จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 403
สุดท้ายแล้วเวลาของการเรียนก็มีจำกัด สำหรับอาจารย์และนักศึกษาที่อยู่ด้านล่างเวที นี่เป็นคลาสที่ผ่านไปเร็วที่สุดแล้ว เหมือนพวกเขาฟังไปได้แค่ห้านาที ก็หมดเวลาแล้ว ไม่อยากเลิกเรียนเสียด้วยซ้ำ ยังอยากฟังเขาบรรยายอยู่
หลังจากที่ได้ยินเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น อาจารย์และนักศึกษาเหล่านั้นก็ตกใจ ใครก็ไม่คาดคิดว่าจะเลิกเรียนเร็วขนาดนั้น นี่น่าจะเป็นวิชาที่เวลาผ่านไปเร็วที่สุดวิชาหนึ่ง
นักศึกษาเรียนมาหลายปี ฟังจนเซ็งแล้ว การรอคอยการเลิกเรียนเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักเรียนทุกคน พูดได้ว่า ตั้งแต่เริ่มเรียนนักเรียนก็เริ่มรอที่จะเลิกเรียนแล้ว แต่คลาสของคนนี้กลับทำให้หยุดที่จะเลิกเรียนไม่ได้
จู่ๆนักเรียนคนหนึ่งที่ร่างกายกำยำ และดำๆยืนขึ้นมา พูดกับฟางเหยียนว่า “อาจารย์ครับ อาจารย์พูดต่ออีกสิบนาทีได้มั้ยครับ?พวกเราไม่ต้องการเวลาพักแล้วครับ ผมรู้สึกว่าการฟังบรรยายของอาจารย์สนุกกว่าดูหนังเยอะเลย เมื่อก่อนผมมักจะโดดเรียน แต่ถ้าอาจารย์สอนพวกเรา ผมรับประกันว่าจะไม่มีทางโดดเรียนแม้แต่คาบเดียว!”
“ใช่ อาจารย์ อาจารย์บรรยายต่ออีกสิบนาทีได้มั้ย?ผมรู้สึกฟังการบรรยายของอาจารย์เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง ต่อไปอาจารย์จะมาบรรยายที่มหาลัยเราบ่อยๆใช่มั้ย?ถ้าใช่ ต่อไปพวกเราจะไม่เอาเวลาพักสิบนาทีแล้ว”
นักศึกษาเริ่มแยกกันพูดขึ้นมา ต่างพากันร้องขอให้ฟางเหยียนบรรยายต่อ
แต่ฟางเหยียนมองนักศึกษาที่อยู่ด้านล่าง แล้วกล่าว “ขอโทษครับทุกคน ผมเทียบไม่ได้กับผู้เชี่ยวชาญ ผมเป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้น ความจริงถ้าทุกคนมองว่าการฟังการบรรยายเป็นเหมือนความบันเทิงอย่างหนึ่ง ก็จะได้ผลลัพธ์แบบนี้แล้ว”
“ชิ!” ชายที่ยืนขึ้นคนนั้นกล่าว “อาจารย์ งั้นอาจารย์ก็ไม่รู้อะไรแล้วล่ะ ถ้าอาจารย์ทุกคนบรรยายได้อย่างอาจารย์จะสุดยอดมาก และพวกเราก็จะไม่เป็นแบบนี้ แต่อาจารย์คนอื่นบรรยายมันฟังไม่ไหวจริงๆ ห้องบรรยายใหญ่ไม่ได้ครึ่งของห้องนี้ แต่พอบรรยายออกมาเสียงเล็กอย่างกับยุงอย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้ยินเสียงของเขาก็อีกเรื่อง แต่ประเด็นคือเขายังอ่านตามหนังสืออีก อาจารย์คิดดู ผมจำเป็นต้องให้เขาอ่านเนื้อหาที่อยู่ในหนังสือให้ผมฟังมั้ย?ผมอ่านเองไม่ได้เหรอ”
คำพูดนี้พูดจนเหล่าอาจารย์ที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างสบตากัน แต่มันกลับเป็นคำพูดที่มาจากจิตใจที่แท้จริง พูดจนเหล่าอาจารย์ต่างพากันอับอาย
ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “ขอโทษนะครับ ทุกคน ผมเป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้น!”
