จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 477 อุดมคติอันสูงส่งและยิ่งใหญ่
เย่ชิงหยู่กับเฉินหย่าเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ดี นื่คือจะฆ่าคนปิดปาก ฆ่าคนคนหนึ่ง สำหรับแก๊งซินหงแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แค่สั่งการนิดเดียว เรื่องนี้ก็โดนปิดเงียบแล้ว
ที่นี่เป็นเมืองจินโจว เป็นแค่มุมหนึ่งในภูเขาน้ำแข็งของประเทศหวา คนของสถานที่เล็กแบบนี้จะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาได้
เย่ชิงหยู่รีบบอก “ไม่ คุณทำแบบนั้นไม่ได้ ฆ่าคนมันผิดกฎหมาย! ถ้าพวกคุณฆ่าคนที่นี่ ถึงเวลานั้นไม่มีทางไปจากเมืองจินโจวได้แน่! พวกคุณจะโดนจับตัวไปหมดแน่”
ชายตาเดียวหัวเราะร่วนขึ้นมา มองรอยยิ้มหน้าผีนี่ ทั้งคู่ยิ่งหวั่นใจหนักขึ้น ชายตาเดียวส่ายหัวอย่างอ่อนใจพลางว่า “ผมไม่รู้จะบอกว่าคุณไร้เดียงสาดีหรือว่าคุณงี่เง่าดีเนี่ย! แก๊งซินหงเราทำอะไร ยังต้องกลัวโดนจับอีกหรือไง? ถ้าไม่คิดทางหนีทีไล่ไว้แล้ว พวกเราจะกล้าออกปฏิบัติการหรือไง ในเมื่อออกมาทำภารกิจแล้ว ก็ต้องคิดแผนสมบูรณ์แบบไว้หมดแล้วสิ”
“แต่!” เย่ชิงหยู่รวบรวมพลังและพูดออกไปเต็มที่ว่า “แต่พวกคุณก็ฆ่าคนไม่ได้! ฉันรับปากจะไปกับพวกคุณแล้ว ทำไมจะปล่อยคนไม่ได้ล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น ตำรวจยังไม่มาซะหน่อย”
เย่ชิงหยู่คิดแต่เพียงว่าก่อนจะโดนเอาตัวไป ต้องรักษาชีวิตเฉินหย่าไว้ให้ได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเฉินหย่าเลยสักนิด
“เธอก็จำเป็นต้องไปกับพวกเราอยู่แล้วนี่! หรือเธอรู้สึกว่าตัวเองมีเกียรติต่อหน้าพวกเราหรือไง? เอางี้ ถ้าหล่อนอยากรอดก็ได้ พวกเราจะยอมปล่อยหล่อนไป” สายตาชายตาเดียวเริ่มมองสำรวจตัวเฉินหย่า จากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน และดูมีประกายประหลาด
พอเห็นสายตาเป็นประกายหรี่ตามองแบบนั้น เย่ชิงหยู่รีบยกมือขึ้นกันตัวเฉินหย่าไว้พลางถาม “คุณจะทำอะไร?”
