จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 520 ผิดใจงั้นหรอ มันไม่คู่ควร
คนของดินแดนตะวันตกค่อนข้างตัวใหญ่ ความสูงของหยางซงหนึ่งเมตรแปดกว่าเกือบจะหนึ่งเมตรเก้า ฟางเหยียนสูงเพียงหนึ่งเมตรเจ็ดสิบห้า ตอนที่เขากดฟางเหยียนติดกำแพง ดูท่าทางแล้วเป็นฉากแปลกประหลาดมาก เหมือนกับสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังรังแกเด็กน้อย
ฟางเหยียนก็ไม่ต่อต้าน เพียงแต่จ้องหยางซงอย่างนิ่งสงบแล้วกล่าว “คุณหมายความว่าไง?”
หยางซงโมโหมากๆ เขาชักตาใส่ฟางเหยียนแล้วกล่าว “หมายความว่าไง?หรือคุณไม่รู้เหรอว่าผมหมายความว่าไง?”
ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “คุณไม่พูด แล้วผมจะรู้ความหมายของคุณได้อย่างไรกัน!คุณคงไม่ชอบน้องสาวตัวเองหรอกนะ?”
เมื่อหยางซงได้ยินประโยคนี้ พลังของมือที่จับคอเสื้อของฟางเหยียนเพิ่มมากขึ้น เขากดร่างกายของฟางเหยียนติดกำแพงหนักเข้าไปอีก ยกกำปั้นของอีกมือหนึ่งขึ้นมาอย่างโมโหจ่อไปที่ฟางเหยียน เหมือนจะต่อยฟางเหยียน
ฟางเหยียนมองหมัดของหยางซงอย่างไม่ลนลานต่อภัยอันตราย ในแววปรากฏรอยยิ้มที่เหยียดหยามออกมา เห็นดังนี้ หยางซงก็ตะคอกอย่างบ้าคลั่งว่า “ถ้าแกยังพูดมั่วอีก เชื่อมั้ยว่าฉันต่อยหัวของแกระเบิดได้นะ! เด็กน้อย แกมีแฟนแล้วแท้ๆ แล้วทำไมยังมายุ่งกับเข่อเข่ออีก หรือแกเห็นว่าเธอไร้เดียงสา ดังนั้นจึงสนใจเธอ? ฉันไม่สนว่าแกคิดอะไรอยู่ ฉันว่าแกอย่าคิดอะไรกับเข่อเข่ออีกจะดีที่สุด แม้เธอจะไม่ได้แซ่หยาง แต่เป็นไข่มุกในมือของตระกูลหยางของเรา ถ้ายุ่งกับคนของตระกูลหยางของเรา ฉันจะให้แกเสียใจไปตลอดชีวิต!”
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าคนนี้มีความกล้ามาก แม้แต่คุณชายของตระกูลโจวยังไม่กลัว แต่เขาก็ยังต้อง“เตือน”อีกฝ่าย ฉินเข่อสำคัญกับตระกูลหยางมาก ไม่สามารถให้คนนี้เอาเปรียบได้
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาจับมือของหยางซงที่วางไว้บนคอเสื้อของเขาอย่างนิ่งสงบ แล้วกล่าว “อย่าพูดแบบนี้กับฉัน ฉันไม่เคยชินมากกับการที่คนอื่นหยาบคายกับฉัน” พูดจบ เขาค่อยๆออกแรง มือของหยางซงก็คลายลงอย่างอัตโนมัติ
หยางซงรู้สึกเหมือนมือของตัวเองถูกแท่งเหล็กตีลงมาอย่างไรอย่างนั้น มีความเจ็บปวดของการกระดูกแตกหัก ฟางเหยียนเตี้ยกว่าตนมากขนาดนั้น แล้วยังผอมขนาดนั้นอีกด้วย แต่พลังกลับมากจนน่าตกใจ ถึงแม้เป็นเพียงการกระทำที่เล็กน้อย ก็สามารถเห็นพลังที่มากมายของเขาได้!
ฟางเหยียนเพียงไม่อยากลงมือก็เท่านั้น ถ้าเขาอยากจะฆ่าหยางซง ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
หลังจากที่มือของหยางซงปล่อยลงแล้ว ฟางเหยียนขยับเสื้อผ้าสักหน่อย แล้วกล่าว “ฉันรู้ว่าแกคิดอะไรอยู่ คนเมื่อคืนไม่ใช่แฟนของฉัน แล้วฉันก็ไม่ใช่แฟนของฉินเข่อ ที่พูดแบบนั้น ไม่ใช่เพราะฉันกลัวแก ฉันเพียงแค่กำลังพูดความจริงกับแก ส่วนทำไมต้องทำแบบนี้ ฉันว่าฉินเข่อนาจะบอกแก”
“แกไม่ใช่แฟนของเข่อเข่อ?” จู่ๆคิ้วที่ขมวดของหยางซงก็คลายตัวลง แต่ไม่นานก็ขมวดขึ้นอีกครั้ง เขากล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ ฉินเข่อพูดออกมาเอง เธอไม่มีทางโกหกฉันกับพ่อของฉัน”
“พูดแบบนั้น แกหวังว่าฉันจะเป็นแฟนของเข่อเข่อ?” ฟางเหยียนถามอย่างค่อนข้างหมดคำพูด
คำถามนี้ถามจนหยางซงต้องขมวดคิ้ว เขารีบกล่าวด้วยหน้าบอกบุญไม่รับว่า “ฉันไม่อยากแน่นอน! คู่หมั้นของโจวเจิ้งเป็นแฟนของแก แล้วเข่อเข่อของเราจะเป็นแฟนของแกอีกได้ไง เรื่องนี้ แกพูดกับฉันให้เคลียร์จะดีที่สุด! ไม่งั้นฉันจะให้คนของตระกูลหยางโยนแกออกจากตระกูลหยางของฉันโดยเร็ว แกน่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ล้อเล่นกับแก”
ฟางเหยียนถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าว “ฉันว่าเรื่องนี้ฉินเข่อน่าจะพูดกับแกนะ เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถบอกแกได้! แกสบายใจได้ ฉันไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้นที่แกจินตนาการไว้”
“จะไม่ใช่ได้ไง!” หยางซงมั่นใจว่าฟางเหยียนเป็นคนแบบนั้น “คืนนั้นเพื่อผู้หญิงคนนั้นแกยอมแม้กระทั่งผิดใจกับโจวเจิ้ง ฉันยังช่วยแกแก้ปัญหา ไม่คาดคิดว่าแกยังจะมาคบกับฉินเข่อของเราอีก! แกคนนี้ น่ารังเกียจจริงๆ!”
“ผิดใจ!” ฟางเหยียนจ้องหยางซง จากนั้นดูแคลนเหอะๆออกมา “โจวเจิ้ง ไม่มีสิทธิ์ให้ฉันผิดใจ!”
พูดจบ ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาจับไหล่ของหยางซง แล้วกล่าวอย่างเป็นนัยว่า “แกเป็นคนดี!”
——
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แขกก็มาพร้อมเพรียงกันแล้ว หยางจิ่งเซียนไม่ได้เชิญคนมาเยอะ ล้วนเป็นแขกที่อายุไล่เลี่ยกันหรือคนที่เหล่าลูกชายเชิญมา ประมาณหลายสิบคนได้ ไม่ได้ครึกครื้นเหมือนตระกูลถังที่หนานหลิงนั่น จากจุดนี้มองเห็นได้ว่านี่เป็นผู้เฒ่าที่มีกฎเกณฑ์มาก คนที่เชิญมาล้วนระบุแน่ชัด แล้วยังเคร่งครัดมากอีกด้วย
ทุกคนล้วนนั่งอยู่ในห้องโถง นี่เป็นโต๊ะงานเลี้ยงยาวโต๊ะหนึ่ง เหมือนกับโต๊ะงานเลี้ยงยาวที่จักรพรรดิโบราณเพิ่มโต๊ะให้กับเหล่าขุนนางใหญ่ ด้านหน้าของทุกคนวางอาหารที่เหมือนกันไว้ มีเนื้อแกะ เนื้อวัว แล้วก็เนื้อหมู อีกทั้งอาหารคาวต่างๆนานา
ตรงกลางของโต๊ะยังมีทางเดินที่กว้างยาวเส้นหนึ่ง ดูๆแล้วเป็นทางการมาก!
