จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 420
“ลงมือ!หม่ากวงชาว“ สาวไร้หน้าพูดเร่งรัดอย่างสะใจ “ตอนนี้แกเพียงแค่ลงมือเบาๆ แกก็จะฆ่าหม่าจงหัวได้แล้ว มันดิ้นรนอะไรไม่ได้อีกต่อไป ทำได้เพียงรับสภาพ”
หม่ากวงชาวมองหม่าจงหัวอย่างหวาดกลัว แล้วกล่าว “พ่อ เพื่ออนาคตของตระกูลหม่า เพื่อการสืบต่อสายเลือดของตระกูลหม่า ผมจำเป็นต้องทำแบบนั้น!ขอโทษนะ พ่อ!”
พูดจบ หม่ากวงชาวยกง้าวในมือไปทางหม่าจงหัว
“ไม่!”“ไม่!” หม่ากวงหรงและหม่าเหาตะโกนออกมาพร้อมกัน
หม่ากวงชาวยกง้าวขึ้นมา เขาตาแดงๆ ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลออกมาจากตาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขากัดฟันพูดต่อหม่าจงหัวว่า “พ่อ ผมขอโทษนะ”
พูดจบ แววตาเขาเปลี่ยนไป หม่าจงหัวตระหนักได้ถึงบางอย่าง เขายกมือขึ้นแล้วตะโกนอย่างสุดพลัง “ไม่!”
หม่ากวงชาวหันไป ถือง้าวแล้วทำท่าทางที่เรียนจากหม่าจงหัวเมื่อกี๊ เขามองไปที่สาวไร้หน้า แล้วพูดอย่างดุดันว่า “ไอ้ตัวประหลาด ฉันจะให้แกเห็นว่าอะไรคือเกียรติยศของตระกูลหม่า แกต้านทานการโจมตีของเพลงดาบมังกรเขียวครั้งแรกได้ ฉันจะดูว่าแกจะต้านทานการโจมตีครั้งที่สองของเพลงดาบมังกรเขียวได้มั้ย!”
หม่าเหา หม่ากวงหรง หม่าจงหัวตกใจจนอ้าปากค้าง พวกเขาเข้าใจหม่ากวงชาวผิดไป หม่ากวงชาวไม่เคยคิดที่จะทรยศต่อตระกูลหม่า ทำเรื่องอกตัญญูแบบนั้น เขาเพียงแค่ใช้วิธีการของตัวเองเพื่อแย่งง้าวกลับมา
นี่คือสิ่งล้ำค่าของตระกูลหม่า จะปล่อยให้ไปอยู่ในมือของสัตว์ประหลาดที่แปลกประหลาดได้อย่างไรกันเล่า สัตว์ประหลาดแบบนั้นจะคู่ควรกับดาบล้ำค่าของตระกูลหม่าได้อย่างไรกัน การที่มันครอบครองดาบล้ำค่าของตระกูลหม่าถือเป็นการเหยียดหยามตระกูลหม่าอย่างที่สุด
ตั้งแต่ต้นจนจบ หม่ากวงชาวไม่เคยคิดที่จะทรยศตระกูลหม่าเลย ที่ทำแบบนั้น ก็เพื่ออยากได้รับความเชื่อมั่นของสาวไร้หน้า พ่อของเขา บรรพบุรุษของเขาล้วนเป็นวีรบุรุษที่สูงส่ง เมื่อถึงเขา เขาจะขี้ขลาดได้อย่างไรกัน?
เมื่อก่อนที่พูดว่าจะเข้าร่วมกับพวกเขา ก็เพราะเขายังไม่เห็นความภาคภูมิของตระกูลหม่า เมื่อกี๊เห็นความกล้าหาญของพ่อ ถ้าเขาเข้าร่วมองค์กรแบบนี้ แล้วจะมองหน้าพ่อของตัวเองได้อย่างไรกัน วีรบุรุษของตระกูลหม่าต้องตายเพราะรบ จะไม่ยอมตายเพราะถูกบีบบังคับ
แววตาของเขาแดงก่ำขึ้น ร่ายรำเร็วขึ้น หม่าจงหัวมองหม่ากวงชาวร่ายรำดาบใหญ่ น้ำตาคลอเบ้า เขาไม่ได้ร้องเพราะลูกชายตัวเองใช้เพลงดาบมังกรเขียว แต่ร้องเพราะภูมิใจในความกล้าของเขาที่ทำเพื่อตระกูลหม่า
อย่างน้อย ลูกชายของเขาไม่มีคนไหนเลยที่ขี้ขลาด ต่อให้พวกเขาต้องตาย ก็ไม่เคยคิดที่จะทรยศต่อประเทศหวา
“ไอ้สารเลว!” ทันใดนั้นสาวไร้หน้าก็ดูแคลนออกมา จากนั้นเธอวิ่งเข้าไปที่หม่ากวงชาวอย่างเร็ว ท่าร่ายรำของหม่ากวงชาวไม่ได้สง่าเหมือนหม่าจงหัว ความห้าวนั้น เมื่อดูแล้วมันแค่ส่ายๆไปมา ก็เพราะเขาส่ายไปส่ายมา จึงทำให้สาวไร้หน้าจับจุดอ่อนได้ จึงได้พุ่งเข้าไปฆ่าหม่ากวงชาว
แว็บเดียว สาวไร้หน้าก็มาถึงด้านหน้าของหม่ากวงชาว เธอยกมือขึ้นมาอย่างเร็วแล้วจับไปที่คอหอยของหม่ากวงชาว ง้าวในมือของหม่ากวงชาวกำลังขยับไปมา และก็เพราะแบบนี้ ดาบใหญ่จึงได้หยุดลง แล้วเขาก็รู้สึกหายใจไม่ค่อยออกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนหน้าหน้าแดง เส้นเลือดโผล่ออกมา
สาวไร้หน้าใช้ใบหน้าขยับไปมาจ้องหม่ากวงชาวอย่างไม่ละสายตา แล้วตะคอกอย่างเสียงดังว่า “แกคิดว่าแค่ไอ้สวะอย่างแก จะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ?แก ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้วิชาอะไรกับฉันทั้งนั้น”
พูดจบ เธอใช้ออกแรงมือเดียวยกหม่ากวงชาวขึ้นในอากาศ เพราะพลังเยอะ ทำให้หม่ากวงชาวเกือบจะขาดสติ ง้าวที่อยู่ในมือก็หล่นลงพื้นเกิดเป็นเสียงเคล้งดังขึ้น
สาวไร้หน้าพูดกับหม่ากวงชาวว่า “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมฉันให้ข้อเสนอแกดีขนาดนั้นแล้ว แกยังไม่เอาอีก ยังจะภักดีต่อประเทศเบื้องหลังที่ไม่สนใจความเป็นความตายของแก เข้าร่วมกับพวกเรา เป็นพวกเดียวกันกับเรา หรือมันไม่ได้ดีกว่าตอนนี้เป็นร้อยเท่างั้นเหรอ?เพลิงเสวนอยู่ในโลกนี้มากว่าพันปี สิ่งที่พวกแกเชื่อมีมาแค่ร้อยปีเท่านั้น ไอ้พวกมนุษย์ไร้ความคิด”
พูดพลาง หม่ากวงชาวรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะขาดอากาศหายใจแล้ว กลิ่นอายแห่งความตายเริ่มเข้าใกล้ตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จิตใต้สำนึกของเขาเริ่มเลือนราง ทำไมอากาศที่ติดอยู่ที่หน้าแกนั่นไม่ไหลขึ้นมา ตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงความทรมานของการผูกคอตายแล้ว
แต่ ในตอนที่เขาคิดว่าตัวเองต้องตายแล้วนั้น สาวไร้หน้ากลับโยนร่างกายของเขาไปที่อีกฝั่ง เหมือนโยนนกน้อยอย่างไรอย่างนั้น ใช้พลังไม่มากก็โยนหม่ากวงชาวไปที่ข้างๆของหม่าจงหัวได้แล้ว
ในสายตาของสาวไร้หน้า ทุกคนของตระกูลหม่าก็เป็นแค่มดเท่านั้น เธอเพียงแค่โบกมือ พวกเขาก็ตาย ตระกูลนี้โกหกเธอ นึกไม่ถึงว่าจะสมคบคิดกับคนอื่นเพื่อล้วงความลับของเพลิงเสวน พวกเขาสมควรตายจริงๆ
แต่ก่อนที่จะฆ่าพวกเขา เธอต้องลบล้างความตั้งใจ ให้พวกเขาตายอย่างสิ้นหวัง สิ้นหวัง สิ้นหวัง!
