จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 78
บทที่ 78 ให้เขามอบบริษัทให้ฉัน
เขาไม่รีรออยู่ต่อ ปล่อยแขนของเด็กผู้หญิง เขาโน้มหน้าเข้าไปหาหัวหน้าเจียงและพูดว่า “ขอบใจ”
คำพูดของฟางเหยียนทำให้หัวหน้าเจียงขนลุก เขากำลังขอบคุณตัวเองอย่างนั้นเหรอ
เขารีบพูดขึ้นว่า “ไม่สิ คุณผู้ชาย จากความสามารถของคุณสามารถช่วยผู้ชายคนนี้ได้อยู่แล้ว ทำไมคุณไม่ช่วยเขาเองล่ะครับ”
ฟางเหยียนมองหมอเจียงอย่างประเมิน จากนั้นจึงพูดว่า “บนโลกมีเหตุและผล ถ้าฉันช่วยคนที่ช่วยได้ไปซะหมด งั้นหมอจะทำอะไรล่ะ ฉันเคารพทุกสายอาชีพ ฉันเชื่อว่านายเป็นหมอที่ดีคนหนึ่ง”
เขาพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นจึงพูดว่า “แน่นอนครับ ผมเป็นหมอที่ดีมาตลอด”
ฟางเหยียนยิ้มๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วเดินไปหาเย่ชิงหยู่
เมื่อเห็นฟางเหยียนเดินเข้ามา เย่ชิงหยู่จึงถามขึ้น “ฟางเหยียน นายตบหมอคนนั้นเหรอ”
เย่ชิงหยู่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ การที่เธอไม่เดินเข้าไป เพราะคิดว่าหมอคนนั้นควรโดนสั่งสอน
“ใช่” ฟางเหยียนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด
เย่ชิงหยู่มองหัวหน้าเจียง แล้วถามขึ้น “นายสนิทกับหัวหน้าอะไรนั่นเหรอ”
ฟางเหยียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “สนิทมั้ง เคยเจอกันครั้งหนึ่งน่ะ”
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนอย่างไม่เชื่อ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง แค่เจอกันครั้งเดียว ทำไมเขาถึงกลัวนายขนาดนั้น ระหว่างนายกับเขาต้องมีความลับที่ไม่สามารถบอกได้อย่างแน่นอน”
ฟางเหยียนยักไหล่ เขาไม่อธิบายอะไรอีก ถ้าพูดมากเย่ชิงหยู่ก็จะยิ่งสงสัย
เมื่อเห็นฟางเหยียนไม่พูดอะไร เธอจึงไม่ถามอะไรต่อ เธอคิดไม่ออกว่าทำไมฟางเหยียนถึงรู้จักคนเยอะแยะ พูดไม่กี่คำก็ทำให้คนเปลี่ยนท่าทีไปได้ นับวันฟางเหยียนก็ยิ่งลึกลับขึ้นเรื่อยๆ จนเย่ชิงหยู่จับทางอะไรไม่ได้เลย
แต่ว่าเธอก็ขี้เกียจคิดแล้ว เพราะฟางเหยียนไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก
การผ่าตัดของจางเจียวเจียวผ่านไปด้วยดี หลังจากที่ผ่าตัด ต้องพักฟื้นร่างกายประมาณครึ่งเดือนถึงจะหายดี
คฤหาสน์ตระกูลเซียว
บนโต๊ะภายในลานบ้าน เด็กหนุ่มและคนแก่กำลังนั่งจิบชาอยู่ตรงกันข้าม
“เสี่ยวฉู่ ตระกูลฟางเข้ามาอาศัยในเมืองจินโจวของเรา เพราะตระกูลของนายมาที่นี่ เขาเลยมาด้วยหรือเปล่า” เซียวเจิ้นเที่ยนจิบชาและถามขึ้น
เฉิงฉู่คือคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม เขาส่ายหน้าแล้วยิ้ม “คงไม่ใช่หรอกครับ ตระกูลฟางไม่เห็นใครอยู่ในสายตา พวกเขาอยู่ที่เจียงตูก็เหมือนทั้งประเทศหวา เขาอยู่ในอันดับต้นๆ จะเห็นตระกูลเฉิงอยู่ในสายตาได้ยังไงกันครับ”
เซียวเจิ้นเที่ยนพยักหน้าเหมือนคิดได้ “นายก็พูดถูก แต่ฉันมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจ ทำไมพวกเขาถึงมาที่เมืองจินโจวในตอนนี้”
ช่วงนี้ตระกูลเซียวเกิดเรื่องมากมาย เริ่มแรกก็ขาดทุน ต่อมาก็คนในบ้านก็มีเรื่อง หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาเรื่องความร่วมมือของหุ้นส่วน ตอนแรกมีแค่ตระกูลหลิวที่ยกเลิกสัญญา เมื่อวานตระกูลตู้ก็พังย่อยยับด้วยเหมือนกัน
เขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลตู้ เขาฟังที่ลูกน้องบอกมาว่าผู้นำตระกูลตายแล้ว ตระกูลพังย่อยยับ ไม่เพียงแค่นั้น คนในตระกูลตู้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในคืนนั้น ไม่เหลือใครอยู่ในเมืองจินโจวสักคน
ธุรกิจของพวกเขาก็ประกาศล้มละลายเมื่อคืนวาน
สิ่งที่แปลกไปกว่านั้น การหายไปของตระกูลนี้ ไม่มีข่าวอะไรออกมาเลย เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเงียบจนทำให้เซียวเจิ้นเที่ยนหวาดกลัว
ดังนั้นเขาจึงต้องสอบถามว่าทำไมจู่ๆ ตระกูลฟางถึงมาแบบกะทันหัน ตระกูลฟางเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลของเขาหรือเปล่า ถ้าเกิดมีอะไรเกี่ยวข้องกัน เขาต้องหาสาเหตุในเรื่องนี้ให้ได้ ถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ทำไมถึงต้องพุ่งเป้ามาที่ตระกูลเซียวขนาดนี้
ตอนนี้เซียวเจิ้นเที่ยน อยู่ในที่โล่งแจ้ง
เฉิงฉู่หัวเราะแล้วพูดว่า “อย่าคิดมากเลยคุณปู่เซียว ผมได้ยินมาว่า เพราะว่าคุณชายของตระกูลฟางอยู่ที่นี่ พวกเขาเลยสร้างฟางซื่อกรุ๊ป เพียงเพื่อจะให้คุณชายท่านนั้นกลับไป”
“หา?” เซียวเจิ้นเที่ยนรีบถามต่อ “งั้นหมายความว่า ที่เมืองจินโจวมีลูกชายของตระกูลฟางอยู่จริงๆ งั้นเหรอ”
เฉิงฉู่พูดว่า “ผมก็ได้ยินคนพูดมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องเล่าต่อกันมาหรือเปล่า แต่ถ้าไม่มีลมไหนเลยจะมีคลื่น ผมคิดว่าตระกูลฟางคงไม่ก่อตั้งธุรกิจโดยไม่มีเหตุผลอะไรหรอกครับ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เฉิงฉู่พูด ใจของเซียวเจิ้นเที่ยนก็ไม่เป็นสุข เขากลัวว่าเบื้องหลังที่กำลังพุ่งเป้ามาที่เขาจะเป็นตระกูลฟาง ถ้าไม่ใช่ตระกูลฟางก็ดีขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าเกิดเป็นตระกูลฟาง เขาคงไม่มีโอกาสจะหายใจ
“ดูท่าฉันจะต้องแวะไปเยี่ยมคุณชายของตระกูลฟางซะหน่อยแล้ว” เซียวเจิ้นเที่ยนพยักหน้าเหมือนคิดอะไรได้ ไม่ว่าคนที่กำลังพุ่งเป้ามาที่เขาจะเป็นใคร เขาจะต้องแวะไปหาคุณชายตระกูลฟางให้ได้
อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มีอะไรเคียดแค้นกับคุณชายตระกูลฟาง ตระกูลของเขาเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองจินโจว ที่ว่ากันว่ามังกรไม่สามารถเอาชนะงูที่คุ้นถิ่นได้ หลักการนี้ตระกูลฟางคงรู้ดี
จากนั้นเหมือนเขาคิดอะไรได้ จึงถามขึ้นว่า “เสี่ยวฉู่ นายสนิทกับลูกสาวของตระกูลเย่หรือเปล่า”
เฉิงฉู่อึ้งไป จากนั้นจึงตอบว่า “เป็นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยครับ เป็นคู่เต้นรำกันเมื่อก่อนน่ะครับ ปู่เซียวถามทำไมเหรอครับ”
เซียวเจิ้นเที่ยนหัวเราะ “ฉันแค่คิดว่าเธอเหมาะสมกับนายเท่านั้น”
คิ้วของเฉิงฉู่ขมวดน้อยๆ เขาพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “น่าเสียดายที่เธอแต่งงานแล้ว”
“ฉันรู้น่า วางใจเถอะเสี่ยวฉู่ ฉันส่งคนไปจัดการสามีของเธอแล้ว” เซียวเจิ้นเที่ยนยิ้มอย่างร้ายกาจ
เฉิงฉู่อึ้งไป “จัดการ?”
