จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 5
บทที่ 5 คำสัญญาที่ให้กับเย่ชิงหยู่
ตู้หมิงล่างส่งสายตาให้กับทุกคน ทุกคนในห้องล้วนลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
แท้จริงแล้วพวกเขาตั้งใจที่จะกลั่นแกล้งฟางเหยียนและเย่ชิงหยู่ พวกเขาสั่งอาหารชุดที่มีราคาสองแสนแปดพันหยวน หารกันออกมาอย่างน้อยก็ตกคนละหมื่นหยวน สองคนนี้ยังไงก็ต้องจ่ายสองหมื่นหยวน เขาคิดว่าทั้งสองคงไม่มีเงินถึงขนาดนั้นแน่นอน
“เถ้าแก่ เท่าไหร่? นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ของคนอื่น ๆ เดี๋ยวฉันจ่ายเอง เถ้าแก่คิดให้หน่อยว่าเป็นเงินเท่าไหร่” ตู้หมิงล่างตั้งใจที่จะไม่แยแสเย่ชิงหยู่และฟางเหยียน
หลัวเทียนเยว่มองไปที่ฟางเหยียนและเย่ชิงหยู่ ฟางเหยียนเอ่ยขึ้น: “ยกเว้นเหล้า พวกเราไม่ได้ดื่มเหล้า”
“เหอะ ๆ น่าขำเสียจริง นั่นเป็นเหล้าที่เถ้าแก่มอบให้คุณชายตู้ นายคิดว่านายคู่ควรดื่มมันเหรอ?” เสิ่นจื่อเจี๋ยพูดเยาะเย้ย
เถ้าแก่พยักหน้าอย่างรู้ทันและคิดเงินอยู่สักพัก จากนั้นเงยหน้าขึ้นกล่าว: “ทั้งหมดห้าล้านหนึ่งแสนแปดพันหยวน!”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนนึกว่าตัวเองฟังผิดไป ตู้หมิงล่างยังพูดหยอกล้อ: “เถ้าแก่ คุณกำลังล้อพวกเราเล่นอยู่ใช่ไหมล่ะ?”
หลัวเทียนเยว่กล่าวด้วยท่าทางจริงจังอีกครั้ง: “นอกจากสองท่านนี้แล้ว ทั้งหมดห้าล้านหนึ่งแสนแปดพันหยวน ผมลดให้พวกคุณ เหลือห้าล้านหนึ่งแสนหยวนแล้วกัน”
ตู้หมิงล่างพูดด้วยความโมโหเล็กน้อย: “เถ้าแก่ คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า พวกเราแค่ทานอาหารชุดชุดละสองแสนแปดพันแค่นั้นเอง อีกห้าล้านนั้นมาจากไหน?”
“ความหมายของคุณคือ? ผมกำลังบีบบังคับคุณเหรอ?” หลัวเทียนเยว่รู้สึกไม่ค่อยพอใจ น้ำเสียงของเขาสูงขึ้นเล็กน้อย
หลัวเทียนเยว่อยู่ที่จินโจวเสมือนปลาได้น้ำได้ ก็เป็นเพราะเขาเกิดมานาน เรื่องฆาตกรรมก็ทำมาไม่น้อย คนที่พอมีชื่อเสียงบ้างล้วนทราบว่าคนคนนี้ไม่ง่ายที่จะต่อกรด้วย
เรื่องพวกนี้ตู้หมิงล่างก็พอได้ยินมาบ้าง เขาเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วและพูดว่า: “เถ้าแก่หลัว ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น คุณคิดผิดหรือเปล่า? ผมก็แค่ไม่เข้าใจว่าห้าล้านนั่นมาได้ยังไง?”
“เหล้าเหมาถายที่พวกคุณดื่ม เป็นเหล้าเก่าแก่ปี 1953 ในงานประมูลภาคตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่แล้ว ราคาประมูลอยู่ที่ขวดละห้าล้าน นี่เป็นสิ่งที่ต่อให้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ ผมลดให้พวกคุณห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ราคาหลังลดแล้วตกขวดละสองล้านห้าแสน”
“เถ้าแก่ เหล้านั้นคุณให้พวกเราฟรีนี่นา” เสิ่นจื่อเจี๋ยเอ่ยขึ้น
“ผมเคยบอกว่าให้พวกคุณฟรีเหรอ?” หลัวเทียนเยว่จ้องตา เสิ่นจื่อเจี๋ย
ถ้าหากสามารถคายเหล้านั้นออกมาได้ พวกเขายินดีที่จะคายออกมา แพงเกินไปแล้ว!
