จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 566 ยืนหยัดไม่ถอย
กองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือ!
สนามรบได้เป็นสถานที่วุ่นวาย หลังจากเสียงโหยหวนที่ดังกึกก้อง เป็นเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว จู่ๆบนฟ้าก็เป็นเพลิงและเขม่าดินปืน ด้านนอกหลุมหลบภัยเป็นที่แห่งความหวาดกลัวและความตาย ตามด้วยเสียงระเบิดดังขึ้น ในสนามรบที่ทวีเพิ่มขึ้นด้วยศพที่นับไม่ถ้วน มีทหารฝ่ายตรงข้าม มีนักรบสำนักเจ็ดพิฆาต สนามรบคือสถานที่แบบนี้ ศพกองรวมกันเป็นภูเขา เลือดอาบพื้นดิน
สำนักเจ็ดพิฆาตคือฝันร้ายของทหารต่างชาติ แต่ครั้งนี้ ทหารต่างชาติพยายามที่จะทะลวงความฝันร้ายนี้ ในการป้องกันอย่างเคร่งครัดของสำนักเจ็ดพิฆาต พวกเขายังคงโจมตีเป็นระลอกระลอก บึกบึนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ก็เหมือนกับมดที่ตีแล้วไม่ตาย!
แนวป้องกันอันมั่นคงของสำนักเจ็ดพิฆาตถูกตีแตกแล้ว ทหารกำลังเกือบสามแสนคนพุ่งเข้ามาอย่างแน่นหนาในเขตแดนของประเทศหวา
ในช่วงสองปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีทหารต่างชาติที่มหาศาลเข้ามาในดินแดนของประเทศหวาแบบนี้
ผู้สั่งการรบคือผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งของเทียนหลัง ฉายาในสนามรบคือมังกรดุ ขณะนี้ เขากำลังก้มดูการบุกประชิดพรมแดนของทหารจำนวนแสนๆนายบนหอบัญชาการ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความเกรี้ยวกราด สำหรับเขาแล้ว เป็นความอัปยศอย่างหนึ่งเลยทีเดียว
ในช่วงที่สำนักเจ็ดพิฆาตบัญชาการนั้น ไม่เคยมีกองทัพใหญ่โตขนาดนี้รุกล้ำเข้ามา ไม่คาดคิดว่าวันนี้พวกเขาจะตีแนวป้องกันของสำนักเจ็ดพิฆาตพัง แล้วยังกรูกันเข้ามาในดินแดนของประเทศหวาในขณะเดียวกันอีกด้วย นี่เป็นการไม่ให้เกียรติประเทศหวาอย่างใหญ่หลวง คนพวกนี้ต้องถูกฆ่าตายทั้งหมด
ถ้าจอมพลโผ้จวินอยู่ พวกเขาต้องไม่มีโอกาสเข้ามาที่ประเทศหวาแน่นอน เสียดายที่จอมพลโผ้จวินไม่อยู่!
“รายงานครับ!” ขณะนี้ ชายที่สวมชุดทหารสีเขียวเดินมา สีหน้าของผู้ชายกลายเป็นสีดำ พร้อมกับรอยแผลเผาไหม้ ที่แขนก็ถูกบาดเป็นหลายแผล ข้างๆบาดแผลกำลังมีควันออกมา
เห็นได้ชัดเจน ว่าเขาคือนักรบที่เพิ่งขึ้นมาจากสนามรบ
“นายพลมังกร ทหารฝ่ายตรงข้ามสามแสนนายได้เข้ามาในเขตแดนของประเทศหวาของเราแล้วครับ ทหารเราพยายามขับไล่ แต่อีกฝ่ายพลังแข็งแกร่งมาก เหมือนกับผ่านการฝึกฝนงานนี้มาโดยเฉพาะ ทหารของเราบาดเจ็บล้มตายเป็นหมื่นแล้ว ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีครับ? ”
เดิมทีดวงตาทั้งสองของมังกรดุที่สุขุมมากได้กลายเป็นยิ่งตาปรือขึ้นไปอีก เขาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถาม “แล้วสถานการณ์การบาดเจ็บล้มตายของอีกฝ่ายล่ะ?”
“การบาดเจ็บและล้มตายของอีกฝ่ายประมาณห้าหมื่นครับ!”
คิ้วของมังกรดุขมวดหนักขึ้น เขาฮึมออกมา แล้วกล่าว “หนึ่งต่อห้าเลยหรอเนี่ย!”
