จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 407
ตระกูลหม่า
หม่าจงหัวนั่งบนเก้าอี้ไท่ซือตัวนั้นของผู้นำตระกูลหม่าอย่างจองหอง คิ้วของเขามีลักษณะแปลกๆ เชิดขึ้นบน เริ่มขาวโพนขึ้นแล้ว แต่ยิ่งขาวโพนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คนเห็นความเคร่งขรึมของเขามากขึ้น เขาสวมแหวนหยกไว้ที่นิ้วโป้ง มองดูแล้วมีออร่า แม้จะใส่มานานแล้วหลายปี แต่ดูไม่เก่าเลย
เมื่อใส่อยู่บนนิ้วโป้งของหม่าจงหัว ดูแล้วเหมือนผู้สืบทอดของสำนักใดสำนักหนึ่ง!มีความเป็นผู้สูงศักดิ์มาก
หม่าจงหัวในตอนนี้ สีหน้าดูไม่ดีเป็นอย่างมาก ดูๆแล้วไม่มีความสุขเอาเสียเลย มือข้างหนึ่งของเขากุมขมับไว้ ดวงตากึ่งปิดกึ่งเปิด ท่าทางก่ายหน้าผาก
“พ่อ พวกเราหาทั่วหนานหลิง ทุกเขตทุกเมืองของหนานหลิงก็หามาหมดแล้ว ไม่เจอเบาะแสของหรงหรงเลย พวกลูกน้องบอกว่า ไม่เห็นหรงหรงปรากฏตัวอยู่ตามที่เหล่านั้น” หม่าเหายืนพูดอยู่ตรงหน้าของหม่าจงหัว
หม่าจงหัวอืมออกมา เงยหน้าขึ้น แล้วถาม “แล้วสถานที่เมื่อก่อนที่เธอไปบ่อยๆล่ะ?”
“หามานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ไม่มีใครเห็นเธอเลย” หม่าเหาพูดต่อ
หม่าจงหัวสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “ดูๆแล้ว หรงหรงออกไปจากหนานหลิงแล้วล่ะ เรียกให้ทุกคนกลับมา”
“ครับ พ่อ!” หม่าเหาพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็ถอยไปนั่งข้างๆ ที่นั่งด้วยกันยังมีลูกชายอีกหลายคนของตระกูลหม่า หม่ากวงหรง หม่ากวงชาว อีกทั้งลูกหลานเครือญาติตระกูลหม่า
หลังจากที่หม่าซวี่ซงเสียชีวิตแล้ว หม่าหรงหรงก็ไม่กลับมาอีกเลย แต่ตระกูลหม่าก็ไม่ยอมแพ้ที่จะตามหา
“พ่อ พ่อเรียกคนนั้นมาที่บ้านของพวกเราทำไมเหรอ?” หม่าเหาที่เพิ่งนั่งลงเอ่ยปากถาม
หม่าจงหัวยังไม่ทันพูด หม่ากวงชาวก็กล่าวอย่างแค้นเคืองว่า “พ่อ พวกเราวางกับดัก ปิดประตูตีแมว แล้วฆ่ามันเสียเถอะ!ถ้าหรงหรงรู้ว่าไอ้สองคนนั้นตายแล้ว ล้างแค้นให้ซวี่ซง เธอจะต้องกลับมาแน่นอน” ครั้งที่แล้วฆ่าฟางเหยียนไม่สำเร็จ เขาโมโหที่สุด ตอนนี้ มีเพียงผีเท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยากฆ่าฟางเหยียนมากมายเท่าไหร่
ทันใดนั้นสายตาของหม่าจงหัวก็มองไปที่หม่ากวงชาว ยกมือขึ้นชี้หม่ากวงชาวแล้วตวาด “ที่ฉันเรียกพวกแกมา ก็เพื่อจะพูดเรื่องนี้ อีกเดี๋ยว ฉันไม่สนว่าใครจะมีความแค้นอะไรกับเขา อย่าคิดที่จะปิดประตูตีแมวอะไรทั้งนั้น ถ้าเขาทำอะไรได้ง่ายๆขนาดนั้น ก็คงไม่ถึงมือพวกแกหรอก จำไว้นะ ใครก็ห้ามทำอะไรเขา”
เมื่อหม่าจงหัวพูดประโยคนี้จบ ก็ละสายตาไปจากหม่ากวงชาวไป มองไปที่ทุกคน สุดท้ายก็กลับมามองที่หม่ากวงชาวอีกครั้ง เขาตะคอกออกมาอย่างเคร่งเครียดว่า “โดยเฉพาะแก หม่ากวงชาว แกต้องขอโทษกับเรื่องบ้าๆที่แกทำเมื่อครั้งที่แล้ว ตระกูลหม่าของเขาเกือบจะพังลงจากการกระทำนั้นของแก นอกจากขอโทษแล้ว แกยังต้องขอบคุณเขาที่ไม่ฆ่าแก!”
