จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 501 ฉันโดนสวมเขาแล้ว
นี่เป็นความคิดที่แท้จริงในใจของหวังชิงชิง และเป็นความคิดที่สิ้นหวังที่สุด หมดกัน เธอคิดนาทีนี้ตนน่าจะจบเห่แล้วล่ะ!
เมื่อโจวเจิ้งเดินเข้ามาก็เห็นหวังชิงชิง แว็บนั้นที่เห็นหวังชิงชิง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำทันที
ฉากแบบนี้ยังต้องอธิบายอีกเหรอ? ตนปราบอย่างแข็งกร้าวขนาดนั้นแล้ว ขังเธอไว้ในบ้านก็แล้ว นึกไม่ถึงว่าหวังชิงชิงจะทำเรื่องแบบนี้ลับหลังตัวเองอีก นี่คือที่ไหน? โรงแรม นี่คือโรงแรมนะ!
ไม่ต้องสงสัยเลย หวังชิงชิงต้องมีอะไรกับไอ้นั่นที่นี่แน่ๆ หลังจากที่ได้รับรายงานลับของตนแล้ว เขาก็รีบมาอย่างเร่งรีบ เดิมทีต้องทานข้าวร่วมกับคนใหญ่คนโตท่านนั้น แต่เขาไม่มีอารมณ์แล้ว ผมของตัวเองได้กลายเป็นหญ้าสีเขียวไปแล้ว จะไปมีอารมณ์สนใจเรื่องทานหรือไม่ทานข้าวอีกได้อย่างไรกัน
ตอนนี้ ความโกรธที่สุ่มอยู่ตัวของเขา ที่แท้ หวังชิงชิงมอบเซอร์ไพรส์ที่ใหญ่ขนาดนั้นให้เขา เขาอิ่มแล้ว โมโหหวังชิงชิงจะอิ่มไปแล้วล่ะ เดิมทีเขายัง“เชื่อใจ”อยู่บ้างต่อหวังชิงชิง แต่ตอนนี้ ความเชื่อใจนี้ได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง ชายหญิงสองต่อสองตามลำพัง เมื่อก่อนยังมีคนที่เกี่ยวข้องมาเปิดห้องที่นี่ ทำอะไรกัน แล้วยังจะทำอะไรกันได้?
สายตาของโจวเจิ้งจ้องไปที่หวังชิงชิงตั้งแต่หัวจรดเท้า การจ้องครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วอีกแล้ว ครั้งนี้มีความแค้นเข้ามาด้วย เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้นึกไม่ถึงว่าจะทำเรื่องทรยศเขาแบบนี้ได้ นึกไม่ถึงว่าจะทำเรื่องที่ผิดต่อเขาอย่างนี้
เมื่อกี๊ ผู้หญิงคนนี้ต้องล้มลงบนร่างกายของไอ้นั่นแล้วขย่ม เมื่อนึกถึงจุดนี้ โจวเจิ้งก็บ้าคลั่ง เกรี้ยวกราด!
เขากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ตวาดอย่างแค้นเคืองว่า “หวังชิงชิง!”
สามคำ เหมือนจะกลืนหวังชิงชิงทั้งเป็นลงไป
เมื่อหวังชิงชิงถูกตวาดใส่แบบนั้น ก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้ เปลวไฟแห่งความโกรธของโจวเจิ้งมากเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะควบคุมได้ เธอรู้ ว่าถ้าโจวเจิ้งโมโหแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
แค่เสียงตวาด คนจำนวนไม่น้อยในโรงแรมตกใจกับท่าทางของเขา! เมื่อเห็นลักษณะของโจวเจิ้ง หน้าฟร้อนท์ของโรงแรมจึงรีบเข้าไปถามว่า “คุณชายโจวคะ นี่คุณ…”
“ไสหัวไป!” โจวเจิ้งยกมือชี้ไปที่ผู้หญิงหน้าฟร้อนท์คนนั้น เดิมทีคิดจะเดินมาทางโจวเจิ้ง แต่ถูกโจวเจิ้วตวาดไปแบบนั้น เธอจึงได้หยุดเดิน สั่นไปทั้งตัวชั่วขณะหนึ่ง โจวเจิ้งถึงขั้นไม่มองเธอเลยแม้แต่แว็บเดียว ก็ใช้ท่าทางของตัวเองปรามอีกฝ่ายไว้โดยสิ้นเชิง
ผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าเข้าไปอย่างรู้ทัน แต่กลับโทรเรียกให้คนมา สถานการณ์แบบนี้เธอจะไม่เรียกคนก็ไม่ได้
“โจวเจิ้ง!” หวังชิงชิงกลืนน้ำลายลงไป ส่ายหน้าแล้วกล่าว “แกฟังฉันอธิบาย! ฉัน ฉัน …”
เธอพูดฉันติดกันสองครั้ง ก็ยังพูดประโยคนี้ไม่จบ โจวเจิ้งก็ไม่ได้ขัดจังหวะเธอ เพียงแต่เอียงคอไปถาม “แกอะไร? พูดสิ! ฉันยังไม่ได้ขัดจังหวะการพูดของแกเลยนะ”
ถึงแม่ไม่ได้ขัดจังหวะของเขา แต่สายตาของเขาได้ทำลายโอกาสในการอธิบายของเธอลงแล้ว!
หวังชิงชิงกลืนน้ำลาย แล้วกล่าวอย่างวัวสันหลังหวะว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกจะทำอะไร ยังไงก็รีบกลับไปเถอะ! มีอะไรเรากลับไปคุยกัน!”
โจวเจิ้งดูแคลนเหอะๆออกมา แล้วกล่าวอย่างยิ้มเยาะว่า “กลับไปคุย? หรือพูดที่ไหนมันไม่เหมือนกันงั้นเหรอ? แกยังจะรักษาเกียรติอีก?”
คำพูดนี้ทำให้หวังชิงชิงหน้าร้อนผ่าวๆชั่วขณะ โจวเจิ้งพยักหน้าติดต่อกันแล้วกล่าว “แกคือเมียของฉันโจวเจิ้งนะ ทำไมแกถึงทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าฉันได้? สามวัน อีกแค่สามวันแกก็จะแต่งงานกับฉันแล้ว ทำไมกัน?”
พูดพลาง โจวเจิ้งเดินบีบเข้าไป เข้าใกล้หวังชิงชิงทีล่ะก้าวทีล่ะก้าว
หวังชิงชิงได้ถอยไปที่ตำแหน่งหน้าฟร้อนท์แล้ว หลังก็พิงเข้าไปกำแพงของหน้าฟร้อนท์ สายตาทั้งสองข้าวของเธอมองโจวเจิ้งที่เดินบีบเข้ามาทีล่ะก้าว แล้วถาม “แกจะทำอะไร?
โจวเจิ้งมาถึงข้างกายเธอ ระยะห่างของทั้งสองคนใกล้กันมาก การเต้นของหัวใจของหวังชิงชิงแทบจะใช้หูฟังยังได้ยิน โจวเจิ้งยิ้มอย่างเย็นชาย้อนถามว่า “ทำอะไร? หรือแกไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรงั้นเหรอ? ฉันเคยบอกไว้แล้ว ถ้าฉันไม่อนุญาตแกห้ามเพ่นพ่าน ฉันอนุญาตให้แกออกมาเพ่นพ่านไปทั่วแล้วยัง? แกออกมาก็ช่าง แล้วยังมาสถานที่แบบนี้อีก สถานที่แห่งนี้เป็นที่ๆแกควรมามั้ย? พูดมา แกมานอนกับใคร? พูดออกมา ให้ฉันฟังหน่อย”
“โจวเจิ้ง!” หวังชิงชิงยกมือขึ้นมาจับมือของโจวเจิ้ง หันไปมองล็อบบี้ที่ถูกคนจำนวนไม่น้อยล้อมไว้ แล้วกล่าว “เรากลับไปคุยกันได้มั้ย? นี่เป็นที่ของคนอื่น คนอื่นยังต้องทำการค้านะ!”
