จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 455 กู่เฟิง ตาย
กู่เฟิงคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป เขาส่งสายตาให้เห้ออีกาง เห้ออีกางมองหยิวอู่แล้วกล่าว “แกว่าอะไรนะ?”
หยิวอู่ได้พูดซ้ำคำพูดที่เพิ่งพูดเมื่อกี๊อีกครั้ง “การ์ดที่อยู่ด้านนอก ถูกมันฆ่าตายหมดแล้ว!ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นนี้”
ตอนที่พูดประโยคนี้ ในหัวของหยิวอู่ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อกี๊ไม่หยุด น่ากลัวมาก เหนือจริงมาก นั่นไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทำได้ เขาเหมือนลมที่พัดเข้าไปในหมู่คน ฟิ่วๆๆไม่กี่ครั้ง ก็ฆ่าคนเป็นร้อยเป็นพันคนได้ ทุกคนล้วนถูกปาดคอ ตายคาที่ทันที เป็นฉากที่โอเว่อร์มาก ทำให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ
หยิวอู่ก็ไม่เคยเห็นการต่อสู้อันน่ากลัวขนาดนั้นมาก่อนในชีวิต การกระทำของคนนี้ เปลี่ยนทัศนคติของเขาใหม่ ในสายตาของเขาชีวิตคน ราวกับมด ถ้าเขาอยากจะฆ่าใครสักคน ง่ายเหมือนหายใจ
เห้ออีกางหน้าถอดสี เขารีบส่ายหน้าแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน นอกประตูมีการ์ดสามพันกว่าคน จะตายทั้งหมดได้อย่างไรกัน!ฉันอยู่ด้านใน ใกล้ขนาดนั้น แม้แต่เสียงต่อสู้ยังไม่ได้ยินเลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเห้ออีกาง จู่ๆกู่เฟิงก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง เขามองสายตาคู่นั้นของฟางเหยียนค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ บางทีเห้ออีกางยากที่จะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ แต่ตัวเองเชื่อ ยอดฝีมือระดับต้าชี่สามารถฆ่าคนโดยไร้เสียงได้ คนที่อยู่ตรงหน้านี้ จะต้องเป็นยอดฝีมือระดับต้าชี่ ในแววตาอันเย่อหยิ่งของเขาสามารถเห็นได้ถึงความแข็งแกร่งของเขา
เมื่อนึกถึงจุดนี้ กู่เฟิงเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยกมือขึ้นกำหมัดแล้วกล่าว “ผู้อาวุโสผู้นี้ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เป็นการเข้าใจผิดกันล้วนๆ!อาจารย์ของผมชื่อกู่ซู๋ หวังว่าคุณจะให้เกียรติผม ไว้ชีวิตของลูกพี่เห้อด้วยเถิด!”
ถ้าต่อสู้กันจริงๆ กู่เฟิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อกรของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ เพราะเค้าคือยอดฝีมือระดับต้าชี่ มีเพียงการอ้างถึงอาจารย์ของตัวเองออกมา บางทีอาจมีโอกาสรอดชีวิตบ้าง อาจารย์ของตนก็เป็นระดับต้าชี่ที่ชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่ว คนนี้จะต้องรู้จักแน่นอน
ฟางเหยียนมองกู่เฟิง ดูแคลนเหอะๆออกมา กล่าวอย่างพึมพำกับตัวเองว่า “ให้เกียรติ!”
