จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 506 คุณถูกบังคับหรือเปล่า
เมื่อเห็นผู้ชายเดินเข้ามา พนักงานสาวที่หน้าฟร้อนท์รีบเรียกเขา ด้วยความหวัง เหมือนกับความสิ้นหวังเมื่อกี๊หลังจากที่ได้เจอผู้ชายคนนี้ก็มลายหายไป
ผู้ชายส่งเสียงอืม จากนั้นเดินไปยังผู้จัดการที่นอนอยู่กับพื้น เขาก็แค่เหลือบมองผู้จัดการที่กองอยู่กับพื้น จากนั้นเงยหน้ามองพวกที่ถือปืนกลไว้ สุดท้ายสายตาของเขาได้มองไปที่โจวเจิ้งโดยปริยาย แล้วถาม “คุณชายโจว นี่คุณหมายความว่าไง?”
โจวเจิ้งมองหยางซง อดทนกับความกดดันเมื่อกี๊ไว้ ดูแคลนออกมา แล้วกล่าว “ผมก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็คุณชายเจ็ดตระกูลหยาง!”
“ใช่ นี่คือโรงแรมของผม ผมว่าคุณก็รู้นะ?” หยางซงตอบโจวเจิ้งไป
ความจริงหยางซงไม่ชอบการกระทำทั้งหมดของโจวเจิ้งมาก เขาเหมือนกับคุณชายไร้ค่า มักจะใช้การที่ตัวเองมีความสามารถนิดหน่อยรังแกคนตามท้องถนน แต่พวกเขาตระกูลโจวกับตระกูลหยางต่างคนต่างอยู่กันมาโดยตลอด ถึงแม้จะไม่ชอบใจ หยางซงก็ไม่เคยออกหน้าขัดขวางเลย ยิ่งไม่ไปว่าเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้มาบังอาจที่โรงแรมของตน แน่นอนว่าเขาไม่มีทางจะเมินเฉยได้!
โจวเจิ้งพยักหน้าแล้วกล่าว “ผมรู้แน่นอน แต่เรื่องนี้เกี่ยวพันกับเกียรติของผมโจวเจิ้ง แล้วผมจะยอมได้อย่างไรกัน คุณชายเจ็ดตระกูลหยาง ไอ้นี่มันพาเมียของผมมาเปิดห้องที่โรงแรมของคุณ หรือคุณจะให้ผมทำเป็นมองไม่เห็นงั้นเหรอ? ถ้ามีคนพาเมียของคุณไปเปิดห้อง คุณจะไปล้อมโรงแรมนั่นไว้มั้ย?”
หยางซงขมวดคิ้ว แล้วถาม “คุณยังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอ? มีภรรยาตอนไหนกัน?”
คุณชายของตระกูลโจวดินแดนตะวันตกแต่งงาน ต้องเป็นเรื่องใหญ่ที่กระฉ่อนไปทั้งเมืองแน่นอน ทั้งดินแดนตะวันตกล้วนไม่มีใครรู้ว่าเขาแต่งงาน มีเพียงเขาเองที่บอกว่าตัวเองแต่งงานแล้ว
โจวเจิ้งชี้หวังชิงชิงแนะนำว่า “นี่ นี่ก็คือเมียของผม! อีกสามวันเราจะจัดงานแต่งกันที่โรงแรมหัวหลง
หยางซงส่งเสียงอ๋อออกมา แล้วกล่าว “นั่นก็หมายถึง ตอนนี้เธอนังไม่ใช่ภรรยาของคุณล่ะสิ!”