ในตอนนี้ ชายฉกรรจ์สวมเสื้อกล้ามบนตัวมีรอยสักสองสามคนเดินเข้าประตูมา
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้หลายคนหวาดกลัวจนตัวสั่น หลัวเทียนเยว่กล่าวต่อ: “อยู่ในพื้นที่ของฉันยังคิดที่จะทานอาหารแล้วไม่จ่ายเงิน? พวกคุณยังอ่อนหัดเกินไป”
ตู้หมิงล่างรีบพูดขึ้นมาทันที: “เถ้าแก่หลัว พ่อของผมคือตู้เทียนหัว! คุณดู…”
“พ่อของคุณจะเป็นใครก็ไม่มีประโยชน์ ทานอาหารแล้วก็ต้องจ่ายเงิน ห้าล้านหนึ่งแสนหยวน!” หลัวเทียนเยว่ตะโกนออกมา
“ทำไม? เป็นถึงคุณชายตู้ตระกูลใหญ่อันดับสองของเมืองจินโจว แม้แต่เงินห้าล้านหนึ่งแสนหยวนยังไม่มีเหรอ? ฟางเหยียนที่อยู่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา
เขาฮึครั้งหนึ่ง จ้องมองฟางเหยียนพลางกล่าว: “ต่อให้ไม่มียังไง ก็มีเงินมากกว่านายแล้วกัน!”
“ทุกคน วันนี้ฉันไม่ได้พกเงินมาเยอะขนาดนั้น พวกเรายังคงหารกันดีกว่า!” พูดจบตู้หมิงล่างก็หยิบบัตรแพลตตินัมของเขาออกมา
เงินห้าแสนกว่าบาทถูกรูดออกมาพายในพริบตา ถึงแม้พวกเขาจะมีเงิน แต่เมื่อเห็นเงินมากมายขนาดนั้นต้องเสียไปเพราะอาหารเพียงมื้อเดียว พวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
หลังจากรูดบัตรเสร็จ เขาก็เดินจากไปด้วยความโมโห
เพื่อนร่วมชั้นเหล่านั้นก็รูดบัตรของตัวเอง คนที่เงินไม่พอก็โทรหายืมเงิน!
หลังจากที่ทุกคนได้จ่ายเงินเถ้าแก่ครบเรียบร้อยแล้ว เย่ชิงหยู่คลำเงินในกระเป๋า มีเงินไม่ถึงห้าพัน เธอจับแขนของฟางเหยียนพลางกล่าว: “ฟางเหยียน นายได้พกเงินมาไหม?”
ฟางเหยียนยักไหล่พลางกล่าว: “ไม่”
“คุณหนูเย่ ไม่เป็นไร เงินส่วนของคุณคุณชายท่านนี้ได้จ่ายให้แล้ว” หลัวเทียนเยว่เปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว พร้อมพยักหน้าให้เย่ชิงอยู่และฟางเหยียนอย่างรัว ๆ
ฟางเหยียนถอนหายใจเบา ๆ แล้วจับมือของเย่ชิงหยู่พลางกล่าว: “ไปกันเถอะ!”
หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป หลัวเทียนเยว่รีบออกคำสั่ง: “อากุ๋ย ใช้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ทั้งหมด สืบหาข้อมูลของคนคนนั้น”
“ขอรับ ท่านเทียน!”
บนรถ เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียน แล้วเอ่ยถาม: “คุณรู้จักกับเถ้าแก่ของโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่?”
