จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 429
เทียนขุยใช้เสียงเลือดเย็นพูดกับคนนั้นที่ลามกทั้งสองคน จากนั้นก็เอาร่างกายของทั้งคู่ทุ่มเข้าไปที่กำแพง
ได้ยินดังสองครั้งปังๆ ทั้งสองถูกทุ่มเข้ากำแพงพร้อมกัน จากนั้นก็ร่วงลงกับพื้นอย่างรุนแรง
ภายใต้เสียงดังนี้ราวกับว่ามีเสียงของกระดูกหักอีกด้วย เหมือนกับกระดูกของพวกเขาถูกชนจนหัก!
เทียนขุยไม่คิดจะปล่อยสองคนนี้ไปอย่างนี้ แต่เดินไปที่ด้านหน้าของคนที่มีความกล้า ยกมือขึ้นจะต่อยเข้าไปที่หัวของเขา เมื่อชีวิตตกอยู่ในอันตราย จะมีความรับรู้บางอย่างเกิดขึ้น
เมื่อคนนั้นเห็นหมัดของเทียนขุยกำลังจะต่อมาที่หัวของตัวเอง เขาจึงรีบร้องออกมาว่า “อย่าๆๆ ไม่นะ อย่าฆ่าผม ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่คิด แต่ยังไม่ทันได้ลงมือเลยนะ ได้โปรดเถอะ อย่าฆ่าผมเลยนะ”
เทียนขุยหยุดการกระทำลง คิดในใจว่าก็จริงตามนั้น ตอนนี้ฆ่ามันจะสบายเกินไป ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเลียนแบบสไตล์การจัดการของฟางเหยียน แทนที่จะฆ่ามัน สู้ทรมานมันแบบตายทั้งเป็นดีกว่า”
สองคนนี้ทำเรื่องผิดกฎธรรมชาติ สู้ตัดของทั้งสองออกเลยจะดีกว่า ทำให้พวกเขาเป็นผู้ชายไม่ได้อีก ทำได้แค่ดู แต่คิดอะไรไม่ได้อีก บางทีนี่คือการลงโทษที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว
เมื่อต้องปฏิบัติต่อคนเลว เทียนขุยไม่เคยใจอ่อนมาก่อน น่าสงสารที่สองคนนี้ดันมาเจอกับเทียนขุย
“คุณๆ คุณจะฆ่าพวกเราไม่ใช่เหรอ? ความจริงฆ่าพวกเราก็ไร้ประโยชน์ พวกเราเป็นแค่เศษเดนสองคนเท่านั้น! ฉันยังมีพ่อแม่ที่ต้องดูแล และน้องสาวก็กำลังเรียนอยู่ ฉันทำงานทำงานหาเช้ากินค่ำที่เมืองใหญ่แห่งนี้ ก็…”
ยังไม่ทันพูดจบ เทียนขุยก็ขัดจังหวะเขา “โอเค!”
เทียนขุยพูดออกมาหนึ่งคำ จากนั้นก็กล่าวว่า “ฉันจะไว้ชีวิตพวกแก! แต่มีสิ่งอย่างหนึ่งที่พวกแกต้องทิ้งไว้”
“อะไร?” คนขี้ขลาดถาม
“เพี่ยะ!” คนที่มีความกล้าตบเขาไปโดยตรง แล้วกล่าว “แล้วยังจะเป็นอะไรไปได้! มีเงินเท่าไหร่เอาออกมาให้หมด”
พูดพลาง เขาหยิบสามร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้เทียนขุยแล้วกล่าว “พี่ชาย ฉันมีแค่นี้แหละ”
พวกเขาคิดว่าเทียนขุยต้องการเงินจากพวกเขา แต่ทั้งสองคนคิดผิดไปแล้วล่ะ ผิดไปเยอะ
เทียนขุยดูแคลน ไม่พูดไม่จา วินาทีถัดมา เสียงร้องอวดครวญของทั้งสองดังสะเทือนไปทั่วเขตเมืองเก่าทางทิศตะวันออกของเมือง พวกเขาถูกตอนแล้ว หลังจากร้องครวญครางแล้วก็สลบเป็นตาย
การกระทำแบบนี้สำหรับเทียนขุยแล้วเป็นแค่เรื่องธรรมดาเท่านั้น เรื่องแบบนี้ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร!