“ขอแค่เพื่อนเธอคนนี้ยอมตามใจฉัน บางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตหล่อนก็ได้ ผู้หญิงสวยขนาดนี้จะฆ่าทิ้งฉันก็เสียดายนะ” พูดจบ เขาเดินมาถึงข้างตัวเย่ชิงหยู่ และเอื้อมมือไปหาเฉินหย่า
ที่จริงเฉินหย่าสวยมาก เพียงแต่อยู่กับเย่ชิงหยู่ตลอด ทำให้ไม่รู้สึกถึงความเด่นของเธอเท่านั้นเอง
พอเห็นการกระทำนี้ของเขา เย่ชิงหยู่ยกมือขึ้นปัดมือเขาตกไปทันที ใช้ร่างเธอปกป้องเฉินหย่าไว้ “คุณทำแบบนี้ คือยิ่งทำผิดมากขึ้น”
“ผิด?” ชายตาเดียวหัวเราะร่วน ส่ายหัวอย่างอ่อนใจว่า “ทำเรื่องแบบนี้ คนมีความสุขไม่ใช่ผู้หญิงอย่างพวกเธอหรือไง? ยิ่งไปกว่านั้น ผมแค่เคารพความสมัครใจ ถ้าหล่อนไม่ยอมก็ไม่เป็นไร ผมฆ่าหล่อนซะก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง? มีอะไรน่าลังเลกัน ผมแค่ถามความเห็นผู้หญิงคนนี้เท่านั้นเอง”
“เชอะ!” เย่ชิงหยู่ยังไม่ทันพูดอะไร เฉินหย่าก็พ่นน้ำลายใส่หน้าชายตาเดียวก่อนเลยพลางว่า “ต่อให้ฉันตาย ก็ไม่มีทางเห็นด้วยกับขยะสังคมอย่างแกหรอก ขยะสังคม เดนสังคม!”
“พี่ใหญ่ พูดมากเปลืองน้ำลายกับพวกหล่อนทำไม ฆ่าทิ้งพาคนไปก็สิ้นเรื่อง” เวลานี้ชายเปลือยหน้าอกคนหนึ่งเดินเข้ามา มือเขาถือมีดเล็กแหลม ดูแล้วเหมือนคนฆ่าหมูเลย
ชายตาเดียวรับคำ ยกมือขึ้นเช็ดหน้าที่โดนเฉินหย่าถุยน้ำลายใส่เมื่อกี้ พยักหน้าพลางว่า “ได้ นักฆ่าสัตว์ งั้นผู้หญิงคนนี้ยกให้แก! ฆ่าหล่อนให้เหมือนฆ่าหมูเลยนะ จำไว้ ให้ค่อยๆตายล่ะ อย่าให้ตายเร็วเกินไป ถ้าตายเร็วเกินไป หล่อนจะไม่ได้รับรู้รสชาติความตายน่ะสิ”
“รู้แล้วครับ!” นักฆ่าสัตว์เดินขึ้นหน้าอีกก้าว แถมยังแกล้งขยับมีดแหลมในมือด้วย
“เฮ้ย! พาหล่อนไป ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะล่อหมอนั่นออกมาไม่ได้” คำสั่งลงมา ทุกคนพากันล้อมกรอบเข้ามา ทีเดียวหลายสิบคน ทำเอาหญิงสาวสองคนตกใจหน้าซีดเผือด
“ชิงหยู่!” มือของเฉินหย่าจับมือเย่ชิงหยู่แน่นมาก เธอร้อนรนมาก เย่ชิงหยู่ยังรับรู้ได้เลยว่ามือของเฉินหย่าเหงื่อออก และตัวสั่นเทาด้วย
ที่จริงคนที่กลัวไม่ใช่แค่เฉินหย่า ตัวเย่ชิงหยู่เองก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน
เวลานี้สมองของเย่ชิงหยู่คิดถึงคนเพียงคนเดียว ฟางเหยียน! ยิ่งอันตราย เธอยิ่งคิดถึงคนที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยที่สุดคนนั้น
แต่ตอนนี้ทำได้เพียงคิด เพราะฟางเหยียนโดนพวกเขาจับตัวไว้แล้ว
ในตอนที่ทั้งสองคิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว เสียงโอหังเอาแต่ใจโพล่งแทรกขึ้นมา “ผู้ชายเยอะขนาดนี้กลับรังแกผู้หญิงสองคน มันไม่ดูเป็นวิธีการของแก๊งซินหงเลยนะ!”
