จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 466 พวกแกเป็นคนฆ่าลุงเย่ของฉัน
คนที่พูดคือเห้ออีกาง เขาท่าทางคางคกขึ้นวอ กำลังมองลงมาจากปากของคุกใต้ดิน ใบหน้ายังเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เดิมทีแค่ยิ้มเท่านั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนนี้มันคิดอะไรอยู่ จู่ๆก็“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ!”หัวเราะขึ้นมา หลังจากหัวเราะบ้าคลั่งไปสักพัก เขาพูดกับฟางเหยียนว่า “ดูว่าแกจะตายมั้ย ดูว่าแกจะยังโอหังอีกมั้ย ฉันบอกตั้งนานแล้ว ว่าแกจะต้องตายอย่างน่าอนาถ ตอนนี้ เชื่อหรือยัง?”
“ถุย!” พูดพลาง เห้ออีกางถ่มน้ำลายใส่ฟางเหยียน จากนั้นก็หัวเราะบ้าคลั่งฮ่าๆๆ
ฟางเหยียนขี้เกียจจะสนใจไอ้สวะนี่ ไอ้สวะนี่ไม่คุ้มค่าที่จะให้เขามาสนใจ ถ้าจะฆ่าไอ้สวะตัวนี้ ก็แค่ขยับมือนิดหน่อยก็ได้แล้ว เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ หาโอกาสที่จะฝ่าฟันอยู่ เมื่อเงยหน้าก็ได้เห็นอู๋หมิงที่ยืนอยู่ที่ปากคุกใต้ดินพอดี
อู๋หมิงกำลังยืนอยู่ตรงกลางของเหล็กแผ่นแข็งสองเส้นพอดี เหมือนกับยืนอยู่บนหัวของตน เขาจงใจแสดงท่าทีสูงส่ง อยู่เหนือแกตลอดกาลออกมา
ในตอนที่ฟางเหยียนเตรียมจะพูดออกมา กำแพงทั้งสี่ข้างของคุกใต้ดินจู่ๆมีเสียงแคร้งดังขึ้น จากนั้นมีคนสี่คนออกโผล่จากทั้งสี่ด้าน สี่คนนี้นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน เก้าอี้หินนั้นเหมือนขยับได้เอง หลังจากที่ประตูหินของกำแพงเปิดออกแล้ว พวกเขาขยับออกมาเอง ทั้งสี่คนล้วนผมหงอก เครายาว ใส่เสื้อคลุมยาวเลยหัวเข่าสีขาว ดูท่าทางของพวกเขาแล้วให้อารมณ์ของนักพรต ถ้าตนเดาไม่ผิดล่ะก็ พวกเขาน่าจะเป็นผู้เฒ่าที่อายุมากกว่าร้อยปี แต่สิ่งที่แปลกคือ หลังจากที่พวกผู้เฒ่าเดินออกมาแล้ว ไม่ได้ลืมตา เพียงแต่หน้าตาเศร้าหมองซีดขาว
ฟางเหยียนไม่รู้ว่าพวกเขาหลับลึกไปนานเท่าไหร่แล้ว ยังไงท่าทางที่แปลกประหลาดนี้เมื่อดูแล้วทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
ในโลกของคนธรรมดา ฉากนี้จะปรากฏขึ้นมาแค่ในทีวีเท่านั้น
อู๋หมิงพูดกับฟางเหยียนที่อยู่ข้างล่างอย่างเย็นชาว่า “แกบอกว่าจะมาล้างบางสำนักไร้หน้าของเรา งั้นแกเคยได้ยินจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้ามั้ย?บางทีแกอาจจะเคยได้ยินผู้อาวุโสทั้งแปดของสำนักไร้หน้า แต่ต้องไม่เคยได้ยินจอมคาถาทั้งสี่สินะ?”
“ท่านทั้งสี่คนนี้เป็นจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้าของฉัน การบำเพ็ญของพวกเขาหลังจากที่รวมพลังกันทั้งสี่คนแล้วเป็นระดับปรมาจารย์ สามารถฆ่าแกเป็นผิวผงได้ ในชั่วพริบตา ต่อให้แกจะเก่งกาจ มีพลังที่แข็งแกร่ง ก็ต้องตาอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้แกต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ทำได้เพียงยืนอยู่ในกรงยอมรับความเป็นไป!”
จอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้าเป็นบุคคลสำคัญที่อารักขาสำนักไร้หน้า หน้าที่ของพวกเขา ก็เหมือนกับเป็นแนวป้องกันอันแข็งแกร่งของสำนักไร้หน้า เพียงแค่มีพวกเขาอยู่ ยอดฝีมือของโลกภายนอกก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานแล้ว แต่ประโยชน์ของท่านทั้งสี่นี้ก็เหมือนกับขวังซือสัตว์ผู้พิทักษ์ของตระกูลฟาง มีแต่ตอนที่สำนักไร้หน้าได้รับภัยอันตรายจริงๆจึงจะปรากฏตัวขึ้นมา
ฟางเหยียนไม่ได้มองผู้เฒ่าทั้งหลายที่อยู่รอบๆ เพียงแต่เงินหน้ามองอู๋หมิงที่อยู่ด้านบน เมื่อเงยหน้า เห็นแค่เท้าของอู๋หมิง แต่นี่ไม่สำคัญ ฟางเหยียนจะไม่มีทางโมโหแค่เพราะใครยืนอยู่ที่ด้านบนของเขา
เพราะคนพวกนี้ในสายตาของเขาไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นศพอยู่ดี ใครจะไปสนใจ เรื่องที่คนตายทำก่อนที่จะใกล้ตายกันเล่า
เขาพูดกับอู๋หมิงอย่างเลือดเย็นว่า “แกคิดว่ากรงใต้ดินนี้ขังฉันได้?”
อู๋หมิงดูแคลนออกมา แล้วกล่าวว่า “แกจะลองดูก็ได้นะ คนที่เคยขังไว้ในกรงใต้ดินของสำนักไร้หน้าของฉันล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นนำทั้งนั้น!พวกมันก็เคยพูดคำเดียวกับที่แกพูดนั่นแหละ แต่ ไม่เคยมีใครที่ออกมาจากกรงใต้ดินนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว”
ฟางเหยียนกำหมัดแน่น รวมชี่ในร่างกายไว้ในมือ เขาต่อยไปที่กรงใต้ดินอย่างรุนแรง ได้ยินเสียงปังดังขึ้น พลังถูกสะท้อนกลับมา กรงใต้ดินนี้มีผลในการสะท้อนกลับของชี่
กล่าวอีกนัยหนึ่ง กรงใต้ดินนี้สามารถกดชี่ในร่างกายที่ระเบิดออกมาได้อย่างสิ้นเชิง ชี่ในร่างกายทำได้เพียงระเบิดในกรงได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถระเบิดออกนอกกรงได้! นี่เป็นกรงใต้ดินปรมาจารย์ ไม่ใช่กรงใต้ดินธรรมดา
พลังของฟางเหยียนที่แข็งแกร่งที่สุดและอ่อนแอที่สุด พลังที่แข็งแกร่งและอ่อนแอรวมเข้าด้วยกัน สามารถปล่อยพลังที่ไม่เหมือนกันออกมาได้ ต่อให้ตอนนี้ตัวเองมีเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่อยากจะทำลายกรงใต้ดิน ไม่มีปัญหาถึงจะถูก แต่กรงใต้ดินนี้ไม่ค่อยเหมือนกับกรงธรรมดาสักเท่าไหร่
ราวกับว่า กรงใต้ดินนี้สามารถกดชี่ของคนไว้ได้โดยสิ้นเชิง!
และก็หมายความว่า สามารถปล่อยชี่ในกรงได้ แต่ไม่สามารถปล่อยนอกกรงได้ยังไงล่ะ!
หมดกัน ดูลักษณะจากกรงอันนี้ จะขังตนไว้ด้านในแล้วล่ะ!