ตระกูลใหญ่ให้ความสำคัญกับการแต่งงาน มีเพียงแต่งงานแล้วเท่านั้นจึงจะถือว่าเป็นภรรยา ทั้งสองยังไม่จัดงานแต่งงาน งั้นก็ยังไม่ถือว่าเป็นเมียของโจวเจิ้ง จุดนี้โจวเจิ้งและหยางซงรู้ดีมาก ตระกูลใครบ้างที่ไม่ใช่ตระกูลใหญ่
ใบหน้าของโจวเจิ้งกระตุก จ้องหยางซง คนนี้มันจงใจจะหาเรื่องตัวเองนี่หว่า
เขาขี้เกียจจะพูดจาพร่ำเพรื่อกับเขามากขนาดนั้น ชี้ไปที่ฟางเหยียนแล้วกล่าว “วันนี้ฉันมาแค่เล่นงานมัน”
สายตาของหยางซงค่อยๆมองไปที่ฟางเหยียน หลังจากที่หยุดที่ฟางเหยียน หยางซงส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ได้!”
“คุณหมายความว่าไง?” จู่ๆสายตาของโจวเจิ้งก็เฉียบแหลมขึ้นมา น้ำเสียงก็เริ่มเย็นชาขึ้น เมื่อกี๊เขาหลีกเลี่ยงฟางเหยียนก็ช่างแล้ว ตอนนี้หยางซงจะเป็นปฏิปักษ์กับตนอีก ในใจเขาไม่แคร์หยางซง แม่พ่อของตัวเองมักจะบอกว่าอย่าหาเรื่องตระกูลหยางเมื่ออยู่ข้างนอก รักษาความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลหยางไว้ แต่ในจิตใจเขาดูถูกตระกูลที่ทำการค้านี่
หยางซงกล่าวอย่างไม่สนใจแล้วกล่าว “คุณชายโจว นี่คือโรงแรมของผม ขอให้เกี่ยวกับคนที่พักในโรงแรมของเราล้วนเป็นแขกของตระกูลหยาง ล้วนได้รับการคุ้มครองจากตระกูลหยาง ลูกน้องไม่ได้เรื่อง ถูกคุณทุบตี ผมก็ยอม แต่คุณยังคิดจะทำร้ายแขกของผมอีก พากลุ่มคนนั้นมาข่มขู่แขกในโรงแรมของผม นี่เป็นสิ่งที่คุณทำไม่ถูก ถ้าแขกของโรงแรมผมล้วนถูกทำร้ายบาดเจ็บ ต่อไปใครจะกล้ามาพักที่โรงแรมของผมอีก! โรงแรมที่ไม่มีความปลอดภัย ไม่สามารถยืนในดินแดนตะวันตกได้ ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นโรงแรมของตระกูลหยางของผม”
เพิ่งพูดจบ ด้านนอกประตูมีเสียงฝีเท้าเป็นระยะๆดังขึ้นมา จากนั้นคนจำนวนมากเดินเข้ามาจากด้านนอก ล้อมทั้งหมดไว้ทั้งหมด คนพวกนี้ก็ถืออาวุธทุกคน อาวุธเป็นสามเท่าของโจวเจิ้ง
เหตุการณ์นี้ ทำเอาแก้มของโจวเจิ้งขาวซีด เขามองไปยังคนที่ถืออาวุธปืนรอบๆ ชักตาใส่หยางซง แล้วตะคอก “นี่แกกำลังไม่ให้เกียรติฉันชัดๆใช่มั้ย??
“นี่ไม่ใช่ปัญหาของเกียรติศักดิ์ศรี นี่คือปัญหาของการทำการค้าของตระกูลหยางของฉัน! ตระกูลหยางของเราไม่ได้พึ่งความสัมพันธ์เบ่งอำนาจแบบนั้นเหมือนตระกูลหยางของพวกแก ตระกูลหยางของเราจะทำการค้า ต้องใช้ธุรกิจมารักษาชื่อเสียงของตัวเองเป็นธรรมดา ฉันว่าแกคงไม่ทำให้ฉันลำบากใจเหรอนะ?”