กู่เฟิงพยักหน้าแล้วกล่าว “ครับ อาจารย์ของผมคือกู่ซู๋!หวังว่าผู้อาวุโสจะเห็นแก่…”
ฟางเหยียนขัดจังหวะคำพูดของกู่เฟิงอย่างยืนหยัดและเด็ดขาด แล้วกล่าว “พวกแกรบกวนเมียของฉัน แล้วยังจะให้ฉันให้เกียรติอีกเหรอ!นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ!” พูดจบ จู่ๆในมือของฟางเหยียนก็มีเข็มอันหนึ่งลอยออกมา ได้ยินเสียงจึกดังขึ้น จากนั้นก็เห็นหัวของกู่เฟิงมีรูเกิดขึ้น วินาทีถัดมา ร่างของกู่เฟิงค่อยๆล้มลงกับพื้น
จนกระทั่งเสียชีวิตกู่เฟิงไม่คาดคิด ว่าตนเองจะพบกับจุดจบแบบนี้ เดิมคิดว่าอย่างน้อยตัวเองต้องตายในสนามรบ แต่ไม่คาดคิด ว่าแม้แต่โอกาสที่จะต่อกรยังไม่มีเลย ก็ต้องตายแล้ว!
เขาไม่พอใจมากที่ตัวเองพบจุดจบแบบนี้ อย่างน้อยตัวเองก็ถือได้ว่าเป็นนักรบคนหนึ่ง!แต่นักรบตายในสนามรบ ไม่มีทางถูกบีบ ถูกปลิดชีพอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับถูกปลิดชีพอย่างเร็ว แล้วยังปลิดชีพอย่างง่ายดาย
จนกระทั่งถึงตอนที่ล้มลงไป เขายังไม่อยากเชื่อความจริงว่าตัวเองได้ถูกปลิดชีพอย่างรวดเร็วแล้ว!มันชั่งยากที่จะรับได้
นี่เป็นจิตใต้สำนึกสุดท้ายที่อยู่ในหัวของกู่เฟิง จากนั้น ช้าๆ ช้าๆ ความรู้สึกตัวของเขาก็ค่อยๆหายไป แล้วจากนั้น เขาก็ตาย ไหลลงไปกับพื้นโดยสิ้นเชิง เลือดไหลออกเป็นทาง
“อ้า!” เห้ออีกางเห็นกู่เฟิงที่หมดสัญญาณชีพจรไป ก็อดกลั้นที่จะส่งเสียงดังออกมาไม่ได้
กู่เฟิงเป็นขุนพลที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาลูกน้องเขา ไม่คาดคิดว่าจะพบกับจุดจบแบบนี้ ตายแล้ว นึกไม่ถึงว่ากู่เฟิงจะตายจริงๆ เขาเคยเห็นกู่เฟิงออกโรงกับตาตัวเอง เป็นยอดฝีมือที่ต่อสู้หนึ่งต่อพันคน ก่อนหน้าที่จะรู้จักกู่เฟิง เห้ออีกางไม่เคยเห็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่ายังมีนินจาอีกด้วย
หลังจากนั้น เขายังผยอง เพียงแค่มีกู่เฟิงอยู่ข้างกาย ต่อไปเขาทำอะไรก็เดินราบรื่น แต่ไม่คาดคิดว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนี้กู่เฟิงจะเปราะบางได้ถึงเพียงนี้!เดิมคิดว่าสองคนนี้จะต้องต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ใครจะไปคิดว่าจะไม่มีทางได้ตอบโต้อะไรได้เลย
“แก แกๆๆ!” เห้ออีกางยืนขึ้นอย่างผิดหวัง ปากสั่น เหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น เขามองศพของกู่เฟิงอย่างระมัดระวัง ที่หัวมีรูเกิดขึ้นมา ตายแล้ว ตายแล้วจริงๆ
เขาทนไม่ได้จึงได้ถอยหลังไปสองก้าว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้หนังเสือ!
ฟางเหยียนเห็นดังนี้ เดินไปที่เห้ออีกางทีล่ะก้าวทีล่ะก้าว ทุกๆย่างก้าวของเขา ราวกับกำลังเหยียบย่ำหัวใจของเห้ออีกาง!