หลังจากที่จัดการเสร็จแล้ว เทียนขุยมาที่ข้างหน้าหญิงสาวที่หวาดผวา ไฟฉายหล่นบนพื้น ส่องไปที่ใบหน้าอันมอมแมมของเธอ เทียนขุยไม่ลังเลอะไร มาที่ด้านหน้าของหญิงสาว หยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนหนึ่งปึกงออกมา เขายื่นไปให้หญิงสาวแล้วกล่าว “ผมรู้ว่าคุณไม่เป็นโรคอะไร ปึกนี้มาห้าพันหยวน เพียงพอที่จะใช้ไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง รับเงินไปนะ ซื้อเสื้อผ้าดีๆ จากนั้นก็ไปหางานทำ ผมว่าคุณสามารถเลี้ยงดูตัวเองได้นะ”
พูดจบ เขาไม่รอให้หญิงสาวยกมือขึ้นมารับเงิน หลังจากที่วางเงินไว้แล้วตนก็หันหลังแล้วจากไป แต่ตอนที่เพิ่งจะหันหลังไป จู่ๆหญิงสาวคนนั้นก็พุ่งไปที่เขา แล้วกอดด้านหลังของเขาเอาไว้
เทียนขุยตกใจ สั่นไปทั้งตัว เขาจับมือทั้งสองของหญิงสาว ขมวดคิ้วแล้วถามอย่างไม่พอใจ “คุณจะทำอะไร?”
หญิงสาวกอดเทียนขุยไว้แน่น ไม่พูดอะไร กระซิกเบาๆอยู่ด้านหลังของเทียนขุย
เมื่อได้ยินหญิงสาวร้องไห้ ต่อให้เธอเป็นเพียงขอทาน เทียนขุยก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เค้ากลายเป็นแบบนี้ บางทีก็ไม่ได้ต้องการที่จะเป็น ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้ เมื่อนึกถึงจุดนี้ เทียนขุยค่อยๆปล่อยมือของหญิงสาว
หญิงสาวจับตัวของเทียนขุยไว้แน่น ร้องไห้ฮือๆๆออกมา ไม่นาน น้ำตาก็เปียกปอนเต็มแผ่นหลังของเทียนขุย
หลังจากผ่านไปสักพักใหญ่ เสียงของหญิงสาวกระซิกๆ เขาค่อยๆหลังหันไปแล้วกล่าว “พอแล้วๆ เอาเงินแล้วรีบไปซะ!” พูดพลาง เทียนขุยก็หันหลัง ปล่อยมือของหญิงสาว
หญิงสาวอยากกอดเทียนขุยไว้แน่นๆ แต่กลับทำอะไรกับพลังของสองมือของเทียนขุยไม่ได้ เธอทำได้เพียงมองเทียนขุยอย่างตกใจ แล้วถาม “คุณ คุณ คุณคือเจ้าวัวรองหรือเปล่า?”
เจ้าวัวรอง หลังจากที่ได้ยินฉายานี้ เทียนขุยก็ชะงักไป!
