จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 48
บทที่ 48 ราชาผู้ถูกไต่สวน
เมื่อฟางเหยียนมาถึงใต้ตึกร้าง ตำรวจสาวคนนั้นก็ตวาดออกมา “หยุดนะ ปล่อยผู้หญิงคนนั้นลง แล้วยกมือขึ้นทั้งสองข้าง”
ฟางเหยียนไม่พอใจที่ตำรวจพวกนี้เข้ามายุ่ง แต่ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ เขาจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์บนโลกนี้ ถึงจะไม่ใช้เพื่อตัวเขาเอง แต่ก็ต้องทำเพื่อเย่ชิงหยู่ที่อยู่ในอ้อมกอดของตน
“พาเธอกลับบ้าน” ฟางเหยียนไม่ได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา และก้าวเข้าไปหาตำรวจเหล่านั้น
ตำรวจหญิงส่งตำรวจอีกคนไปรับตัวของเย่ชิงหยู่มา จากนั้นก็เอากุญแจมือขึ้นมาล็อกมือของฟางเหยียนเอาไว้
เมื่อตำรวจสาวสัมผัสกับมืออันเยือกเย็นของฟางเหยียน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ นี่คือมือของคนเหรอ
แต่เพราะเป็นหน้าที่ เธอจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“ขึ้นไปกับฉัน!” ตำรวจหญิงดึงมือเขาขึ้นไปบนตึกร้าง
เมื่อพวกเขามาถึงบนตึก ภาพตรงหน้าทำให้เหล่าตำรวจตกใจเป็นอย่างมาก
เหล่าตำรวจหญิงที่ใจปลาซิวถึงกับร้องไห้ออกมาตรงนั้น
ลู่หย่องถิงตายแล้ว เขาตกใจจนตาย สภาพศพน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ในบ้านของเย่ชิงหยู่
“เสี่ยวหย่า เกิดอะไรขึ้นกับชิงหยู่กันแน่ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ ไอ้เลวลู่หย่องถิง ก่อนหน้านี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราเชื่อใจมัน คิดไม่ถึงว่ามันจะทำเรื่องแบบนี้ได้” พูดพลางน้ำตาของจางเจียวเจียวก็ไหลลงมา
เฉินหย่าน้ำตานองหน้า เธอพูดว่า “ขอโทษนะคะคุณน้า เป็นความผิดของหนูเอง!”
จางเจียวเจียวยกมือมาเช็ดน้ำตาตรงหางตา เธอคิดถึงสภาพของเย่ชิงหยู่ที่ตำรวจพามาส่งเมื่อคืนวานก็อดปวดใจไม่ได้ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับลูกสาวผู้เป็นที่พึ่งพาอาศัย เธอจะไม่ปวดใจได้อย่างไร
“คุณน้าวางใจเถอะครับ ชิงหยู่ไม่เป็นอะไรแล้ว” เฉิงฉู่ยืนพูดปลอบใจอยู่ข้างๆ
เมื่อได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเย่ชิงหยู่ เขาก็รีบมาทันที
เขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองเพิ่งจะมาถึงจินโจวไม่กี่วัน ก็เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ขึ้น
สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น สามีของเย่ชิงหยู่ถูกจับเพราะฆ่าคน
เฉิงฉู่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดีใจหรือเสียใจดี
“ฟางเหยียน!” จู่ๆ เสียงของเย่ชิงหยู่ก็ดังขึ้น ศีรษะของเธอส่ายไปมา
เธอเพ้อชื่อของฟางเหยียนออกมา จากนั้นก็ลืมตาขึ้น จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง โดยมีจางเจียวเจียว เฉินหย่า และเฉิงฉู่เพื่อนสมัยเรียนของเธอนั่งอยู่ข้างๆ อย่างเป็นกังวล
“ชิงหยู่ แม่ตกใจแทบแย่ บอกแม่มาว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันไม่ได้ทำอะไรลูกใช่ไหม” น้ำตาคลออยู่ที่ตาของจางเจียวเจียว มือทั้งสองข้างวางอยู่บนแขนของเย่ชิงหยู่ และถามด้วยความเป็นห่วง
เฉินหย่าก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด และไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้า “หนูไม่เป็นอะไรค่ะแม่”
เฉิงฉู่ยิ้มอย่างโล่งอก จากนั้นจึงถามขึ้นว่า “ชิงหยู่ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”
เย่ชิงหยู่พยักหน้าเบาๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร
เฉินหย่าที่ไม่ได้พูดอะไร เธอนั่งผสานมือเอาไว้ด้วยกันอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะชิงหยู่ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เป็นความผิดของฉันเอง ถ้าไม่ใช่ฉัน เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นกับเธอ!”