“ไม่ๆๆ ในใจของพวกเรา อาจารย์เชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเสียอีก!นี่เป็นคลาสที่ทำให้คนบันเทิง พวกเราพอใจกระบวนการแบบนี้มากครับ ขอบคุณที่ให้พวกเราได้ฟังสิ่งที่วิเศษขนาดนี้ ก่อนที่เราจะเรียนจบ นี่เป็นสิ่งที่มีผลกับอนาคตของพวกเราเป็นอย่างมากเลยครับ ถ้าพวกเราเป็นอาจารย์แล้ว จะต้องถืออาจารย์เป็นแบบอย่างแน่นอนครับ”
เมื่อพูดจบ ด้านล่างเวทีก็มีเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้น แม้แต่อาจารย์ที่เมินใส่ก็ปรบมือตามอย่างอดใจไม่ได้ นี่เป็นความเลื่อมใสอย่างจริงจัง ฟางเหยียนใช้การกระทำสยบอาจารย์ทุกคนที่อยู่ในห้องบรรยาย
อย่างที่ศาสตราจารย์โจวพูดไว้ทั้งหมด ว่าการฟังบรรยายของคนนี้เป็นความบังเทิงอย่างหนึ่ง พวกเขายินดีที่ได้ฟังการบรรยายอันวิเศษแบบนั้น การบรรยายในครั้งนี้มีผลกับการเรียนการสอน ของพวกเขาในอนาคตอย่างมาก
จู่ๆอาจารย์คนที่แอบประชดประชันฟางเหยียนเมื่อกี๊ได้ลุกขึ้น แล้วกล่าว “ศาสตรา ศาสตราจารย์ฟาง!ผมรู้สึกเสียใจอย่างมากกับความไม่รู้ของตัวเอง!เมื่อกี๊ผมยังคิดว่าศาสตราจารย์โจวคุยโวเกินจริง จึงอยากดูว่าคุณจะพลาดท่ายังไง แต่วิธีการบรรยายของคุณทำให้ผมเลื่อมใส คุณคืออาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาคลอดชีวิต ผมขอโทษกับความไม่รู้ของผมเมื่อกี้นี้ และถือว่าเป็นการสำนึกผิดในความไม่รู้ของตัวเอง ขอโทษครับ อาจารย์ผู้ยอดเยี่ยม!”
เมื่อพูดจบ อาจารย์คนนั้นก้มหัวลงต่ำมาก คำนับทำมุมเป็นเก้าสิบองศา ในห้องบรรยายเกิดเสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง ทุกคนได้เป็นพยานที่ศาสตราจารย์คนหนึ่งยอมรับเลื่อมใสในอาจารย์ที่อัศจรรย์ผู้นี้
หลังจากที่จบการบรรยายแล้ว นักศึกษาจำนวนไม่น้อยพากันที่หาฟางเหยียน ซ่งหยิงยืนอยู่ในมุมๆหนึ่ง อยากจะเข้าไปกล่าวลาฟางเหยียน แต่เธอหาโอกาสนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงเดินออกจากห้องบรรยายอย่างโศกเศร้า
บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้เจอฟางเหยียน ได้เห็นฟางเหยียนในช่วงสุดท้ายของชีวิตนักเรียนของตัวเอง ได้ฟังเขาบรรยาย แค่นี้ชีวิตก็สมบูรณ์แบบแล้ว สุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ดี
เมื่อนึกถึงจุดนี ซ่งหยิงถอนหายใจยาวๆ เดินออกจากห้องบรรยายอย่างช่วยไม่ได้
นาทีนี้ สำหรับซ่งหยิงแล้ว โลกได้มืดมนลงไปแล้ว จบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองคิดไว้พังหมดแล้ว!
