียนแน่นอน ชายชาติทหารที่ทำร้ายแก๊งท่านชายมากมายขนาดนั้น
ต่อให้มองการต่อสู้ของทั้งสองไม่ชัดเจน แต่เธอก็ยังคงกัดฟันพูด “ฆ่ามัน! ฆ่าไอ้เฒ่าหัวงูนั่นเสีย ไอ้อัปลักษณ์หน้าด้าน นึกไม่ถึงว่าเมื่อคืนมันคิดจะทำเรื่องนั้นกับฉัน ถ้าไม่ใช่… ถ้าไม่ใช่…”
เธอยังพูดถ้าไม่ใช่ยังไม่จบ ก็ได้กัดริมฝีปาก หน้าร้อนผ่าวๆขึ้น แล้วตนก็ก้มลง อายที่จะสบตากับฟางเหยียน
เมื่อเห็นถังยู่ที่อายหน้าแดง ฟางเหยียนขมวดคิ้วแล้วถาม “ถ้าไม่ใช่อะไร?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะมันกาก เมื่อคืนฉันอาจจะกลายเป็นอาหารของมันไปแล้วก็ได้!” ถังยู่เขินอายแล้วกล่าวออกมา
เมื่อฟางเหยียนได้ยินแล้ว ก็เกือบจะกระอักออกมา ใบหน้าที่เย็นชาก็ยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ถังยู่เข้าใจที่เขายิ้ม เธอจึงหน้าแดง เหมือนกับลูกพีชที่สุก แล้วรีบตะโกนออกมาว่า “คุณยิ้มอะไร?”
ฟางเหยียนกล่าว “ไม่มีอะไร เมื่อกี๊มันพูดว่ามันทำแบบนั้นกับคุณ ผมคิดว่ามันทำจริงๆแล้วเสียอีก!”
ถังยู่ขมวดคิ้วหนักมาก ยกมือตบไปที่ฟางเหยียน แล้วกล่าว “ยังยิ้มออกอีกนะ หรือคุณหวังจะให้คนอื่นทำอะไรฉันงั้นเหรอ? คุณนี่นะ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้…”
ฟางเหยียนรับกล่าว “เปล่านะ ผมก็แค่ดีใจแทนคุณ!”
ถังยู่ดูแคลนออกมา จากนั้นก็มองไปที่ศพของเหล่าเห้อ เธอยกมือขึ้นปิดปาก แล้วกล่าวอย่างโศกเศร้าว่า “ลุงเห้อเขา เขาถูกฆ่าแล้วเหรอ?”
ฟางเหยียนมองไปยังศพของเหล่าเห้อ พยักหน้าอย่างไม่คิดแล้วกล่าว “ใช่ครับ!”
สีหน้าของถังยู่แน่นิ่งสุดๆ เธอกล่าวอย่างโทษตัวเองว่า “เพราะฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน ลุงเห้อก็ไม่มีทางเจอกับเรื่องไม่คาดฝันแบบนี้ ไอ้นั่น มันเก่งมากจริงๆ แค่นัดเดียวมันก็ทำให้เหล่าเห้อทรุดลงกับพื้นได้แล้ว
ฟางเหยียนมองการต่อสู้ของอ๋าวไท่และเทียนขุย ทั้งสองทำให้เกิดพายุม้วนตัวขึ้นมา เป็นเสือดุกับปีศาจ การต่อสู้ดุจดั่งหมอกควันในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทั้งสองยังคงผลักกันจู่โจม โจมตีรวดเร็วราวกับห้าผ่า
แต่ในการต่อสู้ ฟางเหยียนดูออกว่ากำลังกายของอ๋าวไท่ยื้อต่อไปไม่ค่อยไหวแล้ว การโจมตีค่อยๆช้าลง ยังไงก็เป็นคนที่อายุมากขนาดนั้นแล้ว ถ้าจะเทียบกำลังกายกับเทียนขุยคนที่ฆ่าคนเป็นนิจในกองทัพ เขาจะเอาอะไรมาสู้?
ผ่านไปไม่กี่หมัด เทียนขุยก็จะเห็นจุดอ่อนของเขา ถึงตอนนั้นจะโจมตีเขาจนน็อคไป วิชาหมัดของเทียนขุยแข็งแกร่ง วิชาหมัดของอ๋าวไท่ก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ฝีมือระดับเดียวกัน ตอนนี้วัดกันที่กำลังกายอย่างเดียว
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ฟางเหยียนได้พูดกับถังยู่อย่างสบายๆว่า “ไม่เป็นไร มันจะกลายเป็นศพแล้วล่ะ!”
เมื่อพูดจบ และแล้วในขณะที่กำลังแลกหมัดกันอยู่นั้น เทียนขุยเจอจุดอ่อนของอ๋าวไท่แล้ว ความเร็วของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ยกมือขึ้นต่อยเทียนขุย เทียนขุยหลบได้ เขายังไม่ทันได้เก็บหมัดกลับไป หมัดของเทียนขุย ได้ต่อยไปที่เอวของเขาเข้าอย่างแรง ในขณะเดียวกัน ก็ได้ตะคอกเสียงดังออกมา “แปดทิศ ทำลาย!”
ได้ยินเสียงปังดังขึ้น ร่างกายของอ๋าวไท่ถูกต่อยจนลอยไป แต่ตอนที่ร่างกายของเขาลอยอยู่นั้น ขาของเขาได้หมุนในอากาศ แล้วถีบไปที่หัวของเทียนขุย
การถีบครั้งนี้มาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เทียนขุยโดนถีบเข้าไป จนล้มคุกเข่าลงกับพื้น
หลังจากที่ร่างกายของอ๋าวไท่ลอยไปอย่างรุนแรง ก็ได้กระอักเลือดออกมา หลังจากที่ล้มลงกับพื้นแล้ว ดูท่าทางแล้วถูลู่ถูกังสุดๆ!
เขาจับหน้าอกไอออกมาติดๆกันหลายครั้ง และทุกครั้งที่ไอก็จะมีเลือดตามออกมาด้วย เขาไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าท่อนบน ดังนั้นแค่มองก็จะสามารถเห็นบนเอวของเขาทั้งแดงทั้งบวมขึ้นมา
เทียนขุยเงยหน้าขึ้น สะบัดหน้า จากนั้นก็กัดฟันยืนขึ้นมา ดวงตาเป็นสีแดงก่ำยิ่งขึ้น
เทียนขุยในขณะนี้ ราวกับสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งที่หิวโหย!