หม่ากวงชาวนั่งไม่ติด ลุกขึ้นยืน แล้วกล่าว “พ่อ ทำไมอะ?มันเป็นศัตรูของตระกูลหม่าของเรานะ มันฆ่าเสี่ยวซงนะ พวกเรายอมมันแล้ว ตอนนี้พ่อยังให้ผมทำแบบนี้อีก พ่อกลัวหรือไง?”
หม่าจงหัวพยักหน้าด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยแล้วกล่าว “ใช่ ฉันกลัว!”
คำพูดนี้ของหม่าจงหัวทำให้หม่ากวงชาวพูดไม่ออก หาคำที่จะตอบไม่ได้แต่อย่างใด ตระกูลหม่าเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่าพันปีแล้ว ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของพวกเขาใช้เวลาหลายวันกว่าจะเล่าจบ ตั้งแต่สมัยโบราณเป็นต้นมา ตระกูลหม่าถวายคนเก่งให้กับราชสำนักมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่มีพลเอก แต่ก็มีส่งนักรบไปจำนวนไม่น้อย
หม่าจงหัวคือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังอันแข็งแกร่งของตระกูลหม่า ออร่าของเขากระจายไปทั่ว ความสามารถมีทั่วสารทิศ ในความคิดของเด็กๆทุกคน เขาเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง บนโลกนี้ไม่มีเรื่องอะไรที่เขาจัดการไม่ได้
เมื่อก่อน เรื่องเส้นสายของหม่าจงหัวโดดเด่นกว่าใคร เหล่าลูกชายของเขาไปก่อเรื่องไว้ด้านนอก เขาพูดแค่คำเดียวก็สามารถเคลียร์ได้ทุกหมด ก็เพราะเหตุนี้ ในหัวของพวกเด็กๆหม่าจงหัวจึงเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าเขากลับพูดว่าตัวเองกลัวออกมา กลัวคนที่มาจากกองทัพ อายุพอๆกับหลานของเขา
คนนี้มากสุดก็แค่เคยผ่านสนามรบมาก่อน เคยผ่านการต่อสู้มาบ้าง แล้วทำไมตระกูลหม่าต้องกลัวมันด้วย!ถ้าลงมือกันจริงๆ เบื้องบนต้องไม่โทษตระกูลหม่าแน่นอน กลับกัน ไอ้นั่นต้องตายแน่ๆ
“พ่อ พ่อรู้หรือเปล่าว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่?” หม่ากวงชาวโมโหจนลุกขึ้นมา สีหน้าเคร่งเครียด
หม่าจงหัวหรี่ตามองหม่ากวงชาว แล้วกล่าว “ที่แกไม่กลัว ก็เพราะว่าแกไม่รู้ว่าเขายิ่งใหญ่ขนาดไหน และแกก็ไม่รู้ด้วยว่าแกทำเรื่องบ้าบอมากขนาดไหน!เรื่องที่แกทำนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะช่วยได้”
หม่ากวงชาวขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แล้วถาม “ผมทำอะไร?พ่อหมายถึง พวกเขา?”