เซียวเจิ้นเที่ยนยิ้มร้ายกาจ “ใช่ ครั้งนี้มันหนีไม่รอดแน่”
เฉิงฉู่ไม่รู้ที่มาที่ไประหว่างพวกเขาทั้งสองคน แต่การที่สามารถกำจัดฟางเหยียนได้ ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา
ตึกว่านฉง
ฟางเหยียนถือหินสีแดงและสีเขียวอยู่ในมือ เขาดูพลางคิดถึงคำพูดของชายชรา
การรักษาอย่างหนักเป็นเรื่องไม่ดี ตอนนี้เขายังไม่หายจริงๆ เมื่อได้เจอกับขวังซือของตระกูลฟาง เขาฟื้นฟูขึ้นมาแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น การที่เขาจะฟื้นฟูขึ้นมาร้อยเปอร์เซ็นต์ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่าย
หรือว่าการที่เขาจะฟื้นฟูขึ้นมาร้อยเปอร์เซ็นต์ จะเกี่ยวข้องกับหินสองก้อนนี้
เขาใช้กำลังภายในทดสอบหิน แต่ไม่สามารถทำเหมือนหินจากแม่น้ำที่ซื้อมาจากต่งยู่ หินสองก้อนนี้อย่างมากก็แค่เป็นหินที่สีแตกต่างกัน เขาไม่เห็นความเร้นลับจากหินสองก้อนนี้เลย
ขณะนั้น ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา
“คุณชาย เซียวเจิ้นเที่ยนผู้นำตระกูลเซียวต้องการพบคุณค่ะ”
ฟางเหยียนหรี่ตาลง และยิ้มร้ายกาจออกมา ในที่สุดก็มาแล้วสินะ เขาพอจะเดาได้ว่าเซียวเจิ้นเที่ยนจะแวะมาหาเขา หลังจากที่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลฟางมาถึงเมืองจินโจว เซียวเจิ้นเที่ยนก็สูญเสียไปอย่างมาก
ถ้าไม่เป็นฝ่ายมาหาฟางซื่อกรุ๊ป มันก็ไม่ใช่สไตล์ของตระกูลเซียวน่ะสิ
“บอกเขาไปว่า ฉันต้องการถือหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในเทียนสงกรุ๊ป”
คนปลายสายอย่างหวังชิงชิงเงียบไป จากนั้นจึงพูดว่า “คุณชายหมายความว่าจะใช้เงินซื้อหุ้นของเขาหรืออะไรคะ”
“ให้เขามอบให้ฉัน!” ฟางเหยียนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
หวังชิงชิงอึ้งไป คุณชายมาบริษัทไม่ถึงสิบนาทีก็ออกไป ไม่แม้แต่จะเข้าประชุม ตอนนี้จะให้คนมอบหุ้นให้อีก แถมยังมอบหุ้นตั้งแปดสิบเปอร์เซ็นต์ นี่มันทำให้เธอคิดไม่ถึงจริงๆ
แต่ในเมืองเธอได้รับความเชื่อใจจากนายท่าน นายท่านให้ความสำคัญกับคุณชายท่านนี้มาก เธอจึงไม่กล้าถามอะไรมาก
ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “รับทราบค่ะคุณชาย”