จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 416
เขามาถึงที่เก็บอาวุธโดยตรง นี่เป็นห้องเก็บอาวุธของตระกูลหม่า พอเปิดประตูออกมา ด้านในปรากฏอาวุธที่มากมาย มีปืนยาว มีโล่ มีดาบ มีกระบี่ และกระบอง!ที่นี่รวบรวมอาวุธทุกอย่างไว้
แววตาของหม่ากวงชาวไม่ได้มองหยุดอยู่แค่อาวุธเรี่ยราดพวกนี้ แต่เดินตรงไปที่ด้านหน้าของรูปภาพหนึ่่ง นั่นเป็นรูปที่เก่าแก่ ภาพมีรอยขีดข่วนเก่าล้าสมัย รอบๆเคยใส่กรอบใหม่มาแล้ว คนที่อยู่ในภาพเป็นนายพล บนหัวนายพลคนนั้นใส่มงกุฎทอง สวมชุดเกราะสีทอง นั่งบนม้าตัวสีดำ ในมือถือง้าวยาว กล้าหาญชาญชัย อาจหาญ แค่ดูคนที่อยู่ในรูปที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็ทำให้เลือดเดือดพล่าน มันช่างเยี่ยมสุดๆไปเลย!
ด้านล่างของรูปภาพคือโต๊ะเหลี่ยมยาว บนโต๊ะมีตะแกรงเหล็ก บนตะแกลงเหล็กมีผ้าขาวที่ใหม่เอี่ยมวางอยู่ด้านบน หม่ากวงชาวยกมือขึ้นมาเปิดผ้าขาวออกอย่างเด็ดเดี่ยว ด้านล่างของผ้าขาวมีดาบใหญ่ประกายโผล่ออกมา
ตอนที่ดาบใหญ่โผล่ออกมา เนื่องจากผ้าขาวและตัวดาบอยู่ด้วยกัน ตอนที่แยกออกจากกันได้เกิดการสัมผัสกันเกิดขึ้น ทำให้ตัวดาบเกิดเป็นเสียงวิ้งๆๆ ทำให้เห็นว่าดาบนี้ดีขนาดไหน
นี่คือง้าวอันหนึ่ง ด้ามดาบทำมาจากเงิน ดูๆแล้วขาวนวลเรียบลื่น ตัวดาบใช้เหล็กกล้าคาร์บอนวัสดุที่ดีที่สุด ตัวดาบประกายแสบตา ใบมีดคมกริบอย่างหาที่เปรียบมิได้ คมมากจนตัดอะไรก็ขาดง่ายๆ
ต่อให้เก็บมานานหลายปีแล้ว แต่มันยังคงสมบูรณ์ดังเดิม ดูๆแล้วยังคงเพริศพิงค์เช่นเคย เมื่อดูอย่างละเอียด ดาบยาวนี้คือดาบเล่มนั้นที่อยู่ในมือนายพลในรูปนั่นไม่ใช่เหรอ ใช่ นี่คือง้าวที่อยู่ในมือของนายพล
หม่ากวงชาวโค้งคำนับให้กับรูปของนายพล แล้วกล่าว “บรรพบุรุษครับ ได้โปรดคุ้มครองพวกเราให้รอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยเถิด!”
พูดจบ มือทั้งสองของเขากอดง้าวไว้ จากนั้นก็เดินออกจากห้องอย่างยากลำบาก
เมื่อมาถึงประตู เขาตะโกนใส่หม่าจงหัวว่า “พ่อ!”
หลังจากที่ตะโกนแล้ว เขาเอาง้าวในมือโยนไปที่หม่าจงหัวอย่างแรง ง้าวนี้อย่างน้อยก็หนักเจ็บสิบแปดสิบกรัม ถ้าคนเดียวถือจะหนักอย่างหาที่เปรียบมิได้ หม่าจงหัวเห็นง้าวลอยมา จะได้ยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปรับไว้ รับง้าวมาได้อย่างมั่นคง ง้าวหนัก78กรัม แล้วยังเป็นอาวุธหนักที่ขึ้นชื่อ
ปีนี้หม่าจงหัวอายุเจ็ดสิบแล้ว ร่างกายนี้ของเขายังสามารถรับดาบใหญ่ด้วยมือเดียวได้ ก็เพราะตนฝึกฝนวิชาไว้ การต่อสู้ฝึกฝนร่างกาย ร่างกายของเขาอยู่ระดับสุดยอดในบุคคลธรรมดาทั่วไป
และนี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่โลกภายนอกเคารพตระกูลหม่า!
