จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 424
ปรมาจารย์กุ่ยซือหัวเราะดังๆอีกครั้ง จากนั้นก็พูดกับชายคนนั้นว่า “พูดได้เย้ายวนมาก เสียดาย เสียดายน่าเสียดายจริงๆ!เสียดายที่โลกนี้ไม่มีทางให้พวกแกมาเป็นผู้นำได้ สวรรค์ไม่มีทางให้พวกแกเป็นผู้นำแน่นอน”
ปรมาจารย์กุ่ยซือเป็นคนที่รู้ชะตาฟ้าลิขิต คำพูดของเขากระแทกเข้าไปในจิตใจของคนที่มีความเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าเพลิงเสวนจะสามารถนำทางโลกนี้ได้ “เพี่ยะ!” ชายผู้นั้นใช้โซ่เหล็ก และเป็นแซ่ที่หนักฟาดเข้าไปที่ร่างกายของปรมาจารย์กุ่ยซือ
ปรมาจารย์กุ่ยซือเย็นชา แม้จะฟาดจนรู้สึกเนื้อตัวแตกยับ แต่สำหรับปรมาจารย์กุ่ยซือ ไม่รู้สึกเจ็บอะไรไปนานแล้ว
ขณะเดียวกันนี้ จู่ๆนอกประตูมีหญิงสาวที่สาวงาม รูปลักษณ์แช่มช้อยเดินมา หญิงสาวคลุมครึ่งหน้า มองไม่เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอ แต่ดูจากรูปร่างแล้ว จะต้องเป็นสาวสวยระดับแนวหน้าแน่นอน
หลังจากที่เดินเข้ามาในประตูใหญ่แล้ว เธอเห็นเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า แล้วถอยหลังไปอย่างเงียบๆ
ปรมาจารย์กุ่ยซือกระอักเลือดออกมา เขาหัวเราะ “ฉันไม่เข้าใจจริงๆ สำนักไร้หน้าที่มีมากว่าพันปี นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นสุนัขรับใช้ของคนอื่นไปได้ แล้วยังอยู่ฝ่ายผิดอีกด้วย เมื่อกี๊ฉันคำนวณว่าสำนักไร้หน้าของพวกแก ไม่ถึงหนึ่งเดือน สำนักไร้หน้าของพวกแกจะล่มสลาย มุกเทพปรากฏ สำนักไร้หน้าพังพินาศ จากวันนี้เป็นต้นไป บนโลกนี้จะไม่มีสำนักไร้หน้าอีกต่อไป ฉันรู้สึกโศกเศร้าแทนบรรพบุรุษที่สร้างสำนักไร้หน้าของพวกแกจริงๆ”
คำพูดของเขาทำให้คนที่ถือโซ่เหล็กโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขาได้ฟาดลงไปที่ร่างกายของผู้เฒ่าอีกหลายครั้ง พลางเฆี่ยน พลางตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด “ใครให้แกพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้า ใครให้แกพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้า”
ปรมาจารย์กุ่ยซือแสยะยิ้มออกมา แล้วกล่าว “ฉันปรมาจารย์กุ่ยซือไม่เคยพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ฉันมั่นใจกับคำพูดทุกคำที่ฉันพูดออกไป สำนักไร้หน้าต้องล่มสลาย องค์กรที่พวกแกพูดถึงนั่นก็จะหมดอำนาจ เพราะ คนนั้นได้มาจุติแล้ว มุกเทพปรากฏ หินทิพย์รวมจิตวิญญาณ ดาบน้ำสะท้านพิภพมหาสมุทร จะต้องเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ พายุของพวกแกใกล้จะมาถึงแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ!” จู่ๆปรมาจารย์กุ่ยซือหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาในตำหนัก เสียงหัวเราะของเขาดังสนั่นไปทั่วช่องแคบ ทำให้สำนักไร้หน้าต้องสั่นสะเทือน หนาวเย็น
“เชี่ย!” คนที่ถือแซ่ฟาดปรมาจารย์กุ่ยซือต่อไป แต่เพิ่งจะฟาดไปหนึ่งครั้ง คนที่หันหลังให้ผู้คนเอ่ยปากว่า “พอแล้ว หยุดได้ล่ะ!”