พอพูดจบ ได้ยินแต่เสียงปึ้ง ประตูของบาร์เวลาที่ปิดลงโดนถีบกระเด็นเปิดออก มีร่างหนาเดินเข้ามาจากหน้าประตู รูปร่างดูดุร้าย เนื้อตัวเต็มไปด้วยความดุร้ายของคนป่า เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลากลางคืน แสงไฟของบาร์เวลาค่อนข้างมืด ดูมีเอกลักษณ์มาก ดังนั้นเลยมองหน้าคนคนนั้นไม่ชัด
สายตาทุกคนในบาร์เวลาพากันจับจ้องไปที่ร่างชายบึกที่หน้าประตูนั่น ปากเขาเหมือนกำลังพ่นควันบุหรี่ เพราะรอบหัวเขามีควันบุหรี่อยู่
รูปร่างผู้ชายคนนี้ดูแข็งแรงสูงใหญ่มาก ดูแล้วพอฟัดพอเหวี่ยงกับนักฆ่าสัตว์เลย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยู่ในที่มืดหรือเปล่า เขาเลยทำให้คนรู้สึกลึกลับ ดังนั้นมองดูแล้วเขาดูเก่งกาจมาก
“แกเป็นใคร?” ชายตาเดียวหันไปถามชายร่างบึกที่หน้าประตู น้ำเสียงเย็นชา ฟังดูเย่อหยิ่งมาก
ผู้ชายที่หน้าประตูไม่พูดอะไร ได้แต่ยืนสูบบุหรี่เงียบๆ ทำเอาบรรยากาศตึงเครียดขึ้น ชายตาเดียวมองสำรวจเขาอย่างโมโหพลางว่า “เรื่องของแก๊งซินหงเรา ไม่อยากมีเรื่องก็ไสหัวไปเลย! ไม่งั้นจะฆ่าแกด้วย” เอ่ยอ้างชื่อแก๊งซินหงออกมา มันเป็นเรื่องที่เขาภูมิใจมากที่สุด การได้เข้าร่วมแก๊งซินหง เหมือนจะทำให้ต้นตระกูลภาคภูมิใจได้อย่างนั้นแหละ ผู้ชายที่ยืนหน้าประตูยังคงไม่พูดอะไร ได้แต่รักษาความเคร่งขรึมลึกลับไว้อย่างนั้น
พอเห็นแบบนี้ ชายตาเดียวเดือดจัด เขายกมือขึ้นสั่งลูกน้องตน “ลงมือเลย!”
พอพูดจบ ชายร่างบึกบึนสองคนที่อยู่ใกล้เขาที่สุดเดินเข้าไป พวกเขาเดินเข้าไปยืนหน้าผู้ชายที่หน้าประตู หลังจากสบตากันหนึ่งรอบ ก็ยกมือฟาดเข้าไปที่ชายร่างบึก มือของพวกเขายังไม่ทันโดนตัวผู้ชายคนนั้น ก็เห็นสองหมัดชกเข้าที่หัวของสองคนนั้นมากกว่า เกิดเสียงพลั่กสองที สองคนนั้นก็ล้มลงพื้นไปเลย
ใช้แค่ท่าเดียว สองคนนั้นก็ล้มลงไปเลย ไม่มีแม้แต่โอกาสจะดิ้นรนเลยด้วยซ้ำ ก็ล้มลงพื้นไม่ขยับเลย
คราวนี้ ทำเอาลูกน้องคนอื่นที่อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้พากันตกใจถอยสองก้าวกันหมด ชายตาเดียวเบิกตากว้างถามขึ้น “แกแม่งเป็นใครวะ? กล้าลงมือทำร้ายคนของแก๊งซินหงเรา แกไม่อยากอยู่แล้วหรือไงวะ!”
คำพูดของชายตาเดียวพึ่งจบ ร่างบึกบึนนั่นก็ก้าวเท้ามาข้างหน้าหนึ่งก้าว! ก้าวนี้ประหนึ่งก้าวออกมาเพื่ออุดมการณ์อันสูงส่งและยิ่งใหญ่!