หลังจากที่รับดาบใหญ่มาแล้ว เขาสะบัดดาบใหญ่อยู่กับที่ จากนั้นก็เอาด้ามของง้าววางไว้บนพื้นอย่างแรงๆ เกิดเป็นเสียงตึงดังขึ้นมา แสงสาดส่องไปบนดาบใหญ่พอดี การสะท้อนของแสง สะท้อนไปที่ใบหน้าของคนไร้หน้าพอดี
ตอนนี้สาวไร้หน้ามีลักษณะของหม่าจงหัว ตอนที่เขาเห็นตัวดาบ แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังคงไม่เคลื่อนไหวใดๆ เพียงแค่ใช้แววตาประหลาดใจมองไปยังง้าวเล่มนั้นที่อยู่ในมือของหม่าจงหัว
หม่าจงหัวยกดาบใหญ่ขึ้นมา ยกขึ้นยกลง จากนั้นก็ใช้แขนถือดาบใหญ่อย่างแน่นไว้ข้างกาย ตัวดาบยาวลงพื้น เกิดเป็นเสียงวิ้งอีกครั้ง เห็นพลังของดาบใหญ่ว่ายิ่งใหญ่ และบ้าระห่ำได้ขนาดไหน
หม่าจงหัวที่ถือดาบใหญ่ไว้ตอนนี้ได้ท่าทางกระปรี้ประเปร่า ขจัดความเสื่อมโทรมของเมื่อกี๊ออกไปจนหมด! หม่าจงหัวที่อยู่ตรงหน้านี้กับคนแก่ที่ใกล้จะตายต่างกันเป็นคนละคน ราวกับดาบใหญ่มีพลังในการรักษา
เรื่องแรกที่หม่าจงหัวต้องทำตอนขึ้นมาในทุกๆวัน ก็คือต้องเช็ดง้าวด้ามนี้ นี่เป็นเรื่องที่ผู้นำตระกูลหม่าทุกคนต้องทำ ดาบใหญ่ตกทอดมาเป็นเวลาพันปี เป็นของล้ำค่าสืบทอดกันมาของตระกูลหม่าไปนานแล้ว
เขาไม่คาดคิด ว่าดาบล้ำค่านี้จะเอามาใช้ฆ่าคน!
เขาลูบง้าวจากบนลงล่าง เหมือนกับการเชยชมผู้หญิงของตัวเอง พลางลูบ พลางพูดอย่างเย็นชาว่า “แกเคยได้ยินชื่อเสียงกรงเล็บเสือของตระกูลหม่า แต่อาจจะไม่รู้ว่าดาบใหญ่ของตระกูลหม่าเคยทำลายล้างสรรพสิ่งมาก่อนสินะ?!”
พูดพลาง หม่าจงหัวยกมือขึ้นใช้แขนเสื้อเช็ดตัวดาบ เช็ดจากด้ามเงินของดาบไปที่ตัวดาบ เชยชมอย่างอย่างที่เปรียบไม่ได้
สาวไร้หน้ายืดตัวตรง เธอค่อยๆขยับตัว เปลี่ยนร่างกายที่เหมือนหม่าจงหัว ให้กลับมาเป็นรูปลักษณ์ที่ไร้หน้าเมื่อกี๊ เธอถามพึมพำๆว่า “หรือนี่คือเพลงดาบมังกรเขียวในตำนาน?”
เห็นได้ชัดว่าหม่าจงหัวประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้ประหลาดใจอะไรเกินไป
ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นก็วางดาบใหญ่ลง มองสาวไร้หน้าแล้วพูดว่า “ถือว่าแกยังมีความรู้อยู่บ้าง! นึกไม่ถึงว่าจะเคยได้ยินเพลงดาบมังกรเขียวของตระกูลหม่าของฉัน ในเมื่อเคยได้ยิน งั้นก็รอความตายได้เลย! ดาบใหญ่ของฉันไม่แปดเปื้อนเลือดมากว่าหลายร้อยปีแล้ว วันนี้ ฉันจะใช้เลือดของแก เซ่นไหว้ดาบใหญ่ของฉัน ให้มันได้ลิ้มลอง กลิ่นของเลือดสักหน่อย”
เมื่อพูดจบ หม่าจงหัวแบกดาบใหญ่ไว้ แล้วฟาดฟันไปมา ท่าทางที่กล้าหาญนั้นมันช่างดูมีราศีจริงๆ!
ราวกับพญาอินทรีที่ทะยานในพายุ!
