จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 425
และแล้ว จากที่เขาใช้นิ้วเดียวแตะใบหน้าของหญิงสาวได้กลายเป็นสาวนิ้วจับใบหน้าเธอเอาไว้ แล้วเงยหน้าเธอขึ้นมา เพิ่งจะเงยหน้าขึ้น สายตาของหญิงสาวได้หลบแววตาอันแดงก่ำคู่นั้นไป
ผู้ชายถามอย่างไม่พอใจสุดๆอย่างเห็นได้ชัด “ทำไม? เหมือนคุณจะกลัวผมมากเลยนะ?”
หญิงสาวส่ายหน้าอย่างตั้งใจแล้วกล่าว “พระราชาคะ ท่านคือพระราชา ดิฉันให้เกียรติท่าน ไม่ได้กลัวท่านค่ะ”
“ฮ่าๆๆ!” ผู้ชายหัวเราะอย่างเว่อร์วังอีกครั้ง ทั้งตำหนักดังสนั่นไปด้วยเสียงหัวเราะของภูตผี
จากนั้นผู้ชายได้จับคางของผู้หญิงอย่างแรง แล้วกล่าว “เงยหน้าขึ้นมา มองตาของผม”
แววตาหญิงสาวเป็นประกาย ไม่กล้าหลบอีกต่อไป ต่อจ้องมองไปที่สายตาอันแดงก่ำของผู้ชาย ดวงตาประสานกัน หญิงสาวเห็นความอันตรายอย่างหาที่สุดไม่ได้จากแววตาของผู้ชาย แววตาคู่นั้นของเขาเหมือนกับจะกลืนกินคนได้ เพียงแค่จ้องมอง ก็ไม่มีทางปรับทัศนวิสัยให้ไปทางอื่นได้อีก เธออยากจะมองไปทางอื่น แต่กลับเหมือนถูกแววตาสองดวงนั้นรั้งเอาไว้
“อู๋ซวง สายตาของคุณบอกผมว่า เหมือนคุณจะชอบใครคนหนึ่งเข้าให้แล้วล่ะ!” เมื่อคำพูดของปีศาจตนนี้ดังขึ้น ก็ได้แทงเข้าไปในจิตใจของหญิงสาวโดยตรง ทำให้เธอใจเต้นอย่างเร็ว
“เปล่าค่ะ!” หญิงสาวรีบตอบ “พระราชาคะ ฉันจะชอบคนอื่นได้อย่างไรกันคะ ฉันทำงานเพื่อท่านมาโดยตลอด การที่เข้าใกล้คนนั้น ก็เพื่อภารกิจ ดิฉันอยากจะเข้าใจคนนั้นให้มากขึ้นไปอีก”
“แล้วคุณเข้ามันแล้วยัง?” ผู้ชายยังคงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หญิงสาวกลืนน้ำลาย แล้วกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ไม่เลยค่ะ!”
“อู๋ซวง ผมหวังว่าคุณจะจำได้นะ ว่าคุณคือผู้หญิงของพระราชา! และจำเป็นตลอดไป” เมื่อพูดจบ มือของเขาค่อยๆลูบไล้ลงมาที่คอของเธออย่างช้าๆ จากนั้นก็ถอดเสื้อของหญิงสาวออก
หญิงสาวไม่ขัดขืน ทำได้เพียงยอมความกำเริบเสิบสานของคนที่อยู่ข้างหน้านี้เท่านั้น เขาคือราชา ตนคือสนม แล้วตนจะต่อต้านราชาของตัวเองได้อย่างไรกัน? ถ้าต่อต้านก็มีจุดจบเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือจบแบบไม่สวย
ภายในห้องโถง ท่าของราชากำเริบขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับคนสวยแบบนี้ ต่อให้เป็นราชา เขาก็ควบคุมกำลังของตัวเองไว้ไม่อยู่ ไม่ว่าที่นี่จะเป็นที่ไหน เขาก็เหมือนกับจะเสียสติไปแล้ว
แววตาทั้งสองของหญิงสาวมองไปที่ชุดเกราะสีเหลืองทอง แล้วกล่าว “พระราชาคะ ยังมีชุดเกราะอยู่นะคะ?”