หวังชิงชิงไม่สนว่าจะมีคนดูหรือไม่ เธอเพียงแต่กังวลว่าโจวเจิ้งจะหาเรื่องฟางเหยียน หรืออีกเดี๋ยวฟางเหยียนได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง แล้วจะลงมาหาเรื่องโจวเจิ้งเอง ไม่ว่าพวกเขาทั้งสองใครจะหาเรื่องใคร สรุปแล้วฟางเหยียนไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ
โจวเจิ้งไม่ใช่คนโง่ เขาเปิดปาก แล้วกล่าว “กลับไปตอนนี้มีความหมายมั้ย? แกมานัดพบลับๆกับคนอื่นที่นี่แล้ว แกคิดว่าฉันจะโง่ถึงระดับนั้น? เอาจริงๆนะ ที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาฆ่ามัน! ฉันล่ะอยากจะรู้ ว่าไอ้นั่นมันโตมากับอะไร นึกไม่ถึงว่าจะท้าทายถึงดินแดนตะวันตก!”
“โจวเจิ้ง!” หัวใจของหวังชิงชิงกำลังสั่น กำลังเลือดไหลออกมา เธอรู้ว่าคำพูดที่พูดออกมาจากปากของโจวเจิ้งไม่มีทางเป็นเท็จแน่นอน เขาพูดว่าจะฆ่าฟางเหยียน ก็ไม่ใช่แค่พูดไปพล่อยๆแบบนั้นแน่นอน
“แกฟังฉันนะ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่แกคิด ในเมื่อฉันตกลงกลับมาแต่งงานกับแกแล้ว ไม่มีทาง…”
“หุบปากซะ!” โจวเจิ้งขัดจังหวะคำพูดของหวังชิงชิง แล้วกล่าว “วันนี้ถ้าฉันไม่ฆ่าไอ้นั่น ฉันจะไม่มีทางกลับแน่ หวังชิงชิง ตาต่อตาฟันต่อฟัน ในเมื่อแกอยากให้มันตาย ก็ให้มันตายละกัน! แกบีบฉันเองนะ เดิมทีฉันคิดจะไว้ชีวิตมันแล้ว แกบีบให้ฉันฆ่ามัน”
“โจวเจิ้ง!” มือนั้นที่จับโจวเจิ้งไว้ออกแรงมากขึ้น เธอกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและก็จริงจังว่า “หรือแกฟังฉันสักครั้งไม่ได้เลยหรืออย่างไร? รู้ไว้นะ ว่าเขาคือ…”
โจวเจิ้งยกมือขึ้นมาขัดจังหวะคำพูดของเธออีกครั้ง แล้วกล่าว “ฉันรู้แน่นอนว่ามันเป็นใคร! ถ้าไม่รู้ มันจะตายเหรอ?”
“คุณชายโจว คุณขายโจว!” ขณะนี้ ผู้ชายที่ผมเป๊ะ สวมชุดสูทคนหนึ่งเดินออกมาจากในๆห้องหนึ่ง หลังจากที่ผู้ชายเดินออกมาแล้ว ก็กล่าวอย่างหัวเราะเหอะๆว่า “มิทราบมาก่อนว่าคุณชายโจวจะมา ขออภัยที่ไม่ได้ต้อนรับ ขออภัยที่ไม่ได้ต้อนรับ”
พูดพลาง ผู้ชายยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณว่าจะจับมือกับโจวเจิ้ง โจวเจิ้งเงยหน้ามองคนนั้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วถาม “แกเป็นใคร? เราสนิทกันมากเหรอ? ฉันรู้จักแกเหรอ? แกไม่เห็นหรือไง ไม่เห็นว่าฉันกำลังทำธุระอยู่?”
ชายคนนั้นถูกโจวเจิ้งตั้งไปหลายคำถาม ทำเอาหน้าใบหน้าเส้นกระตุกไปสักพัก ใบหน้าที่เดิมทีสนุกสนานทำเอาอึดอัดจนไม่ไหว เขาพูดอย่างลำบากใจว่า “ผม ผมคือผู้จัดการของโรงแรมนี้ และก็เป็นผู้จัดการทั่วไป! ที่นี่คือธุรกิจของหยางกง หวังว่าคุณชายโจวจะเห็นแก่หน้าตาของหยางกง มีเรื่องอะไร จับเข่าคุยกันครับ”
พูดออกมาก็อ้างถึงหยางกงโดยตรง คนนี้ถือว่าอัจฉริยะ!
โจวเจิ้งหัวเราะเหอะๆออกมา มองคนนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นยกมือขึ้นมาตบไปที่หน้าของผู้จัดการ ฉาดนี้เสียงดังสนั่น ตบเข้าไปในจิตใจของหวังจิงจิง ทำให้เธออดที่จะตัวสั่นไม่ได้