เห้ออีกางมองฟางเหยียนอย่างหวาดกลัว นี่หมายถึงอะไร หมายถึงทุกๆคนเมื่ออยู่ต่อหน้าของฟางเหยียนก็เป็นแค่มด เป็นแค่เด็กสามปี แม้แต่โอกาสที่จะตอบโต้ยังไม่มีก็ต้องตายแล้ว
หรือเมื่อกี๊ที่กู่เฟิงพูดว่านี่เป็นการเข้าใจผิด เขายังงงๆว่าทำไมกู่เฟิงต้องแสดงท่าทางแบบนั้นด้วย ที่แท้ ที่แท้ก็เป็นคนที่มีฝีมือนี่เอง เห้ออีกางเป็นคนที่เผชิญโลกภายนอกมา เขาก็เคยเห็นคนเดียวสังหารคนเป็นพัน แต่พวกคนที่ถูกฆ่าล้วนส่งเสียงออกมา อย่างการที่ถูกฆ่าโดยไร้เสียงใดๆแบบนี้ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็น
ไม่สิ ไม่มีทางที่คนเดียวจะฆ่าคนเป็นพัน แล้วไม่มีเสียงตะโกนใดๆออกมาได้
เห้ออีกางหันไปมองหยิวอู่แล้วถาม “มันพาคนมากี่คน?ตอนนี้ด้านนอกเต็มไปด้วยคนของมันหมดแล้วหรือเปล่า?”
หยิวอู่ชะงักไปหลายวินาที ส่ายหน้าแล้วกล่าว “เปล่า แค่มันคนเดียว!”
“คนเดียว ฆ่าพรรคพวกมากมายของฉัน?” เสียงของเห้ออีกางสั่นขึ้นมา
หยิวอู่พยักหน้าอืมแล้วกล่าว “ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง ผมก็ไม่เชื่อ แต่ฟิ่วแว็บเดียว ทุกคนก็ตายแล้ว!”
ขณะนี้ ฟางเหยียนได้เดินมาถึงระยะห่างที่ห่างจากเห้ออีกางประมาณสามเมตรแล้ว เห้ออีกางรีบห่อไหล่ แล้วพูดกลับฟางเหยียนอย่างหวาดกลัวสุดๆว่า “แกๆๆ แกจะทำอะไร?แกจะทำอะไรฉันไม่ได้นะ!”
ฟางเหยียนจ้องเห้ออีกาง ถามอย่างดูแคลนว่า “ทำไม่ได้?เหตุผลล่ะ?”
เห้ออีกางสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “เพราะ เพราะ เพราะฉันคือคนของแก๊งซินหง ถ้าแกแตะต้องฉัน แกอีกทั้งครอบครัวของแกจะถูกแก๊งซินหงทั้งหมดไล่ฆ่า ไม่ว่าจะไกลสุดหล้าฟ้าเขียว แกก็จะไปไหนไม่พ้น!อำนาจของแก๊งซินหง แกน่าจะรู้ดีนะ พวกเขามีปัญญาที่จะให้แกหมดทางหนี!”
ฟางเหยียนแสยะยิ้มออกมา แล้วถาม “แกกำลังข่มขู่ฉันอีกทั้งครอบครัวของฉัน?”
เห้ออีกางกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ แล้วตอบกลับอย่างไม่อ่อนข้อให้ว่า “แกลองทำฉันดูก็ได้นะ ถ้าคนของแก๊งซินหงติดต่อฉันไม่ได้ ดูว่าแกจะได้รับการตอบแทนยังไงบ้าง ต่อให้พวกเขาทำอะไรแกไม่ได้ แต่แกกล้ารับประกันความปลอดภัยของญาติทุกคนของแกมั้ยล่ะ?ถึงตอนนั้น ญาติของแกจะต้องแลกมาซึ่งความสาหัสสากรรจ์”
“เหรอ?ต้องแลกกับอะไรเหรอ?” ฟางเหยียนถามอย่างยกตนข่มท่านต่อ
ขณะนี้ จู่ๆเห้ออีกางนิ่งสงบลง เขาค่อยๆเอามือเข้าไปในกระเป๋าของชุด จากนั้นก็หยิบปืนจ่อไปที่หัวของฟางเหยียนแล้วกล่าว “สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือฉันจะยิงหัวแกให้ทะลุไงล่ะ