“เพราะแกไม่มีศรัทธา แกไม่มีตระกูลคอยสนับสนุน แกไม่เคยได้รับรู้ความรู้สึกของการอุทิศตัวเพื่อประเทศของตัวเอง” หม่ากวงชาวยืนหยัดพูดประโยคนี้ออกมา จากนั้นก็ไออย่างเจ็บปวดแทบขาดใจ
“ศรัทธา? การสนับสนุนของตระกูล?อุทิศตนเพื่อประเทศชาติของตัวเอง?ฮ่าๆๆ!” สาวไร้หน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา จากนั้นเธอก็อ้าแขนออก ได้ไปมาเหมือนราชาในสวนของตระกูลหม่า
หลังจากนั้น เธอก็ปล่อยมือลง แล้วกล่าว “งั้นคนนั้นที่แกเชื่อมั่นทำไมไม่ปรากฏกายออกมาช่วยชีวิตพวกแกล่ะ?ทำไมเขาไม่ปรากฏกายออกมาช่วยพวกแก?คนที่ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกแก คุ้มค่าที่พวกแกจะทุ่มเทชีวิตให้เหรอ?ตระกูลหม่า ตื่นเถอะ ตาสว่างได้แล้ว”
หม่าจงหัวหายใจแรง แล้วกล่าว “ฉันรู้สึกตัวดีมาก ฉันเชื่อในประเทศของฉันมาก!ฉันเชื่อว่าพวกเขาไม่มีทางทิ้งพวกเรา ประเทศของเรามีนายพลห้าดาวที่ปกป้องอยู่ มีสำนักเจ็ดพิฆาตที่น่าเกรงขาม ต่อให้พวกแกจะแข็งแกร่งขนาดไหน ต่อหน้าพวกเขาก็เป็นแค่สวะเท่านั้นแหละ พวกเราตายได้ แต่พวกแกก็ต้องถูกล้างบางเหมือนกัน”
สาวไร้หน้ายิ่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมากขึ้นไปอีก เธออ้าแขนออกอีกครั้ง แล้วกล่าวอย่างสะใจว่า “สำนักเจ็ดพิฆาต?ใช่กองทัพขนาดเล็กที่เพิ่งก่อตั้งได้สามปีป่ะ?แกคิดว่าพวกเราเพลิงเสวนจะสนใจกองกำลังระดับภูมิภาคแบบนั้นเหรอ?ถ้าพวกเราจะทำลายกองกำลังนี้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก!ก็แค่สำนักเจ็ดพิฆาต ไม่อยู่ในสายตาของพวกเราเลย เพลิงเสวนของเรามีมานานกว่าพันปี แกคิดว่าใช้กองกำลังขนาดเล็กแบบนี้แล้วจะทำให้พวกเรากลัวได้งั้นเหรอ?ในเมื่อพวกแกเชื่อมั่นพวกมันมากขนาดนั้น ฉันจะดู ถ้าฉันฆ่าพวกแก ล้างบางตระกูลหม่าของพวกแก แล้วคนนั้นที่พวกแกเชื่อมั่นก็ปรากฏกายออกมาช่วยพวกแกมั้ย!”
พูดจบ เธอก็เกรี้ยวกราดขึ้นทันใด เต็มไปด้วยความอาฆาต!
ในช่วงที่วิกฤต จู่ๆก็มีพายุพัดผ่านด้านหลังของเธอไป เธอรู้สึกว่ามีแรงอาฆาตที่อำมหิตห้อมล้อมตัวเธอไว้!
“ใคร?ใครมา?