นี่คือเสียงเหมือนกับอสูรนรก ที่ถูกขังมาหลายปี เสียงนี้แหบแห้ง แล้วยังมีความบ้าคลั่งของโดยธรรมชาติอีกด้วย เมื่อได้ยินทำให้จิตใจคนหวาดกลัวขึ้นมาได้ เหมือนกับเสียดแทงเข้าไปภายในใจลึกๆของหลายๆคน
ชายที่ถือแซ่ไม่กล้าฟาดอีกต่อไป เพียงแต่ถอยหลังไปอยู่อีกฝั่งอย่างเงียบๆ เขาค่อยๆหันหลังกลับมา ทั้งใบหน้ามีเพียงสายตาแดงก่ำ แววตานั้น ราวกับภูตผีของนรก เมื่อเห็นแล้วทำให้คนหวาดกลัวขึ้นมา
“เมื่อกี๊แกพูดว่าอะไรนะ?สำนักไร้หน้าจะล่มสลาย?” สาวตาทั้งสองดวงของเขาจ้องไปที่ปรมาจารย์กุ่ยซืออย่างไม่ละสายตาแล้วถาม
ปรมาจารย์กุ่ยซือท่าทีสบายๆ เขายิ้มอ่อนๆ “ใช่ สำนักไร้หน้าจะล่มสลาย!ไม่เพียงแค่สำนักไร้หน้านะ แม้แต่องค์กรนี้ที่อยู่เบื้องหลังพวกแกก็จะต้องพังพินาศเช่นกัน!”
“แก น่าจะเป็นระดับต้าชี่เหมือนกันสินะ?” เขาถามอย่างเย็นชาต่อ ไม่ขยับ และไม่สนใจว่าปรมาจารย์กุ่ยซือจะพูดอะไร
ปรมาจารย์กุ่ยซือแสดงสีหน้าภูมิใจออกมา เงยหน้าแล้วกล่าว “ใช่!”
“ในเมื่อแกก็เป็นระดับต้าชี่ แล้วก็เป็นเทพแห่งการทำนาย แล้วแกทำนายออกมั้ยว่าวันนี้คือจุดจบของแก!” พูดจบ เขายกมือขึ้นมาตบไปที่ปรมาจารย์กุ่ยซืออย่างรุนแรง
ตบผ่านอากาศ หน้าอกของปรมาจารย์กุ่ยซือถูกตีอย่างหนักหน่วง เหมือนกับถูกรถบรรทุกที่ความเร็วร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงชนเข้าให้ จนทำให้ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวงพัง จนเขากระอักเลือดออกมา ไม่รอให้ปรมาจารย์กุ่ยซือได้สติ คนนั้นก็มาอยู่ตรงหน้าของเขาราวกับการมาของภูตผี
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เสียดแทง “จากนี้ไป ยุทธภพจะไม่มีปรมาจารย์กุ่ยซืออีกต่อไป!”
พูดจบ ในมือของเขาเกิดเป็นควันดำขึ้น ควันดำนั้นยิ่งรวมยิ่งใหญ่ ยิ่งรวมยิ่งใหญ่ และแล้ว ควันดำนั้นก็โจมตีไปที่ปรมาจารย์กุ่ยซือทันใด
ได้ยินเสียงคร่ำครวญกับเสียงกินอาหาร ไม่ถึงหนึ่งนาที ปรมาจารย์กุ่ยซือถูกกลืนกินเข้าไปจนหมด ร่างกายและแม้แต่กระดูกของเขาล้วนหายไปในตำหนัก ปรมาจารย์กุ่ยซือ เหมือนกับไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
วิธีการฆ่าแบบนี้มันช่างไม่เหลืออะไรไว้เลย ไม่สิ แม้แต่อัฐิก็ไม่เหลือ
ชายชุดดำเอามือไขว้หลังอย่างพอใจ สูดหายใจเข้าลึกๆ เหมือนกลืนกินภูเขาแม่น้ำ ลูกน้องที่ถือโซ่เหล็กรีบคุกเข่าลง แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ท่านราชา ฉลาดหลักแหลม อายุหมื่นปีหมื่นๆปี”
หญิงสาวก็รีบคุกเข่าลงกับพื้น แล้วตะโกนออกมาเหมือนกับคนที่ถือโซ่เหล็กไว้ “พระราชา ฉลาดหลักแหลม อายุหมื่นปีหมื่นๆปี”
เสียงของทั้งสองไม่ดัง แต่กลับกึกก้องไปทั่วช่องแคบแห่งนี้ ดังเข้าไปในก้นลึกจิตใจของราชา
เขาอ้าแขนทั้งสองข้างออกแล้วตะโกน “สำนักไร้หน้า จะอยู่ชั่วกัลปาวสาน!”