นี่เป็นฉายาของเทียนขุยในวัยเด็ก เนื่องจากตอนเด็กชกต่อยเป็นเลิศ และมีพลังเต็มเปี่ยม ที่บ้านเลี้ยงวัวไว้ตัวหนึ่ง ตนดูแลวัวตลอดทั้งวัน ดังนั้นหลายๆคนจึงตั้งฉายาให้เขาว่าวัวตัวใหญ่! แต่เนื่องจากในครอบครัวตัวเองเป็นคนรอง มีพี่สาวอีกคน คนมากมายจึงเรียกเขาว่าเจ้าวัวรอง ฉายานี้มีเพียงคนที่บ้านเกิดเขาเท่านั้นที่รู้ หลังจากที่เขาออกจากบ้านไปเข้าร่วมกองทัพแล้วนั้น ก็ไม่ได้ยินฉายานี้อีกเลย
วันนี้ได้ยินฉายานี้อีกครั้ง ทำให้เทียนขุยรู้สึกดีใจกับสิ่งที่คาดไม่ถึง
คนที่เรียกฉายานี้ของเขาออกมาได้ แสดงว่าหญิงสาวคนนี้รู้จักกับเทียนขุยสินะ!
“คุณ คุณเป็นใคร?” เทียนขุยถามอย่างตะลึง
หญิงสาวไม่พูด เพียงแต่พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของเทียนขุยอีกครั้ง จากนั้นก็ร้องฮือๆๆออกมาอีกครั้ง เหมือนเป็นน้ำตาที่อดกลั้นไว้นานไหลออกมาจนหมด
แม้บนเรือนร่างของหญิงสาวจะมีกลิ่นเหม็นอยู่บ้าง แต่อารมณ์และน้ำตาที่เธอแสดงออกมามันจริงแท้มาก
หลังจากที่ร้องอยู่นาน เสียงร้องของเธอกลายเป็นเสียงกระซิก จากนั้นเธอเงยหน้ามองตาของเทียนขุย แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นสุดๆ “เจ้าวัวรอง และแล้วฉันก็หาคุณเจอ และแล้วก็หาเจอ”
“คุณคือเสี่ยวหง?” เทียนขุยถามอย่างช็อก
เดิมเสียงร้องของหญิงสาวได้เปลี่ยนเป็นกระซิกแล้ว แต่หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ของเทียนขุย ก็ยิ่งร้องหนักมากขึ้นไปอีก เธอพุ่งเข้าไปที่อ้อมกอดของเทียนขุยอีกครั้ง สองมือที่กอดเทียนขุยไว้ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น
เสี่ยวหง นี่คือเสี่ยวหง มีเพียงเสี่ยวหงเท่านั้นที่จะพูดว่าและแล้วก็หาคุณจนเจอ และก็มีเพียงเสี่ยวหงที่จะตามหาตน
หลังจากที่ร้องไห้หนัก เสียงของเสี่ยวหงก็ค่อยๆเบาลง สามครั้งแล้ว เธอร้องไห้มาสามครั้งแล้ว ใครจะรู้ว่าสามครั้งนี้แฝงไปด้วยความเจ็บปวดใจ และแฝงอะไรไว้มากมายเท่าไหร่จึงได้พูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า “ฉันคือเสี่ยวหง ฉันคือเสี่ยวหงไง”
ไม่คาดคิดว่าจะเป็นเสี่ยวหงจริงๆ หัวใจของเทียนขุยเริ่มเต้นรัวๆตึกๆขึ้นมา!
เสี่ยวหงคือรักแรกของเขา และก็เป็นผู้หญิงครั้งแรกและครั้งเดียวที่เขาคบด้วย ครั้งที่แล้วเขาได้เล่าเรื่องความรักของตัวเองให้ฟางเหยียนฟัง นี่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของเขา เสี่ยวหงนางเอกละครแห่งความรักที่สวยงามที่สุด และบริสุทธิ์ที่สุด
เทียนขุยไม่นึกไม่ฝันว่าตนจะยังได้เจอกับเสี่ยวหง เขาคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอเธอเสียแล้ว
เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้านี้จริงมั้ย? เทียนขุยค่อนข้างมึนงง และสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า!
ใช่ ทั้งหมดนี้มันดูเพ้อฝันมาก มาถึงอย่างแปลกประหลาด ทำให้เขาตั้งตัวไม่ค่อยทัน
เขามิอาจปฏิเสธได้ว่าในใจของตัวเองยังคงมีเสี่ยวหงอยู่ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ใครก็แทนที่ไม่ได้