จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 474 ตอบแทนบุญคุณด้วยตัวหรือ
หลังจากฟางเหยียนอุ้มฉินเข่อเดินออกจากประตูหน้าของสำนักไร้หน้า พอดีมีลมพัดมาโดนตัวฟางเหยียน
เสื้อโค้ตกันลมของเขาโดนพัดจนปลิวสะบัด ทำให้เขาดูเหมือนวีรบุรุษท่ามกลางกระแสลม
ลมนี้เหมือนมาเพื่อต้อนรับรอเขา มายินดีปรีดาที่เขาทำลายสำนักไร้หน้าลงได้!
ฟางเหยียนสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่กับสายลมกรรโชกที่พัดมาเหมือนโลภมาก สุดท้ายเขาหันไปมองน้ำตกที่ประตูข้างของสำนักไร้หน้า จากนั้นก้าวเท้าเดินออกข้างนอกไป
พึ่งก้าวเท้าออกไปไม่กี่ก้าว ก็เห็นหญิงสาวหลายคนที่ตกใจขวัญหนีดีฝ่อกัน พวกเธอลังเลอย่างไม่รู้จะเข้าไปช่วยฉินเข่อดีไหม ระหว่างที่ร้อนใจกันอยู่นั่น ก็เห็นฟางเหยียนอุ้มฉินเข่อออกมาจากในห้องนั้นพอดี
วินาทีที่ทั้งหมดเห็นฉินเข่อ ต่างร้องเสียงดังผลุนผลันเข้ามาหาเธอเป็นการใหญ่ “ฉินเข่อ ฉินเข่อ!”
แต่ทำเพียงแค่ร้องกันเท่านั้น หลายคนไม่กล้าขยับขึ้นหน้า พวกเธอมองคนที่อุ้มฉินเข่ออย่างหวั่นๆ
พวกเธอไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นคนดีหรือเลว ต่อให้เขาดูเป็นคนดีแค่ไหน แต่เดินออกจากสถานที่มีซากศพทับถมกันเป็นภูเขาอย่างนั้น คงไม่ใช่คนดีอะไรนัก ฉินเข่อถูกเขาอุ้มไว้ ยิ่งไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย!
ฟางเหยียนเดินมาหยุดในระยะที่ห่างจากหลายคนนั้นใกล้มาก และวางฉินเข่อลงช้าๆ ให้เธอนอนบนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เขาปรายตามองหลายคนนั้นอย่างราบเรียบ จากนั้นหยิบขวดยาออกมาจากกระเป๋าเสื้อออกมา และเทยาออกมาเม็ดหนึ่งให้ฉินเข่อกิน และลุกขึ้น เขาพูดกับหญิงสาวที่กำลังตัวสั่นเทากันว่า “นี่ไม่ใช่ที่ที่พวกคุณควรมา! กลับไปเถอะ เรื่องวันนี้ พอออกไปแล้วอย่าพูดจาซี้ซั้ว ถ้าผมรู้ว่าพวกคุณพูดไป จุดจบจะเหมือนคนในนั้น”
พูดจบ ฟางเหยียนเดินไปทางบันไดอย่างเย็นชา
หญิงสาวหลายคนตกใจจนไม่กล้าพูดอะไร ทั้งหมดมองตามฟางเหยียนอย่างไม่กล้าหายใจดัง พยักหน้าอย่างระมัดระวัง
จนสายตามองตามฟางเหยียนจนลับบันไดนั่นไป หญิงสาวหลายคนถึงหันมามองตากันอย่างตกใจไม่หาย
“ฉินเข่อ!” มีหญิงสาวคนหนึ่งชี้นิ้วมาที่ฉินเข่อ ทุกคนถึงวิ่งเข้าหาจุดที่ฉินเข่ออยู่
“ฉินเข่อ ฉินเข่อ!” ทั้งหมดเรียกฉินเข่อที่นอนสลบไม่ได้สติ
เห็นฉินเข่อไม่ฟื้นขึ้นมา ทั้งหมดอดสงสัยไม่ได้ “เมื่อกี้คนนั้นเอาอะไรให้ฉินเข่อกินน่ะ? พวกเธอเห็นกันไหม?”