หยางจิ่งเซียนนั่งตำแหน่งตรงกลางของห้องโถง เขาชูแก้วขึ้นมา แล้วพูดกับทุกคนว่า “ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่มาร่วมงานวันเกิดของหยางจิ่งเซียน เดิมทีไม่คิดจะจัดใหญ่โต แต่ยากที่จะปฏิเสธลูกๆได้ รบกวนทุกท่านด้วยครับ”
“หยางกงก็ว่าไป เรื่องที่ท่านทำเพื่อดินแดนตะวันตกของเราเพียงพอที่จะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้แล้ว งานเลี้ยงวันเกิดของท่านจัดได้สงบขนาดนี้ มีผู้เฒ่ามาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ก็เพียงพอแสดงเจตนารมณ์ของท่านแล้ว ตอนนี้ ผู้เฒ่าที่เหมือนท่านมีไม่มากแล้ว ถ้าผู้อาวุโสของดินแดนตะวันตกของเราเหมือนท่าน งั้นประเทศก็จะสงบสันติ” ผู้เฒ่าที่นั่งใกล้ที่สุดชูแก้วขึ้นมากล่าว
“ใช่ วันเกิดของท่านหยางจะจัดยังไงก็ได้ ผมว่าไม่มีใครพูดอะไรหรอก ตัดเรื่องการบริจาคที่ท่านทำไป ตระกูลของท่านเป็นตระกูลใหญ่อันดับสองของดินแดนตะวันตกของเรา”ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนขึ้นพูด
หลายๆคนต่างพากันพูดคนล่ะประโยค แก้วเหล้าหนึ่งแก้วชูอยู่สิบนาทีจึงจะดื่มลงไป
ฉินเข่อและฟางเหยียนนั่งอยู่ด้านล่างสุด ฉินเข่อพูดเบาๆข้างๆหูของฟางเหยียนว่า “คนพวกนี้เป็นเพื่อนของลุงฉันทั้งนั้น พวกเขาคือมูลนิธิหนึ่ง เป็นองค์กรที่ช่วยชนบทและบรรเทาความทุกข์ยาก ไม่เป็นไร พวกเขาคุยของพวกเขาไป ถ้าคุณหิวแล้วก็กินได้เลยนะ ของพวกนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อของดินแดนตะวันตก อร่อยมาก ไม่เชื่อลองชิมนี่ดู”
พูดพลาง ฉินเข่อใช้มีดหั่นเนื้อขาแกะส่งฟางเหยียน
“อืม!” ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆยกมือขึ้นรับเนื้อขาแกะของฉินเข่อ
เขาก็เห็นชัดเจน ว่าตอนนี้มีแววตาที่ไม่สบอารมณ์คู่หนึ่งกำลังจ้องตัวเองอยู่ นั่นก็คือหยางซงที่นั่งอยู่ตรงข้ามของตัวเอง เขาทนดูฟางเหยียนกับฉินเข่อแสดงความรักกันไม่ไหว ยิ่งเป็นแบบนี้ ในใจเขายิ่งเป็นห่วงแทนฉินเข่อมากขึ้นไปอีก
ตัวตนของฟางเหยียนแปลกประหลาดจริง จากคำพูดไม่กี่ประโยคของเขาเมื่อกี๊ก็ทำให้คนกังวลที่สุด
ในตอนที่หยางซงกำลังคิดแบบนั้นอยู่นั้น จู่ๆผู้เฒ่าคนหนึ่งที่นั่งอยู่แถวหน้าถาม “อ้อ หยางกง ผมเห็นครอบครัวของท่านมีคนที่หน้าตาไม่คุ้นคนหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นแฟนของหลานสาวของท่านเหรอ? ท่านยังไม่ได้แนะนำให้พวกเรารู้จักเลยนะ!”