สำหรับกองกำลังระดับภูมิภาคธรรมดาเป็นสัดส่วนที่สูงมากแล้ว แต่สำหรับสำนักเจ็ดพิฆาตกลับเกิดเป็นสถิติขั้นต่ำครั้งใหม่ นี่เป็นความอัปยศอย่างหนึ่ง สำหรับสำนักเจ็ดพิฆาตแล้วนี่เป็นความอัปยศที่ไม่เคยมีมาก่อน มังกรดุกำหมัดชกไปยังเสาหินต้นหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างแรง
บนเสาหินทิ้งร่องรอยของหมัดไว้ แต่บนเสาหินก็มีของตกหล่นลงมา
“ตรวจสอบเบื้องหลังของทหารฝ่ายตรงข้ามแล้วยัง?พวกมันมาได้ยังไง?”
ผู้ชายนิ่งไปสักพัก แล้วกล่าว “เหมือนจะเป็นพลเอกของยุโรปคนหนึ่ง และยังมีทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุดของเอเชียคนหนึ่ง แล้วก็กองกำลังหนึ่ง ทุกๆกองกำลังจะมีทหารแสนนาย รวมกันแล้วก็สามแสนนายพอดี”
“ยุโรป!ทหารรับจ้างแห่งเอเชีย!แล้วยังมีอีกหนึ่ง คืออะไร?”
ผู้ชายส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ทราบครับ ยังหารายละเอียดของพวกเขาไม่เจอครับ”
“นายพลมังกร ถ้าจอมพลโผ้จวินอยู่ ไม่มีใครกล้าเข้ามาในประเทศหวาแม้แต่ก้าวเดียว ไม่งั้นพวกเราถอยก่อน แล้วรอการมาของจอมพลโผ้จวินมั้ยครับ!ผมว่าจอมพลโผ้จวินและรองผู้นำเทียนหลังใกล้จะกลับมาแล้ว รองผู้นำเทียนหลังจากไปเป็นหนึ่งสัปดาห์แล้ว”
มังกรดุเงยหน้าก้มมองทหารที่ตัวดำๆไกลๆ จากนั้นแววตาเปลี่ยนไป เขาจ้องคนนั้นอย่างดุดัน แล้วพูดเสียงดังว่า “สำนักเจ็ดพิฆาตประเทศหวา ไม่เคยถอยทัพ แค่ทหารสามแสนนาย เหมือนกับบีบสำนักเจ็ดพิฆาตถอยงั้นเหรอ?ส่งต่อคำสั่งของผม ให้ทุกคน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วขับไล่พวกอำมหิตด้วยกัน ผู้ที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนประเทศหวาของเรา ไกลแค่ไหนก็ต้องจัดการให้ได้!”
เสียงดังอันภาคภูมินี้จึงจะเป็นลักษณะที่ดั้งเดิมของสำนักเจ็ดพิฆาต สำนักเจ็ดพิฆาตในฐานะที่เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศหวา จะถอยทัพได้อย่างไรกัน?ต่อให้ทหารทั้งกองทัพพังทลายย่อยยับไปก็ไม่มีทางถอยทัพแน่นอน นี่คือจิตวิญญาณของสำนักเจ็ดพิฆาต สำนักเจ็ดพิฆาตอยากจะบอกทุกคนไว้อย่างหนึ่ง ต่อให้สู้ตายถึงวินาทีสุดท้าย ก็ไม่มีทางถอยทัพแน่นอน
ผู้ชายที่รายงานคนนั้นรู้สึกเลือดอันร้อนรุ่มปะทุขึ้นมาทันใด เขารีบพยักหน้าแล้วกล่าว “รับทราบ!”