หม่าจงหัวสีหน้าเคร่งเครียดทันใด จากนั้นก็ถามกลับอย่างเย็นชาว่า “ไม่งั้น แกคิดว่าอะไรล่ะ?“
หม่ากวงชาวกะพริบตา ส่ายหน้าแล้วกล่าว “พ่อ พ่อมั่วเปล่า เบื้องบนไม่สน แล้วพวกเราจะ…”
“บังอาจ!” หม่าจงหัวโมโหจนตบลงไปยังโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ทันใดนั้นของบนโต๊ะก็กระจายออก แก้วใบหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะหล่นลงบนพื้น และน้ำก็กระเด็นออกทันใด หลังจากที่แก้วตกลงบนพื้นแล้วก็แตกกระจายเต็มพื้นไปหมด
หม่าจงหัวยืนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ดวงตาทั้งสองจ้องไปที่หม่ากวงชาวอย่างไม่ละสายตาแล้วตวาด “เมื่อกี๊แกว่าฉันว่ามั่วใช่มั้ย?”
“พ่อ!” หม่ากวงชาวยังไม่ทันพูด หม่าเหาก็ยืนขึ้นมาแล้วกล่าว “พ่อ พี่รองไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“พี่รอง!” หม่าเหาเดินไปข้างหน้าของหม่ากวงชาว ยกมือขึ้นมาจับไหล่ของหม่ากวงชาวไว้ แล้วกล่าว “พี่รอง พ่อทำอะไรก็มีเหตุผลของเขา ตอนนี้พ่อให้พี่ทำอะไร พี่ก็ทำไปเหอะ ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อทำเพื่อตระกูลมาโดยตลอด พวกเราจะใช้อารมณ์มาแก้ปัญหา แล้วทำลายทรัพย์สินที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ไม่ได้นะ”
หม่าจงหัวมองหม่าเหา ก็ยังคงเป็นลูกชายคนเล็กของเขาที่มีเหตุผลที่สุด ลูกชายคนเล็กของเขาเหมาะสมที่จะเป็นทายาทผู้สืบทอดผู้นำตระกูลที่สุด แต่เขาร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เล็กๆ ไม่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาก่อน ส่งผลให้แนวคิดของหม่าจงหัวสั่นคลอน
“ใช่ น้องรอง เรื่องของเสี่ยวซงก็ผ่านไปแล้ว” หม่ากวงหรงพูดด้วยความกังวล
หม่าซวี่ซงเป็นลูกชายของเขา เขายังลุกขึ้นมาพุดโน้มน้าวเลย ทีนี้หม่ากวงชาวอยากพูดอะไรก็พูดไม่ออกแล้ว เขาทำได้เพียงนั่งลงด้วยความคับแค้นใจ แล้วกล่าวอย่างไม่เต็มใจว่า “ฟังการตัดสินใจของพ่อก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นทั้งสามคนปรองดองกัน หม่าจงหัวก็โล่งอก เขาพูดกับทั้งสามคนว่า “ความจริงฉันเข้าใจความคิดของพวกแกดี แต่มีบางอย่างที่เราจะเข้าไปแตะต้องไม่ได้ ที่ฉันหวาดกลัวเขาขนาดนี้ ก็เป็นเพราะเสี่ยวซงทำผิดอย่างมหันต์ คนนั้น เป็นเทพของประเทศหวา!ประเทศหวาไม่มีทางเข้าข้างเราแล้วเป็นปฏิปักษ์กับเขาแน่นอน”
“พวกแกเคยได้ยินสำนักเจ็ดพิฆาตมั้ย?” หม่าจงหัวมองเหล่าลูกชายที่อยู่ด้านล่างแล้วถาม
หม่ากวงชาวกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “รู้จัก ครั้งที่แล้วพ่อพูดไม่ใช่เหรอ ว่าเป็นกองทัพที่คุ้มกันชายแดนของประเทศหวา ฟางเหยียนคือคนในกองทัพนั้น”
หม่าจงหัวพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ เขาเป็นคนของสำนักเจ็ดพิฆาตจริง ไม่ใช่แค่นี้ เขาเป็นผู้ก่อตั้งสำนักเจ็ดพิฆาต สำนักเจ็ดพิฆาตเพิ่งก่อตั้งมาได้แค่สามปี แต่กลายเป็นผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศหวา เมื่อกองทัพต่างชาติได้ยินสำนักเจ็ดพิฆาตต่างอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น พวกแกคิดดูเอง กองทัพหนึ่ง ใช้เวลาแค่สามปีทำให้ศัตรูได้ยินชื่อก็หวาดกลัวได้ มันจะต้องกล้าตายมากขนาดไหนกัน!”