สาวไร้หน้ากล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “เพลงดาบมังกรเขียวมีมาในช่วงที่โลกวุ่นวายเมื่อหลายพันปีก่อน ว่ากันว่านายพลที่เก่งกาจคนหนึ่งรับมา เพลงดาบเล่มนี้ทำพลังทำลายล้าง เพียงแค่ใช้ก็จะทำให้ผู้ใช้และผู้ถูกโจมตีพินาศไปพร้อมๆกัน ดังนั้นจึงเป็นเพลงดาบที่ทำร้ายศัตรูหมู่มาก แต่ก็ทำร้ายตัวเองมากกว่า ถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ ใครก็ไม่มีทางใช้เพลงดาบนี้กับศัตรู แต่ ฉันได้ยินมาว่าเพลงดาบนี้เพราะว่ามันชั่วร้ายเกินไป หลังจากเมื่อหลายปีก่อนที่นายพลคนนั้นใช้แล้ว ก็ไม่ปรากฏในยุทธภพอีกเลย เดิมทีคิดว่าเพลงดาบนี้ได้หายไปแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะถูกตระกูลหม่าของพวกแกขโมยวิชามาไว้ได้!”
หม่าจงหัวคิดว่าคนที่รู้เพลงดาบนี้มีแค่หม่าจังหัวและเหล่ารุ่นหลังของตระกูลหม่าเท่านั้น ไม่คาดคิดว่าตัวประหลาดที่หญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงนี้จะรู้ด้วย แต่นี่ก็ไม่ได้กระทบกับการตัดสินใจของหม่าจงหัวที่จะใช้เพลงดาบนี้ ตอนนี้ตระกูลหม่าเผชิญกับวิกฤต ถ้าเขาไม่แสดงเพลงดาบนี้เพื่อช่วยตระกูลหม่า ตระกูลหม่าก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดของคนอื่น
“ขโมยวิชา!” คำพูดนั้นทำให้หม่าจงหัววางง้าวไว้บนพื้นอย่างแรง แล้วหัวเราะฮ่าๆ “ได้ขโมยวิชางั้นเหรอ! แกรู้มั้ยนายพลที่ฆ่าศัตรูในสนามรบนั้นเป็นใคร? รู้ว่าเขาแซ่อะไรมั้ย?”
สาวไร้หน้าไม่พูดไม่จา เพียงแค่มองหม่าจงหัวเงียบๆ หม่าจงหัวเงยหน้าพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “เขาแซ่หม่า! เป็นบรรพบุรุษของตระกูลหม่าของฉัน เพลงดาบนี้เป็นเพลงดาบที่สืบทอดกันมาของตระกูลหม่าของฉัน จะพูดว่าขโมยได้อย่างไรกัน!”
“อ๋อ?” สาวไร้หน้าอ้าแขนออกมา แล้วกล่าว “งั้นฉันจะดูว่าแกใช้เพลงดาบนี้เป็นมั้ย”
หม่าจงหัวถีบไปที่ด้ามของง้าว ด้ามง้าวทิ่มไปที่พื้นอย่างแรง กระดานชนวนที่พื้นถูกฟันออกเป็นส่วนๆ หม่าจงหัวเหลือบมองหม่ากวงชาวที่ยืนอยู่ที่ประตู แล้วกล่าว “กวงชาว หลังจากที่เสี่ยวซงตายแล้ว แกเป็นคนเดียวของตระกูลหม่าที่มีสิทธิ์สืบทอดเพลงดาบมังกรเขียวของฉัน ดูให้ดี เพลงดาบนี้ฉันจะใช้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“พ่อ!” หม่ากวงชาวเรียกหม่าจงหัว แล้วกล่าว “ผมยอมให้พ่อไม่ใช่เพลงดาบนี้!”
เขารู้ดีถึงกฎเกณฑ์ของตระกูลหม่า ถ้าใครได้เรียนรู้เพลงดาบนี้แล้ว ก็จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหม่า เมื่อเทียบหม่ากวงชาวกับหม่าเหาและหม่ากวงหรง เขามีคุณสมบัติที่สุดจริงๆ เป็นคนที่มีคุณสมบัติเรียนเพลงดาบนี้ เพราะความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้ของเขาสูงกว่าทั้งสองคน หม่ากวงหรงมีความสามารถอยู่บ้าง แต่สติปัญญาต่ำไป หม่าเหาร่างกายอ่อนแอ ไม่สนใจในศิลปะการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
ดังนั้น หน้าที่สำคัญนี้จึงตกอยู่ที่หม่ากวงชาว