เย่ชิงหยู่กวาดสายตามองทุกคน สุดท้ายสายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่เฉินหย่า “ไม่เป็นไรหรอกเสี่ยวหย่า”
“อ้อ ฟางเหยียนล่ะ เขาอยู่ไหน ฉันจำได้ว่าเหมือนจะเห็นเขาเมื่อคืนวาน แต่ไม่รู้ว่าเป็นภาพหลอนเพราะอยากเจอเขาหรือฉันเจอเขาจริงๆ”
เธอยกมือขึ้นมานวดศีรษะ จากนั้นจึงถามขึ้น “แม่ ฟางเหยียนกลับมาแล้วใช่ไหม”
“ฟางเหยียน…” จางเจียวเจียวลังเล จากนั้นก็ก้มหน้าลงไป
เธอแน่ใจเลยว่าท่าทางแบบนี้ ฟางเหยียนต้องกลับมาแล้วอย่างแน่นอน
เย่ชิงหยู่รีบถามต่อทันที “แม่ ฟางเหยียนเป็นอะไร อย่าบอกนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานเป็นเรื่องจริง ฟางเหยียนไปช่วยหนูที่นั่นจริงๆ ใช่ไหม หนูว่าแล้วว่าต้องเป็นเขา มีแค่เขาเท่านั้นที่จะปรากฏตัวออกมาในช่วงที่อันตราย”
คำพูดนี้ทำให้จิตใจของเฉิงฉู่ว้าวุ่น เขากระแอมออกมาสองทีแล้วพูดว่า “ฟางเหยียนโดนตำรวจจับ”
“อะไรนะ” เย่ชิงหยู่เบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ คำพูดนั้นเหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงบนหัวของเธอ
“ทำไมฟางเหยียนถึงโดนจับ คนที่ควรโดนจับควรจะเป็นลู่หย่องถิงไม่ใช่เหรอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงหยู่ ทุกคนก็เงียบไป
“มันเกิดอะไรขึ้น เสี่ยวหย่า”
เฉินหย่าไม่พูดอะไร
เธอมองจางเจียวเจียว ก็เอาแต่ก้มหน้า
“เฉิงฉู่บอกฉันมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เฉิงฉู่ลังเลเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดออกมาว่า “ลู่หย่องถิงตายแล้ว เขาโดนฟางเหยียนฆ่า”
คำพูดของเฉิงฉู่เหมือนค้อนที่ทุบลงมาบนหัวของเธอ เธอรู้สึกมึนจนแทบจะล้มลงไปอีกครั้ง
แต่เฉินหย่ามาประคองเธอเอาไว้ก่อน
เฉินหย่าพูดขึ้นมาว่า “ชิงหยู่ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ฟางเหยียนต้องการช่วยเธอ ตอนนั้นเขาเลยขาดสติ แต่ฉันเชื่อว่าฟางเหยียนจะไม่เป็นอะไร มันคือสิทธิ์ในการป้องกันตัว เธออย่ากังวลเลย!”
จางเจียวเจียวก็รีบพูดปลอบขึ้นมาทันที “ใช่ ชิงหยู่ เฉิงฉู่ใช้เส้นสายจัดการแล้ว เรื่องไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ลูกคิด”
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินชื่อของเฉิงฉู่ ก็คิดถึงฐานะของบ้านเขา จากฐานะทางบ้านของเฉิงฉู่ ถ้าเขายอมจัดการเอง ฟางเหยียนจะต้องไม่เป็นอะไร
“เฉิงฉู่ขอร้องล่ะ ช่วยฟางเหยียนออกมาด้วยนะ”
เฉิงฉู่รีบประคองเย่ชิงหยู่ แล้วพูดปลอบเธอว่า “วางใจเถอะชิงหยู่ เรื่องของเธอก็คือเรื่องของฉัน ฉันคุยกับพ่อแล้ว เขาจะให้คนข้างบนช่วยฟางเหยียนออกมา”
“ขอบใจนะ!” เย่ชิงหยู่รีบพูดขอบคุณออกมา
เฉิงฉู่ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าเรื่องของเธอก็คือเรื่องของฉัน!”
ถึงแม้เฉิงฉู่จะพูดเช่นนี้ แต่ทว่าเย่ชิงหยู่กลับคิดว่าเรื่องคงไม่ง่ายขนาดนั้น นี่มันคือการฆ่าคนเชียวนะ!
“ไม่ได้การละ ฉันต้องไปหาฟางเหยียน” พูดพลางเย่ชิงหยู่ก็ลงจากเตียง
ภายในห้องสอบสวน
ถังยู่สอบสวนฟางเหยียนทั้งคืน สอบสวนไปสอบสวนมาฟางเหยียนก็พูดอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนว่า “มันสมควรตาย!”
เธอเป็นตำรวจมาห้าปี เจอคดีมามากมาย แต่เธอเพิ่งเคยเจอคดีที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นครั้งแรก เธอคิดไม่ถึงว่าคนร้ายจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการฆ่า แถมยังเป็นการตายแบบเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด
เธอไม่รู้ว่าฟางเหยียนใช้วิธีอะไรในการฆ่าเขา ไม่พบบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้ ถ้าไม่เห็นว่าฟางเหยียนเข้าไป และหากฟางเหยียนไม่ยอมรับว่าเขาเป็นคนฆ่า เธอคือคงไม่มีหลักฐานว่าฟางเหยียนเป็นคนฆ่า
เมื่อเธอเห็นว่าสอบสวนไปก็ไม่ได้อะไรอีก ก็เลยพูดออกมาว่า “งั้นก็โอเค ฉันไม่ถามนายแล้วว่าเขาตายยังไง ฉันอยากถามนายว่านายไม่ละอายใจในเกียรติยศที่เคยมีมาเหรอ ทำไมถึงทำเรื่องที่ผิดกฎ นายลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นใคร นายคือทหารนะ! คนระดับสูงในนั้นไม่สอนพวกนายเหรอว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”
แววตาของฟางเหยียนยังคงแน่วแน่ เขาเอาแต่จ้องถังยู่ มันเป็นท่าที่จ้องมองลงมาจากที่สูง
เขาถูกสอบสวนอยู่ในห้องสอบสวน แต่ทว่าราวกับเขาเป็นราชาที่กำลังจ้องมองลงไปที่ถังยู่