จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 440
เหลียงจงควรจะลงมือกับผู้ชายคนนั้นสิ ทำไมมาลงมือตบเมียตัวเองซะอย่างนั้น แถมยังตบต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ด้วย
เมียของเหลียงจง คุณนายตระกูลอันดับสองของเขตซีหนาน ฐานะสูงส่งมาก
ตบฉาดนี้ตบต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น ถ้าเรื่องแพร่ออกไป ชื่อเสียงเธอจะเหลือไหม? ต่อไปเธอจะทำให้คนเคารพได้ยังไงกัน?
คนที่ได้สติกลับมาก่อนคือคุณชายโล๋ คุณชายโล๋รีบเข้าไปพยุงเมียเขา นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ได้แตะต้องเมียเขา เขาถามอย่างกังวล “น้าเพ่ย ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
เหลียงจงมองคุณชายโล๋ดวงตาลุกโพลง และมองเมียตน แต่เขาไม่พูดอะไร หันกลับไปยืนหน้าฟางเหยียน โค้งตัวเก้าสิบองศาอย่างเคารพนบนอบ เหมือนที่ เสือดาวดำโค้งคำนับเมื่อกี้เลย!
พอโค้งเสร็จ เขารีบบอกว่า “คุณฟาง ขอโทษครับ เมียผมมีตาหามีแววไม่ ขอร้องคุณฟางได้โปรดอภัยอภัยให้ด้วย!” ตอนพูด ลิ้นเขาเริ่มพันกันรัวแล้ว!
เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เจอกันคนที่แค่โทรกริ๊งเดียวก็ทำเขาล้มละลายได้ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่าเจอผีซะอีก
ฟางเหยียนกวาดตามองเหลียงจง ไม่พูดอะไร เห็นเหลียงจงไม่กล้าสบตาเขา ดูเจี๋ยมเจี้ยมพิกล
โล๋เหวินเริ่มลังเลแล้ว ใจเต้นตุบๆ เขาคิดย้อนไปถึงตอนยามสองคนเมื่อกี้คุกเข่าลง และคิดถึงท่าทางเสือดาวดำด้วย สองคนแรกไม่เท่าไหร่ พวกเขาเป็นแค่อันธพาลกิ๊กก๊อกเท่านั้น แต่คนตรงหน้านี่ไม่เหมือนกันนะ นี่คือเหลียงจง คนรวยอันดับสองของทั่วทั้งเขตซีหนาน มีทรัพย์สินเป็นหลายหมื่นล้าน เป็นรองแต่หวงหยวนฉาวเท่านั้น
ฐานะของเขาไม่ธรรมดาแค่ไหนก็ได้แค่นั้น เรียกได้ว่าขึ้นฟ้าลงดินได้เลยทีเดียว ตอนนี้แม้แต่เขายังเคารพนบนอบผู้ชายคนนี้ขนาดนี้ งั้นตนเละแน่ ไม่เหลือซากแน่นอน!
เดิมคิดว่าเหลียงจงจะแก้แค้นให้ตนได้ ไม่คิดเลย ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้
“โล๋เหวิน แกหาเรื่องคุณฟางใช่ไหม?” ในตอนที่ใจโล๋เหวินเต้นตุบตุบไม่เป็นจังหวะอยู่นั้นเหลียงจงเพ่งดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธมาที่คุณชายโล๋
คุณชายโล๋มองเหลียงจงตัวสั่นเทา ดวงตาของเหลียงจงแทบจะแผ่ประกายไฟออกมาได้ ดูแล้วน่ากลัวนัก เขาไม่กลัวหมอนั่น แต่เขากลัวเหลียงจงนี่นา เหลียงจงเป็นใครเขาไม่ใช่ไม่รู้
ดังนั้นเขาเลยกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พูดตะกุกตะกักว่า “นี่ นี่ ผม ผมเปล่านะ! ผมแค่…”
“เจ้าเด็กนี่ ยังไม่รีบมาขอโทษอีก! แกอยากให้ธุรกิจเล็กน้อยของพ่อแกล้มละลายหรือไง?” น้ำเสียงเหลียงจงเปลี่ยนเป็นหวีดแหลม ท่าทางน่ากลัวจนถึงขีดสุด
โล๋เหวินขาอ่อนยวบบอกว่า “อาเหลียง อย่าขู่ผมสิ!”