—
ยังคงเป็นห้องทำงานครั้งที่แล้ว ฟางเหยียนนังตรงข้ามศาสตราจารย์โจว ในห้องทำงานมีสายตาจำนวนมากมองมาที่ฟางเหยียน แววตาครั้งนี้ไม่ใช่แววตาแห่งความเหยียดหยาม สงสัย ข้องใจ อีกทั้งดูถูกอีกแล้ว กลับกันทั้งหมดเปลี่ยนเป็นชื่นชม เลื่อมใส ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นคนที่อายุมากหรืออายุน้อย แววตาของทุกคนก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว
เมื่อกี๊ตอนที่อยู่ในห้องบรรยายอาจารย์ที่อยู่ในห้องทำงานนี้ไปฟังบรรยายด้วยกันทั้งหมด เมื่อฟังจบแล้วก็เกิดความชื่นชอบวัยรุ่นเข้านี้ ราวกับแม่น้ำไหลรี่ ไหลไปไม่หยุด สุดท้ายพวกเขาก็รู้แล้วว่าทำไมครั้งที่แล้วศาสตราจารย์โจวถึงได้สัญญาว่าจะให้ตำแหน่งกับอาจารย์ของเขา แล้วยังถกเถียงกับศาสตราจารย์หวงอย่างไม่สนอะไรอีกด้วย ที่แท้ก็เพราะเขามีความสามารถตรงนี้นั่นเอง
ขณะนี้อาจารย์ผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งกำลังยกแก้วน้ำมาอยู่ที่ข้างๆของฟางเหยียน อาจารย์สาวสวยมาก อายุประมาณสี่สิบปี แต่ดูแลผิวพรรณอย่างดี แล้วยังสบายๆทั้งปี ทำให้ดูๆแล้วเหมือนกับอายุประมาณสามสิบปี สิ่งที่ร่างกายควรจะมีก็มีทั้งหมด ที่ๆต้องนูนก็นูนขึ้นมา ที่ๆต้องกระดกก็กระดก สิ่งที่ผู้หญิงควรมีเธอมีทั้งหมด
เธอผมยาวประบ่าเป็นลอน แล้วกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ศาตราจารย์ฟาง คุณ คุณดื่มน้ำ คุณดื่มน้ำ!”
ครั้งที่แล้วตอนที่พูดคุยพูดถึงเด็กคนนั้น เธอยังเหยียดหยามอยู่เลย แต่ตอนนี้ท่าทีเปลี่ยนไปโดยชิ้นเชิง พอพูดก็เรียกเค้าว่าศาตราจารย์เลย
ศาตราจารย์สรรพนามนี้ สำหรับฟางเหยียน คู่ควรที่สุด!เพราะเขามีความสามารถจุดนี้
“ขอบคุณครับ!” ฟางเหยียนรับแก้วนั้นมาอย่างเกรงใจ จากนั้นก็มองไปที่ศาสตราจารย์โจวแล้วถาม “ศาสตราจารย์โจว หินทิพย์นั้น…”
ศาสตราจารย์โจวยกมือขึ้นมาขัดจังหวะคำถามของฟางเหยียน แล้วถามอย่างจริงจังว่า “ศาตราจารย์ฟาง คุณไม่ไตร่ตรองเรื่องที่ผมพูดไปครั้งที่แล้วจริงเหรอ?ผมสามารถให้สวัสดิการที่ดีที่สุด และบริการรอบด้านที่ดีที่สุดกับคุณได้นะ เพียงแค่คุณต้องการ ก็ให้บอกผมมา ผมจะไปพูดกับข้างบนให้ เพียงแค่คุณอยู่ที่มหาวิทยาลัยซีหนาน พวกเราไม่มีทางเอาเปรียบคุณแน่”
ฟางเหยียนส่ายหน้าอย่างขมขื่น “ศาสตราจารย์โจว ผมว่าคุณน่าจะรู้ความหมายของผมนะ!”
ศาสตราจารย์โจวห้มหน้าลง พยักหน้าอย่างเซ็งๆ จากนั้นจู่ๆก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ถ้าคุณนึกถึครอบครัวของคุณ ไม่เป็นไร พวกเราจัดการให้คุณได้ จัดการให้มาอยู่กับคุณที่มหาลัยของเรา เป็นไงครับ? ไม่ใช่แค่นี้นะ พวกเรายังไม่ให้คุณทำงานประจำอีกด้วย เพียงแค่คุณมาบรรยายสัปดาห์ล่ะครั้งก็พอแล้ว ได้มั้ยครับ?”
ศาสตราจารย์โจวเพิ่งพูดจบ นอกประตูได้มีคนแก่ที่หัวล้านหลายคนเดินเข้ามา!