จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 464 ฆ่าคน ราวกับกินข้าว
สายตาของอู๋หมิงหรี่ลงอีกครั้ง ค่อยๆหรี่เป็นตะเข็บ จากนั้นเขายกมือขึ้น เอามือส่งสัญญาณชี้ไปข้างหน้า แล้วพูดกับสาวสวยหน้าเย็นชาที่นั่งอยู่ข้างเขาหลายคนนั้น “ฆ่ามัน!”
พูดจบ เขายืนขึ้นจากเก้าอี้จักรพรรดิ จากนั้นเดินไปข้างหน้าของเกราะทอง ข้างๆเกราะทองมีโครงเหล็กที่ใหญ่มากอันหนึ่ง บนโครงเหล็กมีอาวุธที่มีแสงทองวิบวับอันหนึ่งวางอยู่ นั่นเป็นหอกทอง สายตาของอู๋หมิงจ้องไปที่ชุดเกราะเหลืองทอง จากนั้นยกมือขึ้นแล้วเอาไปวางไว้บนหอกทอง
นั่นเป็นหอกทองสมัยโบราณ คล้ายปืนในสมัยนี้ที่ยิงกระสุนออกมา
แว็บนั้นที่ลูบหอกทอง อู๋หมิงรู้สึกว่าตนได้ยกระดับขึ้น ด้วยตัวหอกทองเองมันมีพลังของการทำสงครามอยู่ ราวกับเพียงแค่ลูบมัน มันก็สามารถทำให้คนเกิดความกระหายในการสู้รบอย่างที่สุด อู๋หมิงในตอนนี้เกิดความกระหายสงครามขึ้นมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาอยากฆ่าคนมาก อยากต่อสู้มาก!เลือดของเขาเริ่มร้อน แล้วค่อยๆปะทุขึ้นมา ความรู้สึกแบบนี้มันผ่อนคลายมาก สบายมาก และทำให้อู๋หมิงเพลิดเพลินมาก!
“แกร๊ง!” อู๋หมิงยกมือขึ้นไปคว้าหอกทองลงมาจากโครงเหล็ก หอกทองจากบนลงล่าง…………………. แค่ดูก็รู้ว่านี่เป็นหอกสงครามที่ราคาแพงอันหนึ่ง ตัวปืนใช้ทองในการผลิต ตอนที่หยิบขึ้นมามีเสียงวิ้งๆๆดังขึ้น เป็นเสียงที่ดังมาจากตัวดาบและด้ามดาบ มีเพียงของมีคมที่จะมีเสียงนี้
อู๋หมิงมองหอกทอง ตัวดาบของหอกทองบนยอดแหลมคม ถ้าแทงไปที่คน คนนั้นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวดาบใช้ทองในการผลิต เมื่อแทงเข้าไปที่ตัวคน เบาหน่อยก็พิการ สูญเสียอวัยวะภายใน หนักก็ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวงฉีกขาด ตาย
อาวุธอันนี้ดูยังไงก็ไม่แย่ไปกว่าง้าวของตระกูลหม่า ดูๆแล้วล้วนเหมือนกับอาวุธที่นายพลเคยใช้มาก่อน
อู๋หมิงลูบคลำหอกทองในมืออย่างตื่นเต้น ในใจมีความกระหายสงครามปะทุขึ้นมา
หลังจากที่ผู้หญิงสี่คนนั้นได้รับคำสั่งของอู๋หมิง ก็พุ่งเข้าไปหาฟางเหยียน พวกเธอเคลื่อนไหวเร็วมาก แล้วยังทรงพลังเป็นอย่างมาก สองคนลอยสูงในอากาศ อีกสองคนหมอบลง เข้ามาโจมตีส่วนล่างของฟางเหยียน
ทั้งสี่คนเหมือนใจตรงกัน เข้ามาฆ่าฟางเหยียนอย่างควบคู่กันไป
ฟางเหยียนเห็นการโจมตีของทั้งสี่คน นิ่งสงบ พูดไม่ออก ดูท่าทางแล้วไม่ขยับ นี่คือมั่นใจมาก หรือไม่ได้สนใจผู้หญิงพวกนี้เลย?ร่างกายของทั้งสี่ใกล้จะมาถึงฟางเหยียนแล้ว พวกเธออดกลั้นไว้เพื่อที่จะฆ่าฟางเหยียนในแว็บเดียว ในมือปรากฏเป็นวิชาถนัดของตนเอง มีดสั้น
พวกเธอถือมีดสั้นแทงเข้าไปที่ฟางเหยียนอย่างรุนแรง ฟางเหยียนยังคงไม่ขยับ ความโอหังของเขาเหนือความคาดหมายของพวกเธอ คนนี้ มันจะต้องชดใช้กับความโอหังของมัน ทำสองสิ่งไปพร้อมๆกัน ต่อให้แกเคลื่อนไหวเร็ว ก็ต้องบาดเจ็บ ไม่ใช่ท่อนบนบาดเจ็บ ก็ต้องเป็นท่อนล่างที่บาดเจ็บ
แต่ ในตอนที่ทั้งสี่คนใกล้จะแทงเข้าไปที่ฟางเหยียน กลับพบว่าไม่ว่ายังไงก็ไปข้างหน้าไม่ได้ เหมือนกับถูกอะไรขัดขวางไว้ ด้านหน้าของฟางเหยียน มีกำแพงชี่ขวางไว้ นั่นเป็นกำแพงชี่ที่กำลังภายในปล่อยออกมา ขวางไว้หน้าด้านของทั้งสี่คน และขวางการโจมตีของทั้งสี่คนเต็มๆ
ทั้งสี่ถูกกำแพงชี่ขวางไว้ ทุกๆการกระทำหยุดลงทันใด เดิมทีพวกเธอคิดว่าคนนี้ต้องตายแน่แล้ว ไม่คาดคิดว่าเขาจะสามารถปล่อยกำแพงชี่แบบนี้ออกมาได้
สีหน้าของพวกผู้หญิงดูแย่ลงสุดๆ แววตาก็ลุกโตขึ้นอย่างอดไว้ไม่อยู่ นึกไม่ถึงว่าคนนี้จะสามารถปล่อยกำลังภายในได้ถึงขั้นนี้ ที่สามารถขัดขวางการโจมตีของพวกเธอได้!
พวกเธอคิดจะเก็บการโจมตีกลับไปโดยเร็ว เปลี่ยนแผนการต่อกรเขา แต่ตอนที่พวกเธอจะเอากลับมา เพิ่งพบว่าพลังนั้นได้ดูดคนไว้แล้วเช่นกัน พวกเธอเก็บกลับไปไม่ได้
นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?ทำไมถึงมีคนที่สามารถดูดร่างของคนไว้ได้ด้วย นี่มันเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
อู๋หมิงเห็นดังนั้น จึงรีบตะโกนใส่สี่คน “ทิ้งมีด แล้วกลับมา!”
สี่คนได้ยิน จึงรีบทิ้งมีดที่อยู่ในมือลง แต่ก็กลับไปไม่ได้ สิ่งที่กำลังภายในดูดไว้ไม่ใช่แค่อาวุธของพวกเธอ แม้แต่ร่างกายของพวกเธอก็ถูกกำลังภายในนี้ดูดเข้าให้แล้วเช่นกัน
ฟางเหยียนมองอู๋หมิงอย่างเย็นชา ยิ้มแล้วกล่าว “กลับไป?แกคิดว่าพวกเธอยังมีโอกาสได้กลับไปอีกมั้ย?ฉันเคยพูดไว้ว่าจะสังหารทุกคนของสำนักไร้หน้า หรือแกคิดว่าฉันล้อเล่นกับแกจริงๆงั้นเหรอ?”
“ไอ้สารเลว!” อู๋หมิงคำรามออกมา จากนั้นก็ยกหอกทองที่อยู่ในมือตัวเองขึ้น ใช้ใบมีดทิ่มไปที่พื้น พื้นที่ๆถูกทิ่มเกิดเป็นรูขึ้นมา ทันใดนั้น รู้สึกว่าพื้นดินสั่นสะเทือน แม้แต่เสามังกรทองสองเสาที่อยู่ในตำหนักอู๋หมิงก็ยังเขย่าไปมา จากนั้นพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาจากร่างกายของเขาไปที่หอกทอง จู่ๆใบมีดของหอกทองหมุน พื้นดินหมุนเป็นเกรียว ราวกับมังกรทองตัวหนึ่งพุ่งไปที่ฟางเหยียน
พลังนี้โจมตีไปที่กำแพงชี่ของฟางเหยียนพอดี ได้ยินเสียงระเบิดดังปั้งขึ้น ร่างกายของฟางเหยียนลอยไป เขาถูกพลังชนให้ลอยไป กำลังภายในของเขาหายไป หญิงสาวสี่คนก็ปลดพันธนาการ
หลังจากที่ฟางเหยียนตั้งหลักได้แล้ว มองไปยังอู๋หมิงที่ถือหอกทอง อู๋หมิงถือหอกทองด้วยมือเดียว แสดงท่ายืนของผู้พิชิต แล้วถามอย่างทรงพลานุภาพว่า “แกฆ่าผู้อาวุโสอู๋เมี่ยน?”
นั่นไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการบีบคั้น ดวงตาแดงก่ำ เกรี้ยวกราด!เขาเห็นความเลวทรามจากเทคนิคของฟางเหยียน ฆ่าคนตัดหัว แล้วยังโจมตีนัดเดียวก็ทำให้คนตายได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทำได้
ที่ตัดสินว่าเขาเป็นคนที่ฆ่าอู๋เมี่ยนหรือเปล่านั้น ก็ตัดสินจากเทคนิคของเขาล้วนๆ อู๋เมี่ยนคือยอดฝีมือระดับต้าชี่ แต่สามารถฆ่าได้อย่างไม่มีที่ติ ในประเทศหวามีน้อยมาก และคนที่อยู่ตรงหน้าก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น
ถ้าไม่เห็นการโจมตีของเขา เขาก็ไม่มีทางเดาว่าคนนี้ก็คือฆาตกรที่ฆ่าอู๋เมี่ยน แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้ว เขาจึงพอจะเดาเรื่องนี้ได้บ้าง เพราะเขาเห็นศพของอู๋เมี่ยนแล้ว เป็นการตัดหัวที่ใช้เวลาเพียงชั่วครู่
การที่จะลงมือได้เร็วขนาดนั้น แล้วอู๋เมี่ยนไม่รู้ตัวใดๆเลยแม้แต่น้อย คนที่อยู่ตรงหน้าน่าจะทำมันได้อยู่
ฟางเหยียนยิ้ม เขาไม่สนใจว่าอู๋หมิงจะเดาว่าอะไร จึงได้กล่าวอย่างนิ่งสงบว่า “ใช่!”
ฆ่าคน สำหรับฟางเหยียนแล้ว เป็นเรื่องปกติมาตั้งนานแล้ว ฆ่าอู๋เมี่ยนสักคนแล้วไง จากนี้ไป สิ่งที่จะทำลายก็คือทั้งสำนักไร้หน้า อู่เมี่ยนเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
“ไม่ใช่แค่อู๋เมี่ยน แม้แต่พวกแก ก็ต้องตาย!” ฟางเหยียนส่งน้ำเสียงเย็นชาพูดต่อ
“ฮ่าๆๆ!”“ฮ่าๆๆๆๆๆ!” จู่ๆอู๋หมิงก็หัวเราะบ้าคลั่งออกมา เงยหน้ามองข้างบน ดูๆแล้วท่าทางสบายๆ หัวเราะสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ทำให้ในห้องโถงไม่สงบ!