หลิวเจียเจียพยักหน้าบอก “เห็นแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร น่าจะไม่ใช่ยาพิษทำร้ายฉินเข่อหรอกมั้ง?”
“ไม่น่านะ ถ้าเขาจะทำร้ายฉินเข่อจริงๆ ไม่ต้องใช้ยาหรอก ลำพังสภาพด้านในพวกเธอก็เห็นแล้วนี่? สามารถเดินออกมาจากในนั้นได้ เขาจะฆ่าคนต้องใช้ยาอีกหรอ? ฟันทิ้งก็ได้แล้วนี่”
“อืม เธอพูดก็ถูก งั้นก็น่าจะเป็นคนดีนะ!”
“เป็นคนดีหรือเปล่า รอฉินเข่อฟื้นขึ้นมาก่อนค่อยว่ากัน!”
หลายคนรอกันต่ออีกหลายนาที จู่ๆฉินเข่อก็ลืมตาโพลงตื่นขึ้น เธอรู้สึกหนักหัวอยู่ และพยายามปรับสภาพรับบรรยากาศรอบด้าน รอเธอได้สติขึ้นมาจริงๆ เธอเห็นเพื่อนนักศึกษาของเธอ และร้องถามขึ้น “ทำไมหรอ?”
ทำไมหรอ นี่เป็นคำถามแรกที่ฉินเข่อเปิดปากถาม
หญิงสาวหลายคนพากันมองหน้าไปมาอย่างตะลึง จากนั้นมีคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “พวกเราควรจะถามเธอมากกว่าไม่ใช่หรอ? คนเมื่อกี้น่ากลัวมากนะ เขาจับเธอไว้ ใช่คนชุดดำช่วยเธอไว้หรือเปล่า?”
ในที่สุด ฉินเข่อก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ได้ เธอรีบส่ายหัวปฏิเสธว่า “ไม่ ไม่ใช่ พวกเขาไม่ใช่คนดีทั้งหมด! คนในนั้นทั้งหมดเหมือนจะโดนคนเสื้อโค้ตดำนั่นฆ่าหมดเลย แต่เขาก็ดูเหมือนไม่ใช่คนเลว เหมือนเขาจะช่วยฉันไว้ด้วย”
เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรน่ากลัวขนาดนี้เลย ดูจากบทสนทนาของทั้งคู่แล้ว จับใจความได้ว่า คนใส่เสื้อโค้ตดำนั่นเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนที่นี่ทั้งหมด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร คนคนหนึ่งก็ไม่สามารถฆ่าคนมากมายขนาดนั้นได้หรอกไหม!
ดังนั้นเธอเลยไม่คิดว่าฟางเหยียนเป็นคนดี ต่อให้เขาช่วยตนไว้ ก็ไม่ใช่คนดีแน่!
หลายคนมองตากันไปมาพลางว่า “แต่ว่า เมื่อกี้เขาอุ้มเธอออกมานะ เขาน่าจะไม่ใช่คนเลวหรอก! ถ้าเขาเป็นคนเลวอย่างที่เธอว่าจริงๆ พวกเราคงต้องตายแล้วล่ะ”
คิ้วฉินเข่อขมวดมุ่น พูดอย่างลำบากใจว่า “ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไง สรุปแล้วเขาแปลกมาก เขาบอกไม่แคร์ว่าฉันจะเป็นหรือตาย จากนั้นก็ช่วยฉันไว้ดื้อๆ จากนั้นอีกเขาก็โดนคนที่จับฉันเป็นตัวประกันน่ะแทงเข้าที่หน้าอกเพราะฉัน ฉันจำได้ว่าหน้าอกเขามีเลือดออกด้วย แต่ก็ยังใช้มืออีกข้างกันฉันเอาไว้ ต่อมาฉันโดนคนนั้นจับตัวไว้อีกครั้ง ตอนคนนั้นจะฆ่าฉัน เขาก็ปราดเข้าไปฆ่าคนคนนั้น”
ฉินเข่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นออกมา หลายคนฟังกันงุนงง แต่ก็รู้สึกเสียใจกับการประสบพบเจอเรื่องราวของฉินเข่อด้วย นี่เรียกว่าผ่านความเป็นความตายมาเลยล่ะ
“แบบนี้เท่ากับว่า เขาเป็นคนดีสิ!” หลิวเจียเจียสรุปออกมา แต่เธอเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ ใครจะเป็นคนดีหรือไม่นั้น มันยากที่จะตัดสินได้จริงๆ เพราะนั่นฆ่าคนนะ!