โจวเจิ้งจ้องหยางซงสักพัก แล้วมองไปที่ฟางเหยียน เขาดูแคลนเหอะๆออกมา แล้วกล่าว “น่าสนใจ! นึกไม่ถึงว่าตระกูลหยางจะกล้าใช้ปืนจ่อฉัน น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ”
“หยางซง แกคิดว่าแกทำแบบนี้ แล้วฉันจะกลัวเหรอ? แกดูถูกฉันโจวเจิ้งเกินไปแล้วมั้ย”
เขายกมือขึ้นมาชี้หยางซง ดิ้นเป็นครั้งสุดท้าย เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้อง เขาไม่อยากเสียหน้ามากแน่นอน คำพูดนี้ก็เพื่อกู้หน้ากู้ตาของตัวเองเท่านั้น ความจริงเขาคำนวณไว้ในใจตั้งนานแล้ว! เขาพูดจบ จงใจเดินไปที่ข้างๆของการ์ดคนหนึ่งแย่งปืนมา จ่อหยางซง มองฟางเหยียนแล้วกล่าว “วันนี้ฉันจะฆ่ามัน!”
ปืนจ่อหยางซง แต่สายตามองไปที่ฟางเหยียน นี่เรียกว่าอะไร? กลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม? ไม่ๆๆ เขาก็แค่ไม่อยากเล่นงานฟางเหยียนเท่านั้น เขากลัวว่าถ้าใช้ปืนจ่อฟางเหยียน จะเป็นการปิดทางตัวเองเสีย
ถ้าฟางเหยียนลงมือจริงๆ ใครจะรู้ว่าเขาจะฆ่าตนหรือไม่!
เขายังไม่ทัน“ลั่นไก” จู่ๆมือถือก็ดังขึ้นมา เขาส่งเสียงเหอะออกมา หยิบมือถือขึ้นมาดู บนหน้าจอปรากฏเป็นเบอร์ของพ่อเขา เขารีบรับสาย ปลายสายถามอย่างค่อนข้างโมโหว่า “แกอยู่ไหน?”
“ผมอยู่ที่โรงแรมของตระกูลหยาง!”
“รีบออกมา ฉันเคยบอกแล้ว ว่าอย่าไปยั่วโมโหตระกูลหยาง!”
“แต่…”
“ไม่ต้องแต่แล้ว กลับมา!” พูดจบ โทรศัพท์ที่ปลายสายวางสายไป
โจวเจิ้งกลืนน้ำลาย เขาจ้องคนที่อยู่รอบๆล็อบบี้ สุดท้ายมองไปที่ฟางเหยียน เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “วันนี้ ถือว่าแกโชคดีไป! แกไม่มีทางหลบอยู่ในนี้ได้ตลอด ฉันจะรอแกด้านนอก!”
พูดจบ เขาโบกมือ แล้วกล่าว “พวกเราไป!”
ความจริงคนที่โชคดีคือเขาเองต่างหาก พูดอีกนัยคือ สายนี้และหยางซงช่วยเขาไว้ ไม่งั้นตอนนี้เขาตายไปแล้ว
จุดนี้โจวเจิ้งรู้ดีที่สุด!
เมื่อเห็นโจวเจิ้งที่เดินไปถึงประตู ได้มองหวังชิงชิงที่ใบหน้าไม่รู้อีโหน่อีเหน่ใดๆ
ฟางเหยียนตะคอกเสียงดังไล่หลังของโจวเจิ้งไป “หยุด!”
คำนี้ มาพร้อมกับความภาคภูมิใจอย่างราชาก็มิปราณ
โจวเจิ้งลังเลไปสักพัก จากนั้นก็หยุดเดิน หยางซงก็มองฟางเหยียนอย่างหมดคำพูดสุดๆ ตนใช่กำลังไปไม่น้อยจึงจะ“ไล่”โจวเจิ้งไปได้ แล้วยังทำผิดต่อโจวเจิ้งเพราะเรื่องนี้ คนนี้บ้าหรือเปล่าเนี่ย?
โจวเจิ้งหันกลับมา แล้วถาม “แกเรียกฉัน?”
ฟางเหยียนไม่มองโจวเจิ้ง แต่มองหวังชิงชิง หวังชิงชิงหันหลังกลับมามอง เธอกลืนน้ำลาย กังวลว่าคุณชายจะสร้างเรื่องอะไรขึ้นมามาก “หวังชิงชิง คุณถูกบีบหรือเปล่า?”