จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 95
เขาก้าวฝีเท้าเดินเข้าในร้าน ร้านแห่งนี้ไม่ใหญ่นัก และไม่เป็นระเบียบสักเท่าไร ดูขึ้นมายังรกรุงรังพอสมควร แน่นอนว่าด้านในที่กองพะเนินล้วนเป็นข้าวของเบ็ดเตล็ด สำหรับของล้ำค่าของเขาล้วนอยู่บนชั้น
วันนี้ฟางเหยียนเข้ามาเพียงคนเดียว เทียนขุยถูกจัดให้ไปทำธุระอย่างอื่น
เขาวนอยู่ด้านในห้องรอบหนึ่ง แต่มองไม่เห็นก้อนหินหลากหลายสีสันแบบนี้ที่เขาอยากตามหา ล้วนเป็นเครื่องเคลือบลายครามที่ดูเหมือนให้ความรู้สึกมีอายุ ทว่ากลับไม่ใช่ของที่สูงค่าประเภทนั้น พูดได้เพียงว่าทั่วไป
“เถ้าแก่ เป็นยังไงบ้าง? คิดได้แล้วหรือยัง ฉันอยากได้สองล้าน ข้ามหมู่บ้านนี้ไป อาจจะไม่มีร้านนั้นแล้ว นี่ฉันขุดออกมาจากสุสานจักรพรรดิแท้ๆ เธอน่าจะเข้าใจ” เสียงของผู้ชายคนหนึ่งลอยออกมาจากเคาน์เตอร์ทางนั้น
ฟางเหยียนเดินเข้าไปยังเคาน์เตอร์ทางนั้น พอเข้ามา จึงมองเห็นสามคนรุมอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ส่วนคนที่ยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์คือสาวงามผมสั้นที่ดูละเอียดอ่อน สาวงามคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือต่งยู่
ในมือต่งยู่ถือแว่นขยายไว้ กำลังตรวจดูชามหยกใบหนึ่งในมือไม่หยุด บนชามหยกมีลายหงส์ตัวหนึ่ง ฝีมือการทำประณีตอย่างมาก ดูจากบนรูปร่างลักษณะของชาม น่าจะมีอายุพอสมควร ไม่เหมือนของปลอมที่ทำขึ้น
ต่งยู่วางแว่นขยายในมือลง และขัดเกลาอย่างจริงจังรอบหนึ่ง ผู้ชายที่ท่าทางลับๆ ล่อๆ คนนั้นเร่งมาอีกครั้ง “สรุปเธอจะรับหรือไม่รับกัน? บอกเธอแล้วนะ นี่คือชามหยกมังกรและหงส์มงคลของแท้ ของสมัยพระเจ้าเกาจงแห่งราชวงศ์ชิง เป็นอุปกรณ์ที่พระเจ้าเกาจงใช้กินข้าวมาตลอด ฉันจะบอกเธอให้นะ นี่คือของล้ำค่าที่แท้จริง ถ้าเธอเอาออกไปขาย อย่างน้อยคุ้มค่าสิบล้าน ถ้าไม่ใช่พวกเราเหล่านี้รีบใช้เงิน คงไม่ขายให้เธอถูกขนาดนั้น”
ต่งยู่รู้จักของเก่า โดยเฉพาะรู้ว่านี่คือวัตถุโบราณแท้จริงชิ้นหนึ่ง เพียงแต่เธอไม่ค่อยมั่นใจราคาสิ่งของชิ้นนี้ ว่าสรุปแล้วถึงขั้นไหน วันนี้บิดาของเธอออกไปข้างนอกแต่เช้า เวลานี้ เจอลูกค้าเข้า ทำให้เธอลำบากใจอยู่บ้าง
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าควรซื้อดีหรือไม่ ทันใดนั้นฟางเหยียนเดินเข้ามาแล้ว พูดจาแบบสุขุมเยือกเย็น “ของชิ้นนี้ไม่คุ้มค่าสองล้าน!”
คำพูดประโยคหนึ่ง ดึงดูดสายตาของทุกคนที่เคาน์เตอร์แล้ว ต่งยู่เงยหน้ามองเข้าไปฉับพลัน ชั่วขณะหนึ่งอดปิดปากไว้ไม่ได้ เธอไม่กล้าเชื่อเท่าไรว่าฉากที่อยู่ตรงหน้าคือความจริง
นั่นคือฟางเหยียนเหรอ?
เป็นฟางเหยียนที่ทำให้หลายวันมานี้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคนนั้น?