ในความรู้สึกของพวกเธอแล้ว การฆ่าคนมันผิดกฎหมาย แถมยังฆ่าคนมากขนาดนั้น ยิ่งเป็นการทำผิดโทษตายเลย!
ฉินเข่อกลืนน้ำลายเอื๊อก สมองเธอย้อนคิดไปถึงฉากสุดท้ายก่อนที่ตนจะเป็นลมสลบไป เลือด เป็นเพราะเลือดของคนที่จับตนเป็นตัวประกันกระเด็นมาโดนตน คนนั้นฆ่าเขา เขาฆ่าคนที่จับตนเป็นตัวประกัน
เธอไม่เห็นว่าคนนั้นโดนฆ่ายังไง รู้แต่มีเลือดสดกระเด็นมาโดนตัวเธอ ไม่ว่าคนนั้นจะฆ่าคนโดยเจตนาหรือไม่ ยังไงซะเขาก็ฆ่าคน มันผิดกฎหมาย
“ถ้าไง เราแจ้งตำรวจกันเถอะ! ที่นี่มีคนตายเยอะขนาดนี้ ใครเป็นคนดีใครเป็นคนเลว ให้ตำรวจเขาตัดสินกันเถอะ!” หญิงสาวหนึ่งในนั้นพูดอย่างสงบนิ่ง
“ไม่!” ฉินเข่อสั่นหัวจนคลอน กลืนน้ำลายเอื๊อกก่อนพูด “เขาพึ่งช่วยฉัน ถ้าพวกเราแจ้งความ! คนนั้นต้องโดนจับแน่ ถึงเวลานั้นฉันก็จะกลายเป็นคนอกตัญญูไปน่ะหรอ?”
“ฉินเข่อ!” หลิวเจียเจียคว้าหมับที่แขนฉินเข่อพลางพูด “หรือว่าเธอยังไม่เข้าใจว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นหรือไง? ถ้าเขาเป็นคนดีจริง ฉันเชื่อว่าตำรวจจะไม่โทษเขาแน่ ที่ผ่านมาน่ะตำรวจไม่เคยปล่อยตัวคนเลวนะ ไม่มีทางปรักปรำคนดีแน่ เรื่องนี้มันหนักหนามาก พวกเราต้องแจ้งความ!”
“แต่…” ฉินเข่อยังอยากพูดอะไรต่อ แต่โดนหญิงสาวที่เหลือตัดบทไป
หนึ่งในนั้นโทรแจ้งความ บอกตำรวจเสร็จ หลานคนก็พากันวิ่งลงทางบันไดไป พวกเธอไม่กล้าเข้าใกล้สถานที่ที่ซากศพเกลื่อนอย่างนั้นหรอก
ฉินเข่อภาวนาในใจ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่านั่นเป็นคนเลวจริงๆ
คนเลวไม่มีทางมีทางท่าทีวีรบุรุษอย่างนั้นแน่ เขาช่วยเธอไว้สองครั้ง ช่วยแย่งเธอจากประตูผีกลับมา
ในสมัยโบราณ วิธีช่วยคนแบบนี้ต้องตอบแทนบุญคุณด้วยตัวเท่านั้นแล้ว! พอคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าฉินเข่อก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว…