จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 405
หินทิพย์ที่เต็มไปด้วยพลัง ฟางเหยียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิดแล้วถาม “งั้นพลังที่อยู่ข้างในนี้ พวกคุณกลั่นออกมาแล้วยัง?”
ศาสตราจารย์โจวรีบส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ๆๆ หินทิพย์แบบนี้ พวกเราจะกลั่นออกมาได้อย่างไรกัน?ต่อให้อยากเอาออกมา ก็กลั่นออกมาไม่ได้อยู่ดี ศาสตราจารย์ฟาง พูดให้เว่อร์ๆหน่อย หินทิพย์แบบนี้ คนที่บำเพ็ญตนในตอนนั้นเท่านั้นถึงจะกลั่นส่วนสำคัญข้างในนี้ออกมาได้ อย่างพวกเราคนปกติทั่วไปไม่สามารถกลั่นพลังที่อยู่ด้านในนี้ออกมาได้ อ้อ หินก้อนนี้คุณไปได้มาจากไหนเหรอครับ?”
ฟางเหยียนมองศาสตราจารย์โจว แล้วตอบ “เพื่อนเก่าคนหนึ่งให้มาครับ”
“หินทิพย์นี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ทั่วไป ดูๆแล้วเพื่อนเก่าของคุณคนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่เลย!” ศาสตราจารย์โจวถอดหายใจอย่างครุ่นคิด จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “คุณรู้จักคนแบบนี้ได้ ก็ไม่แปลกที่จะไม่ให้ความสำคัญกับตำแหน่งอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญแบบนี้”
ฟางเหยียนโบกมือกล่าว “อะไรกัน ผมก็แค่ไม่มีสิทธิ์รับตำแหน่งนี้ก็เท่านั้น”
ศาสตราจารย์โจวถอนหายใจยาวๆ แล้วกล่าว “เสียดายจริงๆ อ้อ ศาสตราจารย์ฟาง หินทิพย์เม็ดนี้ของคุณต้องเก็บรวบรวมมั้ยครับ?ถ้าคุณต้องการ ผมสามารถติดต่อเพื่อนที่ต่างประเทศให้คุณ ให้พวกเขาเอาอุปกรณ์ขั้นสูงมา หลังจากที่พวกเรารวบรวมเสร็จแล้ว ต้องการศึกษาค้นคว้าลึกเข้าไปอีก ถ้าเป็นข้อมูลในการวิจัยอย่างอื่นด้วย พวกเราก็อาจได้ใช้มัน ถึงตอนนั้นไม่แน่อาจจะสะเทือนการวิทยาศาสตร์ วงการประวัติศาสตร์อีกทั้งวงการแพทย์ก็เป็นได้”
“หินทิพย์นี้ของคุณ แค่ไม่อนุญาตให้ผมป่าวประกาศก็เท่านั้น ถ้าอนุญาตนะ บางทีหินทิพย์นี้ได้สั่นสะเทือนวงการโบราณคดีไปนานแล้ว สิ่งที่มีพลัง หาได้ยากมากในโลกของโบราณคดี”
ฟางเหยียนเข้าใจความหมายของศาตราจารย์โจว ด้วยเหตุนี้จึงได้ปฏิเสธไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับ ศาสตราจารย์โจว”
พอพูดจบเขาก็เอาหินทิพย์สองเม็ดนั้นใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วถามอีกว่า “คุณรู้จักคนที่สามารถกลั่นเอาพลังหินทิพย์แบบนี้ออกมาได้มั้ย? คือผู้บำเพ็ญตนที่คุณพูดถึงนั่นอะครับ”
ฟางเหยียนนึกถึงผู้เฒ่าตาบอดคนนั้น การแต่งกายของเขา เหมือนกับคนที่บำเพ็ญตนจริงๆ แม้ฟางเหยียนจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันบ้าบอคอแตก แต่ถ้าเจออะไรมาเยอะ ตนก็รู้ดีว่าบนโลกนี้มียอดฝีมืออีกมากมาย พวกเขาเหมือนกับนินจา โลกมันช่างใหญ่ มนุษยชาติก็เป็นคนมดเท่านั้น
ศาสตราจารย์เห็นแววตาของฟางเหยียนเปลี่ยนไป เขาก็หัวเราะออกมา กล่าวด้วยความชื่นชอบว่า “ศาตราจารย์ฟาง คุณก็คิดว่าบนโลกนี้มีผู้ที่บำเพ็ญเซียนอยู่เหมือนกันเหรอครับ? ความจริงผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ช่วงหลายปีมานี้ผมศึกษาค้นคว้าด้านนี้ มีความคิดใหม่ต่อเซียนของประเทศหวาของเรา ที่แท้นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนโบราณกุขึ้นมา ของพวกนี้เป็นความจริงทั้งนั้น เช่นคัมภีร์ซานไห่จิง คนในยุคปัจจุบันล้วนพูดว่ามันไม่เป็นความจริง ความจริงแล้วสัตว์ที่อยู่ในนั้นคือความจริงทั้งหมด
ที่เขาเรียกศาสตราจารย์บ้า แล้วยังค้นคว้าด้านนี้มีความสัมพันธ์สนิทสนมกันอีก เขามักจะพูดอะไรที่คนอื่นคิดว่าเป็นคำพูดที่สมมุติขึ้น ดังนั้นจึงยากที่จะให้คนอยู่ร่วมกับเขาได้ เวลานานเข้า เขาจึงกลายเป็นคนที่โดดเดี่ยว ถ้าไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ คนจำนวนมากในมหาลัยล้วนไม่อยากคบค้าสมาคมกับผู้เฒ่าเพี้ยนคนนี้หรอก
“งั้นคุณมีคนที่รู้จักมั้ย?” ฟางเหยียนถามอย่างตรงจุด
ศาตราจารย์โจวส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่รู้จัก ผมไม่มีโชคชะตาในด้านนี้! จะรู้จักคนในด้านนี้ได้ ตรงมีพรหมลิขิต”
ฟางเหยียนไม่พูดต่อ จากนั้นก็หยิบมุกเทพที่ได้มาจากตระกูลเจี่ยแห่งเจียงตูออกมา แล้วถาม “ศาสตราจารย์โจว คุณรู้จักสิ่งนี้มั้ย?”
เมื่อเห็นมุกเทพ ศาสตราจารย์โจวก็ตาลุกวาวขึ้นทันที ตาทั้งสองข้างส่องประกายออกมา เขาอ้าปากค้าง พูดอย่างตะลึงว่า “นี่ นี่ๆๆๆมันมุกเทพที่อยู่ในบันทึกนั่นไม่ใช่เหรอ? สิ่งที่อยู่บนตัวมังกร มันสุดยอดมาก ที่ท่องไปได้ทุกหนแห่งก็พึ่งสิ่งนี้นี้แหละ นี่คือมุกเทพนั่นใช่มั้ย?” ที่แท้ ความรู้ของศาสตราจารย์โจวไม่ใช่คนธรรมดาเทียบได้ การที่รู้จักเขา เหมือนครอบครองสารานุกรมที่พูดได้ทั้งเล่มไว้ ศาตราจารย์โจวมองมุกเทพ หรี่ตาแล้วถาม “ผมดูหน่อยได้มั้ย?”
ฟางเหยียนพยักหน้า แล้วยื่นมุกเทพไปให้ศาสตราจารย์โจว ศาสตราจารย์โจวเอามือเช็ดที่ชุด กลัวจะจะแปดเปื้อนมุกเทพนี้ เขาตะลึงกับความแปลกประหลาดของมัน แล้วรับมุกเทพมาอย่างระมัดระวัง
หลังจากที่วางไว้บนมือพลิกไปพลิกมาแล้วนั้น ก็ได้หยิบแว่นขยายมา เริ่มสอดส่องด้านในมุกเทพ หลังจากที่เขาวางมุกเทพแล้ว ได้ยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วกล่าว “เป็นมุกเทพจริงๆด้วย! ด้านในเหมือนจะมีโลกของมันเองด้วย มันช่างเปลี่ยนทัศนคติของคนเสียใหม่ได้จริงๆ ศาตราจารย์ฟาง คุณได้ของสิ่งนี้มาได้อย่างไร? ได้ยินมาว่าบนโลกนี้มีของสิ่งนี้น้อยสุดๆ ผมเคยเห็นหนึ่งเม็ดที่พิพิธภัณฑ์โอวชูว แต่นั่นเป็นของปลอม ตอนนั้นศาตราจารย์คนนั้นบอกว่าบนโลกนี้ไม่มีมุกเทพของจริงแล้ว ถ้ามี ก็ไม่มีทางให้คนเห็นได้”
“ผมไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าชาตินี้จะโชคดีได้เห็นของแบบนี้! ที่คุณ มีของล้ำค่ามากขนาดไหนกันแน่เนี่ย!” ศาสตราจารย์โจวมองฟางเหยียนด้วยความตื่นเต้นแล้วถาม ตนมีความรู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก
ฟางเหยียนกล่าว “ไม่มีแล้วครับ ของสิ่งนี้ใช้ยังไง คุณรู้มั้ย?” ศาสตราจารย์โจวเหลือบมอง ส่ายหน้าแล้วกล่าว “อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ของเกี่ยวกับเทพพวกนี้ ผมคิดว่าไม่มี แล้วจะไปสนใจทำไม แต่ ไม่ต้องคิดก็เดาออก ว่านี่เป็นของดี คุณพอจะวางมันไว้ที่นี่ แล้วให้ผมศึกษาหน่อยได้มั้ย?”
“เกรงว่าจะไม่ได้ครับ!” ฟางเหยียนปฏิเสธศาสตราจารย์โจวในทันใด
ศาสตราจารย์โจวสีหน้าผิดหวัง แต่ไม่นานเข้าก็เป็นปกติ ถอนหายใจแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรครับ! ต่อไปถ้าคุณมีของสิ่งไหนที่ไม่รู้ เอามาให้ผมดูได้นะครับ”
“อืม!” ฟางเหยียนพยักหน้า ในใจรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่นี่ก็ค่อนข้างลำบากคนอื่นเช่นกัน ต่อให้ศาสตราจารย์โจวจะบ้าคลั่งขนาดไหน เขาก็เป็นแค่คนธรรมดา ถามของพวกนี้กับเขา เขารู้ชื่อมันก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
ฟางเหยียนกับเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับการเรียนรู้ในด้านโหราศาสตร์ พบว่าศาสตราจารย์โจวมีความรู้ด้านโหราศาสตร์กว้างมากจริงๆ หลังจากที่พูดคุยกันไปได้สักพักแล้ว ฟางเหยียนก็กล่าวลาศาสตราจารย์โจว ตอนที่กล่าวลา ศาสตราจารย์โจวได้ถามฟางเหยียนอีกครั้งว่าจะไม่สอนหนังสือแน่ใจแล้วใช่มั้ย ฟางเหยียนปฏิเสธศาสตราจารย์โจวอย่างแน่ชัดแล้ว ช่วยไม่ได้ ศาสตราจารย์โจวทำได้เพียงอำลาอย่างอาลัยอาวรณ์
ตอนที่ฟางเหยียนออกไป ศาสตราจารย์โจวได้ถามอีกครั้งว่า “อ้อ เรื่องหินทิพย์ คุณลองไปถามที่ดินแดนตะวันตกดู ดินแดนตะวันตกเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์จองประเทศหวา และเป็นที่รวมของนักพรตเก่งกาจมากมาย บางทีปัญหาของคุณ จะมียอดฝีมือสามารถแก้ให้คุณได้ก็เป็นได้ ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งที่นั่น ไม่ได้ติดต่อกันมาสิบกว่าปีแล้ว คุณไปถามเขาดูได้นะ เขาชื่อฉินเสียงหลิน”
“ครับ ขอบคุณศาสตราจารย์โจวครับ”
หลังจากที่ลาศาสตราจารย์โจวแล้ว ฟางเหยียนก็ออกจากมหาลัยโดยตรง
ตอนที่เพิ่งเดินถึงประตูมหาลัย ฟางเหยียนเห็นเทียนขุยเดินมาตรงหน้า รถก็จอดอีกอีกฝั่ง ฟางเหยียนชะงักไป แล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น? เทียนขุย!”
เทียนขุยตอบ “จอมพลโผ้จวิน หม่าจงหัวอยากเชิญคุณไปที่บ้านเขาครับ”
“อะไรนะ?” ฟางเหยียนหยุดเดิน มองเทียนขุยเพื่อความมั่นใจ
“หม่าจงหัวเชิญท่านไป ไปมั้ยครับ?” เทียนขุยพูดซ้ำอีกครั้ง
“โอเค! ไป” ฟางเหยียนตอบเทียนขุยอย่างเฉียบขาดและเด็ดเดี่ยว จากนั้นก็เปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง
หม่าจงหัวจะเจอตัวเองทำไมกัน? หรือเพื่อเรื่องของลูกชายเขา? ไม่ว่าใช่หรือไม่ ตนก็มีเรื่องที่จะต้องไปหาเขาอยู่พอดี
เมื่อนั่งในรถ เทียนขุยกล่าวว่า “จอมพลโผ้จวิน เมื่อคืนที่คุณให้ผมสืบเบอร์โทรศัพท์นั่น ผมสืบแล้วนะครับ ไม่สืบไม่รู้ แต่พอสืบก็ตกใจเลยทีเดียว! นึกไม่ถึงว่าเจ้าของเบอร์นั้นจะเป็น…