ผู้ขายหยุดลงทันใด แววตาของเขาจ้องไปที่ผู้หญิง แล้วถาม “คุณหมายความว่ายังไง? อู๋ซวง คุณคงไม่ได้ชอบคนที่อยู่ด้านนอกนั่นเข้าให้แล้วหรอกนะ? เมื่อก่อน คุณไม่เคยใช้ข้ออ้างแบบนี้มาก่อนเลย”
แววตาของหญิงสาวเป็นประกายมากขึ้น ยิ่งเป็นประกายมากเท่าไหร่ยิ่งแสดงว่าเธอไม่ชอบมาพากล
แต่เธอพูดอย่างไม่เต็มใจมากว่า “พระราชาคะ เกราะนั้นสูงส่งขนาดนี้ นั่นคือของรักของท่าน คุณไม่สามารถทำเรื่องแบบนั้นต่อหน้ามันได้หรอก! ดิฉันก็แค่หวังดีต่อคุณ”
“อู๋ซวง!” ผู้ชายตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดออกมา จากนั้นก็กระชากผู้หญิงเข้ามาหาตนอย่างแรง เนื่องจากพลังเยอะเกิน ร่างกายของหญิงสาวจึงได้เข้าใกล้กับผู้ขายอย่างแนบชิด เธอก็ฉวยโอกาสนี้หลบสายตาของผู้ชายไป
“ดูท่าทีแล้ว นานแล้วสินะที่คุณไม่ได้โดนแส้ฟาด วันนี้ให้ผมได้ฟาดคุณหน่อยก็แล้วกัน ให้คุณได้จำไว้ตลอดไป ว่าในโลกนี้ คุณเป็นได้เพียงของๆผมเท่านั้น” พูดจบ เขากอดหญิงสาวไว้ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องที่อยู่ข้างๆห้องโถง
ในสายตาของเขา ต่อให้ผู้หญิงจะสวยขนาดไหนก็เป็นแค่สิ่งของชิ้นหนึ่งเท่านั้น เมื่อเขาชอบก็เอาออกมาเล่น ไม่ชอบแล้วก็โยนทิ้งขว้างไป บนโลกนี้จะมีรักแท้ได้อย่างไรกัน สำหรับเขาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นแค่มายาเท่านั้น
หลังจากที่เสร็จเรื่องแล้ว หญิงสาวหน้าแดงเดินออกมาจากห้อง เธอเห็นได้ชัดว่าเธอเดินลำบาก เดินกะเผลกๆ ไม่รู้ว่าเพราะใช้แรงมากเกิน จึงทำให้ขาอ่อนหรือเปล่า
หญิงสาวมาถึงห้องโถง ผู้ชายก็ตามมาติดๆ เขายืนด้านหลังของหญิงสาวแล้วกล่าว “อู๋ซวง ถ้าคุณไม่สามารถทำเรื่องนั้นให้สำเร็จได้ งั้น ผมจะเปลี่ยนคนไปทำแทนคุณ คุณกลับมาอยู่กับผมก็พอแล้ว ผมพอใจคุณมาก”
หญิงสาวสีหน้าหวาดกลัว หยุดเดินลง หันกลับไปแล้วกล่าว “พระราชาคะ ได้โปรดให้โอกาสดิฉันอีกสักครั้ง! ดิฉันจะทำมันให้สำเร็จค่ะ”
“อ๋อ? นั่นก็หมายความว่า คุณไม่ยอมอยู่เป็นเพื่อนผมแล้วงั้น?” ผู้ขายถามอีกครั้ง
“พระราชาคะ!” หญิงสาวรีบคุกเข่าลง แล้วพูดอย่างร้อนรน “ดิฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ดิฉันเพียงแต่…”
“ฮ่าๆๆ!” ผู้ชายหัวเราะบ้าคลั่งออกมา ขัดจังหวะอู๋ซวง จากนั้นโบกมือแล้วกล่าว “ไปเถอะ!”
หญิงสาวเท้าหน้าเพิ่งจะก้าวออกจากห้อง ก็มีผู้ชายที่ลนลานคนหนึ่งวิ่งเข้ามา หลังจากที่เข้าประตูมาแล้ว ผู้ชายคุกเข่าลงกับพื้นดังปุก เขายกมือขึ้นมาทำความเคารพแล้วกล่าว “ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!!”
สีหน้าพอใจของผู้ชายเมื่อกี๊ได้กลายเป็นบูดบึ้งลงทันใด แล้วถาม “เรื่องอะไร?”