เธอยกมือขึ้นมาหยิกแก้มของตนเองสักหน่อย และขยี้เช็ดตา ถึงกล้ามั่นใจว่านี่ไม่ใช่กำลังฝันอยู่ เป็นฟางเหยียนจริงๆ
ทั้งสามคนและฟางเหยียนล้วนมึนงงกับการกระทำที่แปลกประหลาดนี้ของต่งยู่ คนที่ขายของโบราณถามว่า “เถ้าแก่ เธอไม่เป็นไรนะ?”
ต่งยู่รีบส่ายหน้าตอบ “ฉันไม่เป็นไร!”
พูดจบ ดวงตาของเธอเปล่งประกายออกมา มองทางฟางเหยียนพลันถามว่า “ฟาง ฟางเหยียน นายมาได้ยังไง? นายมาแล้วทำไมไม่โทรศัพท์หาฉันล่ะ?”
ระหว่างพูดจา เธอเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ มาถึงด้านหน้าของฟางเหยียนแล้ว บนหน้ายังมีความไม่ดีใจอยู่พอสมควร ความไม่ดีใจนิดหน่อยนี้ราวกับเป็นแฟนสาวที่ออดอ้อนแฟนหนุ่ม
และการกระทำนี้ทำให้ฟางเหยียนตะลึงเล็กน้อย เขากลืนน้ำลายลง ตอบว่า “ฉันมาหาคุณพ่อของเธอ มีธุระนิดหน่อย”
บนหน้าของต่งยู่เผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย เธอยังคิดว่าฟางเหยียนเข้ามาหาเธอเสียอีก
“นายมาหาพ่อฉันทำไมเหรอ?” ต่งยู่ถามขึ้น ว่ากันตามเหตุผลแล้ว เขากับบิดาของตนเองไม่รู้จักกัน
ไม่รอให้ฟางเหยียนตอบ คนขายของเก่าคนนั้นเอ่ยปากพูดแล้ว “นี่ เมื่อกี้นายบอกว่าชามใบนี้ของพวกเราไม่คุ้มค่าสองล้าน หมายความว่าอะไร?”
ชายคนนั้นมองฟางเหยียนด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์ หลังพินิจพิเคราะห์จากบนลงล่างรอบหนึ่ง ยิ้มหึๆ บอก “นายเข้าใจของของเก่าเหรอ?”
ฟางเหยียนไม่ใช่แค่ชายหนุ่มละอ่อนคนหนึ่งหรือไง มองท่าทางของต่งยู่ ทั้งสองน่าจะกำลังดูใจกัน นี่มาตกหลุมรักกันแล้วแกล้งวางท่ากับพวกเขา งั้นคงไม่สนุกขนาดนั้นหรอก
ฟางเหยียนกวาดสายตามองสามคนรอบหนึ่ง พยักหน้าบอก “เข้าใจนิดหน่อย พวกเรามาพูดถึงชามนี้กันก่อน ชามนี้คือชามหยกพลอยสีม่วงมังกรและหงส์มงคล และไม่ใช่ที่พระเจ้าเกาจงใช้มารับประทานอาหาร แต่เป็นหลังสมัยราชวงศ์ชิงเข้าแทนที่ราชวงศ์หมิง ได้รับของมาจากในพระราชวังของราชวงศ์หมิง นี่คือวัตถุสมัยราชวงศ์หมิง!”
คำพูดนี้ออกมา สามคนตะลึงก่อน จากนั้นยิ่งหน้าตาดูตื่นเต้น วัตถุสมัยราชวงศ์หมิง นี่ยังเก่าแก่กว่าสมัยราชวงศ์อีกนะ ราคาคุ้มค่าแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสิ่งของด้านในพระราชวังด้วย
คำพูดต่อมาของฟางเหยียนกลับทำให้สามคนหน้าอึมครึมลงเลย “แต่ว่าชามใบนี้ ไม่คุ้มราคาสองล้านจริงๆ”
“นายล้อเล่นอะไร? ของแท้ราคาถูก แถมยังเป็นของราชวงศ์หมิง ไม่คุ้มราคาสองล้านได้ยังไง? ฉันว่านายไม่เข้าใจของโบราณ” คนนั้นรู้สึกสติปัญญาของตนเองได้รับการเหยียบย่ำ ชี้หน้าฟางเหยียนแล้วตะโกนอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ฟางเหยียนยิ้มตอบ “นายอย่าใจร้อนสิ ฉันยังพูดไม่ทันจบ เดิมทีชามนี้มีเป็นคู่ คือมังกรและหงส์ ที่เรียกมังกรและหงส์มงคล อย่างนั้นจำเป็นต้องมีทั้งมังกรและหงส์ คนโบราณใส่ใจความสมดุล ไม่ว่าอะไรต้องทำมาสมดุล มีมังกรจะยืนยาวเป็นพันๆ หมื่นๆ ปี อยู่ยงคงกระพัน มีหงส์ก็เป็นหงส์ที่แท้จริงบินอยู่บนฟ้า บำรุงผืนโลก สองฝ่ายเหมือนเป็นหยินหยาง ต้องมีทั้งหยินและหยางมารักษาสมดุล ถ้ามีเพียงอย่างเดียว เมื่อพิจารณาดูวัตถุนั้นพัฒนาไปถึงที่สุดจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หยินชนะหยาง พอเป็นแบบนี้ สำหรับคนนับไม่มีประโยชน์อย่างมาก ตอนนี้นายมีเพียงหงส์ตัวเดียว ไม่มีมังกรมาเข้าคู่กัน จะเป็นวัตถุที่พัฒนาไปถึงที่สุดจะเกิดการเปลี่ยนแปลง นี่นายไม่ใช่ว่าอยากทำลายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเหรอ?”
พึ่งพูดจบ แก้มของผู้ชายคนนั้นกระตุก เขาชี้หน้าด่าฟางเหยียนอย่างโมโห “เด็กนอกคอกที่ไหน ไม่รู้ยังแกล้งรู้ ทำเป็นพูดแบบท่าทางดูมีเหตุผลมากมาย ฉันว่านายอยากขู่พวกฉันชัดๆ”
“นี่!” ต่งยู่ยืนมาด้านหน้า ขวางตรงหน้าของฟางเหยียนไว้พูดว่า “นายพูดมั่วอะไร? ของนี้ของนายฉันไม่เอาแล้ว นายอยากเอามาทำลายฉัน เอาของพวกนายคืนไป รีบออกไปซะ!”
ต่งยู่เคยเจอความเก่งกาจของฟางเหยียน ที่เขารู้ต้องมากกว่าตนเองมากแน่ จุดนี้ต่งยู่เชื่อมั่นมาก
“ไม่เอา เธอเอาไปลูบตั้งนานขนาดนั้นแล้ว บอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ของชิ้นนี้ เธอไม่เอาก็ต้องเอา” สีหน้าผู้ชายคนนั้นแดงขึ้นมา พอมองก็รู้ว่าโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
ต่งยู่หัวเราะเยาะบอก “ฉันไม่เคยเจอคนแบบนายเลย ฉันไม่ซื้อของของนาย ยังมาบีบบังคับขายให้ฉันอีกเหรอ?”
“งั้นวันนี้เธอไม่ใช่ว่าเจอแล้วเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้ ของชิ้นนี้เธอไม่ซื้อก็ต้องซื้อ ขายก็ต้องซื้อ” ผู้ชายคนนั้นถกแขนเสื้อขึ้น ลักษณะอยากมีเรื่อง
ฟางเหยียนกุมหมัดแน่นแล้ว เขาไม่อยากสั่งสอนชายหนุ่มที่น่าสงสารสองสามคนนี้เลยจริงๆ เพราะปล้นสุสานมานานปี พลังหยางของพวกเขาอ่อนแอมากแล้ว หรือพูดอีกอย่างคือคนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่ใกล้ตายกันแล้ว
“จะทำอะไร?” ทันใดนั้น ด้านนอกมีเสียงที่ดุร้ายดุจฟ้าผ่าดังขึ้นมา
เห็นเพียงผู้ชายวัยกลางคนที่หน้าเหลี่ยมดวงตาสามเหลี่ยมคนหนึ่งเดินเข้ามา บนตัวชายวัยกลางคนมีท่าทีของปีศาจที่โหดร้าย นี่ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป คงผ่านประสบการณ์เรื่องราวต่างๆ ทางด้านสังคมมาอย่างโชกโชนเป็นแน่ แน่นอน ประสบการณ์ทางสังคมประเภทนี้ของเขาเป็นสองชุดความคิดกันกับหม่าซวี่ซงโดยสิ้นเชิง
“พวกแกจะทำอะไร? อยากก่อเรื่องในร้านของฉันงั้นเหรอ?” ชายวัยกลางคนตวาดใส่ ใบหน้าระเบิดความโกรธสยองขวัญที่สุด
เพียงแค่ลักษณะพลังส่วนนี้ ก็กดทับสามคนไว้โดยสมบูรณ์แล้ว