เหลียงจงแค่นเสียงหึ ตะคอกเสียงแหลมว่า “ไอ้เลวเอ๊ย แกคิดว่าฉันล้อแกเล่นอยู่หรือไง? คุณฟางคนนี้แค่นิ้วเดียวก็ทำลายตระกูลโล๋ของแกได้แล้ว ในสายตาคุณฟางน่ะ ตระกูลโล๋ของแกไม่มีค่าเลย!”
โล๋เหวินไม่กล้าสงสัยคำพูดของเหลียงจง รีบถลาเข้าไปพูดขอโทษน้ำตานองหน้า “คุณฟาง ขอโทษครับ ขอโทษครับ เสื้อตัวนั้นผมไม่เอาแล้ว ไม่ ไม่ ผมให้คุณเลย ผมซื้อให้คุณ ขอคุณได้โปรดอภัยให้ผมด้วย ได้ไหมครับ?”
ฟางเหยียนแค่นยิ้มเย็น เขาเดินมายืนหน้าโล๋เหวินพลางถามเสียงเย็นว่า “นายคิดว่าฉันไม่มีเงินแค่นั้นหรือไง?”
โล๋เหวินตัวสั่นเทาไปทั้งตัว เขายังไม่ทันพูดอะไร เหลียงจงก็ยกมือขึ้นตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ดังสะท้อนไปทั่วทุกมุมของร้านเหมือนกัน โล๋เหวินโมโหแต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ก้มหน้าต่ำลง
เหลียงจงพูดอย่างโมโหว่า “พวกแกทุกคนเบิกตาไร้แววของพวกแกให้กว้างๆเลยนะ คุณฟางคนนี้เป็นผู้มีพระคุณของฉัน! เขาอยากได้อะไรในร้านนี้ก็ได้ทั้งนั้น สามารถทำให้คุณฟางพอใจได้ ถือเป็นเกียรติของฉันเหลียงจง”
ผู้มีพระคุณ! ฟางเหยียนไม่รู้ว่ากลายเป็นผู้มีพระคุณของเหลียงจงตั้งแต่เมื่อไหร่ ตามหลักแล้วไม่ควรเป็นศัตรูหรือไง? ฟางเหยียนหักขาสองข้างของลูกชายเขานะ ไหงกลายเป็นผู้มีพระคุณไปได้ล่ะ! แต่มันไม่สำคัญแล้วล่ะ ฟางเหยียนแค่นยิ้มเย็นเหอะเหอะ พูดด้วยรอยยิ้มไม่เป็นธรรมชาติว่า “ผมอยากได้ร้านนี้ของคุณ!”