“ผู้อาวุโสอู๋เมี่ยน ตายแล้ว!” ชายที่คารวะกล่าวด้วยสีหน้าร้อนรน
“อะไรนะ?” เสียงของผู้ชายดุดันขึ้น เขาเดินไปยังผู้ชายที่มากราบบังคมทูล
ผู้ชายที่มารายงานพูดอีกครั้ง “ผู้อาวุโสอู๋เมี่ยนตายแล้วครับ!”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” เสียงของผู้ชายขึ้นเสียงมานิดหน่อย เขารู้สึกไม่คาดคิดต่อการตายของอู๋เมี่ยน อู๋เมี่ยนเป็นระดับไหน? นินจาระดับต้าชี่ สำนักไร้หน้ามีนินจาระดับต้าชี่เพียงสามคน นอกจากอู๋เมี่ยนก็คือตัวเอง แล้วยังมีท่านปรมาจารย์ที่เลื่อนขั้นเป็นระดับปรมาจารย์กำลังบำเพ็ญตนอยู่
ข่าวร้ายที่สะพัดมาในตอนนี้ จะทำให้ผู้ชายสงบสติอารมณ์ไว้ได้อย่างไรกัน!
“อู๋เมี่ยนบอกว่าจัดการตระกูลหม่าได้แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมเขาถึงได้ตาย? ตระกูลหม่าฆ่าเขาเหรอ?”
ชายที่มารายงานก้มหน้าลง แล้วกล่าว “น่าจะไม่ใช่ตระกูลหม่าครับ ตระกูลหม่าไม่มีโอกาสที่จะได้ฆ่าผู้อาวุโสอู๋เมี่ยน บนร่างกายของผู้อาวุโสอู๋เมี่ยนไม่มีบาดแผลใดๆ ส่วนหัวถูกตัดทิ้ง ดูๆแล้วเหมือนถูกคนใช้วิชาเดียวฆ่าตาย”
ผู้ชายรู้ดีที่สุดถึงฝีมือของอู๋เมี่ยน เป็นระดับต้าชี่จริง บนร่างไม่มีบาดแผล ถูกตัดหัว ก็หมายความว่า อู๋เมี่ยนไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะได้ต่อสู้กับคนนี้ก็ถูกตัดหัวแล้ว ผู้อาวุโสอู๋เมี่ยนเป็นคนที่คล่องตัวที่สุดในบรรดาผู้คนของสำนักไร้หน้าแล้ว แล้วเขาจะถูกตัดหัวง่ายอย่างนั้นได้อย่างไรกัน ถ้าถูกตัดหัวได้ง่ายจริง งั้น คนผู้นี้ต้องมีฝีมือมาขนาดไหนกันนะ! เกรงว่าแม้แต่ตัวเองก็ไม่น่าจะทำได้นะ!
ใครกัน? คนนั้นเหรอ? ใช่คนที่เป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่ทั้งสองที่ฆ่าเพลิงเสวนคนนั้นหรือเปล่า?
“พระราชา จะให้รายงานเรื่องนี้กับท่านปรมาจารย์มั้ยครับ?” ผู้ชายก้มหน้าถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
แววตาของผู้ชายดุดันลงถึงขีดสุด เขาพูดกับผู้ชายว่า “ตอนนี้ท่านปรมาจารย์กำลังบำเพ็ญตนอยู่ เรื่องไหนที่จัดการได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกท่านปรมาจารย์ รีบไปสืบ! สืบว่าใครฆ่าผู้อาวุโสอู๋เมี่ยน สำนักไร้หน้าของฉันจะต้องเลือดต้องแลกด้วยเลือด!” ประโยคที่ว่าเลือดต้องแลกด้วยเลือดของผู้ชายพูดได้อย่างมีพลังมาก เสียงนี้ดังกังวานไปทั้งห้องโถง ทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่แขวนไว้ในห้องโถงสั่นสะเทือน
ชายที่รายงานเห็นดังนี้ กำมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อแล้วกล่าว “ครับ!”
หลังจากที่ห้องชายที่มารายงานเดินออกจากห้องโถงแล้วนั้น ผู้ชายก็เอาผายไหล่ผึ่ง นึกคิดในใจอย่างเงียบๆว่า “ฉันไม่สนว่าแกเป็นใคร ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คอของแกจะอยู่บนหัวแกแค่ชั่วขณะเท่านั้นแหละ!”