เสียงตะโกนที่ภาคภูมิ มีพลังมหาศาล ได้ยินแล้วทำให้จิตใจผ่อนคลาย
หลังจากที่พูดจบ นอกประตูมีเสียงคนเป็นหมื่นตะโกนดังขึ้นมา “สำนักไร้หน้า จะอยู่ชั่วกัลปาวสาน!”
เสียงตะโกนนี้ดังไปทั่วภูเขา ดังสนั่นนานไปทั้งช่องแคบ
หลังจากเสียงแห่งความภาคภูมิผ่านไป เขาโบกมือให้กับคนที่ถือโซ่เหล็ก “แกลงไปได้แล้ว!”
ผู้ชายพยักหน้าแล้วพูดว่าครับ จากนั้นก็ถอยหลังออกจากตำหนัก หันหลังแล้วจากไป
หลังจากที่ผู้ชายเดินไปแล้ว ชายคนนั้นที่ถูกเรียกว่าพระราชามองผู้หญิงแล้วถาม “อู๋ซวง เกิดอะไรขึ้น?”
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอู๋ซวงพูดอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “พระราชา!อ๋าวไท่ตายแล้ว!ถูกคนนั้นที่ฆ่านักเต๋าอีเหมยฆ่า ท่าเดียวตาย ท่าทางชำนาญมาก”
จู่ๆแววตานั้นไม่ขยับ เขามองอู๋ซวงอย่างนิ่งสงบ นิ่งสงบเหมือนตาย
แต่ยิ่งนิ่งสงบมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ขนลุกมากเท่านั้น
หญิงสาวเห็นเขาไม่พูดไม่จา ตนก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก กลืนน้ำลายอย่างเบาๆ แล้วก้มหน้าลง
“ไอ้ทรยศนั่น ตายแล้วเหรอ?” ผ่านไปสักพักใหญ่ เขาถึงได้ถามอย่างช้าๆ
“ตายแล้วค่ะ!” หัวของหญิงสาวก้มต่ำลงไปอีก ไม่กล้าสบตา ราวกับการที่สบตาเขาจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้
“ตายแล้ว!” เสียงนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง เดซิเบลของครั้งนี้ดังกว่าครั้งที่แล้ว ดูออกชัดเจนว่าตื่นเต้น
“ฮ่าๆๆ!” เขาหัวเราะอย่างโอหังออกมา เสียงหัวเราะนี้ดังกังวานไปทั่วทุกมุมของช่องแคบนอกตำหนัก
หลังจากหัวเราะแล้ว เขาก็เงียบไป แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “อู๋ซวง เรื่องที่ผมให้คุณไปทำ คุณทำไปถึงไหนแล้ว?”
เขาค่อยๆเดินมาที่หญิงสาวทีละก้าวทีละก้าว หญิงสาวตอบ “พระราชา อีกไม่นานฉันก็จะทำสำเร็จแล้วค่ะ ให้เวลาฉันอีกหน่อยนะคะ”
เขาได้เดินไปถึงตรงหน้าของหญิงสาวแล้ว โค้งตัวลงมา ยกมือขึ้นไปวางไว้บนหน้าของหญิงสาว มือใหญ่ที่หยาบ หลังมือเต็มไปด้วยขนสีดำ ลูบหน้าของหญิงสาวไป หญิงสาวไม่ขยับ ถึงขั้นไม่กล้าหายใจออกมา