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ การที่ตนจะล้างบางสำนักไร้หน้าก็หมดกันนะสิ!นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน คิ้วของฟางเหยียนขมวดหนักขึ้นอย่างไม่รู้ตัว สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้ามันช่างน่าเป็นทุกข์จริงๆ
เมื่อเห็นท่าทีตึงเครียดของฟางเหยียน อู๋หมิงก็ยิ่งหัวเราะอย่างสะใจออกมา เขานั่งยองๆลง มองไปที่ฟางเหยียนแล้วกล่าว “ฉันบอกแล้ว ว่าอย่าใช้พลังให้เสียเปล่าเลย ไม่ว่าแกจะดิ้นรนยังไงก็ไร้ประโยชน์ กรงใต้ดินนี้ไม่ใช่กรงใต้กินที่ธรรมดา นี่เป็นกรงใต้ดินรวมชี่ของสำนักไร้หน้าของเราหลอมสำเร็จเมื่อพันกว่าปีก่อน สามารถดูดกลืนพลังทั้งหมดได้ ผู้ที่เคยถูกขังไว้ที่นี่ล้วนเป็นบุคคลระดับสูงทั้งนั้น การที่แกถูกขังไว้ที่นี่ ถือเป็นเกียรติของแก การที่ได้ตายด้วยน้ำมือของจอมคาถาทั้งสี่ของสำนักไร้หน้า ก็ถือว่าเป็นโชคของแกอย่างหนึ่ง แกควรจะภูมิใจนะ”
เกียรติยศ!ความภาคภูมิใจ!สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ติดตัวมากับฟางเหยียนตั้งแต่เกิด ตอนนี้เอ่ยออกมาจากปากของคนนี้ ฟางเหยียนรู้สึกแปลกๆ แน่นอน เขาไม่สิ้นหวัง เขาเพียงกำลังรอโอกาสอยู่ก็เท่านั้น
จอมพลคนหนึ่ง ไม่เคยเจออุปสรรคอะไรบ้าง แล้วจะรู้สึกสิ้นหวังเพราะถูกขังไว้ที่นี่ได้อย่างไรกัน ฟางเหยียนไม่ได้เป็นคนที่ท้อแท้ง่ายๆ เขาเข้าใจดีว่าจิตใจสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
ไม่ว่าจะตอนไหน เขาก็คือผู้ชนะ จุดนี้ไม่มีใครขวางเขาเอาไว้ได้
เมื่อเห็นท่าทีของฟางเหยียน จู่ๆอู๋หมิงก็ถามขึ้นมา “อ้อ ก่อนตาย แกยังมีอะไรที่อยากจะรู้มั้ย?”
ฟางเหยียนเงยหน้า สายตาทั้งสองจ้องไปที่อู๋หมิงอย่างไม่ละสายตา แล้วถาม “ลุงเย่ของฉัน เย่เทียน พวกแกเป็นคนฆ่า?”
สำนักไร้หน้ารับช่วงต่อเขตซีหนานทั้งเขต พวกเขาเป็นเขี้ยวเล็บเขตซีหนานของเพลิงเสวน ดังนั้นแนวโน้มเหล่านี้ของเขตซีหนาน จะต้องอยู่ในการควบคุมของสำนักไร้หน้า การตายของเย่เทียน สิ่งที่ตระกูลเซียวทำทั้งหมด ต้องอยู่ในการควบคุมของสำนักไร้หน้าแน่นอน
อู๋หมิงเงียบไปสักพัก จากนั้นไม่ขมวดคิ้ว แล้วกล่าว “ไม่ใช่ มันยังไม่มีสิทธิ์ที่จะให้เราลงมือ ลักษณะแบบนั้น ถ้าให้พวกเราออกโรง ก็เสียหน้าของพวกเราเองไม่ใช่หรือ?มันไม่คู่ควรเลยแม้แต่น้อย”
“งั้นการตายของเขา พวกแกเป็นคนบงการแต่เพียงผู้เดียวงั้นสิ?พวกแกให้คนของตระกูลเซียวไปบีบลุงเย่ของฉัน สุดท้ายลุงเย่จึงได้ตายอย่างอนาถ ใช่มั้ย?” ฟางเหยียนถามอีก ตอนนี้ ราวกับว่าเขากำลังสอบสวนอยู่
อู๋หมิงดูแคลนเหอะๆออกมา แล้วกล่าว “ทำตามฉันมีชีวิตรอดต่อต้านกันตาย!มันเป็นปฏิปักษ์กับฉัน ก็ต้องตาย”