เมียของเหลียงจงมือกุมหน้าพลางได้สติกลับมา ตะคอกใส่ฟางเหยียนว่า “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร แก…”
“หุบปาก! เธอไม่พูดไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้” เหลียงจงตะคอกใส่เธอด้วยความโกรธ ยกมือขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างโกรธแค้น โดนตะคอกไปคราวนี้ทำเอาเมียของเหลียงจงตัวสั่นขวัญหาย เธอเริ่มกลัวเหลียงจงในโหมดดุร้ายแบบนี้แล้วล่ะ
ด่าเมียเสร็จ เหลียงจงพูดต่ออย่างตื่นเต้นว่า “ถือเป็นเกียรตของร้านเราอย่างมากครับ นอกจากร้านนี้แล้ว ผมยังมีอีกสิบร้านในถนนสายนี้ของหนานหลิง ผมยกให้คุณฟางทั้งสิบร้านเลย ขอเพียงคุณฟางสนใจ ธุรกิจทั้งหมดของผมพร้อมเสนอหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้คุณฟางเลยครับ แน่นอนว่าหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์นี้เป็นเพราะผมเคารพคุณฟางและเสนอให้ครับ”
ทุกคนในที่นั้นเงียบกริบ แต่ละคนแทบไม่กล้าหายใจดัง เหลียงจงเป็นคนรวยอันดับสองของเขตซีหนาน มีมูลค่าทรัพย์สินหลายหมื่นล้าน ดึงเอาออกมาเป็นหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เท่ากับยกให้ฟางเหยียนฟรีๆเป็นหมื่นล้านเลย
หมอนี่เป็นใครกันแน่นะ? ทำไมเหลียงจงต้องให้ความเคารพเขาขนาดนี้? ถ้าจะพูดว่าเคารพ สู้บอกว่ากลัวดีกว่า ใช่ ทำไมมีคนที่สามารถทำให้เหลียงจงกลัวได้ขนาดนี้!
ทุกคนต่างไม่กล้าคาดเดาเบื้องหลังของเขา เพราะความคิดของพวกเขาโดนปิดชะงัก ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังของเหลียงจงใหญ่แค่ไหน และเหลียงจงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนคนนี้กลับกลายเป็นลูกกระจ๊อกที่พยายามประจบเจ้านายก็ไม่ปาน
ฟางเหยียนมองเหลียงจง หมอนี่เปลี่ยนแปลงมากโขอยู่ ไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่ลูกชายตนโดนเลยด้วยซ้ำ
เขาเองไม่ใช่คนไม่มีเหตุผลอะไรแบบนั้น เลยทำแค่หยิบเสื้อมาพาดไว้ในมือ พูดอย่างเย็นชาว่า “ขอโทษด้วย ผมไม่สนใจธุรกิจในเครือของคุณ! ผมบอกว่าจะซื้อร้านนี้ของคุณ ไม่ใช่ให้คุณยกให้ผม”
กร่าง หยิ่ง บ้าคลั่ง บอสใหญ่ ผยอง หมอนี่แสดงทีท่าที่เคยเห็นแต่ตัวละครในหนังเท่านั้นออกมา แถมยังแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเขาเคยชินแบบนี้อยู่แล้วด้วย
“ไม่ไม่ไม่ ผมมีหรือจะกล้า…”
เหลียงจงอยากบอกว่า ผมมีหรือจะกล้ารับเงินของคุณ แต่เขากลัวคนคนนี้จะทำเรื่องอะไรอีก เลยได้แต่ยอมตามความต้องการของเขา
ตอนนี้เองฟางเหยียนหยิบบัตรเครดิตออกมาหนึ่งใบ พลางว่า “แบบนี้ละกัน ผมให้คุณหนึ่งแสน คุณไม่ขาดทุนหรอกนะ?”
หนึ่งแสน! ซื้อร้านนี้ ไม่ว่าใครได้ยินต่างต้องตลกขบขันแน่ ร้านนี้อยู่ในย่านผู้คนพลุกพล่านครึกครื้น แทบจะเป็นแบรนด์ต่างประเทศทั้งหมด แค่ร้านนี้ เป็นร้านหรูที่สุดบนถนนสายนี้แล้ว เงินลงทุนไม่น่าจะต่ำกว่าสิบล้าน ตอนนี้กลับใช้แค่หนึ่งแสนซื้อร้านนี้ นี่ไม่เรียกว่าพูดจาไร้สาระ แล้วจะเรียกว่าอะไร
แต่เหลียงจงกลับยิ้มอย่างพอใจเป็นอย่างมากว่า “ไม่ขาดทุน ไม่ขาดทุนเลยครับ เหมาะสมมากแล้วครับ!”