จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 508 สถานะของแฟนหนุ่ม
เธอไม่ลืมฟางเหยียนแน่นอน ไม่ลืมใบหน้านี้แน่นอน ใช่ ก็คือเขา!คนที่ช่วยเธอไว้สองครั้งในอารามเต๋า การหนีจากความตายสองครั้ง คนนี้เป็นคนให้เธอ
ถ้าไม่ใช่คนนี้ บางทีตอนนี้เธอได้เสียชีวิตไปแล้ว!
ที่แท้เธอไม่ได้มองผิด คนนั้นที่ตนเห็นที่ประตูมหาลัยกับที่ประตูบ้านก็คือเขา!
หรือเขาจงใจจะสะกดรอยตนเหรอ?ทำไมกัน?
ฟางเหยียนก็นึกผู้หญิงคนนี้ออก นี่ก็คือผู้หญิงที่จู่ๆปรากฏกายที่สำนักไร้หน้า แล้วยังถูกอู๋หมิงจับไว้ ฟางเหยียนไม่ค่อยเหมือนกับคนทั่วไปสักเท่าไหร่ ในด้านความจำดีกว่าคนทั่วไปอยู่มาก
เขามองผู้หญิงมองแล้วมองอีก ไม่ได้ตกใจอะไรมาก กลับกัน ยังคงท่าทางนิ่งสงบ เขาไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับผู้หญิงคนนี้ เมื่อเห็นเธอแล้ว ทำไมต้องมีความคิดพิเศษด้วยล่ะ
“พวกแกรู้จักกัน?” หยางซงถามอย่างค่อนข้างแปลกใจ
ฉินเข่อพยักหน้า แล้วกล่าว “รู้จัก เขาคือ…!”
พูดถึงจุดนี้ ฉินเข่อลังเลสักพักอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นส่งสายตาให้ฟางเหยียน แล้วกล่าว “เขาคือศาสตราจารย์รับเชิญของมหาลัย!มีชื่อเสียงมาก”
“ศาสตราจารย์?” หยางซงส่งเสียงสงสัย คนนี้ไม่เหมือนศาสตราจารย์นะ กลับเหมือนกับนักฆ่า
ฉินเข่อส่งเสียงอืม เธอเดินไปตรงหน้าของฟางเหยียน ยกมือขึ้นจับแขนของเขา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจว่า “คุณมากับฉันหน่อยค่ะ!”
ฟางเหยียนเดินออกไปกับฉินเข่อย่างไม่เข้าใจ เมื่อมาถึงประตูหยางซงถาม “เข่อเข่อ แกจะทำอะไร?”
ฉินเข่อหันหน้ามากล่าว “พี่ชาย ไม่อนุญาตให้มานะ”
หยางซงขมวดคิ้ว เดิมทีอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าอย่างเซ็ง
หลังจากที่ออกจากประตูของห้องทำงานไป ฉินเข่อลากฟางเหยียนออกจากโรงแรม มายังลานจอดรถ ที่นี่ไม่มีคน ฉินเข่อปล่อยมือของฟางเหยียน เธอหันมามองฟางเหยียนอย่างช้าๆ แล้วถาม “คุณมาที่นี่ทำไมกัน?”
ถึงตอนนี้เธอยังไม่ค่อยแน่ใจว่าฟางเหยียนเป็นคนอย่างไรกันแน่ ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นนักฆ่า วันนั้นเขาฆ่าคนแล้วจริง ถ้าบอกว่าเขาคือศาสตราจารย์ คลิปที่เขาสอนหนังสือกลายเป็นสื่อการสอนแบบอย่าง
นี่เป็นคนที่แปลกคนหนึ่ง ทำให้คนมองไม่ออก!
แต่เขาช่วยตนไว้จริง นี่เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้!
ฟางเหยียนมองฉินเข่อ ถามอย่างตอบไม่ตรงคำถามว่า “แม่ของคุณแซ่หยาง?”
เมื่อได้ยินฉินเข่อเรียกหยางซงพี่ชาย ทั้งสองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันโดยปริยาย
ฉินเข่อชะงักไป นี่ไม่ใช่ว่าตอบไม่ตรงคำถามเหรอ คำถามของตนเขายังไม่ได้ตอบเลย แต่กลับถามกลับ หลังจากที่ลังเลไปสักพัก ฉินเข่อพยักหน้าอืมแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ หยางจิ่งเซียนคือลุงใหญ่ของฉัน!แม่ของฉันเป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน”
ฟางเหยียนพยักหน้ากล่าว “อย่างนี้นี่เอง!”
“คุณมาที่นี่ทำไม?” ฉินเข่อถามไปอีกครั้ง นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอถามแล้ว
ฟางเหยียนเงียบไปสักพัก แล้วกล่าว “ผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย!”
“คุณคงไม่คิดที่จะทำอะไรลุงใหญ่ของฉันหรอกนะ!” ฉินเข่อตาลุกโตถาม เธอผ่านอะไรมาไม่เยอะ สมองก็ค่อนข้างไว สิ่งที่นึกถึงก็เป็นสิ่งที่ไร้เดียงสาเป็นธรรมดา
แต่เธอกลับไม่ลืมฉากที่ฟางเหยียนฆ่าคนในวันนั้น เลือดไหลเป็นทาง ศพกองพะเนินเทินทึกราวกับภูเขาล้วนมาจากฝีมือเขาทั้งนั้น
ฟางเหยียนส่ายหน้าเบาๆ แล้วกล่าว “ลุงใหญ่ของคุณเป็นคนดี!”
ฉินเข่อตบหน้าอก กล่าวด้วยสีหน้ายกภูเขาออกจากอกว่า “ตกใจแทบตาย!ฉันคิดว่าคุณจะเล่นงานลุงใหญ่ของฉันเสียอีก”
พูดจบ เธอนึกอะไรออกอีก แล้วกล่าว “เรื่องวันนั้น ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณคุณเลย!ขอบคุณที่ช่วยฉันนะคะ”
ทันใดนั้นฉินเข่อก็ยืนตรง จากนั้นก็โค้งคำนับเก้าสิบองศาต่อหน้าฟางเหยียน
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร ฉินเข่อเงยหน้าขึ้นมาพูด “อ้อ เรื่องนี้ไม่บอกกับคนในครอบครัวของฉันได้มั้ยคะ?พวกเขาเป็นห่วงฉันมาก ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องอันตรายที่ฉันเจอมา คุณต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันให้คุณได้หมด”
“เหอะๆ” ฟางเหยียนหัวเราะอย่างเซ็ง ฉินเข่อนี่น่าสนใจนะ
เมื่อฉินเข่อเห็นการหัวเราะนี้ของฟางเหยียน ได้กล่าวอย่างร้อนรนว่า “ทำไม?ไม่เชื่อฉันเหรอ?ฉันมีเงินนะ ฉันสามารถเอาเงินมาได้ไม่น้อยนะ คุณช่วยฉัน ฉันตอบแทนคุณแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่คุณอย่าตื๊อฉันสิ”
นี่เป็นคำพูดที่มาจากใจของฉินเข่อ เธอกลัวมากว่าจะถูกฟางเหยยียน“ตื๊อ”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาจับร่างกายของฉินเข่อ แล้วกล่าว “สบายใจได้ ผมไม่มีทางบอกครอบครัวของคุณ และก็ไม่ตื้อคุณด้วย ผมไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น แต่ผมอยากให้คุณช่วยอะไรผมหน่อย!ได้ยินมาว่าอีกสองวันเป็นวันเกิดลุงใหญ่ของคุณ พาผมไปร่วมงานวันเกิดของลุงใหญ่ของคุณหรือทำใบเชิญให้ผมสักใบ ว่าไง?”
การเข้าร่วมงานวันเกิดของหยางจิ่งเซียน บางทีอาจได้รับเบาะแสการหายตัวไปของเทียนขุยก็เป็นได้ แน่นอน ก่อนอื่นฟางเหยียนจะไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเองออกมาก่อน เนื่องจากตัวตนยิ่งใหญ่เกินไป ถ้าเปิดเผยตัวตน จะต้องเกิดการระส่ำระสายอย่างไม่จำเป็นขึ้น
ที่เมืองจินโจวได้ระสำระส่ายไปแล้ว มาถึงดินแดนตะวันตก เขาไม่อยากแสดงอย่างครั้งที่แล้ว
คิ้วของฉินเข่อขมวดขึ้น เธอเริ่มลังเล เมื่อเห็นท่าทีลังเลของฉินเข่อ ฟางเหยียนกล่าว “ถ้าลำบากล่ะก็ ไม่เป็นไรนะ ไม่รบกวนคุณก็ได้ครับ”
ฟางเหยียนไม่อยากทำให้คนอื่นลำบากใจเพราะเรื่องของตัวเอง นี่เป็นหลักการในการใช้ชีวิตของเขา
หลังจากลังเลไปสักพัก เธอเพิ่งจะหยักหน้าเบาๆแล้วกล่าว “ความจริงก็ไม่ใช่แบบนี้หรอกนะ วันเกิดของลุงใหญ่ของฉันไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร ครั้งนี้พี่ชายหลายคนของฉันกลับมาจึงได้จัดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มาก คนที่พวกเขาเชิญมาระบุว่าเป็นคู่ค้ากับเพื่อนเก่าบางส่วน นอกจากครอบครัวแล้ว คนอื่นๆล้วนเข้าไปในงานวันเกิดของลุงใหญ่ของฉันไม่ได้ทั้งนั้น พูดอีกนัยคือ วันเกิดของอาฉันจัดแบบธรรมดามาก นอกจากเพื่อนเก่ากับครอบครัว ใครก็เข้าไม่ได้!”
ฟางเหยียนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ดูๆแล้วตระกูลหยางไม่เหมือนกับตระกูลอื่นจริงๆด้วย
“แต่…” หลังจากลังเลไปสักพัก ฉินเข่อกล่าวอย่างไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ว่า “ถ้าคุณยอมที่จะใช้สถานะแฟนหนุ่มของฉันเข้าร่วมล่ะก็ นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้”
“อ๋อ?” ฟางเหยียนมองฉินเข่ออย่างค่อนข้างสงสัย
ฉินเข่อรีบกล่าวว่า “แน่นอน ฉันทำเพื่อตอบแทนบุญคุณที่คุณช่วยฉันเท่านั้น อย่าคิดว่าฉันจะมอบหัวใจให้คุณจริง คุณต้องรับปากนะ ห้ามก่อเรื่องอะไรใยวันเกิดของลุงใหญ่ของฉัน หลังจากเข้างานวันเกิดแล้ว ต้องตามฉันตลอด อยู่ไม่ห่างจากฉัน!หลังจากที่งานวันเกิดของลุงใหญ่ของฉันจบแล้ว ฉันจะอธิบายเหตุการณ์ให้พวกเขาฟัง”
ในเมื่อฉินเข่อพูดแบบนี้แล้ว ฟางเหยียนก็ไม่มีเหตุผลต้องปฏิเสธโดยปริยาย เขาพยักหน้าอย่างครุ่นคิดแล้วกล่าว “โอเค ผมรับปาก!ขอบคุณล่วงหน้านะ”
“อืม!” ฉินเข่อพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก แต่จิตใจของเธอกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ
ขณะนี้ หยางซงเดินออกมาจากโรงแรม แล้วถาม “ทำไมเหรอ?ยังพูดไม่จบเหรอ?”
ฉินเข่อวิ่งไปที่หยางซง แล้วกล่าว “พูดจบแล้วค่ะ พี่ชาย เรากลับกันก่อนดีกว่าค่ะ!