อีกด้านหนี่งในสนามรบที่กำลังต่อสู้กัน บนรถกันกระสุนที่ยิ่งโตคันหนึ่ง มีผู้นำที่สีหน้าชิลล์หลายคนกำลังนั่งอยู่ เปิดประตูไปด้านขวามือผู้ที่นั่งอยู่คือเย่เฟย คนที่ถูกขนานนามว่าเป็นราชาทหารรับจ้างแห่งเอเชีย และก็เป็นแฟนเก่าของถังยู่
และอีกคนชายฉกรรจ์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเครา ตัดผมเกรียนก็คือพลเอกของยุโรป เขาสวมชุดที่ดูมีสไตล์มาก ดูจากแววตาและท่าทีของเขาแล้ว ก็รู้ได้ว่าปรากฏตัวไม่น้อยในสนามรบ ส่วนอีกคน ลักษณะค่อนข้างโดดเด่น เขารูปลักษณ์หล่อเหลา ไม่มีความกล้าหาญแบบนั้นของสองคนนั้น แต่เมื่อเขานั่งอยู่กับทั้งสองคน กลับไม่ต่างกันแม้แต่น้อย เพราะเขาแสดงท่าทีที่สูงส่ง เหมือนกับราชาโดยกำเนิดอย่างไรอย่างนั้น
ขณะนี้ พลเอกแห่งยุโรปนั้นส่งเสียงฮึมออกมา แล้วกล่าว “ผมว่าสำนักเจ็ดพิฆาตก็งั้นๆแหละ แค่หนึ่งสัปดาห์ก็ตีป้อมปราการของพวกมันสำเร็จแล้ว ผมคิดว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็แค่พวกตัวตลกเท่านั้น”
เย่เฟยก็ดูแคลนออกมา “ผมกำลังคิดอยู่ว่าก้าวต่อไปของพวกมันจะถอยทัพหรือเปล่า ถ้าพวกมันถอยทัพ นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะเปิดประตูของประเทศหวาเลยนะ ถึงตอนนั้น กำแพงเหล็กอะไรนั่น สำนักเจ็ดพิฆาตอะไรนั่นที่รุกล้ำเข้ามาไม่ได้ก็จะเป็นแค่เรื่องไร้สาระ”
“งั้นคุณคิดจะทำยังไงต่อไปครับ?วางแผนจะจัดตั้งกองทัพของตัวเองที่ประเทศนี้เหรอ?สู้เข้าร่วมกับพวกเราดีกว่า ผมจะให้สิ่งตอบแทนที่ดีที่สุด และเยอะที่สุดกับคุณ ถึงตอนนั้นผมจะให้คุณอยู่ระดับเดียวกับผม เพียงแค่คุณยอม พวกเราทำศึกสงครามได้ตลอดเวลา!” พลเอกแห่งยุโรปมองเย่เฟยอย่างค่อนข้างชื่นชม
เย่เฟยดูแคลนเหอะๆออกมา “ผมไม่ค่อยคุ้นชินกับยุทธวิธีการทำสงครามอย่างมีกฎเกณฑ์แบบนี้ของพวกคุณ ผมชอบเป็นกษัตริย์ของตัวเอง”
พลเอกแห่งยุโรปพยักหน้าเบาๆกล่าว “ใช้คำพูดของประเทศของคุณก็คือต่างคนต่างมีความต้องการไม่เหมือนกัน!แต่ถ้าวันไหนคุณคิดได้แล้ว อยากเข้าร่วมกับพวกเรา ประตูของพวกเราเปิดรับคุณเสมอ”
ขณะนี้ ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเอ่ยปาก “ผมว่าพวกคุณทั้งสองระวังไว้หน่อยก็ดีนะครับ สำนักเจ็ดพิฆาตให้พวกคุณตีแตกได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ แล้วให้คุณทำลายทหารทั้งกองทัพพังทลายย่อยยับไปภายในวันเดียวได้ แต่พวกคุณอย่าลืมนะ ตลอดการทำสงคราม คนนั้นมันยังไปปรากฏกายมานะ ถ้ามันมาแล้ว พวกคุณมั่นใจว่ากองทัพของตัวเองจะต้านทานเขาอยู่มั้ย?”
เมื่อพูดถึงเขาคนนั้น เย่เฟยก็โมโหขึ้นมา เขาแย่งผู้หญิงของตัวเองไป เขากำหมัดต่อยไปที่โต๊ะอย่างแรง แล้วกล่าวอย่างคับแค้นใจ “ผมแทบอยากจะให้มันรีบปรากฏตัวออกมา ผมจะดูว่ามันจะต้านทานการโจมตีของทหารสามแสนนายของผมได้อย่างไรกัน ถึงตอนนั้นกระสุนปืนใหญ่จะยิงจนแม้แต่ศพก็ไม่เหลือ”
“เหอะๆ!” ชายรูปงามหัวเราะออกมา “ผมว่าท่านทั้งสองดูถูกเขาเกินไปนะครับ บางทีพวกเราต้องสุขุมให้มากหน่อยนะครับ ปีนั้น เขาคนเดียวฆ่าตัดคอจอมพลสิบประเทศนะครับ แต่พวกเรา มีแค่สามคน ไม่พอให้เขาฆ่านะครับ”
“ฮ่าๆๆ!” พลเอกแห่งยุโรปหัวเราะเสียงดัง “น่าตลกเสียจริงๆ คุณคิดว่ามันจะมีโอกาสเข้าใกล้ผมได้งั้นเหรอ?ต่อให้เข้าใกล้จริง แล้วมันเป็นคู่ต่อสู้ของผมเหรอ?อย่าเอาจอมพลสิบประเทศมาเทียบกับผมเลย พวกเขาเป็นคนตายไปแล้ว ไม่คู่ควรแก่การพูดถึง