ฟางเหยียนส่ายหัวพลางกล่าว: “ไม่รู้จัก”
“ถ้างั้นคุณจ่ายเงินตั้งแต่ตอนไหน?” เย่ชิงหยู่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฟางเหยียนกระซิบเบา ๆ “ผมจ่ายด้วยวีแชท”
เย่ชิงหยู่พึ่งนึกขึ้นมาได้ เมื่อกี้เธอคอยแต่สนใจพวกหลัวเทียนเยว่อยู่
“อาหารมื้อเดียวก็สองหมื่นกว่าแล้ว ไม่คุ้มจริง ๆ กลับไปเดี๋ยวฉันคืนให้คุณ” เย่ชิงหยู่พูดอย่างไม่มีทางเลือก
ฟางเหยียนเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ทว่าในใจนั้นกับรู้สึกเจ็บปวด เธอ เป็นถึงคุณหนูของบ้านตระกูลเย่ คำพูดแบบนี้เมื่อออกมาจากปากของเธอ ทำไมถึงทำให้คนรู้สึกเศร้าใจเช่นนี้
รถขับไปได้สักพัก เย่ชิงหยู่มองใบหน้าด้านข้างของฟางเหยียน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าฟางเหยียนก็ดูหล่อเหลาไม่เบา
ถ้าหากเขาไม่ขี้โม้โอ้อวด ที่จริงแล้วแต่งงานกับเขาก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
เฮ้อ! เย่ชิงหยู่นะเย่ชิงหยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ตัวเองจะแต่งกับฟางเหยียนได้ยังไง ต่อให้ต้องแต่งงานก็ต้องแต่ให้กับคนที่ชอบตัวเอง และตัวเองก็ชอบเขา
ในขณะที่รถขับผ่านบ้านใหญ่ตระกูลเย่ สายตาของเย่ชิงหยู่จ้องมองที่แห่งนั้นอยู่ตลอดเวลา
จะยังไงที่นั่นก็เป็นบ้านของเธอ แต่น่าเสียดายที่หวนคืนกลับไปเป็นเช่นเดิมไม่ได้อีกแล้ว
“เธอวางใจเถอะ ช้าเร็วต้องมีสักวัน ที่ผมจะเอาบ้านใหญ่ตระกูลเย่กลับคืนมา” ฟางเหยียนพลันกล่าวที่ข้างหูของเธอ
เย่ชิงหยู่กลอกตาให้กับฟางเหยียน กล่าวอย่าไม่สบอารมณ์: “ขี้โม้อีกแล้ว”
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเย่ชิงหยู่ได้ดังขึ้น
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ใบหน้าตะลึงงัน บนหน้าจอปรากฏชื่อคุณตาของเธอ
“ชิงหยู่ รีบกลับมาตอนนี้เลยนะ” พึ่งรับสาย ก็ได้ยินเสียงคุณตาของเธอพูดด้วยความโมโห
หลังจากที่วางสายไป เย่ชิงหยู่เริ่มไม่สบายใจขึ้นมา คนที่ให้ลู่หย่องถิงมาสู่ขอเธอก็คือคุณตาของเธอ เรื่องราวกลายเป็นแบบนี้ คุณตาไม่โมโหก็แปลกแล้ว
เธอมองฟางเหยียน ท่าทางของฟางเหยียนดูราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่รู้ทำไม ฟางเหยียนกลับมาในครั้งนี้ ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดูเหมือนกับว่าเรื่องทุกอย่างล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขา
เธอขมวดคิ้ว พูดกับฟางเหยียน: “อีกสักพักคุณตาอาจจะพูดโจมตีบ้าง คุณอย่าพูดจามั่วซั่ว เข้าใจไหม?”
ฟางเหยียนพยักหน้าเบา ๆ พลางกล่าว: “ได้!”
ในขณะที่นั่งรถมาจนถึงบ้านตระกูลจาง เย่ชิงหยู่ไม่สบายใจมาตลอดทาง
เมื่อมาถึงประตูบ้าน เธอก็กำชับฟางเหยียนอีกครั้งถึงเดินเข้าบ้าน
ในห้องประชุมของตระกูลจางบรรยากาศเคร่งเครียดมาก จางฉี่เหานั่งอยู่บนตำแหน่งที่สูงที่สุด อารมณ์โกรธเคืองบนใบหน้าปรากฏออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
ในห้องประชุมล้วนเป็นคนบ้านตระกูลจาง มีลุงใหญ่ของเย่ชิงหยู่จางซื่อตง ลุงรองจางซื่อข่าย นอกนั้นก็เป็นลูกหลานของแต่ละบ้าน
จางซื่อข่ายมีบุตรสองคน คนหนึ่งทำงานที่ต่างเมือง คนหนึ่งไปเรียนที่เมืองนอก
มีเพียงแค่ลูกชายของจางซื่อตงอยู่ข้าง ๆ ลูกสาวอีกสองคนนั้น ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ
“เย่ชิงหยู่ ในที่สุดเธอก็กลับมาจนได้” พอเห็นเย่ชิงหยู่ ลุงใหญ่จางซื่อตงลุกขึ้นยืนทันทีทันใด
เมื่อเขาเห็นฟางเหยียน เขาก็พูดขึ้นด้วยความโมโห: “เธอยังมีหน้าพาคนไร้ประโยชน์นี่กลับมาบ้านอีก”